เผย'หมอถูกก้านคอ'แพทย์ดีเด่นขออยู่ชนบทใช้ทุน
เปิดประวัติหมอถูกเตะก้านคอ ดีกรี “แพทย์ดีเด่นด้านความรับผิดชอบ” รองเลขาฯแพทยสภาเผย หมอหนุ่มใช้ทุนครบ 3 ปี แต่ไม่ขอย้ายออกจากชนบท กลับอยู่ต่อ 6 ปี ระบุยังคงมาทำงาน ตรวจคนไข้เวรนอกเวลาตามปกติ
อาทิตย์ที่ 14 สิงหาคม 2559 เวลา 15.55 น.
กลายเป็นเรื่องที่ผู้คนให้ความสนใจขึ้นมาทันที กรณีหมอหนุ่ม
“นพ.ธงชัย เมืองคำ” อายุ 30 ปี แพทย์รพ.แม่ใจ จ.พะเยา โร่แจ้งความเอาผิด
อดีตนายกเทศมนตรีที่ไม่พอใจการตรวจรักษา ฉวยจังหวะอยู่บนเตียงใช้ขาเตะเข้าจุดทัดดอกไม้ จนบริเวณใบหูเกิดรอยฟกช้ำ โดยมีคลิปวีดีโอเป็นหลักฐานยืนยันความผิดชัดเจน แต่อย่างไรก็ตามด้านนายกเล็กคนดังกล่าว ออกมาอ้างว่าไม่รู้ตัวเท้าขวาฟาดเข้าที่ต้นคอของแพทย์ได้อย่างไร ซึ่งอาจเป็นเพราะอาการแน่นหน้าอกที่เป็นอยู่ขณะนั้น ล่าสุดแพทยสภาออกแถลงการณ์ ระบุ การกระทำดังกล่าวคุกคามและดูหมิ่นเกียรติแห่งวิชาชีพแพทย์อย่างร้ายแรง
เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 14 ส.ค. บนเครือข่ายสังคมออนไลน์เหล่าบุคลากรด้านสาธารณสุข ต่างพากันแชร์รูปภาพเกียรติบัตรใบประกาศเกียรติคุณของแพทย์หนุ่มคนดังกล่าว อ้างด้วยว่า
“คุณหมอที่เป็นข่าวได้รับรางวัล แพทย์ดีเด่น บุคคลที่เป็นแบบอย่างด้านความรับผิดชอบ เมื่อ 8 มิ.ย.59 นี้เอง จากโรงพยาบาลแม่ใจ”
ทั้งนี้
“พล.อ.ต.นพ.อิทธพร คณะเจริญ” รองเลขาธิการแพทยสภา เปิดเผยข้อเท็จจริงดังกล่าวผ่าน “เดลินิวส์ออนไลน์” ด้วยว่า ได้รับรายงานว่า นพ.ธงชัย เป็นแพทย์ดีเด่น รพ.แม่ใจ จริง
โดยใช้ทุนจนครบ 3 ปี และอยู่เรื่อยมาเป็นปีที่ 6 โดยไม่ขอย้ายตนเองออกจากชนบท ซึ่งสามารถลาออกได้ในปีที่ 3 แต่มิได้กระทำเมื่อครบกำหนดใช้ทุนเช่นแพทย์คนอื่น อีกทั้งยังทุ่มเททำงานในชนบท และในปี 60 ยังได้ทุนเรียนต่อเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเด็ก ที่รพ.พุทธชินราช จ.พิษณุโลก เพื่อกลับมาดูคนไข้เด็กในชุมชนแม่ใจ อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ดังกล่าวไม่ควรจะโทษว่าใครผิด-ถูก เพราะไม่เกิดประโยชน์ใดๆ แต่ต้องรับฟังความทุกด้านให้ครบถ้วน ต่อไปจะทำอย่างไรให้ระบบสาธารณสุขอยู่ได้ ผู้ป่วยได้รับการดูแลปลอดภัย และไม่มีการทำร้ายกันในอนาคตน่าจะดีที่สุด
