จากการตามไปดูช่องยูทูปของ USA Volleyball หลังจากได้อ่านกระทู้นี้
[Clip] สาวๆ ทีมอุสาสัมภาษณ์ก่อนมา Rio 2016 ดูแล้วทำให้รักพวกนางมากๆ ยิ่งขึ้น
http://ppantip.com/topic/35507045
เลยได้เห็นสัมภาษณ์เรื่องความสัมพันธ์เป็นทีมของผู้เล่น USA
ก็เลยแปลมาให้อ่านกันด้วย
เราเป็นติ่งทุกคนในทีม USA
เห็นคลิปนี้แล้วชอบการเป็นทีมของพวกนางมาก
ลองดูตลิปกันค่ะ ^^
ถ้าแปลผิดพลาดประการใดก็ขอโทษด้วยนะคะ
วัฒนธรรม(ในเรื่องความสัมพันธ์เป็นทีม)ที่เจ๋งที่สุด
Jordan Larson:
ทีมเราหาทางที่สร้างสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการแข่งขัน พวกเราฝึกหนักและแข่งกันหนักทุกวัน แต่เรารู้ว่าทุกคนพยายามที่จะเป็นตัวของตัวเองที่ดีที่สุด และเราก็สามารถเป็นตัวของตัวเองได้ เราจะรักและเคารพในตัวตนของทีมเมททุกคน และเราก็จะพบกัน(ในจุดที่ทุกคนพอใจ)ได้
Kayla Banwarth:
นี่เป็นครอบครัวที่สองของฉันอย่างแน่นอน เราเป็นครอบครัวที่สองของกันและกันไม่ใช่แค่เพราะว่าพวกเราใช้เวลาด้วยกันมาก แต่เป็นเพราะเราทุ่มเทให้กันและกัน เราต้องการอย่างแท้จริงที่อยากให้ทีมเมทคนที่ยืนอยู่ข้างคุณเป็นตัวเค้าที่ดีที่สุด เรามีความรับผิดชอบที่ดีต่อกันและกัน มีพัฒนาการความผูกพันความรักต่อกัน เหมือนกับเป็นครอบครัวเดียวกัน
Kim Hill:
ฉันรู้ว่าทีมเมทฉันอยู่ข้างหลังคอยซัพพอร์ตสนับสนุนฉันเสมอ และทีมเมทของฉันก็รู้ว่าฉันอยู่ข้างหลังคอยซัพพอร์ตเขาเช่นกัน พวกเรามีอิสระที่จะเป็นตัวของตัวเอง ฉันรู้จุดแข็งของทีมเมทและฉันก็ไม่จำเป็นต้องพยายามที่จะมีจุดแข็งแบบนั้นเพราะพวกเธอทุกคนเป็นส่วนหนึ่งของทีมด้วยกัน ฉันมีอิสระที่จะทำในสิ่งที่ฉันทำได้ดี และมันเจ๋งมากที่ทุกสิ่งทุกอย่างมันมาด้วยกันในเวลาแข่ง ฉันไม่เคยอยู่ในกลุ่มและความสัมพันธ์แบบนี้มาก่อน และทีมเมทของฉันหลายคนก็ไม่เคยอยู่ในกลุ่มแบบนี้เช่นกันและอาจจะไม่มีกลุ่มคนแบบนี้อีกแล้ว มันพิเศษมาก
Alisha Glass:
ฉันจะไม่ยอมแลกอะไรกับเวลาที่เราใช้ฝีกในยิม วิธีที่เราแข่ง การที่เราเป็นทีมเมทกัน วิธีที่เราหลงไหลวอลเลย์บอลอย่างแน่นอน มันเป็นสิ่งที่คุณไม่ได้เห็นบ่อยทั่วไป เป็นสิ่งที่คุณอาจจะไม่ได้เห็นในต่างประเทศ (แต่ปีล่าสุดของฉันก็ใกล้เคียงนะ) มันเป็นสิ่งดีที่เราได้ประสบการณ์ และทำให้เราเห็นคุณค่าในสิ่งที่เรามีมากกว่าเดิม
Christa Dietzen:
Mike Gervais ซึ่งเป็น sport psychologist (นักจิตวิทยาทางกีฬา)ของเราก็ทำงานกับทีม Seattle Seahawks ด้วย คนที่ติดตามกีฬาอาจจะอ่านเรื่องราวเกี่ยวกับวัฒนธรรมของ Seahawks เราก็มีวัฒนธรรมที่เห็นคุณค่าของทีมเมทที่อยู่ทางขวาของคุณและทีมเมทที่อยู่ทางซ้ายของคุณ มันจึงมีเรื่องความรู้สึกทางอารมณ์อยู่ด้วย เพราะคุณแชร์ในเรื่องและสิ่งที่สำคัญต่อคุณต่อทีมเมท บ่อยครั้งที่เรามีอารมณ์ร่วมสูง ฉันว่าทุกคนในทีมเคยร้องไห้ต่อหน้าทีมเมทมาแล้วทั้งนั้นและนั่นเป็นเวลาที่เรารู้สึกไม่มั่นคงทางอารมณ์ แต่เป็นเวลาที่เราโตขึ้นเป็นทีมได้มากที่สุด
