การเดินทางด้วยความเร็วแสง/เวลาของตัวเอง และ ผู้สังเกตุ

การเดินทางด้วยความเร็วแสง/เวลาของตัวเอง และ ผู้สังเกตุ

ถ้าผมขับยานด้วยความเร็ว 99.99%ของแสง ออกเดินทางจากโลกไปดาวดวงนึงที่ห่างจากโลกด้วยระยะทาง 10 ปีแสงและกลับมายังโลกทันที.

คำถามครับ : คนบนโลกจะรอนานขนาดไหนผมถึงจะกลับมาถึงโลกครับ? แล้วตัวผมใช้เวลาเท่าไรในการเดินทางไปกลับครับ?

อีกคำถามครับ : แสงเดินทางคงที่เสมอ นั่นแสดงว่าผมจะเห็นแสงวิ่งแซงผมเสมอไม่ว่าผมจะเดินทางด้วยความเร็วเท่าใดก็ตาม แล้วถ้าตอนผมขับยานออกจากโลก ผมส่องกล้องกลับไปที่โลกมองเข็มนาฬิกา แล้วผมจะเห็นเข็มนาฬิกา หยุดเดิน หรือ ยังเดินไปเรื่อยๆแบบปกติ หรือ ช้า หรือ เร็วขึ้นครับ

(ความเข้าใจผมถ้าแสงเดินทางด้วยความเร็วคงที่เสมอไม่ว่าผู้สังเกตุจะเป็นใคร นั่นแสดงว่า เข็มมันควรเดินไปด้วยอัตราความเร็วปกติ เพราะแสงมันก็ยังเดินทางด้วยความเร็วคงที่เสมอ)

แต่เท่าที่อ่านๆมาหลายคนบอกว่าเข็มจะหยุดเดินเพราะเราเดินทางด้วยความเร็วเกือบเท่าแสง

* ผมเลยสงสัย ถ้ามันช้าลงจนหยุด แสดงว่าแสงเดินทางไม่คงที่สิครับ มันช้ากว่าเรามันเลยหยุด มันก็ขัดกับกฎที่ว่าแสงเดินทางคงที่เสมอ

** ผมคิดว่าถ้าคนบนยานจ้องมองเข็มนาฬิกาบนโลก สิ่งที่เห็นน่าจะเห็นเข็มนาฬิกามันเดินเร็วมากๆสิครับ เพราะ กรอบเวลาของคนบนยานความเร็วสูงมีเวลาที่ช้าลงเมื่อเทียบกับเวลาของคนบนโลกที่อยู่เฉยๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 11
ทฤษฎีสัมพัทธภาพ กล่าวไว้ว่าแสงจะเดินทางด้วยความเร็วคงที่เสมอ ไม่ว่าผู้สังเกตุจะเคลื่อนที่ด้วยความเร็วเท่าใดก็ตาม

++ ถ้ามี A B C
A = โลก (มีเส้นรอบวง 40,000Km)
B = ยาน (เดินทางรอบโลกด้วยความเร็ว 99.99% ของความเร็วแสงแสง)
C = แสง มีความเร็ว 300,000 km:วินาที (เดินทางรอบโลกได้ 7.5 รอบใน 1 วินาที)
.............................................................................................

++ ในมุมมองของแต่ละคน

1.ในมุมมองของ A เมื่อเทียบกับ B และ C เรื่องเวลา 1 วินาที จะเห็นยาน B และแสง C วิ่งวนโลก A ได้ 7.5 รอบ ( ยาน B อาจจะไม่เต็ม7.5รอบเพราะเดินทางช้ากว่าแสง C เล็กน้อย )

2.ในมุมมมองของ B เมื่อเที่ยบกับ C และ A เรื่องเวลา เวลา 1 วินาทีบนยาน B จะเห็นแสง C วิ่งน๊อครอบยาน B ไป 7.5 แต่ตัวเองยาน B วิ่งวนโลก A ไปหลายรอบมากๆ เพราะไม่ว่าผู้สังเกตุยาน B จะทำความเร็วเท่าใด ก็จะเห็นแสง C เดินทางด้วยความเร็วคงที่เสมอ นั่นแสดงว่า กรอบเวลาของตนเอง B ได้ยืดออก และ ระยะทางหดสั้นลง

( เพราะ 1 วินาทีของยาน B น่าจะวิ่งวนโลก A ได้ 7.5 รอบเช่นกัน แต่พอมีความเร็วของแสง C ที่เป็นค่าคงที่มาเกี่ยวข้อง จึงทำให้แสง C จำเป็นต้องวิ่งน๊อครอบยาน B จำนวน 7.5 รอบเช่นเดียวกัน จึงทำให้ 1 วินาทีของยาน B วิ่งวนรอบโลก A ได้หลายรอบมากขึ้น จึงทำให้ 1 วินาทีของยาน B ไม่เท่ากับ 4,000Km * 7.5รอบโลก A หรือ 300,000 กิโลเมตรต่อวินาที แสดงว่า มันต้องมีอะไรผิดปกติไปเกี่ยวกับเวลาและระยะทาง )

  * ผมจึงสรุปง่ายๆตามจินตนาการ เวลาของยาน B ยืดออก และ ระยะทางของยาน B หดสั้นลง เพราะแสง C มันเดินทางด้วยความเร็วคงที่เสมอ

*******************************************************************

++ ลองคิดดู ถ้า A ให้ B วิ่งรอบ A 1 วินาทีจะเกิดอะไรขึ้น โดยต่างคนต่างจับเวลา 1 วินาทีของตัวเองโดยไม่สนใจระยะทาง

*******************************************************************

++ ผลลับที่น่าจะเป็น เวลาของโลก A ผ่านไปนานมากกว่ายาน B มากหลายเท่าตัว เพราะ 1 วินาทีของยาน B เท่ากับแสง C เดินทางน๊อครอบยาน B 7.5 รอบ นั่นแสดงว่าโลก A ต้องเฝ้ามองดูยาน B และ แสง C เดินทางรอบโลกรอบแล้วรอบเล่าในอัตตราความเร็วที่เกือบจะเท่ากัน แล้วคิดดูว่าต้องใช้เวลาเท่าไรกว่าแสง C จะน๊อกรอบยาน B 7.5 รอบ ( เพราะ1วินาทีของยาน B เท่ากับแสง C เดินทางน๊อครอบยาน B 7.5 รอบ )

ปล** http://i.imgur.com/P5jAu23.jpg ใส่รูปประกอบไม่เป็น

ผิดถูกยังไงช่วยชี้แนะด้วยนะครับ ผมก๊อบของเพื่อนผมมา
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่