ในความคิดไม่เคยอยากไปพม่า แต่พอกลับมาก็ให้คิดว่าจะต้องพาแม่ไปสักครั้ง ปัญหาคือแม่เดินไม่ได้ไกล บางที่ต้องใช้วีลแชร์  สุดท้ายไลน์ไปถาม  Mr.Tin เจ้าของรถเช่าที่พม่า  Mr.Tin บอก no problem เราก็เลยรีบจับโปรนกแอร์พาแม่เที่ยว 3 วัน
ถึงสนามบินย่างกุ้ง Mr. Tin ก็มารอรับแล้วค่ะ
Mr. Tin ฝากบอกว่าลูกค้าท่านไหนอยากเช่ารถเที่ยวพม่า ติดต่อ. Mr. Tin ได้ทาง

Line ID : myanmardriver  

QR code


E mail : tinaungwin.tin@gmail.com  

www.https://mrtinmyanmar.comule.com  

เบอร์มือถือ  : 959456674960

ถ้าเป็นลูกค้าคนไทย จะให้ราคาพิเศษ  คนไทยน่ารัก ไม่เรื่องเยอะค่ะ  ครั้งก่อนเราใช้บริการรถตู้ 14 ที่นั่ง รถสภาพดี สะอาด คนขับก็ดีค่ะ ส่วนครั้งนี้   Mr.Tin ขับเอง
รถที่เราใช้ครั้งนี้ค่ะ

พอออกจากสนามบินเราก็ไปเมืองหงสาค่ะ ห่างจากย่างกุ้งประมาณ 80 กม. ที่แรกที่แวะคือเจดีย์ไจ๊ก์ปุ่น มีองค์พระสี่ทิศประกบเจดีย์ทรงสี่เหลี่ยม พาแม่เดินได้ 1 รอบ
ต่อด้วยวัดจ๊ะไคท์วายน์จอง เป็นโรงเรียนสงฆ์ มีพระ เณร สี่ร้อยกว่ารูป
โรงครัวและสำรับอาหารค่ะ
หม้อข้าวไว้ใส่บาตรใบใหญ่มากกกก
ช่วงเวลา 10-11 โมง จะมีการตั้งแถวเพื่อไปฉันเพล เรามาใส่บาตรตรงเกือบท้ายแถว องค์ที่อยู่หัวแถวมีคนใส่บาตรเยอะแล้วค่ะ  
ก่อนออกจากวัดค่ะ  แม่ต้องนั่งวีลแชร์เพราะเดินไกล  Mr.Tin ทั้งขับและเข็นค่ะ  
พระธาตุมุเตาหรือพระธาตุจมูกร้อน  1 ใน 5 มหาบูชาสถาน  วันที่ไปร้อนมาก พื้นเดินไม่ได้ค่ะ อดพาแม่ไปค้ำธูปที่องค์เจดีย์เลย
ได้เวลาชิมอาหารมื้อแรกที่ภัตตาคาร 555 เจ้าของเป็นคนจีนค่ะ อร่อยใช้ได้ แต่ราคาแอบแพงไปนิด กุ้งจะคิดเป็นตัวค่ะ
หายเหนื่อยแล้วไปต่อกันที่พระราชวังบุเรงนองค่ะ  เป็นวังที่ทำขึ้นใหม่ วังเดิมเหลือแต่เสาค่ะ
พระนอนชเวตาเลียง เก่าแก่และศักดิ์สิทธิ์ เป็นพันปี เดิมถูกทิ้งร้างในช่วงสงครามมอญกับพม่า ค้นพบตอนสำรวจเพื่อสร้างทางรถไฟ จึงขุดขึ้นมาบูรณะใหม่สวยงามตามที่เห็นค่ะ
ปิดท้ายด้วยพระนอนนองดาวจี มย่ะตาเลียง สร้างเมื่อปี 2545 อยู่กลางแจ้ง ขนาดใหญ่โตดีค่ะ
ระหว่างทางกลับเข้าย่างกุ้ง พ่อแวะซื้อมะม่วง พอถึงกรุงเทพ หวาน หอม อร่อย พ่อบอกเสียดายซื้อน้อยไป
ถึงย่างกุ้ง 5 โมงกว่า เราพักที่ hotel Grand united ahlone branch เป็น family room 4 คน ห้องกว้าง สะอาด อาหารเช้าอร่อยค่ะ  Mr.Tin ให้เวลาพักผ่อน 1 ชม. มารับไป dinner ที่ร้าน hot pot แบบพม่า ครั้งก่อนมาแล้วติดใจ น้ำดำๆ  สไปซี่มากค่ะ คุณ Tin ส่งกลับโรงแรม 3 ทุ่มกว่า เลยเวลาไปเยอะอยู่
วันที่ 2  เริ่มที่เจดีย์โบตะตาว ภายในเหลืองทองอร่าม แม่ชอบมาก
ทางเข้าไปห้องประดิษฐานพระเกศาธาตุ
เทพทันใจ หรือ นัตโบโบยี ขอสิ่งใดก็จะสมปราถนา...แบบทันใจ ทัวร์ไทยต้องใส่ไว้ในโปรแกรมค่ะ
เครื่องสักการะ
ฝั่งตรงข้ามมี เทพกระซิบ หรือ เมี้ยนานหน่วย เป็นนัตเช่นกันค่ะ
เสร็จจากตรงนี้  Mr.Tin ชวนนั่งเรือเฟอรรี่สัมผัสชีวิตชาวพม่าอย่างแท้จริง  ลงเฟอรรี่ที่ท่าเรือปันเซโดดันค่ะ (Pansodan Jetty)

