ตอนที่แล้ว
ตอน 1 บทเรียกน้ำย่อย
http://ppantip.com/topic/35291074 ว่าเที่ยว Norway ไม่แพงอย่างที่คิด ว่ามีการใช้จ่ายค่าอะไรบ้าง
ตอน 2 การเตรียมตัว จะต้องเตรียมอะไรบ้าง
http://ppantip.com/topic/35298680
ตอน3 : เมื่อถึง oslo ต้องซื้อ? และเรื่องที่เกี่ยวกับรถ
http://ppantip.com/topic/35361255
ตอน 4: ปูมเที่ยว วันที่ 1:BKK-Oslo, operahouse, Akrobaten bridge
http://ppantip.com/topic/35386408
=====
วันที่ 2 ของการเที่ยว ไปดูกันว่า 3 เฒ่า+1 จะเที่ยวได้กี่ที่
โดยพวกเราใช้บัตร Oslo pass 24 hrs ที่ใช้ได้ทั้งการเดินทาง และไม่ต้องจ่ายค่าเข้าใน Museum (สำหรับบางที่ที่ต้องจ่ายเพิ่มเราก็ไม่ได้เข้า เพราะที่รวมค่าเข้าฟรีก็เที่ยวไม่ทันแล้วคะ)
Ep 7 เดินแวะเที่ยวย่านเมืองเก่า Kvadraturen
Clip :
https://www.youtube.com/watch?v=_S3TzKAWUhU
มื้อเช้าวันนี้ กินข้าวต้มกับบรรดาหมูทั้งหลาย หมูหยอง หมูแท่ง หมูเมตตา (คุณป้าคะหนู ครั้งหน้าอย่าลืมเป็น sponsor หมูแดดเดียวให้หนูหน่อยนะ 555 )
จากนั้นเริ่มเที่ยวตอนเจ็ดโมงเช้า เราจะไปเดินเที่ยวดูย่านเมืองเก่าที่มีชื่อว่า Kvadraturen (หวาดรทูเร่น) เป็นบริเวณที่อยู่ใกล้กับ Akershus Fortress (จุดเที่ยวต่อไป)
หลังจากเกิดไฟไหม้ครั้งใหญ่ของเมืองเมื่อปี 1624 King Christian IV ตัดสินใจ สร้างเมืองในบริเวณนี้ และทรงชี้จุดนี้ พร้อมกับตรัสว่า “เมืองใหม่จะอยู่ที่ตรงนี้” ซึ่งเมืองใหม่นี้มีชื่อว่า Christian
ในปัจจุบัน บริเวณนี้เรียกว่า Kvadraturen ซึ่งมีความหมายว่า the quadrature( การสร้างสี่เหลี่ยม) เพราะว่า รูปแบบการสร้างถนนที่ตัดกันเป็นรูปสี่เหลี่ยม ตามสมัย renaissance ของเมือง Christian
ในบริเวณนี้ มีตึกเก่าจากศตวรรษที่ 17 และ 18 ให้เราดูอยู่บ้าง เช่น town hall แรกของเมือง Christiania ตั้งแต่ ปี 1641 (ปัจจุบัน คือ ร้านอาหาร Gamle Raadhus Restaurant).