Kimberly Hill:
เราลงทุนจัดการเรื่องอารมณ์(ความรู้สึกทางอารมณ์ ความไม่มั่นคงทางอารมณ์)อย่างเป็นกระบวนการที่ยาวนาน เราคุยกับนักจิตวิทยา เราเข้าไปคุยกับทีมเมทในห้องถึงเรื่องที่เรากลัว เรื่องอื่นๆทุกเรื่อง มันเป็นสิ่งที่ไม่ได้เกิดขึ้นในทีมก่อนๆของเรา เป็นสิ่งที่ไม่ได้มีบ่อยในชีวิตทั่วไป ดังนั้นการที่พวกเรามาอยู่ร่วมกันและสามารถเป็นตัวของตัวเอง และคนอื่นก็ยอมรับเรา นั่นเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมมากเลย นี่ฉันก็ขนลุกเลย มันเป็นสิ่งที่มีพลังมาก
Kayla Banwarth: เราพยายามทำตามจุดมุ่งหมายที่เราตั้งไว้สำหรับ 4 ปี เราพยายามทำในสิ่งที่แตกต่าง ทุ่มเทกับทีมมากขึ้น ทุ่มเทกับทีมเมทซึ่งกันและกัน
Jordan Larson:
มันเจ๋งมากที่เป็นส่วนหนึ่งของทีมที่ให้เรามีอิสระเป็นตัวเอง พวกเรารู้สึกว่าเราเป็นทีมเดียวกัน ทำทุกอย่างด้วยกัน ทุกคนในทีมไม่สามารถไปโอลิมปิกได้ เพราะเราไปได้แค่ 12 คน แต่เรารู้สึกว่าทีมเราไม่ได้มีแค่ 12 คน เรามี 24 คน 30 คน ทีมเราทุกคนพยายามเต็มที่ด้วยหัวใจและจิตวิญญาณ ซึ่งจะช่วยเรา พาเราไปถึงจุดหมายได้
แชร์คำสัมภาษณ์ผู้เล่น USA ในเรื่องวัฒนธรรมความสัมพันธ์เป็นทีม
[Clip] สาวๆ ทีมอุสาสัมภาษณ์ก่อนมา Rio 2016 ดูแล้วทำให้รักพวกนางมากๆ ยิ่งขึ้น
http://ppantip.com/topic/35507045
เลยได้เห็นสัมภาษณ์เรื่องความสัมพันธ์เป็นทีมของผู้เล่น USA
ก็เลยแปลมาให้อ่านกันด้วย
เราเป็นติ่งทุกคนในทีม USA
เห็นคลิปนี้แล้วชอบการเป็นทีมของพวกนางมาก
ลองดูตลิปกันค่ะ ^^
ถ้าแปลผิดพลาดประการใดก็ขอโทษด้วยนะคะ
วัฒนธรรม(ในเรื่องความสัมพันธ์เป็นทีม)ที่เจ๋งที่สุด
Jordan Larson:
ทีมเราหาทางที่สร้างสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการแข่งขัน พวกเราฝึกหนักและแข่งกันหนักทุกวัน แต่เรารู้ว่าทุกคนพยายามที่จะเป็นตัวของตัวเองที่ดีที่สุด และเราก็สามารถเป็นตัวของตัวเองได้ เราจะรักและเคารพในตัวตนของทีมเมททุกคน และเราก็จะพบกัน(ในจุดที่ทุกคนพอใจ)ได้
Kayla Banwarth:
นี่เป็นครอบครัวที่สองของฉันอย่างแน่นอน เราเป็นครอบครัวที่สองของกันและกันไม่ใช่แค่เพราะว่าพวกเราใช้เวลาด้วยกันมาก แต่เป็นเพราะเราทุ่มเทให้กันและกัน เราต้องการอย่างแท้จริงที่อยากให้ทีมเมทคนที่ยืนอยู่ข้างคุณเป็นตัวเค้าที่ดีที่สุด เรามีความรับผิดชอบที่ดีต่อกันและกัน มีพัฒนาการความผูกพันความรักต่อกัน เหมือนกับเป็นครอบครัวเดียวกัน
Kim Hill:
