::: นั่งรถไฟจากวงเวียนใหญ่ ไปตลาดมหาชัย ข้ามแม่น้ำท่าจีน ไหว้พระวัดแหลมสุวรรณ นั่งรถไฟต่อไปแม่กลอง จบที่ตลากร่มหุบ เดินทางกลับเส้นทางเดิม ค่าใช้จ่ายในการคมนาคมทั้งหมด ๖ บาท(ค่านั่งเรือข้ามฟาก ไป กลับ) รถไฟฟรี จ่ายแค่ค่ากินราคาแล้วแต่ความหิวโหยและความสามารถของแต่ละคน เวลาที่ใช้ในการเดินทาง1หนึ่งวันถ้วน
หนึ่งทริป หนึ่งวัน วันกับการเดินทางสั้นๆที่แสนจะประหยัดและคุ้มสุดๆ กับการชาร์ตแบต ในวันหยุดอันแสนจะน้อยนิดสำหรับ พนักงานเงินเดือน อย่างเราๆ ...... เพียงแค่วันเดียว มันทำให้ได้พักผ่อนได้เที่ยวจริงๆคะ
เริ่มต้นการเดินทางจากสถานีรถไฟวงเวียนใหญ่ มาตอนเช้าตรู่ยิ่งดีใหญ่คะเพราะตลาดเช้าที่นี่คึกคักมาก
ที่ตลาดรถไฟวงเวียนใหญ่ เรานั่งรถไฟเวลา ๙.๓๐ น.คะ แต่แนะนำให้ออกเช้าๆหน่อยก็ดี รถไฟมีบริการตั้งแต่ ๕.๓๐ น. ไปสุดปลายทางสถานีรถไฟมหาชัย เพราะเวลาไปที่ตลาดร่มหุบมีรถไฟขากลับรอบสุดท้าย คือเวลา ๑๔.๐๐ น. ค่า
ระหว่างทางบนรถไฟหวานเย็น แอร์ธรรมชาติ มีเสียงเพลงจากหมอนรถไฟ ปล่อยเวลาถึงก็ช่างไม่ถึงก็ช่าง วันนั้นทั้งวันแทบไม่ได้มองนาฬิกาเลยคะ เมื่อเรามองออกไปนอกหน้าต่างก็เห็นป่าชายเลนเยอะมาก พวกต้นโกงกางรากอากาศ นกกินปลาบินเต็มไปหมด บรรยากาศดีหายใจเต็มปอด ทั้งๆที่ออกจาก
กรุงเทพมานิดเดียวเท่านั้นเอง
สถานีแรกที่เราลงคือ สถานีมหาชัย อยู่ติดกับตลาดมหาชัย ซึ่งขึ้นชื่อเกี่ยวกับอาหารทะเล เน้นเน้น เลยว่า สดใหญ่ ถูกกกกก มว๊ากกกกกกกกกกกกกไม่ว่าจะเป็น หอย ปลา ปลาหมึก กุ้ง ปู รวมถึงอาหารแปรรูป เรียกได้ว่า ทางใต้มีแบบไหน มหาชัยก็มีเหมือนกัน แป๊ะๆ เลยจ่ะ ....... แต่ขออดใจไว้ก่อนสำหรับของฝากค่อยมาซื้อตอนขากลับนะ ถ้าจะกลับมาเส้นทางเดิมจะได้ไม่ต้องหิ้วให้เมื่อย แต่หากใครจะนั่งรถยาวทีเดียวจากตลาดหุบร่มเข้ากทม.ก็มีคะ
หลังจากนั้นก็ตัดสินใจที่จะเดินทางต่อไปตลาดหุบร่ม โดยใช้การโดยสารทางรถไฟและก็เป็นรถไฟฟรีอีกแล้วแต่เราต้องนั่งเรือข้ามแม่น้ำแม่กลองไปอีกฝั่งในราคา ๓ บาทต่อคน และเดินเท้าต่อเพื่อที่จะไปสถานีบ้านแหลม ระหว่างทางผ่านวัดบ้านแหลมแวะไหว้เพื่อความสิริมงคลและเดินเท้าต่อไปอีกนิดเดียวก็จะถึงสถานีรถไฟบ้านแหลมเพื่อไปสถานีแม่กลองที่ตั้งของตลาดหุบร่ม การเดินทางโดยรถไฟเส้นนี้ใช้เวลาเกือบสองชั่วโมง รถไฟสายนี้ความเร็ว ๒๐ กิโลแม้วต่อชั่วโมง เพราะสภาพรางจะทรุดโทรม ทำให้ทำความเร็วได้ไม่มากเท่าไร
เมื่อถึงจุดหมายตลาดหุบร่มนี่แหละคะ มันเร้าใจ... จริงๆขอบอก อารมณ์มันได้ ลองจินตนาการณ์นะคะ รถไฟก็ต้องเดินหน้าไป ตลาดก็ต้องเปิดต่อไป พ่อค้าแม่ค้าก็เร่งจัดการข้าวของ ชาวบ้านก็ซื้อกับข้าวกับปลา นักท่องเที่ยวก็ตื่นเต้นกับเส้นทางของรถไฟและต้องการบันทึกเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิด ช่วงเวลานั้นแป๊ปเดียวเองคะ แต่มันได้ฟิวล์จริงๆ การอยู่ร่วมกันได้แบบนี้ได้มันไม่ธรรมดา ห้าๆๆ เชื่อไหมละคะว่าแปดเที่ยวต่อวัน และ เจ็ดวันต่ออาทิตย์
..... นี่แหละความ ความไทยของจริง .......
