ขอแบ่งปัน ประสบการณ์ ย้ายลูกไปเรียนต่อ High School ที่ New Zealand
เกาะเหนือ ที่คนไทยน้อย
มูลเหตุ เนื่องจากลูกชายคนโต เรียนที่ นานาชาติ โรงเรียน NIS เชียงใหม่ จบเกรด 9 ส่วนคนเล็ก อายุ 13 ปี จบเกรด 5 ทั้งสองคนย้ายจากโรงเรียนภาคภาษาไทย มาเรียน ที่ NIS ได้สองปี
วันหนึ่ง คนโต มาบอกว่า ป๊า ขอไปต่างประเทศซักปีได้ไหม ไม่ไหวแล้ว เพื่อนๆ ในห้องเริ่มไม่มีฝรั่ง มีแต่ มังคุด พุทรา เอ้ย มีพวกนักศึกษาจากจีน ญี่ปุ่น เกาหลี ทำให้การพูด การ Present ภาษาไม่สมาร์ทเลย ขอไปปีเดียวแล้วกลับมาต่อที่ NIS
ส่วนคนน้องไม่อยากย้ายไป เพราะห่วงเพื่อนๆ
แต่สุดท้าย พี่ก็กล่อมน้อง เพราะไม่อยากไปคนเดียว สุดท้ายน้องก็ยอม
ในช่วงแรก เป้าหมายคือ แคนาดา ครับ เนื่องจากผมเคยอยู่ที่ Vancouver BC Canada ติดต่อเรียบร้อย เพราะชอบเรื่องความปลอดภัยสูง แต่ทางแคนาดา ก็ตอบรับให้มาเรียนต่อได้เลย คือ
คนโต จากคนโต อายุ 16 ปี จบ Grade 10 มาต่อ Grade 11
คนเล็ก อายุ 13 ปี จบ Grade 5 มาต่อ Grade 6
ทางโรงเรียนที่แคนาดา ก็สงสัยนิดหน่อยว่าคนเล็กทำไมยังเรียนช้า น่าจะมีชั้นเรียนสูงกว่านี้ แต่ก็ตอบไปว่า เด็กเกิด 1 ตุลาคม ในประเทศไทยนับว่ายังไม่ถึงเกณฑ์ ให้ไปเรียนปีถัดไป ย้ายจากโรงเรียนอนุบาลเชียงใหม่ มาเข้า Interก็ลดลงอีก 1 ปี ช่วงเปิดเรียนไม่ตรงกัน ก็ขยับอีก เลยหลายปี ทางโรงเรียนก็รับทราบ แต่ก็ไม่มี Pass ชั้นอะไร
ภรรยาผม เขาอยากให้เปลี่ยนประเทศ มา New Zealand เพราะจะได้สะดวก หากมีเหตุฉุกเฉิน เพื่อนเขาอยู่ที่นี่ด้วย ก็เลยตามใจ ก็มีปรับแผนเปลี่ยนประเทศ มาเป็น New Zealand แทน ก็เริ่มหาโรงเรียนที่ลง
เงื่อนไข คือ
1. โรงเรียนที่เด็กไทยน้อยๆ
2. หาที่ชนพื้นเมืองน้อยหน่อย
3. เกาะเหนือดีกว่า เพราะคนไทย แห่ลงเกาะใต้มาก หากเกาะเหนือต้องนอกเมือง Auckland หากเป็นเกาะใต้ ต้องไม่ใช้ Christchurch เพราะเด็กไทยลงไปเยอะ
ดังนั้น ช่วงแรกก็หา มารอบแรก คัดไปมาเหลือ
เกาะเหนือ เป็น เมือง Hamilton
เกาะใต้ เป็น Nelson กับ Queenstown
พอเอาค่าใช้จ่ายมาเปรียบเทียบ รวมเงื่อนไขอื่น ๆ แล้ว ก็เลยสรุปว่า มาที่ Cambridge High School , New Zealand มีส่วนลดให้ด้วย
ท่านใดที่สนใจจะไป NZ ไปช่วงไหนก็ได้ เพียงแต่เขาแนะนำว่า ควรเป็นเทอม 1,2 หรือ 3 ไม่แนะนำให้มา เทอม 4 ( ปีหนึ่งมี 4 เทอม) เขาไม่ค่อยสนใจผลการเรียนเดิมมากนัก คือ ให้น้ำหนักน้อยแล้วกัน แม้จะมีบางวิชา ติด f ไป เขาก็ไม่สนใจ เริ่มใหม่ แล้วเอาอายุเป็นเกณฑ์ครับ
