สวัสดี เราชื่อน้ำฝนนะ ^^
ขอเกริ่นๆก่อนว่า นี่เป็นการบันทึกเรื่องราวของตัวเราเอง เกี่ยวกับการเดินตามฝัน การหาทางไปเรียนภาษาอังกฤษในที่ๆใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน สำหรับคนอื่นอาจจะไม่ต้องดิ้นรนอะไร เพราะได้อยู่ในสังคมที่ใช้ภาษาอยู่แล้ว พ่อแม่ส่งไปเรียนบ้าง แต่สำหรับตัวเราเอง เราอยากได้อะไร หรืออยากทำอะไร เราต้องทำมันด้วยตัวเอง พยายามด้วยตัวเองมาตลอด ที่บ้านก็ไม่ได้รวยอะไร แม่สอนให้รู้จักเก็บ หรือถ้าอยากได้อะไรก็เก็บตังซื้อเอง เป็นอย่างนี้ตั้งแต่เด็กๆแล้ว
ก่อนเราจะเรียนจบมหาวิทยาลัย เราคิดว่าภาษาอังกฤษสำคัญ แล้วเราก็รู้สึกชอบภาษาขึ้นมา เราเลยตั้งใจว่าเราต้องเริ่มเก็บตังตั้งแต่ตอนนี้ เพื่อที่ว่าเรียนจบมาจะได้มีเงินเรียนภาษาอย่างที่ตั้งใจ เรามีเวลาเก็บเงิน 1 ปี แต่เราก็ไม่ได้ไปทำงานที่ไหนหรอก อาศัยเก็บจากที่แม่ส่งเงินให้ตอนเรียนนั่นแหละ แค่ต้องประหยัดหน่อย งดเที่ยว บลาๆ ระหว่างนั้นเราก็หาดูตามเว็บว่ามีที่ไหนให้ทุนเรียนภาษาบ้าง(แต่ทุนพวกนั้นมันต้องเก่งภาษาก่อน) เราเลยดูว่าที่ไหนบ้างที่มีโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษแบบถูกๆ เราเจออยู่ที่นึงคือที่อินเดีย ค่าเรียน ค่ากิน ค่าอยู่ ถูกมาก เลยตั้งใจว่าเรียนจบจะไปเรียนที่อินเดียนี่แหละ ไม่เปลี่ยนใจแน่ๆ (จองตั๋วเรียบร้อย) แต่ช่วงก่อนเรียนจบนั้น มีข่าวออกมาว่าจะมีการสอบบรรจุ แล้วจะเปิดสอบช่วงวันที่เราจะไปอินเดียพอดี โอ้ยยย !! เครียดไปที จะเอาไงดี ถามหลายๆคนก็บอกเรียนมาแล้วต้องสอบก่อน เราก็เลย เอาวะ สอบก็สอบ เราเลยพับโครงการไปอินเดียไว้ (เสียดายค่าตั๋วเครื่องบินมากๆ ทั้งไป ทั้งกลับ ...เห้อ)
แต่ !! ความคิดมันก็ฝุดขึ้นมาอีกว่า .. จะเป็นไปได้มั้ยที่จะไปอเมริกา เราเลยหาข้อมูลว่ามีโครงการอะไรบ้างที่ไปอเมริกาได้
เราเจอโครงการ Work and Travel แต่พอดูรายละเอียดแล้วไม่โอเคอะ คือค่าโครงการก็แพง ถ้าไปก็ได้ไปอยู่ไม่นาน แล้วยังต้องไปเจอนายจ้างที่ไม่โอเคอีก(หาข้อมูลจากหลายๆทาง) แล้วเรามาเจอโครงการออแพร์อีกโครงการ ซึ่งดูรายละเอียดแล้วโอเคเลยนะ ฮ่าาาาา เข้าทางเราเลย ค่าโครงการก็รวมๆแล้วไม่เกิน 6 หมื่น ค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าที่พักก็ไม่ต้องเสีย โฮสออกให้หมดเลย แถมยังได้เงินรายอาทิตย์อีก มีทุนให้เรียน ที่สำคัญที่สุดเลยคือ โครงการนี้อยู่ได้ 1-2 ปีแหน่ะ แถมยังได้มีโอกาสเที่ยวที่อเมริกาอีก คุณพระ!! เข้าทางน้ำฝนเลย ฮ่าาาาา และมันก็เป็นจุดเริ่มต้นของการสมัครโครงการออแพร์ ^_____^
4 พฤษภาคม 2559
