พิษสวาท (กึ่งวิพากษ์) : เสียแรงหวังฝากชีวี พระจะมีเมตตาก็หาไม่

นางรำหลวงแห่งกรุงศรีฯ ตัวโปรดของเสด็จท้าวนางข้างใน พูดถึง "ความงาม" ก็ล่มฟ้าล่มเมืองเป็นที่กล่าวขานทั่วแว่นแคว้นอโยธยา หากทั้งศักดิ์และศรีแห่งนางรำฝ่ายในต้องมาสิ้นไปด้วยข้อครหาเหมือนเป็น "นางกลางเมือง" เขาผู้นั้นเพิ่งเอ่ยกับเธออยู่หลัด ๆ ถึงความในใจ ความในใจที่ทำให้ความเยียบเย็นของม่านน้ำแข็งได้ละลายกลายเป็นธารน้ำแล้วไหลรินออกจากดวงตา ในที่สุดเธอก็พบเขา และ พบกับความรู้สึกที่ "เรา" มีต่อกัน เธอคิดเช่นนั้น เยี่ยงนั้น แม้นแค้นเคืองอยากให้เขามาเป็นตัวตายตัวแทนเพียงไร ก็หักห้ามใจมิให้ปกป้อง คุ้มครอง ทะนุถนอม และ ดูแล "เขา" ผู้นั้นมิได้

แล้วสิ่งไรเล่าที่เธอได้รับตอบแทนกลับมา
"เผลอไป" สั้น ๆ ง่าย ๆ เพียงสองพยางค์


ชาติที่แล้วเคยไร้ค่าอย่างไร วันนี้ก็ยังไร้ค่าเช่นเดิม ชาติที่แล้วเธอเสียทั้งชีวิตเสียทั้งวิญญาณ ในชาตินี้เธอเสียสิ้นเกียรติและศักดิ์ศรีแห่งสตรีชาวกรุงศรีฯให้เขาไปด้วย โดนตราหน้าว่ายื้อแย่ง ทั้ง ๆ ที่มาก่อน ทั้ง ๆ ที่เขาว่าอยากดูแลเธอให้ดีกว่านั้น แล้วสิ่งนี้ละหรือคือการดูแล ความอัปยศและการเหยียดหยามทั้งสายตาและวาจา จะโยนเศษเสี้ยวแห่งความปราณีมาให้ก็หามีไม่ เจ็บเท่าใดเจ้าก็ไม่เคยจำเลยหนอคุณอุบลเอย

บัดนี้คงถึงเวลา .... ตัดบัวไม่ให้เหลือใย
แม้มันจะหมายถึงขุดอดีตขึ้นมาเฉือนใจตนเองก็ตาม



ต่อแต่นี้เขาจะได้รู้รส .... ทุกสิ่งอย่างที่เธอเคยประสบ ทั้งความหนักของโซ่ตรวนที่ข้อเท้าเรียวงาม ทั้งรสแห่งรักและภักดีที่เธอพลีให้อย่างไม่เสียดาย จนถึงความโหดเหี้ยมมาดร้ายของ "เขา" ที่กระทำต่อผู้เอ่ยอ้างมอบชีวิตที่เหลือเอาไว้ในกำมือ ความเมตตาแม้เพียงสักส่วนเสี้ยวเธอก็มิอาจจะมีให้ ยามที่เธอทอดกายบนโลงศพสายตาแสนแค้นระคนสาสมใจที่เขาจะได้เจอสิ่งไรที่เธอเคยเจอะเจอ การถูกขังในความมืดราวห้วงอนธการ มิเห็นพื้นพสุธา และ ยิ่งไม่เห็นท้องฟ้า มันเป็นเยี่ยงไร หากเมื่อเขาทนทุกข์ทรมานใต้การลงทัณฑ์ของเธอนั้น น้ำตาก็ไม่อาจหยุดไหล

สุดท้ายหัวใจก็มิอาจหัก .... ทั้งรัก .... ทั้งแค้น
เธอมั่นใจและเอ่ยอ้างกับท่านยมเทพ
เธอจะต้อง "ได้" ตัวตายตัวแทน


ณ เวลานี้ ไม่ว่าจะมีเหตุอันใด "คุณอุบล" ก็หยุดกงล้อแห่งการทวงคืนนี้ไม่ได้เสียแล้ว เธอเจ็บมามากเกินไป รวดร้าวมามากเกินพอ มากจนกระทั่งไม่มีสิ่งใดจะต้องเสียอีก "สิ่งที่เธอประสบ" คือความจริง ความจริงย่อมเป็นความจริงที่ไม่อาจแปรเปลี่ยนแง่มุมเป็นอย่างอื่นได้เสียแล้วในความคิดของอุบล ภาพอดีตที่หลั่งไหล ไม่มียาให้คุณพระงั้นหรือเธอถอดแหวนจากนิ้วมืออันเรียวงามเพื่อขอปันยา และ คุณพระไม่ดื่มยาหรือ เธอกระทำการอันเกินหญิงหากพูดถึงบริบทแห่งกรุงศรีฯ ป้อนยาจากปากด้วยความรักความผูกพันแห่งคู่ผัวตัวเมีย ที่พร้อมจะร่วมทั้งทุกข์ทั้งสุขมอบกายถวายชีวิตแด่คุณพระของเธอแต่เพียงผู้เดียว แต่แล้วทำไมท่านจึงทำ ... ทำกับเราได้เจ็บแสบยิ่งนัก คำถามที่ไร้คำตอบว่า 200 ปี

เสียแรงหวังฝากชีวี แต่เป็นท่านที่ไม่มีเมตตากับเราแม้เพียงนิด
ก็ดี ... ในเมื่อเราพิสูจน์แล้วแม้แต่ในภพนี้ว่าท่านไม่มีให้
ก็อย่าหวัง ... ความเมตตาปราณีจากสตรีชื่ออุบล





รักมั่นมอบล้วนซึ่งภักดี
แต่จะมีราคาก็หาไม่
ปรนนิบัตรพัดวีสักเท่าใด
ไม่ถูกตาต้องใจให้ชื่นชม

เมื่อเจ็บป่วยดื่มยาต้องให้ป้อน
น้องโอบอุ้มกุมกรแจ้งประสม
แต่พระนั้นไม่รู้สึกอภิรมย์
ฉวยหยิบยื่นความขมขื่นอุรา

ทั้งชาตินี้ชาติไหนไม่แปรเปลี่ยน
ความรู้สึกวนเวียนเราไร้ค่า
พระถึงได้ทิ้งทอดผลาญชีวา
โศกโศกาชั่วกัลป์นิรันกาล
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่