เดินมา เจอรูปปั้นมือ ที่ชี้มาที่พื้น เรียกว่า Christiania torv ที่เขาว่า king Christian IV จะสร้งเมืองใหม่
จากนั้นก็เดินเลี้ยวซ้าย เป็นทางเข้าที่ดูจะเป็นตึกเก่าๆ จะเห็นมีที่เช่าจักรยานด้วยละ
**********
Ep. 8 เที่ยว Akershus Fortress เปิด 06:00 - 21:00 ฟรีเข้าจ้า
Clip :
https://www.youtube.com/watch?v=ahojAqGmtFA
Akershus Slott og festning หรือ Akershus Fortress แนวป้อมปราการโบราณที่สร้างขึ้นตั้งแต่ทศวรรษ 1290 ตามคำสั่งการของพระเจ้า Haakon ที่ 5 เพื่อใช้เป็นฐานประจำการป้องกันเมืองออสโลจากการโจมตีของสวีเดน โดยในช่วงศตวรรษที่ 18-19 เคยถูกใช้เป็นที่คุมขังนักโทษคดีร้ายแรงและบรรดากบฏทั้งหลาย
ที่แนวป้อมเจอกับปืนใหญ่ เพิ่งเคยเห็นร่องรอยที่ปืนใหญ่โดยยิงเหมือนกัน
Ep.9 Havne Promenaden &Indre Oslofjord Fiskerlag ไปท่าเรือ ที่นี้มีของทะเลขายด้วยละ ไปดูกันเลย
Clip
https://www.youtube.com/watch?v=kDy0wsmCA1E
เดินออกจากป้อมปราการ เพื่อจะไปที่ Rådhusbrygga เป็นท่าเรือที่มีเรือให้บริการข้ามไปยัง Bygdøy และ Nesodden
เจองานสำริด สวยดี
เดินตามถนน Akershusstanda ด้านขวาเป็นแนวป้อมปราการ ด้านซ้ายเป็นทะเล แต่แถวนี้ไม่มีชายหาดอย่างบ้านเรานะ
เจอท่าเรือที่มีชื่อว่า harbor Promenade ภาษา Norway เขียนแบบนี้ Havne Promenaden
ไปดูเรือกัน..... มีเรือใบสวยๆ จอดอยู่หลายลำ มีเรือเหมือนเรือตรวจการจอดอยู่ อย่าขึ้นเรือเขาละ
แวะไปที่สวนสาธารณะอยู่ มีรูปปั้น เท่าที่เดินเที่ยวในเมือง Oslo ไม่ถึงวันเจองานศิลปะ อยู่มากมายในเมืองนี้...น่าชมจริงๆ
Wow! มีตลาดขายของทะเลด้วย เป็นตลาดที่แปลกคือ ร้านค้าเป็นเรือคะ ที่นี้มีชื่อว่า Indre Oslofjord Fiskerlag
อันนี้ไม่รู้ว่าตลาดนี้ขายถึงกี่โมงนะคะ
มีกุ้งที่มีแขนเหมือนปู แปลกดีจัง
******
Ep. 10 Rådhusbrygge to Viking Ship Museum
https://www.youtube.com/watch?v=ZbwMMVypSuw
เดินไปที่ ท่า Rådhusbrygge 3(โร้ดฮูสบริกเก ) เพื่อขึ้นเรือ Bygdøyfergene (บริกเดอวฟารเงอะเน่อ) เรือนี้ให้บริการระหว่างเดือน มีนา ถึง ตุลา
เรือนี้จะจอด 2 จุดคือ
1. stop: Dronningen (โดรดนิงเง่น) (Norwegian Museum of Cultural History/ Folk Museum, Viking Ship Museum and Oscarshall).
2. stop: Bygdøynes (บริกเดอวเนส) (Kon-Tiki, Fram and Norwegian Maritime Museum).
เราใช้ Oslo pass ซึ่งเป็นบัตรเหมาจึงไม่ต้องจ่ายเพิ่ม
แต่ถ้าใครที่ไม่มี Oslo pass แนะนำให้ไปซื้อที่ Båtservice ticket office ที่ City Hall Pier 3 เพราะว่าราคาตั๋วเที่ยวเดียว 40 Nok ถ้าไป-กลับก็ 60 Nok แต่ถ้าไปจ่ายค่าตั๋วบนเรือ เที่ยวเดียวนะต้องจ่าย 60 Nok เลยนะ
เอาละเรือเริ่มออก นั่งชมวิวกันเถอะ
ซักพักเจ้าหน้าที่ก็มาตรวจตั๋ว….เอ... ไม่เห็น Stamp วันและเวลาที่เริ่มใช้ที่ Oslo pass...
