สวัสดีค่ะ เวลาว่างช่วงปิดเทอม ก่อนที่มหาลัยจะเปิด เราและเพื่อนอีกสามคน วางแผนที่จะไปเที่ยวที่ที่ไม่ไกลจากกรุงเทพมากนัก ค่าใช้จ่ายไม่สูงมาก และที่สำคัญเดินทางสะดวกด้วยรถประจำทางแบบไปเช้าเย็นกลับค่ะ และแล้วก็ลงเอยที่ "เกาะสีชังค่ะ" ถ้าใครสนใจก็ไปเที่ยวกันเลยยยยยย

        เริ่มต้นที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิค่ะ การเดินทางครั้งนี้พวกเราเดินทางด้วยรถตู้ อนุฯ-ศรีราชา คิวอยู่ใกล้ 7-11 แถวตรงกลางเกาะพญาไทค่ะ ค่ารถตู้ คนละ 100 บาท  บอกคนขับรถว่าจะไปท่าเรือเกาะลอย ออกเดินทางเวลา 09.45 น. นั่งรถประมาณชั่วโมงครึ่ง ก็จะถึงบริเวณใกล้ๆโรบินสันศรีราชา คนขับรถจะจอดให้นั่งรถตุ๊กๆต่อไปยังท่าเรือ ค่ารถตุ๊กๆ คนละ 20 บาท




        ตุ๊กๆจะมาส่งที่ท่าเรือเกาะลอย จากนั้นก็ไปซื้อตั๋วเรือไปเกาะสีชัง คนละ 50 บาท  เราต้องรอเรือเที่ยว 12.00 น. รอวนไปค่ะ  บริเวณท่าเรือไม่มีที่หลบแดด พวกเราเลยลงไปนั่งรอในเรือ เรือก็โคลงเคลงเล็กน้อยตามแรงคลื่น (สำหรับคนเมาเรืออย่างเราก็มึนๆเล็กๆเลยหละ)



บริเวณท่าเรือเกาะลอย (ไม่ได้ลงเรือนี้นะ แฮร่ๆ)


เรือจากเกาะสีชังมาเทียบท่าใกล้ๆ


       มุ่งหน้าสู่เกาะสีชัง วันที่พวกเราไปเป็นวันพฤหัส มีนักท่องเที่ยวไม่มากนัก เหมาะกับคนชอบบรรยากาศแบบสงบ ไม่วุ่นวาย
ระหว่างทาง มองออกไปนอกเรือ เห็นเรือสินค้าลอยลำอยู่กลางทะเลมากมาย


        ใช้เวลาประมาณ 45 นาที ถึงแล้ววววว!!! "เกาะสีชัง" ที่เกาะจะมีบริการเช่ารถมอเตอร์ไซต์ หรือ เหมาสองแถว หรือ เหมาตุ๊กๆ พวกเรามากันสี่คนเลือกเหมาตุ๊กๆ เที่ยวรอบเกาะ ราคา 250 บาท คุณลุงคนขับ พาเราไป 4 จุด คุณลุงคนขับรถจะนัดแนะเวลาในการเยี่ยมชมแต่ละจุดประมาณครึ่งชั่วโมง (ซึ่งพวกเราใช้เกิน55555) คุณลุงจะให้เบอร์โทรศัพท์ไว้ เสร็จแล้วก็โทรบอก คุณลุงก็จะมารับไปยังจุดอื่น


ที่แรก ศาลเจ้าพ่อเสือ มาขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อเป็นศิริมงคล


ใกล้ๆกันมีอีกจุดที่สำคัญคือศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ และรอยพระพุทธบาท จะต้องขึ้นบันไดไป ประมาณสองร้อยกว่าขั้น



ระหว่างทางขึ้นมีศาลเจ้าแม่กวนอิม


หลวงพ่อสังกัจจายน์


ศาลพุทธเจ้าหลวง ร.๕ และองค์กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์


วิวเมื่อมองลงมายังด้านล่าง



      
       ต่อมา ช่องอิศริยาภรณ์ (เขาขาด) สถานที่พักผ่อนตากอากาศ ชมวิวทิวทัศน์ ซึ่งขอบอกว่าไม่ผิดหวังเลยจริงๆ วิวสวยมากๆ ร้อนแค่ไหนก็ไม่เกี่ยงเลย แต่ถ้าได้มาเวลาตอนเย็น แดดร่มลมตก คงฟินหน้าดู


เดินชมวิวสวยๆอย่างเพลิดเพลิน

เดินไปเรื่อยๆ.....

