แบบว่าเวลารวมญาติไปกินอาหารกันนี้ ผมนี้ได้แค่กินอย่างเดียว ไม่รู้จะเริ่มเรื่องอะไร เวลาฝ่ายญาติถามว่าอยู่ชั้นไหน เรียนไหน ได้เกรดเท่าไหร่ พ่อเป็นยังไง
ผมก็คุยโต้ตอบได้ตามปกติครับ แต่มันก็เหมือนกับว่าถามคำตอบคำอะไรประมาณนั้น ซึ่งผมย้ำคิดว่าจะพยายามแก้ไข แต่มันนึกอะไรไม่ออกจริงๆ คนอื่นเขาคุยกันเป็นตุเป็นตะเฮฮาหัวเราะ ไอผมนี้นั่งเงียบรับประทานข้าวคนเดียว มันน่าเจ็บใจตัวเองจริงๆ ที่ไม่สามารถคุยกับคนอื่นได้แบบปกติๆ
แล้วที่แย่กว่านั้น ผมกับคนในบ้านอยู่กัน 2 ต่อ 2 นั่งกินข้าว อีกคนก็ไม่คุยอะไรกับผมเลย ผมนี้โครตเกร็ง ไม่รู้จะทำอย่างไร ได้แค่ก้มหน้ารับประมานข้าวเงียบๆ มันสุดยอดของบรรยากาศที่โครตติดลบครับ เลยรีบกินข้าวไห้หมดแล้วออกจากห้องครัวเลยครับ คิดดูครับ อยู่ด้วยกันมา ก็ตั้งแต่เขารับผมมาเลี้ยงกับครอบครัวเค้านั้นแหละ ผมนี้มีปมอะไรหรือปล่าว ผมไม่พอใจอะไรตั้งแต่เล็กหรือปล่าว ผมกลับมาคิดฝังใจขนาดนั้นจนมันทำไห้ผมเป็นคนที่ไม่อยากจะคุยกับไครในครอบครัว ผมเป็นคนแบบนั้นจริงๆ ผมควรจะแก้ไขยังไง ไปเรียนภาษาไทยมันจะช่วยได้ไหม ทำไห้ผมสื่อสารกับคนอื่นได้ดีขึ้น นึกเรื่องราวที่จะพูดปะติปะต่อได้ เอาไห้พวกเขานั้นแปลกใจไปเลยทีเดียวว่า ไอคนนี้ปกติมันเป็นคนเงียบๆแล้วจู่ๆมาพูดเก่งขนาดนี้ได้อย่างไร
โอเคร มาประเด็นที่ผมโครตจะแปลกใจมากๆเหมือนกัน ผมอยู่กับเพื่อนๆ ผมนี้โม้แหลก คุยอะไรก็ได้ เรียกได้ว่า พวกเพื่อนเนี่ยเหมือนบ้านหลังที่สองของผมเลย ผมโครตมีความสุขกว่าตอนที่ผมอยู่บ้านกับครอบครัว ผมสามารถสื่อสารกับพวกเค้า หัวเราะปาตี้อะไร ผมสามารถเป็นตัวของตัวเองได้
แต่เวลาผมอยู่บ้านเนี่ย ผมโครตจะแปลกใจกับตัวเอง ว่าทำไมผมต้องเป็นคนเงียบๆ ผมมีปมชัวเลย ตอนเด็กโดนคนคนนึงที่เลี้ยงดูตีบ่อย ในเรื่องที่ไม่เข้าใจ ผมนั่งร้องไห้ อยากตาย ไม่อยากอยู่บ้านเฮงซวยนี้ ตอนเด็กเรียกได้ว่า เอาแต่ใจตัวเองพอตัว แต่พอโตมา โครตจะเย็นชากับบ้านนี้ครับ ผมนี้ไม่สะทกสะท้านแล้ว ผมกลายเป็นคนนิ่งๆทันทีเมื่ออยู่บ้าน ผมเอาแต่ใจตัวเองจริงๆ ผมย้ำคิดว่า ไอที่เราคิดนี้มันผิดรึปล่าว ผมอยู่คนเดียวจนผมพูดกับตัวเองในบ้านว่า ตูจะไปทำอย่างนั้น ตูจะไปทำอย่างนี้ ว่างๆก็เล่นเกมส์ ออกบ้านไปเล่นกับเพื่อนดีกว่า ไม่อยากอยู่บ้านไม่ไหว
