ก่อนอื่นสวัสดีพี่ๆในพันทิปก่อนนะคะ. ผิดพลาดยังไงขออภัยด้วยนะคะ
กระทู้นี้ออกทางเเนวระบาย เเละเตือนเพื่อนๆน้องๆนะคะ
จุดเริ่มต้นของปัญหาก็คือ หนูมีโอกาสได้ทำงานร้านสะดวกซื้อเเห่งหนึ่งค่ะ อิมพอตมาจากเเดนซากุระ
ทำมาได้สักพักค่ะ แค่เดือนนิดๆ ซึ่งก่อนเข้ามาร้านสะดวกซื้อสาขานี้ รับรู้ปะญหาพอสมควรก่อนที่จะเข้าค่ะ. HR ทึ่รับสมัครบอกว่าบริษัทเึยยกเซตร้านนี้ไปหลายครั้งมากค่ะ เท่าที่ทราบ. คงจะเกิดการทุจริตหรือหลายจากปัจจัย. ยอดร้านตกเป็นเวลานานพอสมควรเเล้วค่ะ ขอบอกก่อนว่าเรียนอยู่ค่ะเลยหางานทำไปด้วยระหว่างปิดเทอม. คือวันนั้นเป็นวันที่เราต้องอยู่ร้านคนเดียวค่ะ คนที่ร้านไม่พอ. หนูก็อยู่ถึงเวลาบ่ายๆคนเดียวค่ะ ก็ทำไปบ่นในใจไปว่าจัดตารางกันยังไงนะ เห้อ.... พอบ่ายมีคนมาเปลี่ยนกะกินข้าว ซึ่งคนนั้นก็คือ ผจก ที่ทำงานที่นี่ได้เดือนนึงเหมือนกันค่ะ(. อายุ20นิดๆเองค่ะ). ก็รู้มาเเค่ว่าเขาก็เป็นพนักงานเเคชเชียร์ธรรมดา. เเต่สนิทกับซุปที่ดูเเลร้านสาขานี้ ซุปเลยดันให้เป็น ผจก ค่ะ ทำงานได้ไม่ถึงอาทิตย์ค่ะ เป็นงานเกือบหมดเเล้ว. เพราะเคยทำงานพวกนี้มาพอสมควรเลย. ผจก คนนี้ก็ใช้ทำทุกอย่างเลยค่ะ. แม้กระทั่งงานที่ ผจก ต้องเป็นคนทำ ก็จะสอนให้ทำ. เผื่อเวลาเขาขี้เกียจ หรือไม่ว่างมั้งคะ😅😂😂. ต่อจากที่เขามารับกะคอนบ่ายนะคะ. มาถึง เขาบอกให้เรารีบไปกินข้าวเลยค่ะ. พี่ยืนเครื่องคิดเงินให้ เราก็รีบมาก หิวมาก. ซื้อเข้ามากินในร้านเลยค่ะ พอทานเสร็จเรายังไม่เข้าไปในเเคชเชียร์นะคะ. เราก็เติมสินค้า จนถึง5โมงเลยค่ะ พี่เขาก็ยืนเครื่อง เเละทำเอกสารไปค่ะ. แล้วผจก บอกว่า ทำโอทีต่อได้ไหม เราบอกได้ค่ะพี่ ก็ช่วยร้านไปค่ะ ไม่ได้คิดอะไรมาก. พอถึงเวลาที่เราจะต้องกลับ เราก็ต้องมานับเงินค่ะ. จุดเริ่มเรื่องคือตรงนี้ค่ะ. เงินเครื่องหาย 1000฿ ตอนเเรกงงมากกว่าตกใจค่ะ. ว่าหายไปไหน. เราก็ใจเย็น. นับใหม่อีกที. ปรากฏว่ามันหายจริงๆค่ะ ลื้อเครื่องคิดเงินเลยก็ว่าได้ นาทีนั้น. ผจก บอกว่ามันคงไม่หายหรอก. เดี๋ยวรอดูตอนปิดยอด ตอนเที่ยงคืนอีกที. เราก็สบายใจลงมาหน่อยค่ะ. มันไม่หายเเน่ๆ ลูกค้าเข้าน้อย โอกาสจะทอนผิดน้อยมากๆ. ถ้าทอนผิด