กลับจากท่าเรือดารา ก็เริ่มหิวแล้ว จูงกันไป ภัตตาคาร Golden duck ไม่รอลูกเลยค่ะ
ต่อด้วยช๊อบปิ้งตลาดสก๊อต ถึงตลาดก็ไฟดับพอดี ไม่มีรูปมาโชว์เลย  หลังจากนั้นก็ไปทะเลสาบกันดอว์จี จากตรงนี้มองเห็นเจดีย์ชเวดากองค่ะ
Landmark ของทะเลสาบคือภัตราคารเรือการะเวกค่ะ
ได้เวลา highlight ของทริป  เจดีย์ชเวดากองค่ะ
ได้เห็นแสงจากเพชรพลอยจากยอดฉัตร แม่นั่งดูนานเลยค่ะ ดีใจที่ได้พาแม่มาเห็นความสวยงาม อลังการ และความศรัทธาในเมืองพุทธแห่งนี้คะ
ชุดสักการะค่ะ
บริเวณรอบๆ เจดีย์ใช้วีลแชร์ได้ค่ะ ถ้าไม่ได้นำวีลแชร์มา ที่นี่มีบริการ บริเวณทางขึ้นทิศใต้ค่ะ
ออกจากเจดีย์ชเวดากองเกือบ 2 ทุ่ม หิวค่ะ คืนนี้เราไปทานร้านไหมไทยดีกว่า
วันที่ 3 แล้ว เช้าไปพิพิธภัณฑ์ แต่เปิดค่อนข้างสายค่ะ ถ้ามีเวลาน่าเดินดูค่ะ มีบัลลังค์สิงห์ที่เป็นของเก่าแท้ๆ ด้วยค่ะ จากนั้นเราก็ไปวัดเจ๊าฑัตจี หรือที่ไทยเราเรียกพระตาหวาน ดวงตาเป็นแก้วใส ทำจากญี่ปุ่น ความสูงประมาณตึก 6 ชั้น เจ๊าแปลว่าหกค่ะ
บูชาด้วยดอกกุหลาบ
ฝั่งเยื้องๆ กันมีวัดงาทัตจี มีพระพุทธรูปทรงเครื่องกษัตริย์ สูงประมาณตึก 5 ชั้น (งา =5)
เกือบบ่ายแล้ว แวะทานซีฟู้ดร้านธรรมชาติค่ะ ปูนิ่มทอดจานละ 120 บาท ลูกสาวชอบมากค่ะ
วัดซเวตอเมียต เป็นที่ประดิษฐานพระเขี้ยวแก้วจำลอง ใกล้สนามบินค่ะ
วัดพระธาตุหินขาว สลักจากหินอ่อนก้อนเดียวแถบมัณฑเลย์ ต้องติดแอร์ค่ะ
ก่อนกลับแวะเยี่ยมเพื่อนนึดนึง
เวลายังเหลือ แวะซุปเปอร์สำรวจตลาดดีกว่า
สุดท้ายแวะทานอะไรเบาๆ เพราะเครื่องออก 3 ทุ่ม  และแล้วก็ได้เวลาที่แม่ต้องบ๊ายบายพม่า แม่บอกว่าคนพม่าน่ารักค่ะ