สำหรับประชามติที่ผ่านการเห็นชอบจากประชาชนอย่างล้นหลามกว่า 60 % เมื่อวันที่ 7 สิงหาคมที่ผ่านมา ทำให้หลายๆคนรู้สึกผิดหวังบ้าง เพราะคาดว่าจะมีผู้คนจะออกมาใช้สิทธิ์กันมากมาย เพื่อดับฝันคนบางกลุ่ม แต่ก็นั่นแหละ มันเป็นเกมส์ที่เขาเป็นผู้กำหนด ยังไงก็ต้องชนะ ถ้าไม่คิดว่าชนะ..ก็คงไม่เล่น !
ผมเป็นนักกีฬา เมื่อแพ้ก็ยอมรับ แม้กติกาจะดูแปลกๆ ไม่เป็นสากล แต่เมื่อคนส่วนใหญ่เขารับกติกานี้ได้ งั้น..ผมก็รับได้เหมือนกัน เพราะบ้านเมืองนี้ มันใช่ของผมคนเดียวซะที่ไหน ..หรือไง ??!
อุตส่าห์รื้อกระท่อมไม้ไผ่ซอมซ่อทิ้ง หันไปปลูกบ้านครึ่งไม้ครึ่งปูนสองชั้นอย่างหรู กะจะอยู่ให้สบายซะหน่อย อ้าว..ดันถูกทุบทิ้ง ต้องกลับมาปลูกกระท่อมไม่ไผ่ นอนก่ายหน้าผากเหมือนเดิม..มันส์เขาละ !
แต่อีกใจหนึ่ง ก็แสนจะรู้สึก “สะใจ”อย่างที่สุด ที่บ้านเมืองเราวนลูปกลับมาถึงจุดนี้จนได้ เพราะความอิจฉาริษยาของนักการเมืองบางพรรค ที่เล่นการเมืองด้วยวิธีการสกปรก คอยบ่อนทำลายระบอบประชาธิปไตยที่ตนเองซุกหัวอยู่ คอยเป็นไส้ศึกกวักมือเรียกให้คนนอกมาฆ่าเพื่อน แล้วในที่สุด ตนเองก็ไม่รอด ..ตายหยังเขียด !
ผู้ที่ทำความสะใจอย่างถึงที่สุดให้ผม ประกอบไปด้วยคุณอภิสิทธิ์ คุณชวน น.ต.ประสงค์ ดร.เจิมศักดิ์ นายสมบัติ นายไกรศักดิ์ นางรสนา ฯลฯ คนเหล่านี้ ร่วมไม้ร่วมมือกันทำลายระบอบประชาธิปไตยกันโจ่งแจ้ง สุดท้าย ก็ออกมาโหยหวนต่อต้านรัฐธรรมนูญกันเหย็งๆ ช่างเหมือนนิทานเรื่อง “จันทรโครพ”..แล้วก็กลายเป็นชะนีป่ !
ในเมื่อมันเป็นแบบนี้ไปแล้ว ก็ไม่รู้จะว่าอย่างไร ก็บอกแล้วประเทศนี้มิใช่ของใครคนใดคนหนึ่ง ถ้ามันจะเกิดอะไรขึ้นในภายภาคหน้า ทั้งดีหรือไม่ดี ทุกคนก็ต้องมีส่วนรับผลที่เกิดขึ้นนั้นด้วยกันทุกคน ก็ถือว่าเป็นบทเรียนก็แล้วกัน..ผมจะยืนกอดอกดู !!!
...ผิดหวังบ้าง แต่ก็สะใจ !!!...
ผมเป็นนักกีฬา เมื่อแพ้ก็ยอมรับ แม้กติกาจะดูแปลกๆ ไม่เป็นสากล แต่เมื่อคนส่วนใหญ่เขารับกติกานี้ได้ งั้น..ผมก็รับได้เหมือนกัน เพราะบ้านเมืองนี้ มันใช่ของผมคนเดียวซะที่ไหน ..หรือไง ??!
อุตส่าห์รื้อกระท่อมไม้ไผ่ซอมซ่อทิ้ง หันไปปลูกบ้านครึ่งไม้ครึ่งปูนสองชั้นอย่างหรู กะจะอยู่ให้สบายซะหน่อย อ้าว..ดันถูกทุบทิ้ง ต้องกลับมาปลูกกระท่อมไม่ไผ่ นอนก่ายหน้าผากเหมือนเดิม..มันส์เขาละ !
แต่อีกใจหนึ่ง ก็แสนจะรู้สึก “สะใจ”อย่างที่สุด ที่บ้านเมืองเราวนลูปกลับมาถึงจุดนี้จนได้ เพราะความอิจฉาริษยาของนักการเมืองบางพรรค ที่เล่นการเมืองด้วยวิธีการสกปรก คอยบ่อนทำลายระบอบประชาธิปไตยที่ตนเองซุกหัวอยู่ คอยเป็นไส้ศึกกวักมือเรียกให้คนนอกมาฆ่าเพื่อน แล้วในที่สุด ตนเองก็ไม่รอด ..ตายหยังเขียด !
ผู้ที่ทำความสะใจอย่างถึงที่สุดให้ผม ประกอบไปด้วยคุณอภิสิทธิ์ คุณชวน น.ต.ประสงค์ ดร.เจิมศักดิ์ นายสมบัติ นายไกรศักดิ์ นางรสนา ฯลฯ คนเหล่านี้ ร่วมไม้ร่วมมือกันทำลายระบอบประชาธิปไตยกันโจ่งแจ้ง สุดท้าย ก็ออกมาโหยหวนต่อต้านรัฐธรรมนูญกันเหย็งๆ ช่างเหมือนนิทานเรื่อง “จันทรโครพ”..แล้วก็กลายเป็นชะนีป่ !
ในเมื่อมันเป็นแบบนี้ไปแล้ว ก็ไม่รู้จะว่าอย่างไร ก็บอกแล้วประเทศนี้มิใช่ของใครคนใดคนหนึ่ง ถ้ามันจะเกิดอะไรขึ้นในภายภาคหน้า ทั้งดีหรือไม่ดี ทุกคนก็ต้องมีส่วนรับผลที่เกิดขึ้นนั้นด้วยกันทุกคน ก็ถือว่าเป็นบทเรียนก็แล้วกัน..ผมจะยืนกอดอกดู !!!