คือต้องทอนผิด10,40คน ถึงจะครบพัน. แต่คือเงินขาดพันเป๊ะเลยค่ะ. เราก็กลับบ้านเเบบนอนไม่หลับกันเลยทีเดียว. ตอนเที่ยงคืนตื่นไลน์ไปถามที่ร้านกับน้องๆว่าเงินมันขาดจริงๆหรอ. คำตอบที่ได้ คือขาดจริงๆค่ะ 1000฿. เรานี่น้ำตาเเทบตกค่ะ ทำงาน300+ เเต่เงินหายเป็นพัน. วันต่อมาเราไม่สบายใจเเละเครียดมาก. ไลน์ไปบอกซุปที่ดูเเลสาขานี้ค่ะว่าให้มาตรวจสอบให้หน่อยค่ะ ระบบผิดพลาดหรือกล้องก็ได้ค่ะ เราอยุ่กะเช้าคนเดียวเราไม่สบายใจมากๆค่ะ ซุปตอบว่าตะเข้ามาดูให้ ไม่ต้องเครียด. พูดดีมากค่ะ. เราสบายใจเลยค่ะ. เเต่ยังค่ะ. ซุปเข้ามาเอค่ครั้งเดียวค่ะ. ไม่เจอเรา เพราะเขาเข้ามาร้านดึก. เราก็คิดว่าคงไม่มีอะไรเเน่ๆเพราะถ้ามีซุปต้องเเจ้งค่ะ เเต่พอผ่านไปสี่วันได้. เขาเงียบเลยค่ะ. ทั้ง ผจก. ทั้งซุป. เราไลน์ไปถามซุปอีก. ก็เงียบค่ะ. ไม่ตอบ ไม่อ่านเราเลยค่ะ. จากปกติอ่านตอบทุกวันนะคะ. เพราะเขาต้องให้เราส่งงานทางไลน์ให้ตลอดค่ะ เราก็ไคิดว่าไม่ใช่ละ. จะมาทำเเบบนี้ไม่ได้. ต้องกระตือรือร้นหาช่องทางเอสดงความบริสุทธิ์ใจสิ. (ความรู้สึกเราเเย่มากๆค่ะ ไม่มีกะจิตกะใจจะทำงาน). วันนั้นเราตัดสินใจไลน์ไปหาHRที่รับสมัครเราทำงานค่ะ. เราเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง เขาลงความเห็นว่าต้องช่วยกันออกเงิน50%. คือคนละครึ่ง ถ้าเงินหาย เราก็โอเคค่ะยินดีมาก เเต่ประเด็นคือ. วันนั้นค่ะ มีโอกาสได้คุยกะผจก. ทางไลน์. เขาโทรมาค่ะ. มีปากเสียงกันพอสมควร เนื่องจาก เขาบอกให้เรารับผิดชอบเงินที่หายคนเดียวค่ะ. เราถามว่าหนูต้องรับผิดชอบคนเดียวใช่ไหม ยืนยันนะ ว่าเราต้องผิดชอบคนเดียว. เขาบอกใช่!!!! เรานี่น้ำตาเเตกเลยค่ะ. เงินไม่มากค่ะ เเต่ไม่สมควรเลยทำไมทำกับลูกน้องเเบบนี้ ทั้งๆที่ตัวคุณเองก็ใช้เครื่องเราขายของ ใช้ชื่อเรารหัสเราขายของ. ตั้งเเต่วันนั้นมาเราก็ไม่คุยกันเลยค่ะ. เราเลยขออยู่กะกลางคืนเหมือนเดิมค่ะ ต้องบอกก่อนว่าเราอยู่กะกล่งคืนมา1เดือนเต็มๆค่ะ. เพราะที่ร้านจะมีผู้หญิงคนนึง ที่อยู่มาสามปีละ. ไม่ยอมขึ้นกะกลางคืนค่ะ. ไม่ยอมเวียนหมุนกะกับคนอื่นๆค่ะ. ซุปเเละคนที่ดูเเลร้านนี้รู้ดีค่ะ. เราคิดว่าจะขอนับปิดยอดตอนเที่ยงคืนเอง