มียอดเรียกเก็บค่าบัตรเครดิตเข้ามาเร็วกว่าที่ตกลง และยังต้องจ่ายทั้งๆที่ขอยกเลิกกรมธรรม์ไปแล้ว ควรทำอย่างไรดี?

เริ่มจากวันที่ 7 ก.ค.ได้มีพนักงานขายประกันจากบริษัท AXE (นามสมมุติ) โทรมาเสนอขายประกันทันตกรรม โดยแจ้งว่าเป็นสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าใหม่บัตร CxxxxxxK (นามสมมุติ) เนื่องจากเรามีแผนว่าอยากทำฟันอยู่แล้ว จึงสนใจ จากรายละเอียดที่พนง.ขายบอกทางโทร. สรุปได้ดังนี้
1. เราจะได้สิทธิ์ทำฟัน เช่น อุด ถอน เคลือบฟลูออไรด์ รักษารากฟัน ที่สถานทันตกรรมใดๆ ในเครือ โดยเสียเพียงค่าเบี้ยประกันเดือนละ 770 บาท และสำหรับทันตกรรมประดิษฐ์จะสามารถใช้สิทธิ์ลดราคาได้ 20%
2. สามารถเริ่มใช้สิทธิ์เข้ารับการรักษาได้ทันทีเมื่อได้รับกรมธรรม์และบัตรประกัน
3. การตกลงซื้อขายที่เกิดขึ้นทางโทร.ครั้งนี้ จะเรียกเก็บผ่านบัตรเครดิต CxxxxxxK ในเดือน ส.ค. แต่จะเป็นยอด 2 เดือนคือ ยอดย้อนหลังของเดือนก.ค.และยอดของเดือนส.ค.รวมกันเป็นเงิน 1540 เพื่อให้เราได้รับและตรวจสอบรายละเอียดในกรมธรรม์ว่าถูกต้องตามที่ได้คุยกันทางโทร.จริง ถ้าไม่ตรง เราสามารถยกเลิกกรมธรรม์ได้ภายใน 30 วันนับจากวันตกลงซื้อ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ และพนักงานขายคนดังกล่าวได้ให้ชื่อ-นามสกุล เบอร์โทรสายตรง และเลขที่ใบอนุญาตไว้ด้วย
เราจึงตกลงซื้อกรมธรรม์ในวันนั้น (7 ก.ค.) และได้รับกรมธรรม์ประมาณวันที่ 25 ก.ค. เปิดอ่านวันที่ 28 ก.ค. และพบว่าเนื้อหาไม่ตรงกับที่ได้คุยทางโทร. คือ
1. เราต้องจ่ายค่าเบี้ย 770 บาท/เดือน และทุกครั้งที่เข้ารับการรักษา ประกันจะให้เบิกค่าใช้จ่าย 80% สำหรับรพ.ในเครือ และ60%สำหรับรพ.นอกเครือ
2. กรมธรรม์มี waiting period 90 วันนับจากวันที่ซื้อ ซึ่งหมายความว่าเราต้องจ่ายเงิน 3เดือนโดยไม่สามารถใช้สิทธิ์ได้
เมื่อพบว่ากรมธรรม์มีเนื้อหาไม่ตรงกับที่คุยไว้ เราจึงโทรไปยกเลิกในเช้าวันนั้น โดยครั้งแรกเราติดต่อไปที่สายตรงของคนที่ขายให้เรา แต่ไม่มีคนรับ เราจึงโทรเข้า Call center ของบ. ซึ่งกระบวนการยกเลิกไม่มีปัญหาใดๆ แต่เมื่อยกเลิกเสร็จ พนักงานกลับแจ้งว่าเรามียอดค่าเบี้ย 2 เดือนที่ต้องจ่ายจำนวน 1540 บาท ซึ่งเป็นรายการตัดจากบัตร CxxxxxxK ของเดือน ก.ค. เราจึงคัดค้านว่าพนง.ที่โทรมาขายแจ้งกับเราว่าจะตัดยอดเดือนส.ค. ไม่ใช่เดือนก.ค. เราไม่ยินดีจ่าย ให้เค้าถอดยอดออก ซึ่งพนง.บอกว่าไม่สามารถทำได้ เนื่องจากปิดบัญชีของเดือนนี้ไปแล้ว สิ่งที่จะทำให้ได้คือ ให้เราสำรองจ่ายไปก่อน และทางบ.จะจ่ายเป็น cash back กลับมาให้ในบัตร CxxxxxxK วันที่ 1 ก.