จากที่ผมส่งลูกชาย 2 คน ย้ายจากเชียงใหม่ (นานาชาติ โรงเรียน NIS ) คนโต อายุ 16 ปี จบเกรด 10 คนเล็ก อายุ 13 ปี จบเกรด 5 พอมาถึง Cambridge High School , New Zealand เขาปรับชั้นการเรียนใหม่
คนเล็ก มาเข้าเรียน ใน Year 9 (Term 3) คือ ครึ่งปีหลัง นั้นคือ Pass ที่เดียว 3 ปี ครึ่ง ครับ
คนโต มาเข้าเรียน เขาให้เลือกว่าจะเรียนใน Year 11 หรือ 12 แต่เนื่องจากต้องการกลับไทย ใน Year 12 ก็เลยขอเริ่มที่ Year 11 (Term 3) คือ ครึ่งปีหลัง นั้นคือ Pass มา ครึ่งปี ครับ
สรุปคือ ลูกๆ ผมโดยรวมประหยัดเงินไป 4 ปี เมื่อเทียบว่า เขาทั้งสองคนต้องจบ Year 12 หรือ ม.6 ก็ประหนัดไปมาก และเป็นการซื้อเวลาด้วย
ผมไปส่งลูกๆ เพราะเป็นห่วงเรื่อง Pass หลายชั้น เกรงจะมีผลเรื่องคุณภาพการศึกษา Dean ที่ดูแล เขาบอกกับผมว่า คุณไม่ต้องเป็นห่วง เขามีวิธีจัดการ ขอให้เชื่อเขา เขามั่นใจว่า ระบบการจัดการศึกษาของ New Zealand ไม่ได้ด้อยกว่าไทยแน่นอน
ผมเลยไม่กล้าพูดต่อ เขาก็ให้ observe การเรียนการสอนดู
พูดถึงความเงียบ
บางเมืองใน NZ ก็ไม่ถึงกับเงียบนัก ผมเลือกที่ Cambridge High School , New Zealand ให้ลูก เพราะพยายามหาเมืองเล็กๆ ห่างออกจาก Auckland ที่โรงเรียนนี้ คนไทยน้อย นักเรียนเป็นพัน แต่มีคนไทย 5 คน ไม่รวมลูกชายผม และเขาวางให้เรียนคนละห้อง คือ ไม่เจอกันในห้องเรียน แต่จะเจอที่ห้องรวมของแผนก Inter
พักบ้านโฮส เดินมาโรงเรียนประมาณ 5 นาที ผมวางแผนให้ลูกอยู่คนละบ้าน ต้นซอยกับท้ายซอย
ลูกๆ ก็มีความสุขดี ชอบ บอกว่า เรียนสนุก ไม่เบื่อ มีกิจกรรมเที่ยวบ่อย บอกว่าทัศนศึกษา แต่ดูภาพแล้ว เที่ยวชัดๆ ซึ่งก็ไม่ได้เก็บเงินเพิ่ม วันหยุดเขาก็ไปเดินเล่น Downtown ใน Cambridge สัปดาห์ก่อนก็นั่ง Bus ไปเที่ยวกับเพื่อนๆ ที่ Hamilton
ส่งลูกๆ เข้าบ้านโฮส -------->
http://ppantip.com/topic/35485156
ก่อนจะส่งลูกๆ ไปที่โฮส ก็สำรวจรอบๆ โรงเรียน
บรรยากาศโดยรอบๆ โรงเรียน Cambridge High School , New Zealand
บรรยากาศ Orientation แผนก Inter
สองคนท้าย
สำรวจห้องเรียน
Locker สำหรับนักเรียน
บรรยากาศการเรียนในห้อง
ห้องสมุด
โรงยิม เด็ก NZ จะถอดโรงเท้าถุงเท้า ในโรงยิม แม้แต่เล่นฟุตบอล ก็ชอบถอด เหมือนสมัยผมเป็นเด็กวัดเลยครับ
rugby กีฬาสุดฮิต ของชาวกีวี
แผนกนานาชาติ
รอใส่รูป อีก 3 คน แต่จบไปแล้ว 2 ยังไม่ได้เอาภาพออก สรุป มีเด็กๆทย รวมลูกผม ประมาณ 7 คน แต่เวลาเรียนแยกกันหมด ไม่เจอกัน
วางแผน ตารางเรียนรายบุคคล
ส่งเข้าห้องเรียน หา Buddy
โชคดีนะ Bัye Bye
รอดูผลงาน เขาเน้นการเรียนแบบมีสุข สอนให้คิด แก้ปัญหา ค้นคว้า หาคำตอบ อะไรทำนองนั้น
