พิธีกรรมจำอวด(ผี) Prank!!!!

วันหยุดพิเศษ มีเรื่องมาเล่าให้ฟังครับ

     ก่อนอ่านอธิบายดังนี้นะครับ  งานชิ้นนี้เป็นเรื่องสั้นขนาดยาว
    ในกระทู้นี้จะลงสองตอนคือ 1 และ 2  (รอยยิ้มของโมนา)  ตามอ่านด้านล่างนะครับ  

     1. เป็นที่มาที่ไปของตัวละครครับ
     2. เข้าสู่รอยยิ้มโมนา ข้อความที่ 9-10 ครับ
     ส่วนตอนอื่นๆ จะทยอยลงให้อ่านครับ
  
        ผิดพลาดประการใดผมขออภัยด้วย

สถานที่และบุคคลในเรื่อง เสริมแต่งจากจินตนาการครับ    
รูปภาพจากอินเตอร์เน็ต  
ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่าน

  ปล. ผมน้อมรับทุกข้อคิดเห็นครับ
  ปล.2 คำผิดตกหล่น ขออภัยด้วยนะครับ และผมจะพยายามเข้ามาแก้ไข หากตรวจพบ



       

  


      บทนำ รอยยิ้มของโมนา

    แสงไฟหน้ารถยนต์สาดถนนเบื้องหน้า มุ่งเข้าซอยวัดป่าสู่โค้งหักศอกสถานที่ซึ่งชาวบ้านเล่าขานถึงหญิงสาวผู้มีรอยยิ้มปริศนา ขณะที่รถกำลังบ่ายหน้าไปยังจุดเกิดเหตุ เป็นเวลาสามทุ่มเศษแต่ถนนเบื้องหน้าไร้ยวดยานสัญจร

     จุดเกิดเหตุเป็นวัดป่าชื่อดัง มีพื้นหลายสิบไร่ เงียบสงบทั้งยามกลางวันและกลางคืน

     ภายในห้องโดยสารรถเก๋งคันเล็ก ประกอบด้วยสามชีวิต ผมถูกบังคับให้ขับรถ เฮียแจ็คพี่ใหญ่นั่งหน้าแป้นเป็นตุ๊กตาหน้ารถ และเบาะหลังคือดีแลน ฝรั่งรูปหล่อ

    “เอ็ง อย่าหน้าบางหน่อยเลย ขับๆ ไปเถอะ ผ่านวัดนี้ไปก็ถึงแล้ว เดียวคลิปนี้ข้ากับดีแลนจัดการเอง ถ้ามีคนถามข้าจะบอกว่า ถ่ายในมือถือเล่นๆ แต่ดันซวยลืมไว้ในห้องน้ำผับ ส่วนคลิปหลุดออกไปได้ไง ไม่รู้โว้ย” แจ็คหาข้ออ้างด้วยมุกตื้นๆ เด็กอมมือยังรู้ทัน

    แจ็คหาข้อมูลและดั้งด้นจะมาจุดเกิดเหตุ ทั้งที่ความจริงเราควรรีบถ่ายรูป และทำงานให้ลูกค้า แล้วรอรับเงินเพื่อจ่ายค่าห้อง แต่เขายกสารพัดข้ออ้างมาหักล้าง จนผมต้องยอมทำหน้าที่สารถี

    ‘โค้งสยองข้างวัด หญิงสาวตายโหง ตามหาตัวตายตัวแทน’

    สิ่งที่ผมค้นในโลกออนไลน์หลุดเข้ามาในหัว ภาพหลอนสร้างความกลัวให้ผมขนลุกซู่ทั่วร่าง ยิ่งกว่านั้นในหัวปวดตุบๆ เพราะคดีลักพาตัวเด็กสาวคนหนึ่งถูกโยงกับคลิปดังของพวกเรา  

    “ไอ้จันทร์ เอ็งลองส่องกระจกดูหน้าตัวเองสิ หน้าซีดตาขาวหมดแล้ว ไอ้อ่อนเอ๊ย กลัวจนขี้เยี่ยวราดใส่กางเกง”

แจ็คต่อว่าผม พร้อมทำทีเหมือนจะข้ามเบาะมาทำหน้าที่คนขับ

    ผมยอมรับว่าปอดแหกกับเรื่องผีสาง แต่สิ่งที่กลัวยิ่งกว่าก็คือมิจฉาชีพ ที่เปลี่ยวมักมีอันตราย และก่อนจะมาผมค้นในโลกออนไลน์ พบว่าป่าช้าแห่งนี้นอกจากเป็นที่ฝังศพไร้ญาติ เมื่อก่อนเคยมีการลวงกันมาฆ่าทิ้ง รวมถึงวัยรุ่นฉุดผู้หญิงมารุมโทรม และฆ่าอำพรางศพในป่า รู้ประวัติแล้วจะให้ผมทำใจกล้าแกร่งอย่างไรไหว

