สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 28
พูดถึงการแปลตำราของญี่ปุ่นแล้วก็รู้สึกได้เลยถึงความใจแคบและเห็นแก่ตัว คนญี่ปุ่นเองก็ไม่เก่งภาษาอังกฤษเหมือนไทยแต่เขาเน้นแปลตำราต่างประเทศเป็นภาษาตัวเองให้มากที่สุดเพื่อจะได้ศึกษาได้เองไม่ต้องไปศึกษาจากประเทศอื่น รวมไปถึงคนที่ไม่มีความรู้ภาษาอังกฤษรึภาษาอื่นจะได้สามารถศึกษาจากในประเทศได้ด้วย ทำให้มีการค้นคว้าวิจัยกันเยอะเพราะมีข้อมูลในญี่ปุ่นเป็นภาษาญี่ปุ่นมาก แม้จะไม่ค่อยมีคนรู้ภาษาต่างประเทศมากแต่ก็ยังหาข้อมูลใหม่ๆได้ตลอด
ในขณะที่ประเทศไทยคนรู้ภาษาจะค่อนข้างเห็นแก่ตัว คนที่ศึกษาจากต่างประเทศมาไม่ค่อยจะอยากแปลเป็นภาษาตัวเองให้คนอื่นอ่าน เพราะรู้สึกว่าตัวเองต้องลำบากเสียเงินไปเรียนแล้วเรื่องอะไรจะให้คนอื่นมาหาข้อมูลได้ง่ายๆ ต้องให้ลำบากมากๆเหมือนตน (โดยอ้างให้สวยหรูว่าอยากรู้ก็ศึกษาภาษาอังกฤษสิ จะให้ป้อนทุกอย่างให้เลยเหรอ ไม่รู้ศัพท์ก็เปิดพจนานุกรมสิ เรียนสิ หาความรู้สิ ไม่ยากหรอก) ทำให้งานวิจัยและตำราต่างๆไม่ค่อยมีแปลเป็นภาษาไทย คนไทยเองก็ไม่ค่อยรู้ภาษาอังกฤษและเมื่อมันยุ่งยากขนาดนั้นคนส่วนใหญ่ก็ปล่อยผ่านเลิกสนใจไปด้วย ส่งผลให้คนไม่มีความรู้ภาษาต่างประเทศก็ไม่ค่อยจะอยากค้นคว้าหาข้อมูลอะไรเพราะอ่านยากไม่ค่อยรู้เรื่อง งานวิจัยน้อยเพราะไม่ค่อยมีข้อมูล สรุปว่านอกจากคนไม่เก่งภาษาต่างประเทศแล้วยังไม่ค่อยมีความรู้ข้อมูลใหม่ๆอีกต่างหาก
ในขณะที่ประเทศไทยคนรู้ภาษาจะค่อนข้างเห็นแก่ตัว คนที่ศึกษาจากต่างประเทศมาไม่ค่อยจะอยากแปลเป็นภาษาตัวเองให้คนอื่นอ่าน เพราะรู้สึกว่าตัวเองต้องลำบากเสียเงินไปเรียนแล้วเรื่องอะไรจะให้คนอื่นมาหาข้อมูลได้ง่ายๆ ต้องให้ลำบากมากๆเหมือนตน (โดยอ้างให้สวยหรูว่าอยากรู้ก็ศึกษาภาษาอังกฤษสิ จะให้ป้อนทุกอย่างให้เลยเหรอ ไม่รู้ศัพท์ก็เปิดพจนานุกรมสิ เรียนสิ หาความรู้สิ ไม่ยากหรอก) ทำให้งานวิจัยและตำราต่างๆไม่ค่อยมีแปลเป็นภาษาไทย คนไทยเองก็ไม่ค่อยรู้ภาษาอังกฤษและเมื่อมันยุ่งยากขนาดนั้นคนส่วนใหญ่ก็ปล่อยผ่านเลิกสนใจไปด้วย ส่งผลให้คนไม่มีความรู้ภาษาต่างประเทศก็ไม่ค่อยจะอยากค้นคว้าหาข้อมูลอะไรเพราะอ่านยากไม่ค่อยรู้เรื่อง งานวิจัยน้อยเพราะไม่ค่อยมีข้อมูล สรุปว่านอกจากคนไม่เก่งภาษาต่างประเทศแล้วยังไม่ค่อยมีความรู้ข้อมูลใหม่ๆอีกต่างหาก
