กระทู้นี้ตั้งใจเขียนเพื่อแบ่งปันประสบการณ์ของคนเป็นแม่ หรือผู้ปกครองที่กำลังตัดสินใจจะส่งลูกไปเรียนต่างประเทศ เพราะจากประสบการณ์ตัวเองตอนที่หาข้อมูลก่อนจะให้ลูกไปเรียนต่างประเทศก็หาค่อนข้างยาก จึงคิดว่ากระทู้นี้น่าจะมีประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อย
ตอนที่เขาอยู่ ป. 6 ก็ได้คุยกับลูกสาวแล้วล่ะ ว่าสนใจไป summer ต่างประเทศไหม ช่วงปิดเทอม ไป New Zealand ก็ได้ มี agent จัด summer เยอะแยะ ก็กล่อมลูกสาวอยู่นานจนเขาอยากไป พอติดต่อ agent ปรากฏว่าลูกสาวอายุน้อยเกินไป (ตอนนั้นอายุ 10 ย่าง 11 ขวบ) เขาไม่รับ เลยต้องพับโครงการนี้ไว้ก่อน
พอลูกสาวขึ้น ม.1 (เรียนที่โรงเรียนสาธิตในกรุงเทพ) ทางโรงเรียนก็มีโครงการเรียนภาษาอังกฤษเข้มข้น 1 ปี ที่ Australia และ New Zealand (ให้เลือกที่เดียว) ตอนนั้นลูกสาวเอาใบสมัครมาให้ (เป็นนโยบายโรงเรียนด้วยว่าเอกสารทุกอย่างจากโรงเรียน นักเรียนต้องเอาให้ผู้ปกครองเซ็นรับทราบ) ก็เลยถามลูกสาวว่าสนใจไหม ไปเรียนปีเดียวเองแป็บๆ เขาก็เฉยๆ แล้วแต่แม่ เอาล่ะสิถ้าลูกตอบอย่างนี้ชักไม่ค่อยดีล่ะ เลยต้องมีกลยุทธ์กล่อมลูกซะแล้ว
เลยต้องอรัมภบทกันยาวเลย ว่าจำได้ไหมที่เราเคยคุยกันว่าอยากมีโอกาสไปเที่ยวที่ New Zealand ขับรถบ้านเที่ยวไปตามที่ต่างๆ ไปดูแกะ ไปดูวิวสวยๆที่นั่น กล่อมไปเรื่อยๆ ประจวบกับช่วงนั้นพอดีมีงาน exhibition เรียนต่อที่ NZ ที่โรงแรม Westin เลยชวนกันไปงานนี้ ไปเดินดูบูธของโรงเรียนต่างๆ คุยกับตัวแทนโรงเรียนเพื่อหาข้อมูล บางโรงเรียนก็บอกว่าลูกสาวอายุ 11 ปี ย่าง 12 ปี อายุยังน้อยต้องเรียนชั้น Intermediate Schools คือไปเริมที่ year 8 ก่อน (ถ้าเทียบกับไทยคือไปเรียนซ้ำชั้น) เราก็ไม่ว่าอะไร เก็บข้อมูลไปเรื่อยๆ
แต่ที่ตัวแทนโรงเรียนที่มาออกบูธให้ข้อคิดเห็นคือ
1. ถ้าไปเรียนตั้งแต่อายุน้อย เด็กจะปรับตัวด้านภาษาได้เร็ว ไม่ต้องมีพื้นฐานก็ไปได้
2. เด็กจะกลมกลืนกับนักเรียนกีวี่ที่นั้น เพราะยังไม่ถึงวัยแบ่งเพศ แบ่งฝ่ายแบ่งผวก เหมือนไปเรียนตอนชั้นสูงๆ เช่น year 11-12
เราก็เก็บข้อมูลมาเรื่อย จนถึงวันที่ทางโรงเรียนลูกจัดประชุมผู้ปกครองที่สนใจโครงการแลกเปลี่ยน โดยให้ทาง agent มานำเสนอโรงเรียน NZ ที่ทางโรงเรียนได้มีโครงการร่วมกัน
ทาง agent ก็ให้ข้อมูลโรงเรียนคร่าวๆ 4-5 โรงเรียน ซึ่งเป็นโรงเรียนที่ผ่านการคัดเลือกมาแล้ว และแจ้งค่าใช้จ่าย และเล่าถึงประสบการณ์ของเด็กที่ไปเรียนที่นู้นคร่าวๆให้ฟัง แต่ก็นั่นแหละ เราคนเป็นแม่ก็ต้องอยากรู้อะไรที่ปลีกย่อยมากกว่านั้นซึ่งต้องออกมาหาเองตามเนต ตาม webboard ต่างๆ ซึ่งก็ไม่จุใจซะเท่าไหร่