    “มาเดี๋ยวข้าขับเอง” แจ็คทำเสียงขึงขัง  

    “นั่งเฉยๆ เลยเฮีย ตัวสั้นอย่างกับเขียด เหยียบคันเร่งถึงหรือเปล่าก็ไม่รู้” ผมกัดแจ็คพอให้หายขุ่นใจ พร้อมเร่งความเร็วขึ้นอีกหน่อย หากมันไม่ทันใจเขา

    “ไอ้ตูด ปลอดแหก!” แจ็คโมโห เขาส่งซีดีเข้าเครื่อง เร่งเสียงดังกวนประสาทผม เพลงจากแผ่นซีดีสยองขวัญสร้างความรำคาญปนหลอนจนผมแทบคลั่ง

    “นั่งเฉยๆ เป็นไหม ทำไมชอบสร้างภาระให้น้องๆ จัง อย่างนี้ใครจะอยากนับถือ”  

     ผมเอื้อมมือไปปิดเครื่องเสียง พอแจ็คขยับปากจะโต้เถียง ผมก็ชิงยกมือห้าม หากไม่เป็นผล แจ็คสรรหาเรื่องในอดีตมาพูด แน่นอนว่าเป็นวรีกรรมแย่ๆ ของผม

    “เอ็งก็เอาแต่โทษข้า ก่อนหน้านี้ ใครมันคลานเข่าไปกราบตีนข้าขอให้มาช่วย แหม...ไอ้ยิ้ม ปากก็บอกว่าเดี๋ยวจะมีเงินเป็นถุงเป็นถัง  เวรเอ๊ย เอ็งเก่งแต่ปาก สุดท้ายก็เป็นข้าต้องวิ่งหางจุกตูดหาเงินมาช่วยปลดหนี้” แจ็คทวงบุญคุณ

    ผมถอนหายใจออกมาหนึ่งเฮือกใหญ่ ใจอยากจอดรถและถีบแจ็คสักเปรี้ยง ถีบแรงๆ ให้เขาตกรถไปเลย เขาเป็นคนประเภทชอบยกหางตัวเอง ถ้าต่อความยาวสาวความยืดด้วยรับรองเรื่องยาว สำหรับแจ็ค ผมจำกัดความให้เข้าใจนิสัยเขาได้ว่า ‘ปากหมา มารยาทเข้าขั้นทราม’  

    กระนั้นแจ็คก็จริงใจชนิดที่ตายเพื่อนได้ โดยเฉพาะคนที่นั่งเบาะหลัง แจ็คห่วงนักห่วงหนา ที่เป็นเช่นนี้เพราะเขาเป็นน้องคนเล็กของกลุ่ม เป็นบ่อเงินบ่อทองที่สามารถเนรมิตให้พวกเราได้ยามตกยาก

    คนที่นั่งเบาะหลังคือดีแลนหนุ่มตาน้ำข้าว ลูกเสี้ยวหลายเชื้อชาติ ทั้งเอเชีย อเมริกัน และอินเดียแดง (เขาอ้างอย่างนั้น ซึ่งผมแอบค้านในใจ)
      ดีแลนข้ามฝั่งมาจากประเทศลาว เขามีโครงหน้าหล่อเหลา ไม่ใช่ฝรั่งพื้นๆ ที่เห็นได้ทั่วไป  ดวงตาคมสีฟ้าสดใส ผมเส้นเล็กสีน้ำตาลอมทอง สูงกว่าผมเกือบครึ่งไม้บรรทัด  

    ดีแลนหล่อชนิดวัวตายควายล้ม ใครเห็นต้องมองตามจนคอแทบหัก แต่ความหน้าตาดีมักซ่อนนิสัยห่วยๆ ไว้ หนุ่มคนนี้มีสองสิ่งที่ต้องพึงระวังคือ ยามหิว และตอนหมดแบตเตอรรี่  

     ยามที่เขาเหนื่อยจัด จดน็อก เขาจะอยู่นิ่งๆ รักษาพลังงานประหนึ่งสัตว์จำศีล ช่วงเวลาแบบนี้เขาจะตกเป็นของเล่นคนอื่น จึงเป็นหน้าที่แจ็คต้องคอยลากตัวเขาให้พ้นอันตราย โดยมีผมเป็นลูกมือ

    และขณะนี้ดีแลนกำลังประสบปัญหาหลักของการอยู่รอด

    “หิวโว้ย ไหนเฮียบอกว่าจะแวะกินเบอร์เกอร์ยักษ์  แล้วทำไมจันทร์เจ้าถึงขับรถเข้าซอยป่าช้า”ดีแลนประท้วงเสียงตื่น หลังจากเห็นผมหักพวงมาลัยรถเข้าซอยวัด เขาอยู่ประเทศไทยมาสี่ปีเศษ เรียนรู้ภาษาไทยจากครูที่จ้างมาสอน