ย้ายลูกไปเรียนต่อ High School ที่ New Zealand
เกาะเหนือ ที่คนไทยน้อย
มูลเหตุ เนื่องจากลูกชายคนโต เรียนที่ นานาชาติ โรงเรียน NIS เชียงใหม่ จบเกรด 9 ส่วนคนเล็ก อายุ 13 ปี จบเกรด 5 ทั้งสองคนย้ายจากโรงเรียนภาคภาษาไทย มาเรียน ที่ NIS ได้สองปี
วันหนึ่ง คนโต มาบอกว่า ป๊า ขอไปต่างประเทศซักปีได้ไหม ไม่ไหวแล้ว เพื่อนๆ ในห้องเริ่มไม่มีฝรั่ง มีแต่ มังคุด พุทรา เอ้ย มีพวกนักศึกษาจากจีน ญี่ปุ่น เกาหลี ทำให้การพูด การ Present ภาษาไม่สมาร์ทเลย ขอไปปีเดียวแล้วกลับมาต่อที่ NIS
ส่วนคนน้องไม่อยากย้ายไป เพราะห่วงเพื่อนๆ
แต่สุดท้าย พี่ก็กล่อมน้อง เพราะไม่อยากไปคนเดียว สุดท้ายน้องก็ยอม
ในช่วงแรก เป้าหมายคือ แคนาดา ครับ เนื่องจากผมเคยอยู่ที่ Vancouver BC Canada ติดต่อเรียบร้อย เพราะชอบเรื่องความปลอดภัยสูง แต่ทางแคนาดา ก็ตอบรับให้มาเรียนต่อได้เลย คือ
คนโต จากคนโต อายุ 16 ปี จบ Grade 10 มาต่อ Grade 11
คนเล็ก อายุ 13 ปี จบ Grade 5 มาต่อ Grade 6
ทางโรงเรียนที่แคนาดา ก็สงสัยนิดหน่อยว่าคนเล็กทำไมยังเรียนช้า น่าจะมีชั้นเรียนสูงกว่านี้ แต่ก็ตอบไปว่า เด็กเกิด 1 ตุลาคม ในประเทศไทยนับว่ายังไม่ถึงเกณฑ์ ให้ไปเรียนปีถัดไป ย้ายจากโรงเรียนอนุบาลเชียงใหม่ มาเข้า Interก็ลดลงอีก 1 ปี ช่วงเปิดเรียนไม่ตรงกัน ก็ขยับอีก เลยหลายปี ทางโรงเรียนก็รับทราบ แต่ก็ไม่มี Pass ชั้นอะไร
ภรรยาผม เขาอยากให้เปลี่ยนประเทศ มา New Zealand เพราะจะได้สะดวก หากมีเหตุฉุกเฉิน เพื่อนเขาอยู่ที่นี่ด้วย ก็เลยตามใจ ก็มีปรับแผนเปลี่ยนประเทศ มาเป็น New Zealand แทน ก็เริ่มหาโรงเรียนที่ลง
เงื่อนไข คือ
1. โรงเรียนที่เด็กไทยน้อยๆ
2. หาที่ชนพื้นเมืองน้อยหน่อย
3. เกาะเหนือดีกว่า เพราะคนไทย แห่ลงเกาะใต้มาก หากเกาะเหนือต้องนอกเมือง Auckland หากเป็นเกาะใต้ ต้องไม่ใช้ Christchurch เพราะเด็กไทยลงไปเยอะ
ดังนั้น ช่วงแรกก็หา มารอบแรก คัดไปมาเหลือ
เกาะเหนือ เป็น เมือง Hamilton
เกาะใต้ เป็น Nelson กับ Queenstown
พอเอาค่าใช้จ่ายมาเปรียบเทียบ รวมเงื่อนไขอื่น ๆ แล้ว ก็เลยสรุปว่า มาที่ Cambridge High School , New Zealand มีส่วนลดให้ด้วย
ท่านใดที่สนใจจะไป NZ ไปช่วงไหนก็ได้ เพียงแต่เขาแนะนำว่า ควรเป็นเทอม 1,2 หรือ 3 ไม่แนะนำให้มา เทอม 4 ( ปีหนึ่งมี 4 เทอม) เขาไม่ค่อยสนใจผลการเรียนเดิมมากนัก คือ ให้น้ำหนักน้อยแล้วกัน แม้จะมีบางวิชา ติด f ไป เขาก็ไม่สนใจ เริ่มใหม่ แล้วเอาอายุเป็นเกณฑ์ครับ