เมื่อถึงท่าเรือ Dronningen ก็เดินตรงตามถนน Huk Aveny ที่เต็มไปด้วยบ้านเรือนของเศรษฐีทั้งหลาย มั้ง เดาเอาเพราะมีเรือจอดหน้าบ้าน และบ้านก็ดูดี
ก็มาถึง Viking Ship Museum
*********
Ep. 11 Viking Ship Museum (Free entrance for Oslo pass)
อ่านเพ่มเติม
http://www.norskfolke.museum.no/default.aspx
Clip
https://www.youtube.com/watch?v=ZXHMq8O32Gs
The Viking Ship Museum พิพิธภัณฑ์เรือไวกิ้ง ส่วนหนึ่งของพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ด้านวัฒนธรรมของมหาวิทยาลัยออสโล เปิดให้เข้าชมทุกวัน 9.00 – 18.00 น. บัตร Oslo Pass ไม่ต้องเสียค่าเข้านะ
เมื่อไปถึงเอาบัตร Oslo pass แสดง เจ้าหน้าที่ก็ เอา QR code ที่ Oslo Pass ไป scan แล้วให้ตั๋วเข้าเรามา
....เอาอีกแล้ว....ไม่เห็น Stamp วันและเวลาที่เริ่มใช้ ที่ Oslo pass
ในสมัยก่อน เรือเหล่านี้ใช้ในการออกสำรวจหาดินแดนใหม่ๆ (ไม่รู้ว่าเอาไปใช้ปล้นหรือเปล่า อันนี้เขาไม่ได้เขียนบอกเอาไว้)
เมื่อผู้นำเสียชีวิตลง ก็จะฝังร่างกับเรือไวกิ้งพร้อมกับข้าวของมากมาย เพื่อให้มีความเป็นอยู่สุขสบายในชีวิตหลังความตายตามควาเชื่อ
ข้าวของและเรือเหล่านี้ถูกหุ้มด้วยโคลนดินเหนียวจึงถูกรักษาสภาพเอาไว้ มากว่าพันปี
เมื่อปี1867 -1903 ได้มีการขุดค้นเรือไวกิ้งที่ฝั่งใน Oslo Fjord พบที่ Oseberg , Gokstad and Tune จึงเอาชื่อสถานที่ที่ค้นพบมาตั้งชื่อเรือเหล่านั้น แล้วนำเรือสามลำที่มาจากศตวรรษที่ 9 มาจัดแสดงที่ Viking Ship Museum ที่นี่จัดแสดงเรือ 3ลำ
เรือลำแรก มีชื่อว่า The Osberg Ship
ในปี 1904-1905 นักโบราณคดีชาวนอร์เวย์และสวีเดนชื่อว่า Haakon Shetelig และ Gabriel Gustafson ค้นพบเจอเรือนี้ ที่ Oseberg farm ใกล้ Tønsberg
เรือลำนี้สร้างราวปี ค.ศ. 820 สร้างจากไม้โอ๊ค ที่หัวเรือ มีการตกแต่งด้วยงานสสักที่สวยงาม
เรือลำนี้ยาว 22 ม. กว้าง 5 ม. ต้องใช้ฝีพายถึง 30 คน มีคนถือหางเสือเรือ มีสมอที่เป็นโลหะ
ต่อมาในปี 834 เรือลำนี้ถูกฝังสำหรับผู้หญิง 2 คนที่เสียชีวิตโดยคนหนึ่งอายุประมาณ 70-80 ปี อีกคนอายุประมาณ 50 ปี เขาบอกว่า ใช้เวลาถึง 20 ปี ในการซ่อมแซมบำรุงรักษา ก่อนที่จะนำมาแสดงในพิพิธภัณฑ์ให้ชมกัน
ในเรือลำนี้ นอกจากมีโครงกระดุกผู้หญิง 2 คน ยังมี ม้า 15 ตัว หมา 6 ตัว และวัว 2 ตัว และข้าวของเครื่องใช้ เช่นเกวียน ลากเลื่อน เสาหัวสัตว์ ที่สลักได้งาม สิ่งของพวกนี้ถูกจัดแสดงในโซน E อย่าลืมไปดูกันละ
หาอ่านต่อได้ที่
https://en.wikipedia.org/wiki/Oseberg_Ship
เรือลำที่สอง มีชื่อว่า The Gokstad Ship ถูกค้นพบ ปี 1880 ที่ Gokstad farm