ความคิดเห็นที่ 3
The Miracle era
อย่างที่เราทราบกัน ญี่ปุ่นเกิดสิ่งที่เรียกว่า The Miracle era หรือ ยุคมหัศจรรย์ทางเศรษฐกิจนับต้งแต่วันที่ญี่ปุ่นได้รับเลือกเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกในปี 1964 แต่จริงๆแล้ว มันเริ่มขึ้นมาตั้งแต่สงครามเกาหลี นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นในขณะนั้น รู้ไหมครับว่า เขาพูดถึงสงครามเกาหลีว่าอย่างไร เขาพูดออกสื่อเลยว่า
" It is the gift from heaven for Japan. " (มันคือของขวัญจากสวรรค์สำหรับชาวญี่ปุ่น)
เพราะญี่ปุ่นฟื้นสิครับ ผลิตๆๆๆๆ ส่งให้ทหารอเมริกาใช้ในสงครามเกาหลี จนค่าเงินเยนแข็งค่าขึ้นเรื่อยๆ จนมาอยู่ที่ 250 เยน/ดอลลาร์ในปี 1957 และตอนนี้ญี่ปุ่นก็มีเงินมากพอ และ Know how สมัยใหม่มากพอที่จะระเบิดตัวเองอีกครั้ง โดยผ่านระบบสามเหลี่ยมเหล็ก และ Industry policy
Industry policy คืออะไร ก็คือ นโยบายทางอุตสาหกรรมที่รัฐบาลส่งเสริมสิ่งใดสิ่งหนึ่งครับ และจะเปลี่ยนไปเมื่อราคามันตก ซึ่งคนที่กำหนดนโยบาย Industry policy นี่ไม่ใช่นายกรัฐมนตรีครับ แต่เป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ในกระทรวง MITI (Ministry of International Trade and Industry) ครับ
Miracle era เกิดขึ้นโดยการชี้นำของกระทรวง MITI เป็นหลักครับ รวมไปถึงระบบสามเหลี่ยมเหล็กที่ทำให้ผลประโยชน์ทั้ง นักการเมือง ข้าราชการ และ นักธุรกิจ มันลงตัวพอดี ซึ่งเป็นโชคดีที่ญี่ปุ่นพัฒนาสินค้าได้เร็วมาก จากความรู้ที่เก็บสะสมมาตั้งแต่ยุคเมจิ ผสมกับความรู้ที่สหรัฐอเมริกามอบให้ตอน Japan Occupied 1945-1951 (เราต้องทราบว่า ญี่ปุ่นแปลความรู้ทุกอย่างเป็นภาษาญี่ปุ่นหมด ตั้งแต่ยุคเมจิ เพื่อให้คนญี่ปุ่นรู้เทคโนโลยีตะวันตกโดยไม่จำเป็นต้องไปเรียนภาษาของชาติตะวันตกมาก่อน ซึ่งทำมาตั้งแต่ปี 1872 จนปี 1980) ซึ่งพอเศรษฐกิจเจริญ ญี่ปุ่นก็สร้างนวัตกรรมใหม่ๆได้เร็วขึ้นมาก และคนญี่ปุ่นชำนนาญเรื่องการทำงานเป็นทีมอย่างมาก จนในช่วง Miracle era นั้น เชื่อว่า เทคโนโลยีญี่ปุ่นก้าวหน้ากว่าชาติตะวันตกประมาณ 10 ปีทีเดียว
Miracle era จะสะดุดลงในช่วงปี 1973 เนื่องจากวิกฤตการณ์น้ำมันครั้งที่ 1 ผลจากสงคราม ยม-คิปปูร์