จากที่ผมส่งลูกชาย 2 คน ย้ายจากเชียงใหม่ (นานาชาติ โรงเรียน NIS ) คนโต อายุ 16 ปี จบเกรด 10 คนเล็ก อายุ 13 ปี จบเกรด 5 พอมาถึง Cambridge High School , New Zealand เขาปรับชั้นการเรียนใหม่
คนเล็ก มาเข้าเรียน ใน Year 9 (Term 3) คือ ครึ่งปีหลัง นั้นคือ Pass ที่เดียว 3 ปี ครึ่ง ครับ
คนโต มาเข้าเรียน เขาให้เลือกว่าจะเรียนใน Year 11 หรือ 12 แต่เนื่องจากต้องการกลับไทย ใน Year 12 ก็เลยขอเริ่มที่ Year 11 (Term 3) คือ ครึ่งปีหลัง นั้นคือ Pass มา ครึ่งปี ครับ
สรุปคือ ลูกๆ ผมโดยรวมประหยัดเงินไป 4 ปี เมื่อเทียบว่า เขาทั้งสองคนต้องจบ Year 12 หรือ ม.6 ก็ประหนัดไปมาก และเป็นการซื้อเวลาด้วย
ผมไปส่งลูกๆ เพราะเป็นห่วงเรื่อง Pass หลายชั้น เกรงจะมีผลเรื่องคุณภาพการศึกษา Dean ที่ดูแล เขาบอกกับผมว่า คุณไม่ต้องเป็นห่วง เขามีวิธีจัดการ ขอให้เชื่อเขา เขามั่นใจว่า ระบบการจัดการศึกษาของ New Zealand ไม่ได้ด้อยกว่าไทยแน่นอน
ผมเลยไม่กล้าพูดต่อ เขาก็ให้ observe การเรียนการสอนดู
พูดถึงความเงียบ
บางเมืองใน NZ ก็ไม่ถึงกับเงียบนัก ผมเลือกที่ Cambridge High School , New Zealand ให้ลูก เพราะพยายามหาเมืองเล็กๆ ห่างออกจาก Auckland ที่โรงเรียนนี้ คนไทยน้อย นักเรียนเป็นพัน แต่มีคนไทย 5 คน ไม่รวมลูกชายผม และเขาวางให้เรียนคนละห้อง คือ ไม่เจอกันในห้องเรียน แต่จะเจอที่ห้องรวมของแผนก Inter
พักบ้านโฮส เดินมาโรงเรียนประมาณ 5 นาที ผมวางแผนให้ลูกอยู่คนละบ้าน ต้นซอยกับท้ายซอย
ลูกๆ ก็มีความสุขดี ชอบ บอกว่า เรียนสนุก ไม่เบื่อ มีกิจกรรมเที่ยวบ่อย บอกว่าทัศนศึกษา แต่ดูภาพแล้ว เที่ยวชัดๆ ซึ่งก็ไม่ได้เก็บเงินเพิ่ม วันหยุดเขาก็ไปเดินเล่น Downtown ใน Cambridge สัปดาห์ก่อนก็นั่ง Bus ไปเที่ยวกับเพื่อนๆ ที่ Hamilton
ส่งลูกๆ เข้าบ้านโฮส --------> http://ppantip.com/topic/35485156
ก่อนจะส่งลูกๆ ไปที่โฮส ก็สำรวจรอบๆ โรงเรียน
บรรยากาศโดยรอบๆ โรงเรียน Cambridge High School , New Zealand
บรรยากาศ Orientation แผนก Inter
สองคนท้าย
สำรวจห้องเรียน
Locker สำหรับนักเรียน
บรรยากาศการเรียนในห้อง
ห้องสมุด
โรงยิม เด็ก NZ จะถอดโรงเท้าถุงเท้า ในโรงยิม แม้แต่เล่นฟุตบอล ก็ชอบถอด เหมือนสมัยผมเป็นเด็กวัดเลยครับ
rugby กีฬาสุดฮิต ของชาวกีวี
แผนกนานาชาติ
รอใส่รูป อีก 3 คน แต่จบไปแล้ว 2 ยังไม่ได้เอาภาพออก สรุป มีเด็กๆทย รวมลูกผม ประมาณ 7 คน แต่เวลาเรียนแยกกันหมด ไม่เจอกัน
วางแผน ตารางเรียนรายบุคคล
ส่งเข้าห้องเรียน หา Buddy
โชคดีนะ Bัye Bye
รอดูผลงาน เขาเน้นการเรียนแบบมีสุข สอนให้คิด แก้ปัญหา ค้นคว้า หาคำตอบ อะไรทำนองนั้น