ฉันรู้ว่าทีมเมทฉันอยู่ข้างหลังคอยซัพพอร์ตสนับสนุนฉันเสมอ และทีมเมทของฉันก็รู้ว่าฉันอยู่ข้างหลังคอยซัพพอร์ตเขาเช่นกัน พวกเรามีอิสระที่จะเป็นตัวของตัวเอง ฉันรู้จุดแข็งของทีมเมทและฉันก็ไม่จำเป็นต้องพยายามที่จะมีจุดแข็งแบบนั้นเพราะพวกเธอทุกคนเป็นส่วนหนึ่งของทีมด้วยกัน ฉันมีอิสระที่จะทำในสิ่งที่ฉันทำได้ดี และมันเจ๋งมากที่ทุกสิ่งทุกอย่างมันมาด้วยกันในเวลาแข่ง ฉันไม่เคยอยู่ในกลุ่มและความสัมพันธ์แบบนี้มาก่อน และทีมเมทของฉันหลายคนก็ไม่เคยอยู่ในกลุ่มแบบนี้เช่นกันและอาจจะไม่มีกลุ่มคนแบบนี้อีกแล้ว มันพิเศษมาก
Alisha Glass:
ฉันจะไม่ยอมแลกอะไรกับเวลาที่เราใช้ฝีกในยิม วิธีที่เราแข่ง การที่เราเป็นทีมเมทกัน วิธีที่เราหลงไหลวอลเลย์บอลอย่างแน่นอน มันเป็นสิ่งที่คุณไม่ได้เห็นบ่อยทั่วไป เป็นสิ่งที่คุณอาจจะไม่ได้เห็นในต่างประเทศ (แต่ปีล่าสุดของฉันก็ใกล้เคียงนะ) มันเป็นสิ่งดีที่เราได้ประสบการณ์ และทำให้เราเห็นคุณค่าในสิ่งที่เรามีมากกว่าเดิม
Christa Dietzen:
Mike Gervais ซึ่งเป็น sport psychologist (นักจิตวิทยาทางกีฬา)ของเราก็ทำงานกับทีม Seattle Seahawks ด้วย คนที่ติดตามกีฬาอาจจะอ่านเรื่องราวเกี่ยวกับวัฒนธรรมของ Seahawks เราก็มีวัฒนธรรมที่เห็นคุณค่าของทีมเมทที่อยู่ทางขวาของคุณและทีมเมทที่อยู่ทางซ้ายของคุณ มันจึงมีเรื่องความรู้สึกทางอารมณ์อยู่ด้วย เพราะคุณแชร์ในเรื่องและสิ่งที่สำคัญต่อคุณต่อทีมเมท บ่อยครั้งที่เรามีอารมณ์ร่วมสูง ฉันว่าทุกคนในทีมเคยร้องไห้ต่อหน้าทีมเมทมาแล้วทั้งนั้นและนั่นเป็นเวลาที่เรารู้สึกไม่มั่นคงทางอารมณ์ แต่เป็นเวลาที่เราโตขึ้นเป็นทีมได้มากที่สุด
Kimberly Hill:
เราลงทุนจัดการเรื่องอารมณ์(ความรู้สึกทางอารมณ์ ความไม่มั่นคงทางอารมณ์)อย่างเป็นกระบวนการที่ยาวนาน เราคุยกับนักจิตวิทยา เราเข้าไปคุยกับทีมเมทในห้องถึงเรื่องที่เรากลัว เรื่องอื่นๆทุกเรื่อง มันเป็นสิ่งที่ไม่ได้เกิดขึ้นในทีมก่อนๆของเรา เป็นสิ่งที่ไม่ได้มีบ่อยในชีวิตทั่วไป ดังนั้นการที่พวกเรามาอยู่ร่วมกันและสามารถเป็นตัวของตัวเอง และคนอื่นก็ยอมรับเรา นั่นเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมมากเลย นี่ฉันก็ขนลุกเลย มันเป็นสิ่งที่มีพลังมาก
Kayla Banwarth: เราพยายามทำตามจุดมุ่งหมายที่เราตั้งไว้สำหรับ 4 ปี เราพยายามทำในสิ่งที่แตกต่าง ทุ่มเทกับทีมมากขึ้น ทุ่มเทกับทีมเมทซึ่งกันและกัน
Jordan Larson:
มันเจ๋งมากที่เป็นส่วนหนึ่งของทีมที่ให้เรามีอิสระเป็นตัวเอง พวกเรารู้สึกว่าเราเป็นทีมเดียวกัน ทำทุกอย่างด้วยกัน ทุกคนในทีมไม่สามารถไปโอลิมปิกได้ เพราะเราไปได้แค่ 12 คน แต่เรารู้สึกว่าทีมเราไม่ได้มีแค่ 12 คน เรามี 24 คน 30 คน ทีมเราทุกคนพยายามเต็มที่ด้วยหัวใจและจิตวิญญาณ ซึ่งจะช่วยเรา พาเราไปถึงจุดหมายได้