ตกลงใจล่ะ คุยกับลูกล่ะ ลูกยอมไปเรียนต่างประเทศให้ล่ะ เลยเลือกโรงเรียน West Lake Girls ที่ Auckland , Apply ใบสมัครไปแล้ว ทางโรงเรียนตอบรับแล้ว แต่ทางโรงเรียนสาธิตแจ้งกลับมาว่ามีนักเรียนไทยเยอะแล้ว จะลองพิจารณาโรงเรียนใหม่ดูไหม แล้วส่งรายชื่อโรงเรียนใหม่มาให้เลือก พร้อมกับ agent รายใหม่ให้ติดต่อ
เอาละสิต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่อีกล่ะ ค้นหาข้อมูลโรงเรียนใหม่ทั้ง 4-5 โรงเรียน ก็ตกลงใจเลือก EPSOM school เป็นโรงเรียนหญิงล้วนเช่นกัน ก็ส่งใบ Apply ไป มีการทำ test ส่งไป และ face time สัมภาษณ์ลูกสาวด้วย รอทางนู้นตอบกลับนานพอควร ปรากฏว่าเขาแจ้งว่าลูกสาวอายุน้อยไปที่จะไปเรียนต่อ year 9 (เท่ากับ ม.2) เขาแนะนำให้เรียน year 8 ไปก่อน จึงไม่เอาล่ะ หาโรงเรียนใหม่อีก ทาง agent ก็เสนอโรงเรียน Baredene มาให้ เป็นโรงเรียนคาทอลิก เคร่งเรื่องระเบียบวินัยมาก และเขารับเลย ไปต่อ year 9 ได้เลย เราก็คิดอยู่พักหนึ่งว่าเอาไงดี แต่ก็มีโรงเรียนอื่นให้เลือก เป็นโรงเรียนสหซะส่วนใหญ่ และ score โรงเรียนก็ได้น้อยกว่าด้วย เลยตัดสินใจเลือก Baradene college ให้ลูก
แล้วก็กลับไปที่เดิม คือ search หาคำว่า Baradene เพื่อจะดูข้อมูลให้มากที่สุด ดูว่ามีเด็กไทยกี่คน มีคนเขียน review ถึงโรงเรียนบ้างไหม ปรากฏว่าไม่มี มีแต่เด็กๆนักเรียนเขียนใน wed Dekdee ว่าโรงเรียนนี้เป้นไง ใครเรียนบ้าง ก็มีคำตอบสั้นๆประมาณว่า ก็ดี, เราเรียนอยู่, มีไรถามได้, add ig กันนะ, เลยไม่ได้อะไรมากกว่านี้
ลูกสาวล่ะทำไร ไม่ทำไรเลย รอวันเดินทางอย่างเดียว
เมื่อลูกสาวเป็นเด็กนักเรียนนอก ประเทศนิวซีแลนด์
ตอนที่เขาอยู่ ป. 6 ก็ได้คุยกับลูกสาวแล้วล่ะ ว่าสนใจไป summer ต่างประเทศไหม ช่วงปิดเทอม ไป New Zealand ก็ได้ มี agent จัด summer เยอะแยะ ก็กล่อมลูกสาวอยู่นานจนเขาอยากไป พอติดต่อ agent ปรากฏว่าลูกสาวอายุน้อยเกินไป (ตอนนั้นอายุ 10 ย่าง 11 ขวบ) เขาไม่รับ เลยต้องพับโครงการนี้ไว้ก่อน
พอลูกสาวขึ้น ม.1 (เรียนที่โรงเรียนสาธิตในกรุงเทพ) ทางโรงเรียนก็มีโครงการเรียนภาษาอังกฤษเข้มข้น 1 ปี ที่ Australia และ New Zealand (ให้เลือกที่เดียว) ตอนนั้นลูกสาวเอาใบสมัครมาให้ (เป็นนโยบายโรงเรียนด้วยว่าเอกสารทุกอย่างจากโรงเรียน นักเรียนต้องเอาให้ผู้ปกครองเซ็นรับทราบ) ก็เลยถามลูกสาวว่าสนใจไหม ไปเรียนปีเดียวเองแป็บๆ เขาก็เฉยๆ แล้วแต่แม่ เอาล่ะสิถ้าลูกตอบอย่างนี้ชักไม่ค่อยดีล่ะ เลยต้องมีกลยุทธ์กล่อมลูกซะแล้ว
เลยต้องอรัมภบทกันยาวเลย ว่าจำได้ไหมที่เราเคยคุยกันว่าอยากมีโอกาสไปเที่ยวที่ New Zealand ขับรถบ้านเที่ยวไปตามที่ต่างๆ ไปดูแกะ ไปดูวิวสวยๆที่นั่น กล่อมไปเรื่อยๆ ประจวบกับช่วงนั้นพอดีมีงาน exhibition เรียนต่อที่ NZ ที่โรงแรม Westin เลยชวนกันไปงานนี้ ไปเดินดูบูธของโรงเรียนต่างๆ คุยกับตัวแทนโรงเรียนเพื่อหาข้อมูล บางโรงเรียนก็บอกว่าลูกสาวอายุ 11 ปี ย่าง 12 ปี อายุยังน้อยต้องเรียนชั้น Intermediate Schools คือไปเริมที่ year 8 ก่อน (ถ้าเทียบกับไทยคือไปเรียนซ้ำชั้น) เราก็ไม่ว่าอะไร เก็บข้อมูลไปเรื่อยๆ
