กระทู้ก่อนหน้าถ้าใครยังไม่ได้อ่านครับ
http://ppantip.com/topic/35299740 Walk Alone in Switzerland by ชายเรียกฝน : Part เตรียมตัว และ Day 1 Good evening Luzern
http://ppantip.com/topic/35301836 Walk Alone in Switzerland by ชายเรียกฝน : Day 2 Bern & Montreux
http://ppantip.com/topic/35315593 Walk Alone in Switzerland by ชายเรียกฝน : Day 3 Mt.Titlis & Goodbye Luzern
http://ppantip.com/topic/35330138 Walk Alone in Switzerland by ชายเรียกฝน : Day 4 Thun ล่องทะเลสาบโรแมนติกในวันฝนตก
http://ppantip.com/topic/35345421 Walk Alone in Switzerland by ชายเรียกฝน : Day 5 Oeshinensee & Brienz
http://ppantip.com/topic/35356577 Walk Alone in Switzerland by ชายเรียกฝน : Day 6 Basel วันหนีฝนของคนไม่มีแผน
http://ppantip.com/topic/35395460 Walk Alone in Switzerland by ชายเรียกฝน : Day 7 Zermatt, Matterhorn ในวันฟ้าหมอง
http://ppantip.com/topic/35402332 Walk Alone in Switzerland by ชายเรียกฝน : Day 8 Schilthorn, Murren & Lauterbrunnen ในวันที่ฟ้า(โคตร)เป็นใจ

วันที่ 9 ของทริปนี้ ท้องฟ้ายังคงเป็นใจครับ (เฉพาะเมืองทางเหนือ 3 เมืองนี้จากเวปเช็คสภาพอากาศ) ผมเริ่มต้นโดยการเดินทางไปยังน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป นั่นคือ Rhein Fall ครับ ซึ่งการเดินทางนั้นไปได้หลายทางครับ ได้แก่ นั่งรถไฟสาย local ไปลงสถานี Neuhausen Rheinfall (ตั้งต้นจาก Zurich หรือ Winterthur) หรือนั่งรถบัสจากเมือง Schaffhausen ไปก็ได้ครับ ผมเองชอบรถไฟมากกว่าเลยไปเส้นทางแรกครับ

หลังจากลงรถไฟที่สถานี Neuhausen Rheinfall ก็เดินตามเสียงน้ำตกและตามป้ายไปได้เลยครับ

จากรูปด้านบน ฝั่งตรงข้ามคือปราสาท Schloss Laufen ซึ่งมีภัตตาคารและส่วนที่เปิดให้เข้าไปสัมผัส Rhein Fall อย่างใกล้ชิด (แบบว่ายืนนานๆนี่เปียกได้เลยทีเดียวครับ) ซึ่งการจะไปยังปราสาทต้องเดินข้ามสะพานไป อารมณ์ประมาณสะพานข้ามแม่น้ำแควบ้านเราครับ ผมเดินสวนกับกลุ่มเด็กๆที่มาทัศนศึกษา น่ารักดีครับ ทุกคนมองผมราวกับไม่เคยเห็นคนเอเชียมาก่อน 5555

ภายในปราสาทค่อนข้างเงียบครับ มีทางให้เดินลงไปชมน้ำตก ซึ่งต้องเสียเงินครับ ผมแนะนำว่าให้เข้าไปชมเถอะครับ เพราะมันชุ่มฉ่ำมากจริงๆ



เดินไปนานๆเริ่มรู้สึกเปียก ผมเลยเดินออกจากปราสาทไปมองวิวน้ำตกจากฝั่งตรงข้ามบ้าง ซึ่งสามารถชมได้จากระยะไกล หรือใครอยากนั่งเรือเข้าไหชมก็สามารถทำได้ครับ มีให้เลือกหลายเส้นทาง ตั้งแต่วนรอบๆ ไปจนถึงไปจอดให้ขึ้นไปบนเกาะกลางน้ำตกครับ เนื่องจากวันนี้ผมเหลือจุดหมายอีกมากเลยไม่ได้นั่งเรือครับ แต่แค่ได้มองไกลๆท่ามกลางแสงแดดอุ่นๆ แค่นี้ก็ฟินแล้วครับ