“แพทย์จะถูกสอนไม่ให้โต้ตอบคนไข้อยู่แล้ว คนไข้มาหาหมอเพราะทุกข์ด้วยโรคทางกาย หากเครียดทางจิตใจ แพทย์ควรเห็นใจและห่วงใย มีหน้าที่ช่วยคนไข้ก่อนที่จะคิดเรื่องอื่นๆ ซึ่งเคสเช่นนี้สะท้อนอะไรหลายอย่าง อาจเกิดความล่าช้าบ้าง จำนวนโรงพยาบาลที่มีห้องฉุกเฉิน 1,300 แห่งทั้งประเทศ คนไข้และญาติมีความเครียดอยู่แล้ว ไม่ใช่หมอคนเดียวที่เครียด ปริมาณแพทย์และคนไข้ไม่สมดุลกัน เราควรหาทางออกพัฒนาระบบสาธารณสุขอย่างไรให้กระบวนการรักษาคนไข้ฉุกเฉินเป็นไปด้วยดี อีกทั้งขยายกล้องวงจรปิดในพื้นที่ที่คาดว่าจะเกิดปัญหา จะเสริมข้อเท็จจริง แล้วยังสามารถยับยั้งป้องปรามปัญหาที่จะเกิดขึ้น เพราะคล้ายการจับตาดูว่าใครก่อปัญหา แต่ก็เป็นดาบสองคม ฝากเตือนว่าการเสพสื่อบนโซเชียลฯ ขอให้ทุกคนตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วยความระมัดระวัง” รองเลขาธิการแพทยสภา กล่าว
พล.อ.ต.นพ.อิทธพร ยังเผยอีกว่า ในวันนี้ (14 ส.ค.) ตนได้สอบถามไปยังแพทย์หนุ่มคนดังกล่าว ซึ่งกำลังง่วนอยู่กับการตรวจคนไข้ห้องฉุกเฉินประจำเวรนอกเวลา และคนไข้ในตึกคนเดียวทั้งโรงพยาบาลแม่ใจ โดยไม่ได้หยุดงานแต่อย่างใด และคงยังมีกำลังใจทำงานปกติ ซึ่งแพทย์หนุ่มกล่าวสั้นๆเพียงว่า
“อยู่กับคนไข้ก็หมดเวลาแล้ว ไม่ได้คิดถึงเรื่องข่าวเลย” ตนจึงให้กำลังใจในการทำงาน ขออย่าให้รีบตัดสินใจลาออก เพราะคนไข้ยังต้องการแพทย์เช่นนี้อยู่มาก.
http://www.dailynews.co.th/regional/515840
เผย'หมอถูกก้านคอ'แพทย์ดีเด่นขออยู่ชนบทใช้ทุน
เปิดประวัติหมอถูกเตะก้านคอ ดีกรี “แพทย์ดีเด่นด้านความรับผิดชอบ” รองเลขาฯแพทยสภาเผย หมอหนุ่มใช้ทุนครบ 3 ปี แต่ไม่ขอย้ายออกจากชนบท กลับอยู่ต่อ 6 ปี ระบุยังคงมาทำงาน ตรวจคนไข้เวรนอกเวลาตามปกติ
อาทิตย์ที่ 14 สิงหาคม 2559 เวลา 15.55 น.
กลายเป็นเรื่องที่ผู้คนให้ความสนใจขึ้นมาทันที กรณีหมอหนุ่ม “นพ.ธงชัย เมืองคำ” อายุ 30 ปี แพทย์รพ.แม่ใจ จ.พะเยา โร่แจ้งความเอาผิด อดีตนายกเทศมนตรีที่ไม่พอใจการตรวจรักษา ฉวยจังหวะอยู่บนเตียงใช้ขาเตะเข้าจุดทัดดอกไม้ จนบริเวณใบหูเกิดรอยฟกช้ำ โดยมีคลิปวีดีโอเป็นหลักฐานยืนยันความผิดชัดเจน แต่อย่างไรก็ตามด้านนายกเล็กคนดังกล่าว ออกมาอ้างว่าไม่รู้ตัวเท้าขวาฟาดเข้าที่ต้นคอของแพทย์ได้อย่างไร ซึ่งอาจเป็นเพราะอาการแน่นหน้าอกที่เป็นอยู่ขณะนั้น ล่าสุดแพทยสภาออกแถลงการณ์ ระบุ การกระทำดังกล่าวคุกคามและดูหมิ่นเกียรติแห่งวิชาชีพแพทย์อย่างร้ายแรง
เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 14 ส.ค. บนเครือข่ายสังคมออนไลน์เหล่าบุคลากรด้านสาธารณสุข ต่างพากันแชร์รูปภาพเกียรติบัตรใบประกาศเกียรติคุณของแพทย์หนุ่มคนดังกล่าว อ้างด้วยว่า “คุณหมอที่เป็นข่าวได้รับรางวัล แพทย์ดีเด่น บุคคลที่เป็นแบบอย่างด้านความรับผิดชอบ เมื่อ 8 มิ.ย.59 นี้เอง จากโรงพยาบาลแม่ใจ”
