[CR] Walk Alone in Switzerland by ชายเรียกฝน : Day 7 Zermatt, Matterhorn ในวันฟ้าหมอง

กระทู้ก่อนหน้าถ้าใครยังไม่ได้อ่านครับ
http://ppantip.com/topic/35299740 Walk Alone in Switzerland by ชายเรียกฝน : Part เตรียมตัว และ Day 1 Good evening Luzern
http://ppantip.com/topic/35301836 Walk Alone in Switzerland by ชายเรียกฝน : Day 2 Bern & Montreux
http://ppantip.com/topic/35315593 Walk Alone in Switzerland by ชายเรียกฝน : Day 3 Mt.Titlis & Goodbye Luzern
http://ppantip.com/topic/35330138 Walk Alone in Switzerland by ชายเรียกฝน : Day 4 Thun ล่องทะเลสาบโรแมนติกในวันฝนตก
http://ppantip.com/topic/35345421 Walk Alone in Switzerland by ชายเรียกฝน : Day 5 Oeshinensee & Brienz
http://ppantip.com/topic/35356577 Walk Alone in Switzerland by ชายเรียกฝน : Day 6 Basel วันหนีฝนของคนไม่มีแผน

หลังจากห่างหายไปนาน วันหยุดยาวครั้งนี้เลยได้โอกาสมารีวิวต่อครับ หลังจากที่การเดินทางผ่านไปกว่าครึ่งแล้ว วันนี้ผมได้ออกเดินทางไปยัง the Switzerland signature ที่ใครก็ตามที่มาสวิสต้องมาที่แห่งนี้ให้ได้สักครั้ง นั่นคือการชมความงดงามของยอดเขา Matterhorn ในเมืองเล็กๆท่ามกลางหุบเขาที่มีหิมะปกคลุมนามว่า Zermatt

พยากรณ์อากาศบอกว่า วันนี้ฟ้าเปิดและมีแสงแดด เห็นได้จากสัญลักษณ์พระอาทิตย์ขนาดใหญ่บนแผนที่ประเทศ ผมรู้สึกตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูกที่จะได้เห็นภาพยอดเขางดงามสูงเสียดฟ้า ท่ามกลางหิมะสีขาวโพลน ผมวาดภาพตัวเองจิบช็อกโกแลตร้อนๆท่ามกลางทัศนียภาพอันน่าตราตรึงนั้น...

ใช่ครับ...ทั้งหมดเป็นความมโนที่ไม่เป็นจริงแม้แต่ประการเดียว TT

ระหว่างที่รถไฟพุ่งทะยานออกไป ผมมองไม่เห็นท้องฟ้าสีครามเลยแม้แต่นิด แผ่นฟ้าถูกปกคลุมไปด้วยกลุ่มเมฆขนาดมหึมาที่ใช้พัดลมหรือพัดวิเศษของโดราเอมอนเป่าทั้งชาติก็คงไม่หมด ผมถอนหายใจยาวววววววววว ก่อนจะตั้งสติและมองในแง่ดีว่า ข้างบนเราน่าจะอยู่เหนือเมฆก็เป็นได้ อย่าเพิ่งหมดหวังไป

ระหว่างทางผมเจอเพื่อนใหม่เป็นคนไทย 3 คนครับ พวกเขาเป็นนักศึกษามาเรียนต่อที่อังกฤษ จริงๆเคยได้พบกันบนเรือขณะล่องทะเลสาบ Brienz เมื่อสองวันก่อนแล้ว แต่ตอนนั้นยังไม่ได้พูดคุยกันมากนัก หลังจากเม้ามอยกันอย่างบ้าคลั่งระหว่างทาง(เพราะคันปากอย่างมาก ไม่ได้พูดภาษาไทยนาน) เราทั้งสี่ก็มาถึงสถานี Zermatt อากาศหนาวเย็นข้างนอกต้อนรับผม แม้ท้องฟ้ายังมืดหม่นแต่ผมก็รู้สึกได้ว่าการเดินทางในวันนี้น่าจะสนุกมากขึ้นทีเดียว