เรือลำนี้ยาวประมาณ 23 กว้าง 5 ม. สร้างจากไม้โอ๊ค ถูกสร้างราวปี ค.ศ. 900 ต่อมาถูกฝั่งพร้อมกับร่างของผู้นำ ซึ่งเป็นโครงกระดูกผู้ชายอายุประมาณ 40 ที่เสียชีวิตในสงคราม
ในเรือนี้ไม่พบอาวุธ หรืออัญมณี แต่มี เกมกระดาน เครื่องครัว เตียง เต้น ลากเลื่อน และเรือเล็ก 3 ลำ และฝังพร้อมกับม้า 12 ตัว หมา 8 ตัว นกยูงและเหยี่ยวอย่างละ 2 ตัว
เรือลำสุดท้าย ชื่อว่าThe Tune ship เป็นเรือไวกิ้งลำแรกที่ถูกค้นพบ แต่ซากเรือนี้แตกหักง่ายจึงได้รับความเสียหายจากการขุดค้น
เป็นเรือที่สร้างราวปี ค.ศ 900 มีขนาดความยาวประมาณ 22 ม. กว้าง 4.35ม. มีฝีพายประมาณ 11 หรือ 12 คู่ ถูกค้นพบในปี 1867 ที่ Haugen farm ใน Tune, Østfold,
ในเรือพบโครงกระดูกผู้ชาย อาวุธ ลูกเต๋า ชิ้นส่วนของ ski และโครงกระดูกของม้า
แวะมาดูของฝาก แฮะๆ ซื้อไม่ลง แค่พวงกุญแจก็ 200 บาทแล้วอ่ะ
Bye Viking
เดินมาที่ป้ายร
สามเฒ่าพาเที่ยว:3,009 km ตะลุย Norway 14 วัน คนละห้าหมื่นบาท ตอน5: ปูมเที่ยว วันที่ 2
ตอน 1 บทเรียกน้ำย่อย http://ppantip.com/topic/35291074 ว่าเที่ยว Norway ไม่แพงอย่างที่คิด ว่ามีการใช้จ่ายค่าอะไรบ้าง
ตอน 2 การเตรียมตัว จะต้องเตรียมอะไรบ้าง http://ppantip.com/topic/35298680
ตอน3 : เมื่อถึง oslo ต้องซื้อ? และเรื่องที่เกี่ยวกับรถ http://ppantip.com/topic/35361255
ตอน 4: ปูมเที่ยว วันที่ 1:BKK-Oslo, operahouse, Akrobaten bridge http://ppantip.com/topic/35386408
=====
วันที่ 2 ของการเที่ยว ไปดูกันว่า 3 เฒ่า+1 จะเที่ยวได้กี่ที่
โดยพวกเราใช้บัตร Oslo pass 24 hrs ที่ใช้ได้ทั้งการเดินทาง และไม่ต้องจ่ายค่าเข้าใน Museum (สำหรับบางที่ที่ต้องจ่ายเพิ่มเราก็ไม่ได้เข้า เพราะที่รวมค่าเข้าฟรีก็เที่ยวไม่ทันแล้วคะ)
Ep 7 เดินแวะเที่ยวย่านเมืองเก่า Kvadraturen
Clip : https://www.youtube.com/watch?v=_S3TzKAWUhU
มื้อเช้าวันนี้ กินข้าวต้มกับบรรดาหมูทั้งหลาย หมูหยอง หมูแท่ง หมูเมตตา (คุณป้าคะหนู ครั้งหน้าอย่าลืมเป็น sponsor หมูแดดเดียวให้หนูหน่อยนะ 555 )
จากนั้นเริ่มเที่ยวตอนเจ็ดโมงเช้า เราจะไปเดินเที่ยวดูย่านเมืองเก่าที่มีชื่อว่า Kvadraturen (หวาดรทูเร่น) เป็นบริเวณที่อยู่ใกล้กับ Akershus Fortress (จุดเที่ยวต่อไป)
หลังจากเกิดไฟไหม้ครั้งใหญ่ของเมืองเมื่อปี 1624 King Christian IV ตัดสินใจ สร้างเมืองในบริเวณนี้ และทรงชี้จุดนี้ พร้อมกับตรัสว่า “เมืองใหม่จะอยู่ที่ตรงนี้” ซึ่งเมืองใหม่นี้มีชื่อว่า Christian
