เกิดมา 27 ปีกว่าแล้วก็เพิ่งจะเคยมาเกาะสีชัง จ.ชลบุรี เพราะตั้งใจว่าจะมาพักผ่อน แวะเกาะสักนิดแล้วค่อยกลับ
แล้วนั่นก็ทำให้เรารู้ว่า เกาะสีชังไม่ใช่เกาะเที่ยวชั่วโมงสองชั่วโมงเสร็จกลับขึ้นฝั่ง แต่ก็ยังน่าสนใจในฐานะสถานที่เที่ยววันเดียวเช้าไปเย็นกลับ หรือจะค้างบนเกาะสักคืนก็ได้ตามชอบ
เราพักที่โรงแรมใกล้ๆ ท่าเรือจรินทร์ และโรงแรมก็ใจดีให้จอดรถ (แม้จะ check out ออกแล้ว) แล้วนั่งตุ๊กตุ๊กไปท่าเรือ จากนั้นก็ซื้อตั๋วรอบ 10 โมง ลงเรือได้เลยหากใกล้ถึงเวลา ใช้เวลา 30-45 นาทีโดยประมาณเพราะนั่งเรือลำใหญ่ๆ พอก้าวขึ้นฝั่งปุ๊บ ก็จะมีพี่ๆ ทั้งมอไซค์วิน มอไซค์ให้เช่าและสกายแล็บ ซึ่งเราใช้บริการตัวเลือกหลังสุด เที่ยว 4 จุด 250 เนื่องจากไปกัน 3 คนก็เลยสะดวกกว่าแว้นมอไซค์
จุดแรกที่เราแวะก็คือ
"ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่" ซึ่งศาลเจ้าจะอยู่ข้างบน บันไดขึ้นค่อนข้างสูงชันทำเอาเราลิ้นห้อย ห้อยห้อย แถมด้วยอากาศร้อน เรียกว่าเป็นสถานที่ที่เรียกแรงและเหงื่อจากเราไปมาก
นอกจากจะเป็นศาลเจ้าสำหรับให้นักท่องเที่ยวมาสักการะเสริมบารมีแล้ว ยังเป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวอีกด้วย
ถ้าเขียนชื่อตัวเองบนกระดาษสีแดงแล้วแปะที่ผนังถ้ำ จะเป็นการเสริมบารมี และมีชุดแก้ปีชงด้วย แต่เขียนบนกระดาษสีชมพูแทน
จุดถัดมา เราโทรเรียกพี่คนขับสกายแล็บเพื่อไปส่งเราที่จุด 2 ก็คือ
"จุดชมวิวช่องเขาขาด" หรือช่องอิศริยาภรณ์
จะมีพี่โจรสลัดยืนต้อนรับนักท่องเที่ยวอยู่ตรงนู้นนู้นนู้น
บันไดลงไปสัมผัสกับทะเลด้านล่าง พื้นเป็นหินมากมาย
วิวดีมากแต่อากาศร้อนมาก
จุดถัดมาคือ
หาดถ้ำพัง จุดนี้จะมีเตียงผ้าใบ โต๊ะให้บริการ นั่งฟรี เสียแค่ค่าอาหาร (จ-ศ) ส่วนเสาร์อาทิตย์เห็นแปะป้ายว่ามีเสียค่าโต๊ะ ส่วนเรามีร้านอาหารที่หมายปองอยู่แล้วเลยไม่ได้ใช้บริการร้านอาหารที่นี่ เลยมาแค่ถ่ายรูป เดินเล่นริมหาดทรายแทน
ส่วนร้านอาหารที่ไปอุดหนุน ชื่อว่า "ร้านเล็กท่าวัง" มีอาหารทะเล อาหารไทยในราคาที่ค่อนข้างโอเค จานละร้อยกว่าบาท อร่อยดี หรือจะสั่งอาหารจานเดียวก็มีให้เลือก แต่เราไม่มีรูปอาหารเพราะตอนนั้นนหิวมากกกกกกกก และสิ่งที่ถ่ายเก็บไว้ได้ก็คือ...