ค่ะ. เพราะตลอดเดือนนึงที่ผ่านมา เราปิดยอดเองไม่เคยมีเงินขาดเงินหายเลยค่ะ. เราก็กลับมาอยู่กลางคืนเหมือนเดิมค่ะ. ก็ตามคาดเลยค่ะ. เงินครบทุกวัน ทุกบาท ทุกสตางค์. เราก็สงสัยเเล้วค่ะ ว่ามันไม่โปร่งใสแบบนี้หรือป่าวพนักงานถึงต้องออกกันทุกรุ่นเลย. น้องๆที่เข้ากะกลางคืน ใช้เครื่องคิดเงินเครื่องเดียวกับเราตลอดนะคะ. เงินไม่เคยหายเลยค่ะสักบาท ไว้ใจกัน. ถ้ามันหายก็คนละครึ่งเเฟร์ๆค่ะ. พอเรามากะดึกไม่กี่วันเงินก็เป๊ะตลอดนะคะ. เงินไม่ขาดไม่อะไรเลยค่ะ. เราก็ถามน้องที่สนิทกันนะ ถามตรงๆ ว่าทำงานกับเราสบายใจไหม.เราคิดว่าเขาคงสงสัยเราไหมนะ เราก็เครียดค่ะ เล่าเรื่องทั้งหมดว่าที่มาของเงินหายมันเป็นยังไง หลังจากนั้นเราก็เค็งมากเวลานับเงินปิดยอดตอนเที่ยงคืนเราจะต้องให้ทุกคนในร้านมาช่วยกันนับมาช่วยกันดูแลเราทำหน้าที่ของเราไม่เคยขาดตกบกพร่องส่งงานทุกวันค่ะ. ผ่านมาได้หนึ่งอาทิตย์เรื่องมันเริ่มเงียบจนเรากับน้องน้องเริ่มผิดสังเกต เราเลยสอบถาม ฝ่ายบุคคลว่าซุปและผู้จัดการดำเนินเรื่องไม่คืบหน้าเราควรจะทำยังไงต่อ.ฝ่ายบุคคลให้คำแนะนำเราดีมาก. เราเล่าเรื่องทั้งหมดอีกรอบให้ฝ่ายบุคคลฟังและยืนยันอยากให้บริษัทตรวจสอบเพราะแน่นอนค่ะเรามั่นใจมาก
1.เราไม่ได้เป็นคนขโมยหรือนำเงินออกจากเคาน์เตอร์ซึ่งเป็นเหตุทำให้เงินหาย
2. มันไม่ยุติธรรมกับการที่เราต้องมาเสียเงินคนเดียวทั้งที่ผู้จัดการใช้ชื่อและรหัสเราขายของร่วมด้วยกัน
(เราคิดว่าคนที่ใช้เครื่องขายของเดียวกันจะต้องรู้อยู่แล้วว่าถ้าเงินหายต้องรับผิดชอบร่วมกัน)
แต่เปล่าเลยค่ะเค้ากลับมาบอกว่าให้เรารับผิดชอบคนเดียว ก็แน่นอนค่ะคือทางหนูไม่ยอม. นาทีนั้นคิดแค่ว่าทำไมผู้จัดการพูดแบบนี้เป็นผู้ชายซะเปล่าแต่ไม่แมนเลย. บริหารจัดการไม่ดีเกิดปัญหาในร้าน ชิงหนี ไม่รับผิดชอบไม่มีความกระตือรือร้นแค่การเปิดกล้องวงจรปิดให้ลูกน้องและที่ร้านดูก็ไม่สามารถเปิดได้ จนเรื่องผ่านมาอาทิตย์กับอีกสามวัน. มีโอกาสได้คุยกันเมื่อวาน เค้าก็ถามค่ะว่าเรื่องเงินไปถึงไหนแล้ว. เห็นว่าเราไปออฟฟิตมา. แล้วก็ทะเลาะกันอีกรอบสอง