ทั้งนี้ “พล.อ.ต.นพ.อิทธพร คณะเจริญ” รองเลขาธิการแพทยสภา เปิดเผยข้อเท็จจริงดังกล่าวผ่าน “เดลินิวส์ออนไลน์” ด้วยว่า ได้รับรายงานว่า นพ.ธงชัย เป็นแพทย์ดีเด่น รพ.แม่ใจ จริง โดยใช้ทุนจนครบ 3 ปี และอยู่เรื่อยมาเป็นปีที่ 6 โดยไม่ขอย้ายตนเองออกจากชนบท ซึ่งสามารถลาออกได้ในปีที่ 3 แต่มิได้กระทำเมื่อครบกำหนดใช้ทุนเช่นแพทย์คนอื่น อีกทั้งยังทุ่มเททำงานในชนบท และในปี 60 ยังได้ทุนเรียนต่อเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเด็ก ที่รพ.พุทธชินราช จ.พิษณุโลก เพื่อกลับมาดูคนไข้เด็กในชุมชนแม่ใจ อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ดังกล่าวไม่ควรจะโทษว่าใครผิด-ถูก เพราะไม่เกิดประโยชน์ใดๆ แต่ต้องรับฟังความทุกด้านให้ครบถ้วน ต่อไปจะทำอย่างไรให้ระบบสาธารณสุขอยู่ได้ ผู้ป่วยได้รับการดูแลปลอดภัย และไม่มีการทำร้ายกันในอนาคตน่าจะดีที่สุด
“แพทย์จะถูกสอนไม่ให้โต้ตอบคนไข้อยู่แล้ว คนไข้มาหาหมอเพราะทุกข์ด้วยโรคทางกาย หากเครียดทางจิตใจ แพทย์ควรเห็นใจและห่วงใย มีหน้าที่ช่วยคนไข้ก่อนที่จะคิดเรื่องอื่นๆ ซึ่งเคสเช่นนี้สะท้อนอะไรหลายอย่าง อาจเกิดความล่าช้าบ้าง จำนวนโรงพยาบาลที่มีห้องฉุกเฉิน 1,300 แห่งทั้งประเทศ คนไข้และญาติมีความเครียดอยู่แล้ว ไม่ใช่หมอคนเดียวที่เครียด ปริมาณแพทย์และคนไข้ไม่สมดุลกัน เราควรหาทางออกพัฒนาระบบสาธารณสุขอย่างไรให้กระบวนการรักษาคนไข้ฉุกเฉินเป็นไปด้วยดี อีกทั้งขยายกล้องวงจรปิดในพื้นที่ที่คาดว่าจะเกิดปัญหา จะเสริมข้อเท็จจริง แล้วยังสามารถยับยั้งป้องปรามปัญหาที่จะเกิดขึ้น เพราะคล้ายการจับตาดูว่าใครก่อปัญหา แต่ก็เป็นดาบสองคม ฝากเตือนว่าการเสพสื่อบนโซเชียลฯ ขอให้ทุกคนตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วยความระมัดระวัง” รองเลขาธิการแพทยสภา กล่าว
พล.อ.ต.นพ.อิทธพร ยังเผยอีกว่า ในวันนี้ (14 ส.ค.) ตนได้สอบถามไปยังแพทย์หนุ่มคนดังกล่าว ซึ่งกำลังง่วนอยู่กับการตรวจคนไข้ห้องฉุกเฉินประจำเวรนอกเวลา และคนไข้ในตึกคนเดียวทั้งโรงพยาบาลแม่ใจ โดยไม่ได้หยุดงานแต่อย่างใด และคงยังมีกำลังใจทำงานปกติ ซึ่งแพทย์หนุ่มกล่าวสั้นๆเพียงว่า “อยู่กับคนไข้ก็หมดเวลาแล้ว ไม่ได้คิดถึงเรื่องข่าวเลย” ตนจึงให้กำลังใจในการทำงาน ขออย่าให้รีบตัดสินใจลาออก เพราะคนไข้ยังต้องการแพทย์เช่นนี้อยู่มาก.
http://www.dailynews.co.th/regional/515840