ในปัจจุบัน บริเวณนี้เรียกว่า Kvadraturen ซึ่งมีความหมายว่า the quadrature( การสร้างสี่เหลี่ยม) เพราะว่า รูปแบบการสร้างถนนที่ตัดกันเป็นรูปสี่เหลี่ยม ตามสมัย renaissance ของเมือง Christian
ในบริเวณนี้ มีตึกเก่าจากศตวรรษที่ 17 และ 18 ให้เราดูอยู่บ้าง เช่น town hall แรกของเมือง Christiania ตั้งแต่ ปี 1641 (ปัจจุบัน คือ ร้านอาหาร Gamle Raadhus Restaurant).
เดินมา เจอรูปปั้นมือ ที่ชี้มาที่พื้น เรียกว่า Christiania torv ที่เขาว่า king Christian IV จะสร้งเมืองใหม่
จากนั้นก็เดินเลี้ยวซ้าย เป็นทางเข้าที่ดูจะเป็นตึกเก่าๆ จะเห็นมีที่เช่าจักรยานด้วยละ
**********
Ep. 8 เที่ยว Akershus Fortress เปิด 06:00 - 21:00 ฟรีเข้าจ้า
Clip : https://www.youtube.com/watch?v=ahojAqGmtFA
Akershus Slott og festning หรือ Akershus Fortress แนวป้อมปราการโบราณที่สร้างขึ้นตั้งแต่ทศวรรษ 1290 ตามคำสั่งการของพระเจ้า Haakon ที่ 5 เพื่อใช้เป็นฐานประจำการป้องกันเมืองออสโลจากการโจมตีของสวีเดน โดยในช่วงศตวรรษที่ 18-19 เคยถูกใช้เป็นที่คุมขังนักโทษคดีร้ายแรงและบรรดากบฏทั้งหลาย
ที่แนวป้อมเจอกับปืนใหญ่ เพิ่งเคยเห็นร่องรอยที่ปืนใหญ่โดยยิงเหมือนกัน
Ep.9 Havne Promenaden &Indre Oslofjord Fiskerlag ไปท่าเรือ ที่นี้มีของทะเลขายด้วยละ ไปดูกันเลย
Clip https://www.youtube.com/watch?v=kDy0wsmCA1E
เดินออกจากป้อมปราการ เพื่อจะไปที่ Rådhusbrygga เป็นท่าเรือที่มีเรือให้บริการข้ามไปยัง Bygdøy และ Nesodden
เจองานสำริด สวยดี
เดินตามถนน Akershusstanda ด้านขวาเป็นแนวป้อมปราการ ด้านซ้ายเป็นทะเล แต่แถวนี้ไม่มีชายหาดอย่างบ้านเรานะ
เจอท่าเรือที่มีชื่อว่า harbor Promenade ภาษา Norway เขียนแบบนี้ Havne Promenaden
ไปดูเรือกัน..... มีเรือใบสวยๆ จอดอยู่หลายลำ มีเรือเหมือนเรือตรวจการจอดอยู่ อย่าขึ้นเรือเขาละ
แวะไปที่สวนสาธารณะอยู่ มีรูปปั้น เท่าที่เดินเที่ยวในเมือง Oslo ไม่ถึงวันเจองานศิลปะ อยู่มากมายในเมืองนี้...น่าชมจริงๆ
Wow! มีตลาดขายของทะเลด้วย เป็นตลาดที่แปลกคือ ร้านค้าเป็นเรือคะ ที่นี้มีชื่อว่า Indre Oslofjord Fiskerlag
อันนี้ไม่รู้ว่าตลาดนี้ขายถึงกี่โมงนะคะ
มีกุ้งที่มีแขนเหมือนปู แปลกดีจัง
******
Ep. 10 Rådhusbrygge to Viking Ship Museum
https://www.youtube.com/watch?v=ZbwMMVypSuw
เดินไปที่ ท่า Rådhusbrygge 3(โร้ดฮูสบริกเก ) เพื่อขึ้นเรือ Bygdøyfergene (บริกเดอวฟารเงอะเน่อ) เรือนี้ให้บริการระหว่างเดือน มีนา ถึง ตุลา
เรือนี้จะจอด 2 จุดคือ
1. stop: Dronningen (โดรดนิงเง่น) (Norwegian Museum of Cultural History/ Folk Museum, Viking Ship Museum and Oscarshall).