    ดีแลนหัดเขียน อ่าน จนเข้าใจได้ระดับหนึ่ง สำหรับชาวต่างชาติทั่วไปต้องยอมรับว่าอยู่ในเกณฑ์เยี่ยม

    หลายครั้งเขาชอบลองภูมิคนไทย ด้วยการทดสอบคำศัพท์ยากๆ ในพจนานุกรม และแจ็คก็แพ้ตลอด แต่แรกเขาตั้งใจจะเปิดโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษ แต่ทุกอย่างหยุดชะงักเมื่อถูกแจ็คล้างสมอง  

    “ใจเย็นไอ้หล่อ กูขอคลิปนี้คลิปเดียว รับรองงานนี้เราดังข้ามคืน” แจ็คบอกน้องเล็กตัวโตด้วยความมั่นใจ  

    “โธ่เฮีย หาเหาใส่หัวอีกแล้ว คนอย่างเฮียไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา” ดีแลนต่อว่าแจ็คด้วยสุภาษิตไทย แล้วค้นหาของกินจากกระเป๋า เขาพบแค่ลูกอมเมนทอสจึงส่งมันเข้าปากอย่างเซ็งๆ “หิวจะตายแล้ว!”

    “มีอะไร เอ็งก็ยัดๆ เข้าปากไปเถอะ ชอบไม่ใช่เหรอ ของอมๆ น่ะ” แจ็คยั่วโมโหเขา

    ดีแลนต่อยหมัดใส่ฝ่ามือใหญ่รัวๆ ก่อนจะกระแทกตัวแรงๆ บนเบาะจนรถสั่นสะเทือน  

    “เฮ้ยไอ้หรั่ง แกคิดว่าอายุสามขวบรึไง ตัวยังกะยักษ์ รถข้าคันนิดเดียว นั่งเฉยๆ เป็นไหม” ผมปรามเขา และรู้สึกเห็นใจอยู่มาก ดีแลนคือ ‘เคน’ ตุ๊กตาหน้าหล่อ ถูกแจ็คคอยครอบงำความคิด จะว่าเขาซื่อจนเซ่อคงไม่ได้ ความจริงทั้งคู่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมานาน ด้วยมิตรภาพดีแลนจึงยอมให้แจ็ค  

    “พี่จันทร์เจ้าก็อีกคน ไม่รักผมแล้วใช่ไหม” ดีแลนทำเสียงเศร้า

    ผมเบื่อมุกเรียกร้องความรักเขาเหลือเกิน หากผมเป็นผู้หญิงคงใจอ่อน

    “เอ็งก็ทำหน้าหล่อๆ ถ่ายคลิปกับเฮียเขาแป๊บเดียว เดี๋ยวก็ได้กินข้าว”

    ดีแลนไม่ฟัง ปลุกปล้ำเพื่อเปิดประตูรถ แต่ผมกดล็อกประตูทั้งสี่ด้านไว้ (รถผมตั้งระบบล็อกประตู ป้องกันผู้โดยสารมือบอนที่ชอบเปิดประตูรถโดยพละการ เมื่อคนขับกดล็อก ประตูบานอื่นจะเปิดไม่ได้)

    ยักษ์หัวทองมีความสูงร้อยเก้าสิบสามเซนติเมตร เขาต้องการอาหารทุกๆ สองชั่วโมง ยามที่ท้องร้องหิวเขาจะบ่นไม่หยุด สิ่งที่ช่วยให้เขาลืมคิดถึงอาหารคือ การแร็พภาษาไทย แร็พไฟลุกชนิดที่ลืมสัญชาติกันเลยทีเดียว  

    ดีแลนเดาะลิ้นเป็นจังหวะ พร้อมตีหน้าขาตัวเอง สร้างความคึกคักในรถ แล้วตามด้วยการสาดคำพูดเผ็ดร้อน

    “อ่า อ่า ฮัลโหล อิสมี มาฟังดีแลนร้องเพลงสวดคนใจบาป

    อั๊วะไม่เคยเห็นใคร ชอบทรมานคนรักได้อย่างเฮีย

    ลูกพี่เตี้ย ชอบสร้างปัญหาให้เพื่อน ด้วยมุกเก่าๆ ซ้ำซาก  

    บอกหิวข้าว แต่มันโคตรป่วย ชวนมาส่องผีกากๆ

    แสดงความรักคงยาก เลยพาเข้าป่าช้าดูเมียงู โย่

    โอ้ ...คนหน้าเนื้อใจเสือ เมื่อก่อนเฮียคงถูกไล่ให้หอบเสื่อผืนหมอนใบไปนอนนอกบ้าน

    เฮียชั่วใจหมา ชอบแกล้งคนจนเป็นสันดาน สักวันจะเจอวิญญาณกระชากหัว! เย้ เย้ เย”
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่