ต่อจาก Rhein Fall ผมนั่งรถบัสไปลงที่เมือง Schaffhausen ครับ ซึ่งเป็นเมืองขนาดกลางๆที่มีถนนน่าเดิน จตุรัสเก๋ๆให้แวะถ่ายรูปเป็นระยะ และที่สำคัญในมุมมองส่วนตัวของผม เมืองนี้ไอศกรีมอร่อยมากกกกกกกกก ผมกินแทบทุกร้านที่ผ่านเลยครับ


ผมเดินไปตามถนน Vondergasse ก่อนจะเลี้ยวขวาไปยัง Allerheiligen Munster ซึ่งเป็นโบสถ์เก่าแก่ของเมืองนี้และบางส่วนได้สร้างเป็นพิพิทธภัณฑ์ขึ้น ซึ่งจัดแสดงเกี่ยวกับหลักฐานทางโบราณคดี นอกจากจะได้ชมโบสถ์สวยๆแล้ว ยังได้ความรู้จากพิพิธภัณฑ์ด้วยครับ







ออกจาก Allerheiligen Munster ผมเดินเลาะไปสูดอากาศริมแม่น้ำ Rhine อากาศวันนี้ดีมากๆครับ

ต่อจากนั้นผมเดินกลับเข้ามาในตัวเมืองเพื่อไปยัง Munot ซึ่งเป็นป้อมทรงกระบอกดูแปลกตา ด้านล่างตรงฐานเป็นห้องโถงมืดๆและเย็นมาก ใครสายตาไม่ดีขอให้เดินระวังหน่อยนะครับ



เดินขึ้นบันไดวนไปเรื่อยๆ (เป็นทางลาดแบบไม่มีขั้นบันไดครับ ผู้สูงวัยระวังดีๆครับ) ก็จะถึงยอดด้านบน สามารถใช้เป็นจุดชมเมืองทั้งเมืองได้เป็นอย่างดีครับ


เมื่อออกจาก Munot ผมยังคงเพลินกับการซื้อไอศกรีมทาน เสียดายไม่ได้ถ่ายรูปมาครับ ถ้าใครมีโอกาสมาเที่ยวเมืองนี้ อย่าลืมลองทานดูนะครับ

ต่อไปเป็นที่หมายสุดท้าย นั่นคือเมืองเล็กๆแสนเงียบสงบอย่าง Stein am Rhein ครับ ซึ่งนั่งรถไฟจาก Schaffhausen ไปใช้เวลาประมาณ 30 นาที
เมื่อถึงสถานีต้องเดินออกมาทิศทางไปทางขวามือครับ จะมีป้ายบอกทางเป็นระยะ ข้ามสะพานมาก็จะถึงตัวเมืองครับ



เมือง Stein am Rhein นี้ โดดเด่นด้วยเรื่องการวาดลวดลายและรูปภาพลงบนผนังบ้านเรือน แทบไม่มีหลังไหนที่ไม่มีภาพวาด นักท่องเที่ยวค่อยๆเดินดูกันจนเพลินเลยครับ นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารและพิพิธภัณฑ์ให้เลือกเข้าชมเป็นจำนวนมาก เนื่องจากวันนี้ผมเที่ยวหลายที่ เวลาในเมืองนี้จึงน้อยครับ เลยได้แต่เดินถ่ายรูปตามจุดต่างๆ ไม่ได้มีโอกาสเข้าไปในพิพิธภัณฑ์ครับ








การเดินทางในวันนี้จบลงแล้วครับ เหนื่อยมากจริงๆกับการเดินทางสามเมืองในวันเดียว พรุ่งนี้เป็นวันสุดท้ายของทริปแล้ว มาลุ้นกันครับว่า ผมจะยังเจอฝนอยู่หรือไม่ครับ