แต่ที่ตัวแทนโรงเรียนที่มาออกบูธให้ข้อคิดเห็นคือ
1. ถ้าไปเรียนตั้งแต่อายุน้อย เด็กจะปรับตัวด้านภาษาได้เร็ว ไม่ต้องมีพื้นฐานก็ไปได้
2. เด็กจะกลมกลืนกับนักเรียนกีวี่ที่นั้น เพราะยังไม่ถึงวัยแบ่งเพศ แบ่งฝ่ายแบ่งผวก เหมือนไปเรียนตอนชั้นสูงๆ เช่น year 11-12
เราก็เก็บข้อมูลมาเรื่อย จนถึงวันที่ทางโรงเรียนลูกจัดประชุมผู้ปกครองที่สนใจโครงการแลกเปลี่ยน โดยให้ทาง agent มานำเสนอโรงเรียน NZ ที่ทางโรงเรียนได้มีโครงการร่วมกัน
ทาง agent ก็ให้ข้อมูลโรงเรียนคร่าวๆ 4-5 โรงเรียน ซึ่งเป็นโรงเรียนที่ผ่านการคัดเลือกมาแล้ว และแจ้งค่าใช้จ่าย และเล่าถึงประสบการณ์ของเด็กที่ไปเรียนที่นู้นคร่าวๆให้ฟัง แต่ก็นั่นแหละ เราคนเป็นแม่ก็ต้องอยากรู้อะไรที่ปลีกย่อยมากกว่านั้นซึ่งต้องออกมาหาเองตามเนต ตาม webboard ต่างๆ ซึ่งก็ไม่จุใจซะเท่าไหร่
ตกลงใจล่ะ คุยกับลูกล่ะ ลูกยอมไปเรียนต่างประเทศให้ล่ะ เลยเลือกโรงเรียน West Lake Girls ที่ Auckland , Apply ใบสมัครไปแล้ว ทางโรงเรียนตอบรับแล้ว แต่ทางโรงเรียนสาธิตแจ้งกลับมาว่ามีนักเรียนไทยเยอะแล้ว จะลองพิจารณาโรงเรียนใหม่ดูไหม แล้วส่งรายชื่อโรงเรียนใหม่มาให้เลือก พร้อมกับ agent รายใหม่ให้ติดต่อ
เอาละสิต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่อีกล่ะ ค้นหาข้อมูลโรงเรียนใหม่ทั้ง 4-5 โรงเรียน ก็ตกลงใจเลือก EPSOM school เป็นโรงเรียนหญิงล้วนเช่นกัน ก็ส่งใบ Apply ไป มีการทำ test ส่งไป และ face time สัมภาษณ์ลูกสาวด้วย รอทางนู้นตอบกลับนานพอควร ปรากฏว่าเขาแจ้งว่าลูกสาวอายุน้อยไปที่จะไปเรียนต่อ year 9 (เท่ากับ ม.2) เขาแนะนำให้เรียน year 8 ไปก่อน จึงไม่เอาล่ะ หาโรงเรียนใหม่อีก ทาง agent ก็เสนอโรงเรียน Baredene มาให้ เป็นโรงเรียนคาทอลิก เคร่งเรื่องระเบียบวินัยมาก และเขารับเลย ไปต่อ year 9 ได้เลย เราก็คิดอยู่พักหนึ่งว่าเอาไงดี แต่ก็มีโรงเรียนอื่นให้เลือก เป็นโรงเรียนสหซะส่วนใหญ่ และ score โรงเรียนก็ได้น้อยกว่าด้วย เลยตัดสินใจเลือก Baradene college ให้ลูก
แล้วก็กลับไปที่เดิม คือ search หาคำว่า Baradene เพื่อจะดูข้อมูลให้มากที่สุด ดูว่ามีเด็กไทยกี่คน มีคนเขียน review ถึงโรงเรียนบ้างไหม ปรากฏว่าไม่มี มีแต่เด็กๆนักเรียนเขียนใน wed Dekdee ว่าโรงเรียนนี้เป้นไง ใครเรียนบ้าง ก็มีคำตอบสั้นๆประมาณว่า ก็ดี, เราเรียนอยู่, มีไรถามได้, add ig กันนะ, เลยไม่ได้อะไรมากกว่านี้
ลูกสาวล่ะทำไร ไม่ทำไรเลย รอวันเดินทางอย่างเดียว