ความไม่ซิง ไม่ได้ทำให้คุณค่าของมนุษย์ลดลงนะคะ อดีตที่ผ่านไปแล้วก็ปล่อยผ่านไป ในชีวิตคู่ความซิงไม่ได้การันตีอะไรเลยว่าจะไม่หย่าร้างกัน ทำวันที่ได้อยู่ด้วยกันให้มีความสุขทุกๆวันก็พอค่ะ ความทรงจำในอดีตก็เหมือนหนังแผ่นเก่า เอามาดูทีไรก็ร้องไห้ โยนมันทิ้งไปแล้วหาหนังแผ่นใหม่ดีๆเอามาดูดีกว่าค่ะ

ในสิ่งที่คุณพบเจอมาคุณอาจจะคิดว่าเสียดายไม่น่าทำเลย ซึ่งนั่นคือคุณให้ความสำคัญกับครั้งแรกมาก แต่อยากจะบอกว่าถ้าคุณไม่เคยทำอะไรผิดพลาดคุณจะรู้ได้อย่างว่าความถูกต้องคืออะไร ฉะนั้นจึงอยากให้เก็บความรู้สึกของช่วงเวลาที่เสียตัวครั้งแรกไว้ในความทรงถ้ามันเป็นสิ่งที่คุณตั้งใจจะให้เขาในตอนนั้นซึ่งมันจะเป็นความรู้สึกดีๆ ส่วนที่เขาไม่ดีหรือทำให้คุณเสียใจก็ไม่ต้องจำ เพราะในบางครั้งผู้ชายที่ดีในความคิดคุณอาจจะคบแล้วน่าเบื่อก็ได้ และให้คุณโชคดีกับผู้ชายคนนั้น

สำหรับคนที่รักษาพรหมจรรย์ของตนไว้ ก็ย่อมมองเห็นว่าเรื่องพรหมจรรย์เป็นคุณค่าและความภูมิใจ (ผมก็คิดดังนั้นเช่นกัน)

ผมไม่รู้ว่าพวกคุณคุยกันในเรื่องนี้บ้างรึเปล่า ถ้าคุยแล้ว และแฟนของคุณรับได้ก็ได้แฟนเยี่ยมเลยครับ

แต่ถ้าแฟนคุณมีทัศนคติที่มองว่าการรักษาพรหมจรรย์นั้นมีค่า และเขาคาดหวังว่าเขาจะได้รับจากคุณเช่นกันแล้ว
ผมว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ควรบอก และเคลียให้ชัดเจนก่อนแต่งงานครับ

จริงอยู่ถ้าเขาคาดหวังในสิ่งนี้ และไม่ได้จากคุณ ผมคงไม่แนะนำให้เขาเลิกกับคุณ แต่ผมว่าเป็นสิ่งที่ผู้ชายควรรู้ก่อนแต่งงาน และใช้เวลาเตรียมตัวในการรับเรื่องนี้ให้ได้แม้เจ็บปวดจนแทบบ้าก็ตาม [ประสบการณ์ตรง : ( ]

ขอบคุณสำหรับ จขกท. ที่นำเรื่องราวมาแบ่งปันครับ : ) ขอให้ชีวิตรักสมปรารถนา


ปล. สำหรับคนที่ไม่ได้เห็นว่าพรหมจรรย์(ทั้งของชายและหญิง) เป็นสิ่งที่ต้องรักษานั้น นั่นเป็นสิทธิของคุณที่จะคิดแบบนั้น
แต่คุณก็ไม่มีสิทธิว่าคนที่ยังมองว่ามันเป็นของมีค่าเช่นเดียวกัน เลือกเอาครับ
ถ้าอยากได้แฟนซิงและไม่อยากเอาเปรียบแฟน
ก็รักษาพรหมจรรย์ของตัวเองไว้ครับ แม้เมื่อถึงเวลาแฟนเราอาจจะไม่ได้เป็นแบบที่เราหวัง แต่อย่างน้อยเราก็ให้เกียรติแฟนเรา
แต่ถ้าไม่ได้อยากได้แฟนซิง และมองเรื่อง sex เป็นเรื่องของประสบการณ์ก็ทำตามความคิดของคุณครับ จะมีผลเสียต่อเมื่อถ้าคุณได้แฟนที่คาดหวังในสิ่งนี้เข้า
คุณก็แค่ทำให้เขาเสียใจ ก็เท่านั้นเองครับ...

โชคดีที่เรามีแฟนคนเดียว มีสามีคนเดียว คบกันมา 15 ปีกว่าจะได้แต่งงานกัน