ฉันคือผู้หญิงโง่ ๆ
โดย...ล. วิลิศมาหรา
ผู้หญิงโง่ ๆ คนหนึ่งอยากจะเล่าเรื่องโง่ของฉันให้คุณฟัง...
ฉันออกมายืนรอรับเขาที่หน้าประตูบ้านเหมือนทุกวัน
ร่างสูงสง่าภูมิฐานก้าวลงจากรถ ก่อนยื่นกระเป๋าเอกสารส่งให้ ฉันรับมันมาถือไว้ พร้อมรอยยิ้มอ่อนหวานและเอ่ยคำพูดเดิม ๆ ประโยคที่ราวอัดเทปเอาไว้ ครั้นถึงเวลา อยากฟังเมื่อไหร่ก็กดปุ่มฟังทันใด
...เหนื่อยไหมคะที่รัก เตรียมของว่างให้แล้วนะคะ...
เขาเพียงปรายหางตามอง กิริยาแบบนี้ไม่ใช่สิ่งผิดปกติ เขาทำกับฉันทุกวัน
สักพักเราทั้งสองคงได้ลงมือทานมื้อค่ำอันแสนจืดชืดบนโต๊ะอาหารด้วยกัน แม้มื้อนั้นจะเป็นน้ำพริกรสชาติจัดจ้าน...แต่มันคงเป็นน้ำพริกถ้วยเก่า รสเผ็ดร้อนจึงเจือจาง เหม็นหืนและซ้ำซาก
เราสองคนเข้านอน ต่างมีคอมพิวเตอร์และหนังสืออยู่ในมือ สายตาจับจ้องมองสิ่งไร้ชีวิตตรงหน้า สนุกสนานเพลิดเพลินไปกับมัน...และปิดไฟนอน
รุ่งอรุณของพรุ่งนี้ เขาแต่งตัวออกไปทำงาน แม่บ้านอย่างฉันเริ่มทำงานบ้าน รอเวลาเอ่ยปาก
...เหนื่อยไหมคะที่รัก เตรียมของว่างให้แล้วนะคะ ยามเขาไม่หลงทางกลับไปบ้านอื่น
ช่วยไม่ได้ที่ฉันเป็นแค่ผู้หญิงโง่ ๆ ไม่รู้จักเอาใจสามี พูดไม่หวาน แต่งตัวเชย ๆ นอกจากพยายามเป็นภรรยาที่อยู่ในโอวาทสามีอย่างที่สุด ฉันก็ไร้ความสามารถอื่นใดอีก คุณสมบัติข้อนี้ของฉัน ก่อนหน้านี้ก็เห็นสามีชื่นชอบมันดี ครั้นพอแก่ตัวลง ไฉนมันจึงกลับกลายเป็นข้ออ้าง...
หลายครั้งให้นึกสะท้อนใจกับแววตาสมเพช...เขายังปรานีที่ไม่ถึงกับพูดออกมา...
เธอมันน่าเบื่อ
แต่งงานสิบปีผ่านไป เขาคงเห็นว่าฉันนั้น โง่ หนักขึ้นเรื่อย ๆ จึงนึกย่ามใจและมีผู้หญิงคนใหม่...ซึ่งเธอฉลาด อย่างน้อยเธอก็ไม่ต้องลำบาก ทนกัดก้อนเกลือกินกับเขามาก่อนอย่างฉัน เธอมาทีหลัง และคิดจะเอาทุกสิ่งทุกอย่างไปจากฉัน
ผู้ชายเจ้าชู้มักคิดว่าผู้หญิง โง่ รู้ไม่เท่าทันว่าเขากำลังคิดและทำอะไรลับหลังเธออยู่
ไม่...ฉันโง่มาพอแล้ว ฉันปล่อยให้เขาคิดไปอย่างนั้นมานาน หลักฐานทุกอย่างเตรียมอยู่ในมือ เมื่อถึงวันนั้นฉันจะทำให้เขาเจ็บปวดเสียบ้าง
เมื่อแม่เมียรักผู้ไม่เคยมีปากมีเสียง คนที่ยอมทุกอย่าง คนที่ยิ้มหวานให้ทุกวัน คนที่ไม่เคยขัดใจ คนที่คิดว่าเป็นลูกไก่อยู่ในกำมือ ยื่นหลักฐานฟ้องหย่า และเดินจากไปพร้อมผู้ชายคนอื่น คนที่เห็นคุณค่าฉันอย่างแท้จริง
เขาอาจเสียดาย...หึ หึ ฉันก็ยังอุตส่าห์คิดโง่ ๆ อีกตามเคย
จบบริบูรณ์
ฉันคือผู้หญิงโง่ ๆ
โดย...ล. วิลิศมาหรา
ผู้หญิงโง่ ๆ คนหนึ่งอยากจะเล่าเรื่องโง่ของฉันให้คุณฟัง...