งามแท้ๆ

ถึงร้อนแต่เราสู้!

เป็นวิวที่ดูไม่เบื่อเลย ท้องฟ้ากับน้ำทะเล สีเขียวๆของต้นหญ้า ตัดกับสีเทาๆของก้อนหิน



        หิวแล้ววววววว ยังไม่ได้ทานรัยกันเลย คุณลุงใหญ่ คนขับรถ พาพวกเราไปหารัยทานที่หาดถ้ำพัง หาดนี้สามารถเล่นน้ำได้ มีร้านอาหารอยู่หลายร้าน พวกเราเลือกร้านริมสุด ลงบันไดแล้วเดินไปร้านสุดท้าย ชื่อร้าน สาวน้อย



มองออกไปยังทะเล


น้องหมาตัวอ้วนประจำร้าน


        ด้วยความหิวจัด สั่งไปห้าอย่าง ได้เยอะมากๆ อาหารร้านนี้รสชาติดีทีเดียว ตินิดหน่อยที่อาหารทะเลไม่ค่อยสดเท่าไหร่ แต่พวกเราลงความเห็นว่า ไก่ทอดสมุนไพร ตามภาพข้างบนอร่อยที่สุด หอมๆกรอบๆ (เอ๊ะ! มาทะเลแต่ไก่ทอดอร่อย 5555) อิ่มมว๊วกกกก ทานเสร็จเช็คบิล 950 บาท ถูกกว่าที่คิดมากๆ แถมอิ่มมากอีกด้วย



        อิ่มแล้วไปต่อ ที่สุดท้าย พระจุฑาธุชราชฐาน เป็นพระราชวังบนเกาะแห่งเดียวในประเทศไทย ที่ที่มีสะพานอัษฎางค์ สถานที่โด่งดังที่มีละครหรือภาพยนต์มาถ่ายทำมากมาย

อันที่จริงมีคนมาถ่ายพรีเวดดิ้งที่สะพานด้วย

เดินไปบนสะพาน



บรรยากาศเงียบสงบจิงๆ

มาเกาะสีชังแล้วต้องมาให้ถึงที่นี่ "พระจุฑาธุชราชฐาน"



เดินมายังจุดชมวิวอีกฝั่ง ใกล้เรือนไม้ริมทะเล ลมพัดเย็นสบายอากาศดี๊ดี


ไหนๆมาทะเลแล้ว ต้องเอาเท้าจุ่มน้ำทะเลซะหน่อย
      


        น่าเสียดายที่เวลามีน้อย พวกเราต้องกลับให้ทันเรือเที่ยว 17.00 น. ยังเดินชมพระตำหนักต่างๆยังไม่ทั่วเลย ต้องกลับซะแล้วววว
นับเป็นอีกหนึ่งวันดีๆที่"เกาะสีชัง"สร้างประทับใจให้แก่พวกเรา ถ้ามีโอกาสไว้จะมาใหม่แน่นอน และเมื่อเปรียบเทียบเกาะล้านกับเกาะสีชัง เกาะล้านกับเกาะสีชังมีบรรยากาศที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เกาะล้านมีความคึกคักของนักท่องเที่ยวและชาวต่างชาติ แต่ถ้าอยากได้ความรู้สึกสงบแบบธรรมชาติ ขอแนะนำ"เกาะสีชัง"เพราะนักท่องเที่ยวไม่หนาแน่น คนท้องถิ่นมีความเป็นกันเอง เป็นที่ที่มีประวัติศาสตร์และเรื่องราวเยอะแยะมากมายสามารถสอบถามได้จากคนในท้องถิ่น ร้านอาหารก็ราคาไม่แพง วิวสวย ทะเลสวย ถึงน้ำจะไม่ใสมาก แต่ดูรวมๆแล้วมีเสน่ห์เหลือเกิน...

     .............ขอบคุณสำหรับการติดตาม แล้วพบกันใหม่ค่ะ..............