การท่องเที่ยวหลักๆใน Zermatt นอกจากการเดินเล่นชิวๆในเมืองแล้ว ยังมีอีก 2 ทางคือ นั่งรถไฟสาย Gonergrat ขึ้นเขาไปชม Matterhorn และอีกทางหนึ่งก็คือ Matterhorn glacier paradise ซึ่งต้องนั่งกระเช้าไปครับ ถ้าวางแผนดีๆก็สามารถไปทั้ง 2 ที่ได้ครับ แต่เนื่องจากอากาศหม่นมัว ผมเลยขอไปเส้นทาง Gonergrat ก่อนครับ ถ้าตอนบ่ายฟ้าเปิดค่อยขึ้นกระเช้าไปอีกที

เมื่อออกจากสถานี Zermatt พวกเราไปซื้อตั๋วรถไฟ Gonergratbahn (42 CHF) รถไฟสีแดงอิฐให้ความรู้สึกคลาสสิคจอดอยู่นิ่งๆ ผมกับน้องๆอีกสามคนเดินหาโบกี้ที่ว่าง แต่ดูเหมือนกับจะถูกยึดครองโดยคนจีนเสียแล้ว เสียงช้งเช้งดังออกมาจากหน้าต่างจนผมคิดว่ากำลังอยู่บนแผ่นดินจีน

ระหว่างทางสามารถลงไปยังสถานีอื่นๆได้ตามแผนที่ด้านบนครับ ซึ่งในฤดูร้อนเส้นทาง trekking นั้นน่าเดินชมอย่างมากครับ ในตอนแรกผมวางแผนไว้ว่าจะเดินขึ้นเหมือนกัน แต่ดูจากแผ่นน้ำแข็งและหิมาที่หนาพูนแล้วคงจะเอาไว้โอกาสหน้าครับ



เมื่อขึ้นมาถึงสถานีปลายทาง ผมและน้องๆก็พบตัวเองอยู่ท่ามกลางหมอกขาวและอุณหภูมิ 0 องศา มองไปทางไหนก็เจอและสีขาวโพลนของหิมะที่แทบจะเป็นเนื้อเดียวกับหมอกที่ลอยอยู่ พวกเรากวาดตาหา Matterhorn มองจนรอบ 360 องศาก็ไม่เห็นวี่แววของยอดเขาจอมขี้อายนี้เลย ผมและน้องๆค่อยๆเดินขึ้นไปบนสถานีเพราะรู้สึกหนาวจนจับหัวใจ



ภาพด้านบนคือสถานี Gonergrat ครับ ดูลักษณะรูปอาคารคล้ายกับห้องทดลองอะไรบางอย่าง ด้านในมีภัตตาคาร ร้านขายของที่ระลึก ห้องน้ำไว้บริการครับ ด้านนอกสามารถเดินออกไปชมความงดงามของยอดเขาและธารน้ำแข็งได้ ซึ่งพวกเราทั้ง 4 ก็ได้ออกไปเฝ้ารอการปรากฏกายของ Matterhorn (พร้อมๆกับนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ)

เวลาผ่านไปกว่าชั่วโมงก็ไม่มีทีท่าว่าฟ้าจะเปิด ผมใช้โอกาสนี้เม้ามอยกับน้องๆถึงวิชาที่เรียน จึงได้ทราบถึงความพยายามสุดแสนทรหดของทั้ง 3 ในการเอาชนะความแตกต่างทางภาษาในการเรียนจนการสอบเสร็จสิ้นในที่สุด ผมรู้สึกทึ่งในความขยันของน้องๆทั้ง 3 คน และคิดว่า ถ้าเป็นตัวผมเองมาใช้ชีวิตเป็นปีๆในบ้านเมืองอื่น ในที่ที่ไร้ซึ่งภาษาที่เราคุ้นเคย ผมจะอยู่ได้หรือไม่อย่างไร

