แม่ยอมไปหาจิตเเพทย์ แต่ทุกอย่างกลับยิ่งแย่ขึ้น จะทำยังไงดี

จขกท เคยตั้งกระทู้เรื่องปัญหาครอบครัวถึงเรื่องเเม่ไว้ 3 กระทู้ดังนี้ 1. http://ppantip.com/topic/34678263 2. http://ppantip.com/topic/34785660 3. http://ppantip.com/topic/34884756 ในที่สุดวันนี้เเม่ก็ยอมไปหาจิตแพทย์แล้ว เพราะญาติช่วยพูดเกลี้ยกล่อมให้ จขกท ก็คิดว่าอะไรๆจะดีขึ้น แต่ปรากฎว่าผิดคาดค่ะ เพราะเนื่องมาจากว่า จขกท เล่าให้หมอฟังว่า ปัญหาที่เป็นคนล่าช้า ไม่รู้ว่าเป็นเพราะมาจากตัวเราเอง หรือว่ามาจากการเลี้ยงดูของแม่ ที่ทำอะไรให้ตั้งแต่เด็ก แทบจะเรียกได้ว่าทำให้เกือบทุกอย่างเลย ไม่ยอมปล่อยให้คิดหรือตัดสินใจอะไรเองเลย ตอนนั้นเเม่นั่งอยู่ในห้องด้วยค่ะ เพราะหมอเรียกเข้าไปพร้อมกันทั้งแม่และลูก แม่ก็บอกหมอว่าที่ต้องทำเเบบนั้นเพราะว่าห่วงเรามาก อย่างเรื่องมัดผมเพราะอยากให้เราดูดีในสายตาคนอื่น เราก็เข้าใจถึงเหตุผลข้อนี้ค่ะ ถ้า จขกท เป็นเด็ก 3 ขวบจะไม่ว่าอะไรเลย แต่นี่อีก 2 อาทิตย์ก็ 30 แล้ว แม่จะต้องทำให้เราไปตลอดชีวิตเหรอ?  

พอตอนกลับมาบ้านก็เกิดเรื่องใหญ่ถึงขั้นบ้านแตกเลยค่ะ แม่ถามว่า "ทำไมจะต้องไปบอกหมอแบบนั้นด้วย กลายเป็นว่าที่ฉันทำให้เราทุกอย่าง ทำให้เราไม่โตเป็นคนล่าช้าเเบบนี้เหรอ ทำไมไม่คิดว่าการที่แม่ทำให้เป็นเรื่องที่ดี" จขกท ก็เลยบอกว่าไม่ใช่แบบนั้น ที่เล่าให้หมอฟังก็เพราะว่า เขาจะได้หาทางแก้ได้ถูกจุดว่าเป็นเพราะอะไรกันแน่ หมอก็บอกว่า บางทีแม่ลูกอาจจะเป็นคนละสไตล์กันค่ะ คนช้ากับคนเร็วมาอยู่ด้วยกัน ก็อาจจะทำให้เกิดปัญหากันได้ เเม่เป็นคิดเร็ว ใจเร็ว แต่ จขกท เป็นคนใจเย็น ทำอะไรแบบค่อยเป็นค่อยไป ยอมรับค่ะว่าบางทีมันช้าจนเฉื่อย หมอจึงให้คำแนะนำมาว่า บางทีเเม่กับลูกอาจจะต้องปรับกันคนละครึ่ง เช่น ลูกก็พยายามทำอะไรให้เร็วขึ้น แต่ไม่ต้องรีบจนผิดพลาด ส่วนเเม่ก็อาจจะต้องใจเย็นลงหน่อย ถ้าลูกยังไม่สามารถทำอะไรได้ดี อาจจะต้องอดทนและใช้เวลา แม่ไม่พอใจมากที่ จขกท ไปเล่าให้หมอฟังแบบนั้น อย่างเรื่องโกหกก็เล่าให้หมอฟังค่ะ ว่าโกหกแม่ไว้เยอะแต่ก็บอกเหตุผลค่ะว่าเพราะอะไร คือบางเรื่องเราต้องการตัดสินใจเองบ้างน่ะค่ะ

แม่บอกว่า "เข้าใจว่าคนเรามันไม่เหมือนกัน แต่หัวหน้างานเวลาไปทำงาน เขาไม่ได้เป็นนักจิตเวช เขาจะมาเข้าใจเหตุผลข้อนี้เหรอ ถ้าเราช้าไม่รู้เรื่องอะไรแบบนี้ ฉันต้องทนแบบนี้ไปตลอดเหรอ ในเมื่อมันปรับตัวเข้าหากันไม่ได้ก็เเยกกันอยู่เถอะ ฉันก็เป็นของฉันได้แบบนี้แหละ" จขกท ก็เลยบอกแม่ว่า ในเมื่อเราไปหาหมอแล้ว มีอะไรก็ต้องเล่าให้หมอฟังให้หมดสิ แต่แม่ก็ไม่รับฟังอะไรเลย มิหนำซ้ำกลับบ้านก็ยังถูกทำร้ายร่างกายอยู่เหมือนเดิม โดนทั้งจิกผมและเอารองเท้าฟาดหน้า จขกท ไม่รู้จะทำยังไงแล้ว ไปหาหมอคิดว่าอะไรๆจะดีขึ้น แต่ปรากฎว่าผลที่ได้กลับตรงกันข้าม ถ้าไปหาแล้วเป็นแบบนี้ ก็ไม่รู้จะไปหาให้เสียเงินเสียทองเพื่ออะไร? ทุกวันนี้เหมือนมันหวาดระแวงไปหมดแล้ว เหนื่อยกับการวางตัว คืออะไรสะกิดใจเขาไม่ได้เลยน่ะค่ะ ลงเอยด้วยการเจ็บตัวทุกที ไปนั่งสมาธิกับทำวิปัสสนากรรมฐานที่วัดมาแล้ว แต่ก็ไม่มีอะไรดีขึ้นเลย นี่เขาโกรธมากถึงขนาดไม่ให้นอนในห้องนอนเลยนะคะ ก็เลยอยากจะถามเพื่อนๆว่า ถ้าเป็นคุณที่เจอสถานการณ์เช่นนี้ และแม่คุณเป็นแบบนี้จะมีวิธีจัดการและรับมืออย่างไรคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่