อึดอัด ผมเป็นคนอิจฉาหรือปล่าว ผมมักจะรู้สึกว่าที่ผมเป็นแบบนี้เพราะพวกเขานั้น มันก็เห็นแก่ตัวเกินไปที่คิดแบบนั้น พวกเค้าเก่ง พวกเค้าสามารถหาเลี้ยงครอบครัวได้ เวลาครอบครัวมีปัญหาอะไรก็ช่วยกันคิดช่วยกันทำ ผมก็เริ่มจะคลี่คลายความกดดันที่มีต่อพวกเค้าได้บ้างในบางเวลา ผมคิดว่าผมอิจฉาแน่นอนเลย ทำไมผมถึงอยากพูดเก่งหละ เห็นคนในบ้านพูดเก่งสื่อสารกันสนุกผมก็เลยอยากหาวิธีไห้พูดเก่งๆงั้นเหรอ ผมเริ่มคิดว่าไม่เลย ผมคิดว่าผมไม่เหมือนพวกเขา พวกเขาดีเกินไป ผมต่อต้าน ผมเกเร ผมไม่ชอบความเป็นคนที่มีอีโก้สูงๆ ผมเป็นคนที่มีความคิดแบบนั้นไปซะแล้ว เอาเป็นว่า ขอบคุณที่อ่านจนจบ
และช่วยแนะนำแนวทางไห้ผมหน่อยว่าผมควรจะทำอะไรยังไงไห้เป็นคนที่สามารถสื่อสารเก่งๆและสามารถพูดคุยกับคนในบ้านได้แบบปกติๆ
ถ้าไห้ผมไปพูดตรงๆกับคนในบ้านเลยนี่ มันออกจะ... ผมคิดไม่ออกแล้วว่าผมจะแสดงความคิดเห็นกับความคิดที่ผมจะไปคุยกับคนในบ้านตรงๆไปเลยว่าผมรู้สึกยังไงกับบ้านนี้ยังไง ผมคิดว่านั่นเป็นทางออกที่ดีที่สุดแล้วงั้นหรือ ผมไม่กล้าจริงๆ ผมอยากจะเปลี่ยนไปทีละนิดๆ ไม่ต้องไปขุดคุ้ยเรื่องราวที่อาจทำไห้พวกเขามองผมเป็นคนอย่างนั้นอย่างนี้ มันอาจไม่ดีถ้าผมพูดตรงๆออกไปเลยว่าผมรู้สึกยังไง
ไครเป็นคนที่ไม่สามารถสื่อสารเป็นเรื่องเป็นราวได้คับ? แล้วจะแก้ไขไห้เป็นคนพูดเก่งๆได้อย่างไรครับ
ผมก็คุยโต้ตอบได้ตามปกติครับ แต่มันก็เหมือนกับว่าถามคำตอบคำอะไรประมาณนั้น ซึ่งผมย้ำคิดว่าจะพยายามแก้ไข แต่มันนึกอะไรไม่ออกจริงๆ คนอื่นเขาคุยกันเป็นตุเป็นตะเฮฮาหัวเราะ ไอผมนี้นั่งเงียบรับประทานข้าวคนเดียว มันน่าเจ็บใจตัวเองจริงๆ ที่ไม่สามารถคุยกับคนอื่นได้แบบปกติๆ
แล้วที่แย่กว่านั้น ผมกับคนในบ้านอยู่กัน 2 ต่อ 2 นั่งกินข้าว อีกคนก็ไม่คุยอะไรกับผมเลย ผมนี้โครตเกร็ง ไม่รู้จะทำอย่างไร ได้แค่ก้มหน้ารับประมานข้าวเงียบๆ มันสุดยอดของบรรยากาศที่โครตติดลบครับ เลยรีบกินข้าวไห้หมดแล้วออกจากห้องครัวเลยครับ คิดดูครับ อยู่ด้วยกันมา ก็ตั้งแต่เขารับผมมาเลี้ยงกับครอบครัวเค้านั้นแหละ ผมนี้มีปมอะไรหรือปล่าว ผมไม่พอใจอะไรตั้งแต่เล็กหรือปล่าว ผมกลับมาคิดฝังใจขนาดนั้นจนมันทำไห้ผมเป็นคนที่ไม่อยากจะคุยกับไครในครอบครัว ผมเป็นคนแบบนั้นจริงๆ ผมควรจะแก้ไขยังไง ไปเรียนภาษาไทยมันจะช่วยได้ไหม ทำไห้ผมสื่อสารกับคนอื่นได้ดีขึ้น นึกเรื่องราวที่จะพูดปะติปะต่อได้ เอาไห้พวกเขานั้นแปลกใจไปเลยทีเดียวว่า ไอคนนี้ปกติมันเป็นคนเงียบๆแล้วจู่ๆมาพูดเก่งขนาดนี้ได้อย่างไร