เป็นวันที่ไปสมัครโครงการออแพร์ หลังจากซุ่มเก็บข้อมูลมานาน ฮ่าาาา (คิดในใจว่าถ้าไม่สมัครตอนนี้ก็ไม่ได้ไปซักที)ก็เลยตัดสินใจสมัคร
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
บริษัทที่เราสมัคร
หลังจากสมัคร เอเจนก็ให้ไปเก็บชั่วโมงเด็กเล็กๆ เพราะเราไม่มีประสบการณ์เลี้ยงเด็กเล็กเลย มีแต่ประสบการณ์เลี้ยงเด็กโตๆ เพราะเราเรียนครูมาไง ได้ฝึกสอนในโรงเรียนตั้งปีนึงเลยได้เปรียบนิดนึง เก็บชั่วโมงเด็กเล็กเพิ่มแค่นิดหน่อย ส่วนเด็กเล็กเราไปเก็บชั่วโมงกับเพื่อน เพราะเพื่อนเรามีลูก เลยสะดวกหน่อย เราก็แค่ต้องเก็บภาพ ถ่ายวิดีโอตอนอยู่กับเด็ก ตอนทำกิจกรรมร่วมกันอะไรพวกนี้ไว้ เพื่อที่ว่าจะได้นำไปประกอบกับวิดีโอนำเสนอของเราเอง... แต่มาเสียเปรียบตรงภาษาอังกฤษนี่แหละ ฮึๆ
ที่เสียเปรียบเพราะ เราต้องผ่านการตอบคำถามกับเอเจนเป็นภาษาอังกฤษก่อน โอยยยย เจอคำถามทีอึ้งกิมกี้เลยค่ะ เอเจนให้กลับไปซ้อมใหม่ พร้อมเมื่อไหร่ค่อยกลับไปตอบคำถามใหม่ ยากอยู่นะ ภาษาห่วยๆของเราเอง แต่มันไม่ทำให้ยกเลิกความคิดหรอก ใช้ความหน้าด้านหน้ามึนให้เป็นประโยชน์ ฮ่าาาา ฉันจะต้องทำได้ !! (บอกกับตัวเอง เพื่ออนาคตตัวเอง) หลังจากที่พร้อมแล้วเรากลับไปใหม่ เอเจนถามคำถามเดิมแหละ แต่เวลาตอบเราก็ตอบแบบสั้นๆ แบบอยากให้จบเร็วๆ แต่เอเจนก็ถามเพิ่มอีก คุณพระ!! รู้เรื่องนะว่าเค้าถามอะไร บางทีเรานึกคำตอบได้แล้ว แต่ดันลืมศัพท์ที่จะตอบออกมา...
มือไม้นี่เย็นไปหมดเลยค่ะ ธรรมดาของเราเอง ฮ่าาาา แต่หลังจากตอบคำถามกับเอเจนรอบสองแล้ว เอเจนก็ทำใจให้ผ่านๆไป ฮ่าาา ดีใจแบบ เห้ย ผ่านละ (ถึงในใจจะรู้ว่าเราต้องไปฝึกภาษาอีกเยอะนะ) แต่ก็เอาน่าาา เราต้องเอาตัวรอดได้สิ
หลังจากสมัครแล้วเอเจนให้เราไปตรวจสุขภาพตามรูปแบบที่บริษัทต้องการ เราก็ไปตรวจก็จ่ายไป 900 กว่าบาท(อันนี้มันก็แล้วแต่นะว่า แต่ละ ร.พ.จะคิดเท่าไหร่)
เอกสารที่เราต้องใช้ก็ครบหมดแล้ว แต่ เอ๊ะ! ยังขาดใบขับขี่รถยนต์ เราเลยสมัครเรียนขับรถกับโรงเรียนสอนขับรถที่นนทบุรี คือที่ไปสมัครก็เพราะ เรียนแล้วสอบที่โรงเรียนเลย ไม่ต้องรอคิวนานเหมือนที่ขนส่ง เราเรียกเรียนเกียร์ออโต้ เรียน 5 วัน วันละ 2 ชั่วโมง แล้วแต่ว่าเราจะลงเรียนเวลาไหน เรียนเสร็จสอบวันอาทิตย์เลย แล้วทางโรงเรียนจะออกใบรับรองมาให้ ให้เราเอาไปยื่นที่ขนส่งแล้วทำบัตรได้เลยไม่ต้องสอบอีก เสียค่าทำบัตร 300 กว่าบาท และเราก็ได้ใบขับขี่เรียบร้อย
ทุกอย่างพร้อม เอเจนก็ให้เรากรอกข้อมูลของเราลงเว็บของออแพร์ เราก็กรอกไปเหมือนที่เคยเขียนในเอกสารตอนสมัคร ต้องแนบเอกสารหลายอย่างมาก ทั้งรูปภาพ วิดีโอ บลาๆ ยากก็ตรงวิดีโอนำเสนอตัวเองนี่แหละ ทำตอนแรก อัดอยู่ในห้อง เอเจนบอกว่าไม่โอเคเลย ให้อัดใหม่ ให้ออกไปอัดข้างนอก ให้มันดูน่าสนใจหน่อย เราก็ไปอัดใหม่ค่ะ (พูดกับกล้องมันแสดงอารมณ์ยากชะมัด ไม่สวยเลย)
