ขอสรุปคร่าวๆ นะคับ ยาวไปเด๋ว 20 หน้าก็ไม่จบ ตอนนี้มีโครงการในมือที่ยังไม่ได้โอนอีกประมาณ 25000 ล้าน ( แก้ไขจาก 30000 ล้านตอนที่แล้วเนื่องจาก มีการโอนเพิ่มเติม q1-q2 ) และโครงการ marque เป็นโครงการร่วมโดย mjd ถือหุ้น 51 % แต่มีการทำสัญญาไปแล้วประมาณ 10000 ล้าน ตัวเลขโดยประมาณให้เห็นภาพคล่าวๆ นะคับ เนื่องจาก ในงบการเงิน ไม่ได้แจ้งตัวเลขขายระหว่าง q1-q2 ปี 59
ปล ผมประเมินว่าภายใน 3 ปีนี้ ถ้าบริษัทขายเพิ่มได้อีกนิดหน่อยมีการโอนประมาณ 15000 ล้านโดยไม่ต้องมีการเปิดโครงการใหม่ จะทำให้บุ๊คกำไรเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 1500 ล้านบาท ทำให้ equity เพิ่มขึ้นเกิน 5000 ล้าน
npm ที่ 10 % ซึ่งถ้าดูจากอดีตหลายๆท่านอาจจะค้าน ว่าโอกาสได้ 10 % แทบไม่มีแต่ตอนนี้พื้นฐานบริษัทได้เปลี่ยนไปแล้วคับ โรงแรมเสร็จเรียบร้อยมีรายได้ ตึกออฟฟิชเสร็จลดค่าใช้จ่ายด้านการเช่า และรับรายได้ ให้เช่า โดยถ้าดูงบรวมครึ่งปีแรก ปี 59 npm จะเปลี่ยนมาที่ 12 % ได้
- ถ้าจังหวะดีมีการขายทรัพย์สินหรือ ขายโรงแรมเข้ากองทุน ก็ส่งผลต่อด้านบวกอีก
โดยในปี 62
แย่สุด equity บริษัทน่าจะ 5000 ล้านอย่างแย่ๆ ทรัพย์สินเพื่อการลงทุนตามเดิม ซื้อขายเท่ากับ book value ก็จะทำให้ราคาหุ้นไปถึง 6 บาทได้ไม่ยาก
ดีสุด ขายทรัพย์สิน 3 ตัวเข้ากองทุนอสังหาอย่างน้อยบุ๊คกำไรอีกเป็น 1000 ล้าน หรือปรับมูลค่าให้เป็นมูลค่าจริงเปิดโครงการเพิ่ม ( ซึ่งแน่นอนต้องมีอยู่แล้วอาจทำให้กำไรระยะสั้นลดลงแต่อัตราเติบโตเพิ่มในระยะยาว npm เข้าใกล้ 15 % ซื้อขายกันที่ 1.3 เท่า book value อาจผลักดันราคาหุ้นไปถึง 9 บาทนิดๆ
ฉะนั้น สรุป หุ้น mjd downside ต่ำมากคับ เพราะทรัพย์สินค้ำราคาหุ้น ต่อให้เกิดวิกฤต ก็จำกัดการลง แต่ถ้าเหตุการณ์ ปกติ - ดีมาก upside 2-3 เท่าภายในระยะเวลา 3 ปี ผมว่าหาได้ยากคับในช่วงเศรษฐกิจแบบนี้ financial fox ขอเลือกให้
mjd เป็น top pick ในหุ้นอสังหา ทั้งหมดของไทย แถมอีกนิด ผู้บริหารเป็นหนุ่มวิศวะ จุฬา รุ่นใหม่อายุไม่มาก มีความทะเยอทะยาน และ เข้าใจการเงิน การบริหาร และหุ้นกำลังขึ้นสู่พื้นฐานราคาใหม่เร็วๆนี้คับ
เครดิต FB: financial fox - จิ้งจอกการเงิน
https://www.facebook.com/Financialfoxvi/?fref=ts
วิเคราะห์หุ้น MJD (ตอนที่ 2) เครดิต FB: financial fox - จิ้งจอกการเงิน
ปล ผมประเมินว่าภายใน 3 ปีนี้ ถ้าบริษัทขายเพิ่มได้อีกนิดหน่อยมีการโอนประมาณ 15000 ล้านโดยไม่ต้องมีการเปิดโครงการใหม่ จะทำให้บุ๊คกำไรเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 1500 ล้านบาท ทำให้ equity เพิ่มขึ้นเกิน 5000 ล้าน
npm ที่ 10 % ซึ่งถ้าดูจากอดีตหลายๆท่านอาจจะค้าน ว่าโอกาสได้ 10 % แทบไม่มีแต่ตอนนี้พื้นฐานบริษัทได้เปลี่ยนไปแล้วคับ โรงแรมเสร็จเรียบร้อยมีรายได้ ตึกออฟฟิชเสร็จลดค่าใช้จ่ายด้านการเช่า และรับรายได้ ให้เช่า โดยถ้าดูงบรวมครึ่งปีแรก ปี 59 npm จะเปลี่ยนมาที่ 12 % ได้
- ถ้าจังหวะดีมีการขายทรัพย์สินหรือ ขายโรงแรมเข้ากองทุน ก็ส่งผลต่อด้านบวกอีก
โดยในปี 62
แย่สุด equity บริษัทน่าจะ 5000 ล้านอย่างแย่ๆ ทรัพย์สินเพื่อการลงทุนตามเดิม ซื้อขายเท่ากับ book value ก็จะทำให้ราคาหุ้นไปถึง 6 บาทได้ไม่ยาก
ดีสุด ขายทรัพย์สิน 3 ตัวเข้ากองทุนอสังหาอย่างน้อยบุ๊คกำไรอีกเป็น 1000 ล้าน หรือปรับมูลค่าให้เป็นมูลค่าจริงเปิดโครงการเพิ่ม ( ซึ่งแน่นอนต้องมีอยู่แล้วอาจทำให้กำไรระยะสั้นลดลงแต่อัตราเติบโตเพิ่มในระยะยาว npm เข้าใกล้ 15 % ซื้อขายกันที่ 1.3 เท่า book value อาจผลักดันราคาหุ้นไปถึง 9 บาทนิดๆ
ฉะนั้น สรุป หุ้น mjd downside ต่ำมากคับ เพราะทรัพย์สินค้ำราคาหุ้น ต่อให้เกิดวิกฤต ก็จำกัดการลง แต่ถ้าเหตุการณ์ ปกติ - ดีมาก upside 2-3 เท่าภายในระยะเวลา 3 ปี ผมว่าหาได้ยากคับในช่วงเศรษฐกิจแบบนี้ financial fox ขอเลือกให้
mjd เป็น top pick ในหุ้นอสังหา ทั้งหมดของไทย แถมอีกนิด ผู้บริหารเป็นหนุ่มวิศวะ จุฬา รุ่นใหม่อายุไม่มาก มีความทะเยอทะยาน และ เข้าใจการเงิน การบริหาร และหุ้นกำลังขึ้นสู่พื้นฐานราคาใหม่เร็วๆนี้คับ
เครดิต FB: financial fox - จิ้งจอกการเงิน
https://www.facebook.com/Financialfoxvi/?fref=ts