โอเคร มาประเด็นที่ผมโครตจะแปลกใจมากๆเหมือนกัน ผมอยู่กับเพื่อนๆ ผมนี้โม้แหลก คุยอะไรก็ได้ เรียกได้ว่า พวกเพื่อนเนี่ยเหมือนบ้านหลังที่สองของผมเลย ผมโครตมีความสุขกว่าตอนที่ผมอยู่บ้านกับครอบครัว ผมสามารถสื่อสารกับพวกเค้า หัวเราะปาตี้อะไร ผมสามารถเป็นตัวของตัวเองได้
แต่เวลาผมอยู่บ้านเนี่ย ผมโครตจะแปลกใจกับตัวเอง ว่าทำไมผมต้องเป็นคนเงียบๆ ผมมีปมชัวเลย ตอนเด็กโดนคนคนนึงที่เลี้ยงดูตีบ่อย ในเรื่องที่ไม่เข้าใจ ผมนั่งร้องไห้ อยากตาย ไม่อยากอยู่บ้านเฮงซวยนี้ ตอนเด็กเรียกได้ว่า เอาแต่ใจตัวเองพอตัว แต่พอโตมา โครตจะเย็นชากับบ้านนี้ครับ ผมนี้ไม่สะทกสะท้านแล้ว ผมกลายเป็นคนนิ่งๆทันทีเมื่ออยู่บ้าน ผมเอาแต่ใจตัวเองจริงๆ ผมย้ำคิดว่า ไอที่เราคิดนี้มันผิดรึปล่าว ผมอยู่คนเดียวจนผมพูดกับตัวเองในบ้านว่า ตูจะไปทำอย่างนั้น ตูจะไปทำอย่างนี้ ว่างๆก็เล่นเกมส์ ออกบ้านไปเล่นกับเพื่อนดีกว่า ไม่อยากอยู่บ้านไม่ไหว อึดอัด ผมเป็นคนอิจฉาหรือปล่าว ผมมักจะรู้สึกว่าที่ผมเป็นแบบนี้เพราะพวกเขานั้น มันก็เห็นแก่ตัวเกินไปที่คิดแบบนั้น พวกเค้าเก่ง พวกเค้าสามารถหาเลี้ยงครอบครัวได้ เวลาครอบครัวมีปัญหาอะไรก็ช่วยกันคิดช่วยกันทำ ผมก็เริ่มจะคลี่คลายความกดดันที่มีต่อพวกเค้าได้บ้างในบางเวลา ผมคิดว่าผมอิจฉาแน่นอนเลย ทำไมผมถึงอยากพูดเก่งหละ เห็นคนในบ้านพูดเก่งสื่อสารกันสนุกผมก็เลยอยากหาวิธีไห้พูดเก่งๆงั้นเหรอ ผมเริ่มคิดว่าไม่เลย ผมคิดว่าผมไม่เหมือนพวกเขา พวกเขาดีเกินไป ผมต่อต้าน ผมเกเร ผมไม่ชอบความเป็นคนที่มีอีโก้สูงๆ ผมเป็นคนที่มีความคิดแบบนั้นไปซะแล้ว เอาเป็นว่า ขอบคุณที่อ่านจนจบ
และช่วยแนะนำแนวทางไห้ผมหน่อยว่าผมควรจะทำอะไรยังไงไห้เป็นคนที่สามารถสื่อสารเก่งๆและสามารถพูดคุยกับคนในบ้านได้แบบปกติๆ
ถ้าไห้ผมไปพูดตรงๆกับคนในบ้านเลยนี่ มันออกจะ... ผมคิดไม่ออกแล้วว่าผมจะแสดงความคิดเห็นกับความคิดที่ผมจะไปคุยกับคนในบ้านตรงๆไปเลยว่าผมรู้สึกยังไงกับบ้านนี้ยังไง ผมคิดว่านั่นเป็นทางออกที่ดีที่สุดแล้วงั้นหรือ ผมไม่กล้าจริงๆ ผมอยากจะเปลี่ยนไปทีละนิดๆ ไม่ต้องไปขุดคุ้ยเรื่องราวที่อาจทำไห้พวกเขามองผมเป็นคนอย่างนั้นอย่างนี้ มันอาจไม่ดีถ้าผมพูดตรงๆออกไปเลยว่าผมรู้สึกยังไง