อย่างที่เราทราบกัน ญี่ปุ่นเกิดสิ่งที่เรียกว่า The Miracle era หรือ ยุคมหัศจรรย์ทางเศรษฐกิจนับต้งแต่วันที่ญี่ปุ่นได้รับเลือกเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกในปี 1964 แต่จริงๆแล้ว มันเริ่มขึ้นมาตั้งแต่สงครามเกาหลี นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นในขณะนั้น รู้ไหมครับว่า เขาพูดถึงสงครามเกาหลีว่าอย่างไร เขาพูดออกสื่อเลยว่า
" It is the gift from heaven for Japan. " (มันคือของขวัญจากสวรรค์สำหรับชาวญี่ปุ่น)
เพราะญี่ปุ่นฟื้นสิครับ ผลิตๆๆๆๆ ส่งให้ทหารอเมริกาใช้ในสงครามเกาหลี จนค่าเงินเยนแข็งค่าขึ้นเรื่อยๆ จนมาอยู่ที่ 250 เยน/ดอลลาร์ในปี 1957 และตอนนี้ญี่ปุ่นก็มีเงินมากพอ และ Know how สมัยใหม่มากพอที่จะระเบิดตัวเองอีกครั้ง โดยผ่านระบบสามเหลี่ยมเหล็ก และ Industry policy
Industry policy คืออะไร ก็คือ นโยบายทางอุตสาหกรรมที่รัฐบาลส่งเสริมสิ่งใดสิ่งหนึ่งครับ และจะเปลี่ยนไปเมื่อราคามันตก ซึ่งคนที่กำหนดนโยบาย Industry policy นี่ไม่ใช่นายกรัฐมนตรีครับ แต่เป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ในกระทรวง MITI (Ministry of International Trade and Industry) ครับ
Miracle era เกิดขึ้นโดยการชี้นำของกระทรวง MITI เป็นหลักครับ รวมไปถึงระบบสามเหลี่ยมเหล็กที่ทำให้ผลประโยชน์ทั้ง นักการเมือง ข้าราชการ และ นักธุรกิจ มันลงตัวพอดี ซึ่งเป็นโชคดีที่ญี่ปุ่นพัฒนาสินค้าได้เร็วมาก จากความรู้ที่เก็บสะสมมาตั้งแต่ยุคเมจิ ผสมกับความรู้ที่สหรัฐอเมริกามอบให้ตอน Japan Occupied 1945-1951 (เราต้องทราบว่า ญี่ปุ่นแปลความรู้ทุกอย่างเป็นภาษาญี่ปุ่นหมด ตั้งแต่ยุคเมจิ เพื่อให้คนญี่ปุ่นรู้เทคโนโลยีตะวันตกโดยไม่จำเป็นต้องไปเรียนภาษาของชาติตะวันตกมาก่อน ซึ่งทำมาตั้งแต่ปี 1872 จนปี 1980) ซึ่งพอเศรษฐกิจเจริญ ญี่ปุ่นก็สร้างนวัตกรรมใหม่ๆได้เร็วขึ้นมาก และคนญี่ปุ่นชำนนาญเรื่องการทำงานเป็นทีมอย่างมาก จนในช่วง Miracle era นั้น เชื่อว่า เทคโนโลยีญี่ปุ่นก้าวหน้ากว่าชาติตะวันตกประมาณ 10 ปีทีเดียว
Miracle era จะสะดุดลงในช่วงปี 1973 เนื่องจากวิกฤตการณ์น้ำมันครั้งที่ 1 ผลจากสงคราม ยม-คิปปูร์
แสดงความคิดเห็น
The collapse of Japan เมื่อเศรษฐกิจญี่ปุ่นแย่