เมี้ยวววววว
จุดสุดท้ายของการเที่ยวครั้งนี้คือ
"พระจุฑาธุชราชฐาน" พระราชวังไฮไลต์แห่งเกาะสีชังด้วยสะพานยาวๆ ที่ใครมาก็ไม่พลาดที่จะถ่ายรูปสวยๆ เก็บไว้ ส่วนเราไปไหว้รัชกาลที่ 5 ก่อน
ส่วนเรือนไม้สีเขียวนี้คือจุดให้บริการเครื่องดื่มและที่นั่งหลบร้อนนนนนนนนนน
หลังจากที่เที่ยวชมวังเสร็จแล้ว ก็โทรเรียกให้พี่สกายแล็บโทรมารับเราและพากลับท่าเรือ เนื่องจากเราไม่ได้เที่ยวนอกเส้นทางใดๆ จึงเสียค่าสกายแล็บ 250 บาทตามปกติ จากนั้นก็ซื้อตั๋วที่ท่าเรือ 50 บาท รอบบ่ายสามโมงและลงเรือกลับฝั่ง
เรือลำในรูปเตรียมพาเรากลับบ้าน
บ๊ายบาย เกาะสีชัง ฉันจะคิดถึงเธออออออ
หากมีโอกาสมาอีกรอบ อาจได้กลับมาเที่ยวซ้ำรอบเกาะอีกครั้งนึงค่ะ ประทับใจจริงๆ
ส่วนค่าใช้จ่าย ไม่ได้จดไว้ละเอียดๆ แต่พอจำได้ว่ามีประมาณนี้
ค่าเรือไป-กลับ 100
ค่าสกายแล็บ 250 บาท/ 3 คน ประมาณ 80 กว่าบาท
ค่าข้าว 430 บาท/3 คน ประมาณ 145 บาท
ค่าเครื่องดื่ม 10 บาท (น้ำเปล่า)
นับว่าเสียค่าใช้จ่ายไม่มากเลยเมื่อมาเยือนเกาะสีชัง
ขอบคุณทุกคนที่อ่านถึงตรงนี้ค่ะ
[CR] เที่ยวเกาะสีชังใน 5 ชั่วโมง เวลาน้อย งบน้อยก็เที่ยวได้
เกิดมา 27 ปีกว่าแล้วก็เพิ่งจะเคยมาเกาะสีชัง จ.ชลบุรี เพราะตั้งใจว่าจะมาพักผ่อน แวะเกาะสักนิดแล้วค่อยกลับ
แล้วนั่นก็ทำให้เรารู้ว่า เกาะสีชังไม่ใช่เกาะเที่ยวชั่วโมงสองชั่วโมงเสร็จกลับขึ้นฝั่ง แต่ก็ยังน่าสนใจในฐานะสถานที่เที่ยววันเดียวเช้าไปเย็นกลับ หรือจะค้างบนเกาะสักคืนก็ได้ตามชอบ
เราพักที่โรงแรมใกล้ๆ ท่าเรือจรินทร์ และโรงแรมก็ใจดีให้จอดรถ (แม้จะ check out ออกแล้ว) แล้วนั่งตุ๊กตุ๊กไปท่าเรือ จากนั้นก็ซื้อตั๋วรอบ 10 โมง ลงเรือได้เลยหากใกล้ถึงเวลา ใช้เวลา 30-45 นาทีโดยประมาณเพราะนั่งเรือลำใหญ่ๆ พอก้าวขึ้นฝั่งปุ๊บ ก็จะมีพี่ๆ ทั้งมอไซค์วิน มอไซค์ให้เช่าและสกายแล็บ ซึ่งเราใช้บริการตัวเลือกหลังสุด เที่ยว 4 จุด 250 เนื่องจากไปกัน 3 คนก็เลยสะดวกกว่าแว้นมอไซค์
จุดแรกที่เราแวะก็คือ "ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่" ซึ่งศาลเจ้าจะอยู่ข้างบน บันไดขึ้นค่อนข้างสูงชันทำเอาเราลิ้นห้อย ห้อยห้อย แถมด้วยอากาศร้อน เรียกว่าเป็นสถานที่ที่เรียกแรงและเหงื่อจากเราไปมาก