เค้าบอกว่าข้อมูลทั้งหมดอยู่กับซุป. เขาจะให้ซุปมาอธิบายให้ฟังว่าทำไมต้องรับผิดชอบส่วนนั้นคนเดียว เงินมาจากไหนหายไปไหน. เราถามค่ะว่าทำไมไม่เปิดกล้องให้ดูตั้งแต่วันแรกตอนที่ทะเลาะกันแรกแรก. กะเช้า บอกแล้วว่ามีคนมาซ่อมกล้องวงจรปิดแล้วผู้จัดการก็ได้เปิดดูแล้วปรากฏว่าหน้าจอขึ้นสีดำเราตกใจมากเพราะผู้จัดการเพิ่งบอกเราตอนเย็นของวันที่แล้วว่ายังไม่ได้เปิดกล้องวงจรปิดใดๆทั้งสิ้น. เพราะต้องรอเปิดกล้องวงจรปิดพร้อมกัน. ซึ่งถ้าเปิดแล้วจอดำผู้จัดการก็ต้องบอกเราตรงตรงว่าเปิดแล้วแต่กล้องมีปัญหา. แต่เขากลับไม่บอกเราค่ะ ล่าสุดเมื่อวานซืนเราปรึกษากับฝ่ายอีกรอบว่าผู้จัดการให้ซุปที่สนิท กับเขาเป็นคนจัดการเรื่องให้. แน่นอนค่ะเค้าสนิทกันมาก. ถึงมากที่สุดก็ว่าได้. ข้อมูลที่เราได้จากเขาต้องไม่โปร่งใสแน่นอนแต่ฝ่ายบุคคลก็ยืนยันคำเดิมว่าห้ามจ่ายเงินจนกว่าจะมีหลักฐานคือตลอดเวลาที่เค้าทะเลาะกับเราเค้าเหมือนจะพูดให้เราจ่ายเงินตลอดแต่ตัวหนูไม่ยอมจ่ายค่ะ. เพราะหนูไม่ได้เป็นคนเอาไปและต้องการให้ตรวจสอบอย่างโปร่งใส. หนูตัดสินใจเล่าเรื่องทั้งหมดให้คุณพ่อและคุณแม่ฟังที่บ้านลงความเห็นว่าให้ลาออกและให้บริษัทจัดการทั้งกระบวนการไม่ต้องไปโพสต์อะไรกับผู้จัดการต่อ วันต่อมาที่บ้านพาไปที่ทำงานเพื่อไปเซ็นใบลาออกแต่ก็ไม่ได้พบผู้จัดการค่ะเราเลยคืนชุดพนักงานไว้ที่ร้านแล้วเดินออกมา
สอบถามหน่อยนะคะ เผื่อคนมีความรู้ หนูอาจจะเล่าไม่หมดหรือไม่เข้าใจยังไง เรื่องมันยาวมากๆค่ะ.
อยากทราบว่าในกรณีที่ทำงานร่วมกันใช้เครื่องแคชเชียร์เครื่องเดียวกันถ้าเงินหายก็คือหารกันครึ่งหนึ่ง
แต่อีกฝ่ายหนึ่งไม่ยอมหารกลับมาบอกแล้วว่า. ถ้าเป็นแบบนี้ย้ายไปสาขาอื่นก็ได้นะ. ปัดความรับผิดชอบร่วมกันค่ะ. ควรจะทำยังไงดีค่ะ. จะติดต่อให้บริษัทมาตรวจสอบได้ทางไหนบ้างคะ. คือเค้า ยัดเยียดให้หนูจ่ายเงินให้เร็วที่สุดและมีคำพูดที่ไม่สุภาพที่ผู้จัดการพูดกับลูกน้องมีคำพูดที่มันท้าทายบางครั้งโทรมาทาง LINE. เราไม่รับสายเค้า. แล้วเขาพิมพ์มาว่ากลัวอะไรกลัวอะไรก็รับสิ. เรางงมากทำไมพูดหาเรื่องแบบนี้. หนูมีแค่หลักฐานการพิมพ์ที่เขาคุยกับหนูทาง LINE. ค่ะ ว่าให้รับผิดชอบคนเดียว.