ฉันออกมายืนรอรับเขาที่หน้าประตูบ้านเหมือนทุกวัน
ร่างสูงสง่าภูมิฐานก้าวลงจากรถ ก่อนยื่นกระเป๋าเอกสารส่งให้ ฉันรับมันมาถือไว้ พร้อมรอยยิ้มอ่อนหวานและเอ่ยคำพูดเดิม ๆ ประโยคที่ราวอัดเทปเอาไว้ ครั้นถึงเวลา อยากฟังเมื่อไหร่ก็กดปุ่มฟังทันใด
...เหนื่อยไหมคะที่รัก เตรียมของว่างให้แล้วนะคะ...
เขาเพียงปรายหางตามอง กิริยาแบบนี้ไม่ใช่สิ่งผิดปกติ เขาทำกับฉันทุกวัน
สักพักเราทั้งสองคงได้ลงมือทานมื้อค่ำอันแสนจืดชืดบนโต๊ะอาหารด้วยกัน แม้มื้อนั้นจะเป็นน้ำพริกรสชาติจัดจ้าน...แต่มันคงเป็นน้ำพริกถ้วยเก่า รสเผ็ดร้อนจึงเจือจาง เหม็นหืนและซ้ำซาก
เราสองคนเข้านอน ต่างมีคอมพิวเตอร์และหนังสืออยู่ในมือ สายตาจับจ้องมองสิ่งไร้ชีวิตตรงหน้า สนุกสนานเพลิดเพลินไปกับมัน...และปิดไฟนอน
รุ่งอรุณของพรุ่งนี้ เขาแต่งตัวออกไปทำงาน แม่บ้านอย่างฉันเริ่มทำงานบ้าน รอเวลาเอ่ยปาก...เหนื่อยไหมคะที่รัก เตรียมของว่างให้แล้วนะคะ ยามเขาไม่หลงทางกลับไปบ้านอื่น
ช่วยไม่ได้ที่ฉันเป็นแค่ผู้หญิงโง่ ๆ ไม่รู้จักเอาใจสามี พูดไม่หวาน แต่งตัวเชย ๆ นอกจากพยายามเป็นภรรยาที่อยู่ในโอวาทสามีอย่างที่สุด ฉันก็ไร้ความสามารถอื่นใดอีก คุณสมบัติข้อนี้ของฉัน ก่อนหน้านี้ก็เห็นสามีชื่นชอบมันดี ครั้นพอแก่ตัวลง ไฉนมันจึงกลับกลายเป็นข้ออ้าง...
หลายครั้งให้นึกสะท้อนใจกับแววตาสมเพช...เขายังปรานีที่ไม่ถึงกับพูดออกมา... เธอมันน่าเบื่อ
แต่งงานสิบปีผ่านไป เขาคงเห็นว่าฉันนั้น โง่ หนักขึ้นเรื่อย ๆ จึงนึกย่ามใจและมีผู้หญิงคนใหม่...ซึ่งเธอฉลาด อย่างน้อยเธอก็ไม่ต้องลำบาก ทนกัดก้อนเกลือกินกับเขามาก่อนอย่างฉัน เธอมาทีหลัง และคิดจะเอาทุกสิ่งทุกอย่างไปจากฉัน
ผู้ชายเจ้าชู้มักคิดว่าผู้หญิง โง่ รู้ไม่เท่าทันว่าเขากำลังคิดและทำอะไรลับหลังเธออยู่
ไม่...ฉันโง่มาพอแล้ว ฉันปล่อยให้เขาคิดไปอย่างนั้นมานาน หลักฐานทุกอย่างเตรียมอยู่ในมือ เมื่อถึงวันนั้นฉันจะทำให้เขาเจ็บปวดเสียบ้าง
เมื่อแม่เมียรักผู้ไม่เคยมีปากมีเสียง คนที่ยอมทุกอย่าง คนที่ยิ้มหวานให้ทุกวัน คนที่ไม่เคยขัดใจ คนที่คิดว่าเป็นลูกไก่อยู่ในกำมือ ยื่นหลักฐานฟ้องหย่า และเดินจากไปพร้อมผู้ชายคนอื่น คนที่เห็นคุณค่าฉันอย่างแท้จริง
เขาอาจเสียดาย...หึ หึ ฉันก็ยังอุตส่าห์คิดโง่ ๆ อีกตามเคย