นอกจากจะเป็นศาลเจ้าสำหรับให้นักท่องเที่ยวมาสักการะเสริมบารมีแล้ว ยังเป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวอีกด้วย
ถ้าเขียนชื่อตัวเองบนกระดาษสีแดงแล้วแปะที่ผนังถ้ำ จะเป็นการเสริมบารมี และมีชุดแก้ปีชงด้วย แต่เขียนบนกระดาษสีชมพูแทน
จุดถัดมา เราโทรเรียกพี่คนขับสกายแล็บเพื่อไปส่งเราที่จุด 2 ก็คือ "จุดชมวิวช่องเขาขาด" หรือช่องอิศริยาภรณ์
จะมีพี่โจรสลัดยืนต้อนรับนักท่องเที่ยวอยู่ตรงนู้นนู้นนู้น
บันไดลงไปสัมผัสกับทะเลด้านล่าง พื้นเป็นหินมากมาย
วิวดีมากแต่อากาศร้อนมาก
จุดถัดมาคือหาดถ้ำพัง จุดนี้จะมีเตียงผ้าใบ โต๊ะให้บริการ นั่งฟรี เสียแค่ค่าอาหาร (จ-ศ) ส่วนเสาร์อาทิตย์เห็นแปะป้ายว่ามีเสียค่าโต๊ะ ส่วนเรามีร้านอาหารที่หมายปองอยู่แล้วเลยไม่ได้ใช้บริการร้านอาหารที่นี่ เลยมาแค่ถ่ายรูป เดินเล่นริมหาดทรายแทน
ส่วนร้านอาหารที่ไปอุดหนุน ชื่อว่า "ร้านเล็กท่าวัง" มีอาหารทะเล อาหารไทยในราคาที่ค่อนข้างโอเค จานละร้อยกว่าบาท อร่อยดี หรือจะสั่งอาหารจานเดียวก็มีให้เลือก แต่เราไม่มีรูปอาหารเพราะตอนนั้นนหิวมากกกกกกกก และสิ่งที่ถ่ายเก็บไว้ได้ก็คือ...
จุดสุดท้ายของการเที่ยวครั้งนี้คือ "พระจุฑาธุชราชฐาน" พระราชวังไฮไลต์แห่งเกาะสีชังด้วยสะพานยาวๆ ที่ใครมาก็ไม่พลาดที่จะถ่ายรูปสวยๆ เก็บไว้ ส่วนเราไปไหว้รัชกาลที่ 5 ก่อน
ส่วนเรือนไม้สีเขียวนี้คือจุดให้บริการเครื่องดื่มและที่นั่งหลบร้อนนนนนนนนนน
หลังจากที่เที่ยวชมวังเสร็จแล้ว ก็โทรเรียกให้พี่สกายแล็บโทรมารับเราและพากลับท่าเรือ เนื่องจากเราไม่ได้เที่ยวนอกเส้นทางใดๆ จึงเสียค่าสกายแล็บ 250 บาทตามปกติ จากนั้นก็ซื้อตั๋วที่ท่าเรือ 50 บาท รอบบ่ายสามโมงและลงเรือกลับฝั่ง
หากมีโอกาสมาอีกรอบ อาจได้กลับมาเที่ยวซ้ำรอบเกาะอีกครั้งนึงค่ะ ประทับใจจริงๆ
ส่วนค่าใช้จ่าย ไม่ได้จดไว้ละเอียดๆ แต่พอจำได้ว่ามีประมาณนี้
ค่าเรือไป-กลับ 100
ค่าสกายแล็บ 250 บาท/ 3 คน ประมาณ 80 กว่าบาท
ค่าข้าว 430 บาท/3 คน ประมาณ 145 บาท
ค่าเครื่องดื่ม 10 บาท (น้ำเปล่า)
นับว่าเสียค่าใช้จ่ายไม่มากเลยเมื่อมาเยือนเกาะสีชัง
ขอบคุณทุกคนที่อ่านถึงตรงนี้ค่ะ