2. stop: Bygdøynes (บริกเดอวเนส) (Kon-Tiki, Fram and Norwegian Maritime Museum).
เราใช้ Oslo pass ซึ่งเป็นบัตรเหมาจึงไม่ต้องจ่ายเพิ่ม
แต่ถ้าใครที่ไม่มี Oslo pass แนะนำให้ไปซื้อที่ Båtservice ticket office ที่ City Hall Pier 3 เพราะว่าราคาตั๋วเที่ยวเดียว 40 Nok ถ้าไป-กลับก็ 60 Nok แต่ถ้าไปจ่ายค่าตั๋วบนเรือ เที่ยวเดียวนะต้องจ่าย 60 Nok เลยนะ
เอาละเรือเริ่มออก นั่งชมวิวกันเถอะ
ซักพักเจ้าหน้าที่ก็มาตรวจตั๋ว….เอ... ไม่เห็น Stamp วันและเวลาที่เริ่มใช้ที่ Oslo pass...
เมื่อถึงท่าเรือ Dronningen ก็เดินตรงตามถนน Huk Aveny ที่เต็มไปด้วยบ้านเรือนของเศรษฐีทั้งหลาย มั้ง เดาเอาเพราะมีเรือจอดหน้าบ้าน และบ้านก็ดูดี
ก็มาถึง Viking Ship Museum
*********
Ep. 11 Viking Ship Museum (Free entrance for Oslo pass)
อ่านเพ่มเติม http://www.norskfolke.museum.no/default.aspx
Clip https://www.youtube.com/watch?v=ZXHMq8O32Gs
The Viking Ship Museum พิพิธภัณฑ์เรือไวกิ้ง ส่วนหนึ่งของพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ด้านวัฒนธรรมของมหาวิทยาลัยออสโล เปิดให้เข้าชมทุกวัน 9.00 – 18.00 น. บัตร Oslo Pass ไม่ต้องเสียค่าเข้านะ
เมื่อไปถึงเอาบัตร Oslo pass แสดง เจ้าหน้าที่ก็ เอา QR code ที่ Oslo Pass ไป scan แล้วให้ตั๋วเข้าเรามา
....เอาอีกแล้ว....ไม่เห็น Stamp วันและเวลาที่เริ่มใช้ ที่ Oslo pass
ในสมัยก่อน เรือเหล่านี้ใช้ในการออกสำรวจหาดินแดนใหม่ๆ (ไม่รู้ว่าเอาไปใช้ปล้นหรือเปล่า อันนี้เขาไม่ได้เขียนบอกเอาไว้)
เมื่อผู้นำเสียชีวิตลง ก็จะฝังร่างกับเรือไวกิ้งพร้อมกับข้าวของมากมาย เพื่อให้มีความเป็นอยู่สุขสบายในชีวิตหลังความตายตามควาเชื่อ
ข้าวของและเรือเหล่านี้ถูกหุ้มด้วยโคลนดินเหนียวจึงถูกรักษาสภาพเอาไว้ มากว่าพันปี
เมื่อปี1867 -1903 ได้มีการขุดค้นเรือไวกิ้งที่ฝั่งใน Oslo Fjord พบที่ Oseberg , Gokstad and Tune จึงเอาชื่อสถานที่ที่ค้นพบมาตั้งชื่อเรือเหล่านั้น แล้วนำเรือสามลำที่มาจากศตวรรษที่ 9 มาจัดแสดงที่ Viking Ship Museum ที่นี่จัดแสดงเรือ 3ลำ