รบกวนผู้รู้หน่อยค่ะ. เงินไม่มากสำหรับคนอื่นค่ะ. แต่หนูเเสดงความบริสุทธิ์ใจ. ขวนขวายมากๆ แต่เขาไม่ส่งเรื่องให้บริษัทคะ. เขาจะมาเคีลยกันเอง ซึ่งผจก.กะซุปสนิทกันมากๆค่ะ. หนูเกรงว่าข้อมูลที่ได้มันต้องไม่ยึติธรรมสำหรับเราเเน่ๆค่ะ. ควรติดต่อฝ่ายไหนที่จะช่วยได้บ้างคะ. เพราะมันไม่ดีต่อประวัติการทำงานหนูในอนาคตเเน่ๆค่ะ. ครั้งเเรกที่เจอเพื่อร่วมง่านเเบบนี้ค่ะ
หนูมีไลน์ที่เขาส่งมาคุยค่ะทั้งหมด. ผู้จะดกาีพูดกับตัวหนูเองว่า ไม่เกี่ยว. ไม่ได้สนใจเรื่องที่เงินหาย. ไม่จ่ายต้องรับผิดชอบคนเดียว
นี่หรือ ผู้จัดการที่ดูเเลน้องๆในร้าน
แชร์ประสบการณ์ การทำงานร้านสะดวกซื้อที่มีระบบจัดการเเย่ๆ
กระทู้นี้ออกทางเเนวระบาย เเละเตือนเพื่อนๆน้องๆนะคะ
จุดเริ่มต้นของปัญหาก็คือ หนูมีโอกาสได้ทำงานร้านสะดวกซื้อเเห่งหนึ่งค่ะ อิมพอตมาจากเเดนซากุระ
ทำมาได้สักพักค่ะ แค่เดือนนิดๆ ซึ่งก่อนเข้ามาร้านสะดวกซื้อสาขานี้ รับรู้ปะญหาพอสมควรก่อนที่จะเข้าค่ะ. HR ทึ่รับสมัครบอกว่าบริษัทเึยยกเซตร้านนี้ไปหลายครั้งมากค่ะ เท่าที่ทราบ. คงจะเกิดการทุจริตหรือหลายจากปัจจัย. ยอดร้านตกเป็นเวลานานพอสมควรเเล้วค่ะ ขอบอกก่อนว่าเรียนอยู่ค่ะเลยหางานทำไปด้วยระหว่างปิดเทอม. คือวันนั้นเป็นวันที่เราต้องอยู่ร้านคนเดียวค่ะ คนที่ร้านไม่พอ. หนูก็อยู่ถึงเวลาบ่ายๆคนเดียวค่ะ ก็ทำไปบ่นในใจไปว่าจัดตารางกันยังไงนะ เห้อ.... พอบ่ายมีคนมาเปลี่ยนกะกินข้าว ซึ่งคนนั้นก็คือ ผจก ที่ทำงานที่นี่ได้เดือนนึงเหมือนกันค่ะ(. อายุ20นิดๆเองค่ะ). ก็รู้มาเเค่ว่าเขาก็เป็นพนักงานเเคชเชียร์ธรรมดา. เเต่สนิทกับซุปที่ดูเเลร้านสาขานี้ ซุปเลยดันให้เป็น ผจก ค่ะ ทำงานได้ไม่ถึงอาทิตย์ค่ะ เป็นงานเกือบหมดเเล้ว. เพราะเคยทำงานพวกนี้มาพอสมควรเลย. ผจก คนนี้ก็ใช้ทำทุกอย่างเลยค่ะ. แม้กระทั่งงานที่ ผจก ต้องเป็นคนทำ ก็จะสอนให้ทำ. เผื่อเวลาเขาขี้เกียจ หรือไม่ว่างมั้งคะ😅😂😂. ต่อจากที่เขามารับกะคอนบ่ายนะคะ. มาถึง เขาบอกให้เรารีบไปกินข้าวเลยค่ะ. พี่ยืนเครื่องคิดเงินให้ เราก็รีบมาก หิวมาก. ซื้อเข้ามากินในร้านเลยค่ะ พอทานเสร็จเรายังไม่เข้าไปในเเคชเชียร์นะคะ. เราก็เติมสินค้า จนถึง5โมงเลยค่ะ พี่เขาก็ยืนเครื่อง เเละทำเอกสารไปค่ะ. แล้วผจก บอกว่า ทำโอทีต่อได้ไหม เราบอกได้ค่ะพี่ ก็ช่วยร้านไปค่ะ ไม่ได้คิดอะไรมาก. พอถึงเวลาที่เราจะต้องกลับ เราก็ต้องมานับเงินค่ะ. จุดเริ่มเรื่องคือตรงนี้ค่ะ. เงินเครื่องหาย 1000฿ ตอนเเรกงงมากกว่าตกใจค่ะ. ว่าหายไปไหน. เราก็ใจเย็น. นับใหม่อีกที. ปรากฏว่ามันหายจริงๆค่ะ ลื้อเครื่องคิดเงินเลยก็ว่าได้ นาทีนั้น. ผจก บอกว่ามันคงไม่หายหรอก. เดี๋ยวรอดูตอนปิดยอด ตอนเที่ยงคืนอีกที. เราก็สบายใจลงมาหน่อยค่ะ. มันไม่หายเเน่ๆ ลูกค้าเข้าน้อย โอกาสจะทอนผิดน้อยมากๆ. ถ้าทอนผิด คือต้องทอนผิด10,40คน ถึงจะครบพัน. แต่คือเงินขาดพันเป๊ะเลยค่ะ. เราก็กลับบ้านเเบบนอนไม่หลับกันเลยทีเดียว. ตอนเที่ยงคืนตื่นไลน์ไปถามที่ร้านกับน้องๆว่าเงินมันขาดจริงๆหรอ. คำตอบที่ได้ คือขาดจริงๆค่ะ 1000฿. เรานี่น้ำตาเเทบตกค่ะ ทำงาน300+ เเต่เงินหายเป็นพัน. วันต่อมาเราไม่สบายใจเเละเครียดมาก. ไลน์ไปบอกซุปที่ดูเเลสาขานี้ค่ะว่าให้มาตรวจสอบให้หน่อยค่ะ ระบบผิดพลาดหรือกล้องก็ได้ค่ะ เราอยุ่กะเช้าคนเดียวเราไม่สบายใจมากๆค่ะ ซุปตอบว่าตะเข้ามาดูให้ ไม่ต้องเครียด. พูดดีมากค่ะ. เราสบายใจเลยค่ะ. เเต่ยังค่ะ. ซุปเข้ามาเอค่ครั้งเดียวค่ะ. ไม่เจอเรา เพราะเขาเข้ามาร้านดึก. เราก็คิดว่าคงไม่มีอะไรเเน่ๆเพราะถ้ามีซุปต้องเเจ้งค่ะ เเต่พอผ่านไปสี่วันได้. เขาเงียบเลยค่ะ. ทั้ง ผจก. ทั้งซุป. เราไลน์ไปถามซุปอีก. ก็เงียบค่ะ. ไม่ตอบ ไม่อ่านเราเลยค่ะ. จากปกติอ่านตอบทุกวันนะคะ. เพราะเขาต้องให้เราส่งงานทางไลน์ให้ตลอดค่ะ เราก็ไคิดว่าไม่ใช่ละ. จะมาทำเเบบนี้ไม่ได้. ต้องกระตือรือร้นหาช่องทางเอสดงความบริสุทธิ์ใจสิ. (ความรู้สึกเราเเย่มากๆค่ะ ไม่มีกะจิตกะใจจะทำงาน). วันนั้นเราตัดสินใจไลน์ไปหาHRที่รับสมัครเราทำงานค่ะ. เราเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง เขาลงความเห็นว่าต้องช่วยกันออกเงิน50%. คือคนละครึ่ง ถ้าเงินหาย เราก็โอเคค่ะยินดีมาก เเต่ประเด็นคือ. วันนั้นค่ะ มีโอกาสได้คุยกะผจก. ทางไลน์. เขาโทรมาค่ะ. มีปากเสียงกันพอสมควร เนื่องจาก เขาบอกให้เรารับผิดชอบเงินที่หายคนเดียวค่ะ. เราถามว่าหนูต้องรับผิดชอบคนเดียวใช่ไหม ยืนยันนะ ว่าเราต้องผิดชอบคนเดียว. เขาบอกใช่!!!! เรานี่น้ำตาเเตกเลยค่ะ. เงินไม่มากค่ะ เเต่ไม่สมควรเลยทำไมทำกับลูกน้องเเบบนี้ ทั้งๆที่ตัวคุณเองก็ใช้เครื่องเราขายของ ใช้ชื่อเรารหัสเราขายของ. ตั้งเเต่วันนั้นมาเราก็ไม่คุยกันเลยค่ะ. เราเลยขออยู่กะกลางคืนเหมือนเดิมค่ะ ต้องบอกก่อนว่าเราอยู่กะกล่งคืนมา1เดือนเต็มๆค่ะ. เพราะที่ร้านจะมีผู้หญิงคนนึง ที่อยู่มาสามปีละ. ไม่ยอมขึ้นกะกลางคืนค่ะ. ไม่ยอมเวียนหมุนกะกับคนอื่นๆค่ะ. ซุปเเละคนที่ดูเเลร้านนี้รู้ดีค่ะ. เราคิดว่าจะขอนับปิดยอดตอนเที่ยงคืนเอง