สุดท้ายของทริปนี้ เราได้เก็บความทรงจำที่น่ารักมากมาย ตัวอย่างเช่น ภาพเหล่านี้คะ
นี่คือของฝากคะ กลับ กทมได้มื้อเย็นอิ่มหนำสำราญอีกมื้อ
เชื่อไหมละคะว่า บางทีความสุขมันได้ขึ้นอยู่กับ ความสวยหรู ความสมบูรณ์แบบ หรือค่าราคาใดๆ
ความสุขเล็กน้อย ที่ยื่งใหญ่ที่สุด คือความสุขที่ใจคะ ........
โลกนี้ไม่ได้ยากเกินไป ที่จะหัดใช้ชีวิตให้มีความสุข นะคะ
+++++ ภูเขาไม่มีเสียง
ทริปสั้นหนึ่งวัน ทริปรถไฟ กรุงเทพ-มหาชัย-ตลาดร่มหุบ
หนึ่งทริป หนึ่งวัน วันกับการเดินทางสั้นๆที่แสนจะประหยัดและคุ้มสุดๆ กับการชาร์ตแบต ในวันหยุดอันแสนจะน้อยนิดสำหรับ พนักงานเงินเดือน อย่างเราๆ ...... เพียงแค่วันเดียว มันทำให้ได้พักผ่อนได้เที่ยวจริงๆคะ
เริ่มต้นการเดินทางจากสถานีรถไฟวงเวียนใหญ่ มาตอนเช้าตรู่ยิ่งดีใหญ่คะเพราะตลาดเช้าที่นี่คึกคักมาก
ที่ตลาดรถไฟวงเวียนใหญ่ เรานั่งรถไฟเวลา ๙.๓๐ น.คะ แต่แนะนำให้ออกเช้าๆหน่อยก็ดี รถไฟมีบริการตั้งแต่ ๕.๓๐ น. ไปสุดปลายทางสถานีรถไฟมหาชัย เพราะเวลาไปที่ตลาดร่มหุบมีรถไฟขากลับรอบสุดท้าย คือเวลา ๑๔.๐๐ น. ค่า
ระหว่างทางบนรถไฟหวานเย็น แอร์ธรรมชาติ มีเสียงเพลงจากหมอนรถไฟ ปล่อยเวลาถึงก็ช่างไม่ถึงก็ช่าง วันนั้นทั้งวันแทบไม่ได้มองนาฬิกาเลยคะ เมื่อเรามองออกไปนอกหน้าต่างก็เห็นป่าชายเลนเยอะมาก พวกต้นโกงกางรากอากาศ นกกินปลาบินเต็มไปหมด บรรยากาศดีหายใจเต็มปอด ทั้งๆที่ออกจาก
กรุงเทพมานิดเดียวเท่านั้นเอง
สถานีแรกที่เราลงคือ สถานีมหาชัย อยู่ติดกับตลาดมหาชัย ซึ่งขึ้นชื่อเกี่ยวกับอาหารทะเล เน้นเน้น เลยว่า สดใหญ่ ถูกกกกก มว๊ากกกกกกกกกกกกกไม่ว่าจะเป็น หอย ปลา ปลาหมึก กุ้ง ปู รวมถึงอาหารแปรรูป เรียกได้ว่า ทางใต้มีแบบไหน มหาชัยก็มีเหมือนกัน แป๊ะๆ เลยจ่ะ ....... แต่ขออดใจไว้ก่อนสำหรับของฝากค่อยมาซื้อตอนขากลับนะ ถ้าจะกลับมาเส้นทางเดิมจะได้ไม่ต้องหิ้วให้เมื่อย แต่หากใครจะนั่งรถยาวทีเดียวจากตลาดหุบร่มเข้ากทม.ก็มีคะ
เมื่อถึงจุดหมายตลาดหุบร่มนี่แหละคะ มันเร้าใจ... จริงๆขอบอก อารมณ์มันได้ ลองจินตนาการณ์นะคะ รถไฟก็ต้องเดินหน้าไป ตลาดก็ต้องเปิดต่อไป พ่อค้าแม่ค้าก็เร่งจัดการข้าวของ ชาวบ้านก็ซื้อกับข้าวกับปลา นักท่องเที่ยวก็ตื่นเต้นกับเส้นทางของรถไฟและต้องการบันทึกเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิด ช่วงเวลานั้นแป๊ปเดียวเองคะ แต่มันได้ฟิวล์จริงๆ การอยู่ร่วมกันได้แบบนี้ได้มันไม่ธรรมดา ห้าๆๆ เชื่อไหมละคะว่าแปดเที่ยวต่อวัน และ เจ็ดวันต่ออาทิตย์
..... นี่แหละความ ความไทยของจริง .......
สุดท้ายของทริปนี้ เราได้เก็บความทรงจำที่น่ารักมากมาย ตัวอย่างเช่น ภาพเหล่านี้คะ
นี่คือของฝากคะ กลับ กทมได้มื้อเย็นอิ่มหนำสำราญอีกมื้อ
เชื่อไหมละคะว่า บางทีความสุขมันได้ขึ้นอยู่กับ ความสวยหรู ความสมบูรณ์แบบ หรือค่าราคาใดๆ
ความสุขเล็กน้อย ที่ยื่งใหญ่ที่สุด คือความสุขที่ใจคะ ........
โลกนี้ไม่ได้ยากเกินไป ที่จะหัดใช้ชีวิตให้มีความสุข นะคะ
+++++ ภูเขาไม่มีเสียง