มองออกไปผมเห็นนักกระโดดร่มกำลังเตรียมตัวอยู่อีกฝั่งหนึ่งของหน้าผา ในใจคิดว่าพวกเขากล้าจริงๆในวันที่หมอกหนาเช่นนี้ ผมมองสายหมอกค่อยๆกลืนกินพวกเขาเข้าไปทีละคนๆ รู้สึกน่ากลัวขึ้นมาอย่างไรไม่รู้ครับ แต่ก็คิดว่าพวกเขาคงไม่ได้มาเล่นๆแน่ คงมีการเตรียมพร้อมมาอย่างดีแล้วว่าจะต้องไปอย่างไร



ในนาทีนั้นเองก็มีเสียงฮือฮาดังมาจากคนจีนด้านหลังผม เมื่อม่านหมอกค่อยๆเปิดออกและเผยให้เห็นธารน้ำแข็งขนาดมหึมา นักท่องเที่ยวกรูกันเข้าไปถ่ายรูป ผมกะน้องๆก็วิ่งเข้าไปเพื่อจะเก็บภาพ แต่ไม่ทันไรลมก็พัดหมอกเข้ามาปิดบังธารน้ำแข็งจนหมด กว่าหมอกจะเปิดอีกทีเวลาก็ผ่านไปอีกเนิ่นนาน แต่คราวนี้พวกเราได้ที่เด็ดครับ เราเดินลุยหิมะไปจนปลายสุดหน้าผา เมื่อหมอกจางลงเลยได้ภาพสุดอลังการนี้มาครับ



สองภาพล่างคือน้ำแข็งที่กำลังละลายครับ เห็นรูปร่างแปลกดีเลยเก็บภาพมาให้ชมครับ

เราทั้งสี่กระโดดสลับกันถ่ายรูปอยู่นานทีเดียว รู้ตัวอีกทีก็เริ่มหิวกันแล้ว สรุปสุดท้ายหลังจากการรอคอยถึง 4 ชั่วโมง พวกเราทั้งสี่ก็ยอมแพ้ เราคงไม่มีดวงได้พบกับ Matterhorm จริงๆ เธอไม่ยอมปรากฏกายออกมาจากหมอก พวกเราเลยตัดใจเดินเข้าไปหาอาหารกลางวันในภัตตาคารและลงมาเดินเล่นในเมืองครับ

ภายในเมืองมีร้านขายของที่ระลึกมากมายให้เดินช้อปปิ้งครับ รวมถึงร้านขายไอศครีมและร้านอาหารให้ลิ้มลอง นอกจากนี้ยังมี Matterhorn museum ให้เข้าไปชมด้วย




ในระหว่างถ่ายรุปไปเรื่อยๆนั้น ผมก็สังเกตว่านักท่องเที่ยวหลายคนมองขึ้นไปในทิศทางเดียวกัน หลายคนชี้ชวนให้คนอื่นๆมองตามไปด้วย และตามมาด้วยการกระหน่ำกดชัตเตอร์ ผมและน้องๆเงยหน้าขึ้นไปตามทิศนั้น และภาพที่ปรากฏต่อสายตาก็ทำให้ผมเข้าใจคำว่า "ปาฏิหาริย์" นั้นมีอยู่จริง

ในที่สุด "เธอ" ก็เผยตัวออกมา ผมดีใจจนน้ำตาแทบไหล แม้ว่าจะยังมีเมฆปกคลุมร่างอยู่บ้าง แต่พวกเราทั้งสี่ก็ยินดีเป็นที่สุดที่เราก็ได้พบกันจนได้

แม้ว่าวันนี้ผมจะไม่ได้ชม Matterhorn บน Gonergrat
แม้ว่าท้องฟ้าจะปกคลุมไปด้วยเมฆหมอก
แต่การได้เพื่อนใหม่อีกสามคนนั้นเป็นอะไรที่ประเมินค่าไม่ได้เลย รู้สึกดีใจที่ได้มา Zermatt ในครั้งนี้มากครับ ถึงแม้อากาศจะไม่เป็นใจก็ตาม
ชื่อสินค้า:   Switzerland
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่