ค่ะ. เพราะตลอดเดือนนึงที่ผ่านมา เราปิดยอดเองไม่เคยมีเงินขาดเงินหายเลยค่ะ. เราก็กลับมาอยู่กลางคืนเหมือนเดิมค่ะ. ก็ตามคาดเลยค่ะ. เงินครบทุกวัน ทุกบาท ทุกสตางค์. เราก็สงสัยเเล้วค่ะ ว่ามันไม่โปร่งใสแบบนี้หรือป่าวพนักงานถึงต้องออกกันทุกรุ่นเลย. น้องๆที่เข้ากะกลางคืน ใช้เครื่องคิดเงินเครื่องเดียวกับเราตลอดนะคะ. เงินไม่เคยหายเลยค่ะสักบาท ไว้ใจกัน. ถ้ามันหายก็คนละครึ่งเเฟร์ๆค่ะ. พอเรามากะดึกไม่กี่วันเงินก็เป๊ะตลอดนะคะ. เงินไม่ขาดไม่อะไรเลยค่ะ. เราก็ถามน้องที่สนิทกันนะ ถามตรงๆ ว่าทำงานกับเราสบายใจไหม.เราคิดว่าเขาคงสงสัยเราไหมนะ เราก็เครียดค่ะ เล่าเรื่องทั้งหมดว่าที่มาของเงินหายมันเป็นยังไง หลังจากนั้นเราก็เค็งมากเวลานับเงินปิดยอดตอนเที่ยงคืนเราจะต้องให้ทุกคนในร้านมาช่วยกันนับมาช่วยกันดูแลเราทำหน้าที่ของเราไม่เคยขาดตกบกพร่องส่งงานทุกวันค่ะ. ผ่านมาได้หนึ่งอาทิตย์เรื่องมันเริ่มเงียบจนเรากับน้องน้องเริ่มผิดสังเกต เราเลยสอบถาม ฝ่ายบุคคลว่าซุปและผู้จัดการดำเนินเรื่องไม่คืบหน้าเราควรจะทำยังไงต่อ.ฝ่ายบุคคลให้คำแนะนำเราดีมาก. เราเล่าเรื่องทั้งหมดอีกรอบให้ฝ่ายบุคคลฟังและยืนยันอยากให้บริษัทตรวจสอบเพราะแน่นอนค่ะเรามั่นใจมาก
1.เราไม่ได้เป็นคนขโมยหรือนำเงินออกจากเคาน์เตอร์ซึ่งเป็นเหตุทำให้เงินหาย
2. มันไม่ยุติธรรมกับการที่เราต้องมาเสียเงินคนเดียวทั้งที่ผู้จัดการใช้ชื่อและรหัสเราขายของร่วมด้วยกัน
(เราคิดว่าคนที่ใช้เครื่องขายของเดียวกันจะต้องรู้อยู่แล้วว่าถ้าเงินหายต้องรับผิดชอบร่วมกัน)
แต่เปล่าเลยค่ะเค้ากลับมาบอกว่าให้เรารับผิดชอบคนเดียว ก็แน่นอนค่ะคือทางหนูไม่ยอม. นาทีนั้นคิดแค่ว่าทำไมผู้จัดการพูดแบบนี้เป็นผู้ชายซะเปล่าแต่ไม่แมนเลย. บริหารจัดการไม่ดีเกิดปัญหาในร้าน ชิงหนี ไม่รับผิดชอบไม่มีความกระตือรือร้นแค่การเปิดกล้องวงจรปิดให้ลูกน้องและที่ร้านดูก็ไม่สามารถเปิดได้ จนเรื่องผ่านมาอาทิตย์กับอีกสามวัน. มีโอกาสได้คุยกันเมื่อวาน เค้าก็ถามค่ะว่าเรื่องเงินไปถึงไหนแล้ว. เห็นว่าเราไปออฟฟิตมา. แล้วก็ทะเลาะกันอีกรอบสอง เค้าบอกว่าข้อมูลทั้งหมดอยู่กับซุป. เขาจะให้ซุปมาอธิบายให้ฟังว่าทำไมต้องรับผิดชอบส่วนนั้นคนเดียว เงินมาจากไหนหายไปไหน. เราถามค่ะว่าทำไมไม่เปิดกล้องให้ดูตั้งแต่วันแรกตอนที่ทะเลาะกันแรกแรก. กะเช้า