ย. และบอกว่าถ้าเราไม่จ่าย เราก็จะเสียเครดิตกับทาง CxxxxxxK เราจึงวางสาย และโทร call center CxxxxxxK เพื่อให้อาญัติยอดเรียกเก็บที่เกิดขึ้น ซึ่งทาง CxxxxxxK แจ้งว่าไม่สามารถทำได้ หลังจากนั้นเราวางสายไป ลองคิดทบทวน แล้วคิดได้ว่าการได้เงิน cash back กลับมาไม่แฟร์ เนื่องจากเราต้องเอาเงินสดไปจ่าย แต่เงินที่ได้กลับมาเป็น cash back ซึ่งหมายความว่าเราต้องใช้จ่ายผ่านบัตร CxxxxxxK 1540 บาท จึงจะเสมือนว่าเราได้เงินคืน แต่ปกติเราถือบัตรนี้ไว้สำรอง ไม่ได้คิดจะใช้ การ cash back จึงเป็นเหมือนเป็นการบังคับให้เราต้องใช้จ่ายผ่านบัตร
บ่ายวันนั้น พนง.ที่ขายเราโทรมาชี้แจงและบอกว่าเงื่อนไขในกรมธรรม์ที่ไม่ตรงเราเป็นฝ่ายเข้าใจผิด ซึ่งเราก็ไม่ได้เถียงอะไร เพราะไม่อยากทำให้เรื่องยืดยาว แต่เรื่องที่เรียกเก็บเงินมาแล้วเดือนนี้ ทางพนง.คนดังกล่าวก็ยืนยันว่า เงินจะต้องถูกเรียกเก็บเดือนส.ค.จริงและจะติดตามเรื่องให้ แต่หลังจากนั้น เราไม่ไดัรับการติดต่อใดๆกลับมา
วันที่ 8 ส.ค. (วันสุดท้ายของการจ่ายบัตร) เราปรึกษากับพี่และเพื่อนที่บ. ซึ่งแนะนำให้เราโทรหา CxxxxxxK อีกครั้ง เพื่อให้ระงับยอด ซึ่งเป็นยอดที่เราไม่ได้ยินยอมให้เกิดขึ้น ทางพนง. CxxxxxxK แจ้งว่าไม่สามารถทำได้ ถ้าไม่มีเอกสารขอยกเลิกยอดอย่างเป็นทางการจากบ.ประกัน เราจึงโทรสายตรงไปหาพนง.ขายอีกครั้ง ไม่มีคนรับ จึงโทร.เข้า call center และขอเอกสารดังกล่าว ซึ่งพนง.แจ้งว่าไม่สามารถส่งมาให้ภายในวันนี้ เราจึงให้ทางเลือกไป 2 ทางคือ 1. ให้ cash back กลับมาภายในวันนี้ หรือ 2. ให้ส่งเอกสารการยกเลิกให้เราเพื่อให้เราส่งให้ CxxxxxxK ภายในวันนี้ พนง.แจ้งว่าทำไม่ได้ทั้ง2 ข้อ เราจึงแจ้งว่าถ้าทำไม่ได้ และยังยืนยันว่าจะจ่ายเป็น cash back กลับมาวันที่ 1 ก.ย. ให้รับผิดชอบค่าดอกเบี้ยบัตรเครดิตด้วย เพราะเราจะไม่สำรองจ่ายเงินใดๆ ซึ่งทางพนง.แจ้งว่าการชำระเงินประกันผ่านบัตรจะไม่เสียค่าดอกเบี้ยแต่จะเสียเป็นค่าปรับแทน ซึ่งทางบ.ประกันยินดีที่จะรับผิดชอบให้ทั้งหมด โดยเราสามารถตรวจสอบได้ในวันที่ 1 ก.ย. หากยอดไม่ถูกเคลียร์ ให้เราส่งเอกสารการเรียกเก็บเงินค่าบัตรเครดิต ไปให้ที่บ.ประกันได้
ซึ่งตอนนี้เราได้แต่รอวันที่ 1 ก.ย. หวังว่ายอดจะถูกเคลียร์ และเรื่องจะจบ จึงอยาก
1.ฝากเรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ให้กับทุกๆคนที่คิดจะตกลงทำธุรกรรมทางโทร. ให้ขอดูเอกสารทั้งหมดให้เรียบร้อยก่อน แล้วค่อยตกลงใดๆ จะได้ไม่เจอแบบเรา
2.เพื่อนๆพี่ๆน้องๆชาว pantip พอจะมีคำแนะนำอื่นๆที่คิดว่าเราควรจะทำ เพื่อที่จะแน่ใจได้ว่ายอดเงินทั้งหมดจะถูกจ่ายจริงๆ และเรื่องจะจบจริงๆในวันที่ 1 ก.ย.มั้ยคะ??? เพราะเราไม่อยากเสียเวลาและเสียเงินค่าโทร.กับเรื่องนี้อีกแล้ว TT.TT
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่