เรือลำแรก มีชื่อว่า The Osberg Ship
ในปี 1904-1905 นักโบราณคดีชาวนอร์เวย์และสวีเดนชื่อว่า Haakon Shetelig และ Gabriel Gustafson ค้นพบเจอเรือนี้ ที่ Oseberg farm ใกล้ Tønsberg
เรือลำนี้สร้างราวปี ค.ศ. 820 สร้างจากไม้โอ๊ค ที่หัวเรือ มีการตกแต่งด้วยงานสสักที่สวยงาม
เรือลำนี้ยาว 22 ม. กว้าง 5 ม. ต้องใช้ฝีพายถึง 30 คน มีคนถือหางเสือเรือ มีสมอที่เป็นโลหะ
ต่อมาในปี 834 เรือลำนี้ถูกฝังสำหรับผู้หญิง 2 คนที่เสียชีวิตโดยคนหนึ่งอายุประมาณ 70-80 ปี อีกคนอายุประมาณ 50 ปี เขาบอกว่า ใช้เวลาถึง 20 ปี ในการซ่อมแซมบำรุงรักษา ก่อนที่จะนำมาแสดงในพิพิธภัณฑ์ให้ชมกัน
ในเรือลำนี้ นอกจากมีโครงกระดุกผู้หญิง 2 คน ยังมี ม้า 15 ตัว หมา 6 ตัว และวัว 2 ตัว และข้าวของเครื่องใช้ เช่นเกวียน ลากเลื่อน เสาหัวสัตว์ ที่สลักได้งาม สิ่งของพวกนี้ถูกจัดแสดงในโซน E อย่าลืมไปดูกันละ
หาอ่านต่อได้ที่ https://en.wikipedia.org/wiki/Oseberg_Ship
เรือลำที่สอง มีชื่อว่า The Gokstad Ship ถูกค้นพบ ปี 1880 ที่ Gokstad farm
เรือลำนี้ยาวประมาณ 23 กว้าง 5 ม. สร้างจากไม้โอ๊ค ถูกสร้างราวปี ค.ศ. 900 ต่อมาถูกฝั่งพร้อมกับร่างของผู้นำ ซึ่งเป็นโครงกระดูกผู้ชายอายุประมาณ 40 ที่เสียชีวิตในสงคราม
ในเรือนี้ไม่พบอาวุธ หรืออัญมณี แต่มี เกมกระดาน เครื่องครัว เตียง เต้น ลากเลื่อน และเรือเล็ก 3 ลำ และฝังพร้อมกับม้า 12 ตัว หมา 8 ตัว นกยูงและเหยี่ยวอย่างละ 2 ตัว
เรือลำสุดท้าย ชื่อว่าThe Tune ship เป็นเรือไวกิ้งลำแรกที่ถูกค้นพบ แต่ซากเรือนี้แตกหักง่ายจึงได้รับความเสียหายจากการขุดค้น
เป็นเรือที่สร้างราวปี ค.ศ 900 มีขนาดความยาวประมาณ 22 ม. กว้าง 4.35ม. มีฝีพายประมาณ 11 หรือ 12 คู่ ถูกค้นพบในปี 1867 ที่ Haugen farm ใน Tune, Østfold,
ในเรือพบโครงกระดูกผู้ชาย อาวุธ ลูกเต๋า ชิ้นส่วนของ ski และโครงกระดูกของม้า
แวะมาดูของฝาก แฮะๆ ซื้อไม่ลง แค่พวงกุญแจก็ 200 บาทแล้วอ่ะ
Bye Viking
เดินมาที่ป้ายร