บอกแล้วว่ามีคนมาซ่อมกล้องวงจรปิดแล้วผู้จัดการก็ได้เปิดดูแล้วปรากฏว่าหน้าจอขึ้นสีดำเราตกใจมากเพราะผู้จัดการเพิ่งบอกเราตอนเย็นของวันที่แล้วว่ายังไม่ได้เปิดกล้องวงจรปิดใดๆทั้งสิ้น. เพราะต้องรอเปิดกล้องวงจรปิดพร้อมกัน. ซึ่งถ้าเปิดแล้วจอดำผู้จัดการก็ต้องบอกเราตรงตรงว่าเปิดแล้วแต่กล้องมีปัญหา. แต่เขากลับไม่บอกเราค่ะ ล่าสุดเมื่อวานซืนเราปรึกษากับฝ่ายอีกรอบว่าผู้จัดการให้ซุปที่สนิท กับเขาเป็นคนจัดการเรื่องให้. แน่นอนค่ะเค้าสนิทกันมาก. ถึงมากที่สุดก็ว่าได้. ข้อมูลที่เราได้จากเขาต้องไม่โปร่งใสแน่นอนแต่ฝ่ายบุคคลก็ยืนยันคำเดิมว่าห้ามจ่ายเงินจนกว่าจะมีหลักฐานคือตลอดเวลาที่เค้าทะเลาะกับเราเค้าเหมือนจะพูดให้เราจ่ายเงินตลอดแต่ตัวหนูไม่ยอมจ่ายค่ะ. เพราะหนูไม่ได้เป็นคนเอาไปและต้องการให้ตรวจสอบอย่างโปร่งใส. หนูตัดสินใจเล่าเรื่องทั้งหมดให้คุณพ่อและคุณแม่ฟังที่บ้านลงความเห็นว่าให้ลาออกและให้บริษัทจัดการทั้งกระบวนการไม่ต้องไปโพสต์อะไรกับผู้จัดการต่อ วันต่อมาที่บ้านพาไปที่ทำงานเพื่อไปเซ็นใบลาออกแต่ก็ไม่ได้พบผู้จัดการค่ะเราเลยคืนชุดพนักงานไว้ที่ร้านแล้วเดินออกมา
สอบถามหน่อยนะคะ เผื่อคนมีความรู้ หนูอาจจะเล่าไม่หมดหรือไม่เข้าใจยังไง เรื่องมันยาวมากๆค่ะ.
อยากทราบว่าในกรณีที่ทำงานร่วมกันใช้เครื่องแคชเชียร์เครื่องเดียวกันถ้าเงินหายก็คือหารกันครึ่งหนึ่ง
แต่อีกฝ่ายหนึ่งไม่ยอมหารกลับมาบอกแล้วว่า. ถ้าเป็นแบบนี้ย้ายไปสาขาอื่นก็ได้นะ. ปัดความรับผิดชอบร่วมกันค่ะ. ควรจะทำยังไงดีค่ะ. จะติดต่อให้บริษัทมาตรวจสอบได้ทางไหนบ้างคะ. คือเค้า ยัดเยียดให้หนูจ่ายเงินให้เร็วที่สุดและมีคำพูดที่ไม่สุภาพที่ผู้จัดการพูดกับลูกน้องมีคำพูดที่มันท้าทายบางครั้งโทรมาทาง LINE. เราไม่รับสายเค้า. แล้วเขาพิมพ์มาว่ากลัวอะไรกลัวอะไรก็รับสิ. เรางงมากทำไมพูดหาเรื่องแบบนี้. หนูมีแค่หลักฐานการพิมพ์ที่เขาคุยกับหนูทาง LINE. ค่ะ ว่าให้รับผิดชอบคนเดียว.
รบกวนผู้รู้หน่อยค่ะ. เงินไม่มากสำหรับคนอื่นค่ะ. แต่หนูเเสดงความบริสุทธิ์ใจ. ขวนขวายมากๆ แต่เขาไม่ส่งเรื่องให้บริษัทคะ. เขาจะมาเคีลยกันเอง ซึ่งผจก.กะซุปสนิทกันมากๆค่ะ. หนูเกรงว่าข้อมูลที่ได้มันต้องไม่ยึติธรรมสำหรับเราเเน่ๆค่ะ. ควรติดต่อฝ่ายไหนที่จะช่วยได้บ้างคะ. เพราะมันไม่ดีต่อประวัติการทำงานหนูในอนาคตเเน่ๆค่ะ. ครั้งเเรกที่เจอเพื่อร่วมง่านเเบบนี้ค่ะ
หนูมีไลน์ที่เขาส่งมาคุยค่ะทั้งหมด. ผู้จะดกาีพูดกับตัวหนูเองว่า ไม่เกี่ยว. ไม่ได้สนใจเรื่องที่เงินหาย. ไม่จ่ายต้องรับผิดชอบคนเดียว
นี่หรือ ผู้จัดการที่ดูเเลน้องๆในร้าน