แต่ก็ทำเสร็จ อัพใหม่ เอเจนดูแล้วบอกว่า ดีกว่าเดิมนิดนึง (หือ!!) เราเลยบอกเอาอันนี้แหละพี่ อัพเลย เอเจนก็ตรวจสอบข้อมูลของเราที่จะใช้ออนไลน์ทั้งหมด ต้องแก้ตรงไหนเค้าก็ทำให้เราเลย เราก็แค่รอ....รอวันที่ได้ทำแบบทดสอบจิตวิทยา
28/07/2016
วันนี้เป็นวันที่ดีใจมากๆ ฮ่าาา เพราะเราเองรอมานาน รอวันที่จะได้ทำแบบทดสอบจิตวิทยา เพราะถ้าผ่านขั้นตอนนี้ไปได้เราก็จะได้ออนไลน์เต็มรูปแบบแล้วววววว...เย้ๆ
แต่จะว่าไปมันก็ยากเหมือนกันนะกว่าจะผ่านการตอบคำถามกับเอเจน แล้วต้องมาทำแบบทดสอบจิตวิทยาอีก ข้อมูลทั้งหมดเป็นภาษาอังกฤษ ศัพท์ยากๆทั้งนั้น ซึ่งเราเองบอกเลยว่าไม่เก่งภาษาอังกฤษเลย ถ้าจัดลำดับก็อยู่ในขั้น LOW เลยล่ะ แต่เราก็พอฟังจับใจความได้นะ แบบการสนทนาทั่วไปอะไรแบบนั้น เพราะศัพท์มันไม่ได้ยากอะไร เราอาศัยดูหนังซาวแทร็ค ดูซีรี่ย์ฝรั่งซับไทย แต่ถ้าให้พูดสื่อสารก็ได้แค่นิดๆหน่อยๆแค่นั้น
แต่ แต่ แต่ เพราะเราไม่เก่งภาษาอังกฤษนี่แหละเราถึงอยากไปเป็นออแพร์ที่อเมริกา เพื่อจะได้ไปฝึกภาษาที่โน้น นอกจากเรื่องภาษาแล้วยังจะได้เที่ยวอีก ฮ่าาาา
ดูฝันสูงใช่มั้ยล่ะ แต่บอกเลยว่าฝันสูงจริง ฮ่าาาา แต่เราก็เดินตามฝันได้ครึ่งทางแล้วนะ อิอิ (ดีใจแบบระริกระรี้)
หน้าตาผลการทำแบบทดสอบบางส่วน
ช่วงนี้ก็ต้องรอทางอเมริกาตรวจสอบข้อมูลออนไลน์ของเราก่อน ถึงจะได้ออไลน์เต็มรูปแบบ ...
3/08/2016
วันนี้ตื่นแต่เช้าเพราะได้ยินเสียงเจ้งเตือนอีเมลดัง
พอเปิดดูก็พบว่าทางออแพร์แคร์ที่เมกาส่งมา ว่าเราได้ออนไลน์แล้ว
ในที่สุดก็ได้ออนไลน์ซักที ฮ่าาาาาา จากนี้ก็รอโฮสเข้ามาวิว ขอให้ได้ขอให้โดนโฮสดีๆ สาธุ
เดี๋ยวกลับมาอัพเดตใหม่ หลังจากที่มีโฮสมาวิว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://web.facebook.com/namfonws17
เฟสบุ๊คเราเองเผื่อมีใครอยากจะถามอะไรเกี่ยวกับตอนสมัครออแพร์
กระทู้ของคนไม่เก่งภาษาอังกฤษ แต่อยากจะไปเป็นออแพร์เพื่อภาษาอังกฤษ
ขอเกริ่นๆก่อนว่า นี่เป็นการบันทึกเรื่องราวของตัวเราเอง เกี่ยวกับการเดินตามฝัน การหาทางไปเรียนภาษาอังกฤษในที่ๆใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน สำหรับคนอื่นอาจจะไม่ต้องดิ้นรนอะไร เพราะได้อยู่ในสังคมที่ใช้ภาษาอยู่แล้ว พ่อแม่ส่งไปเรียนบ้าง แต่สำหรับตัวเราเอง เราอยากได้อะไร หรืออยากทำอะไร เราต้องทำมันด้วยตัวเอง พยายามด้วยตัวเองมาตลอด ที่บ้านก็ไม่ได้รวยอะไร แม่สอนให้รู้จักเก็บ หรือถ้าอยากได้อะไรก็เก็บตังซื้อเอง เป็นอย่างนี้ตั้งแต่เด็กๆแล้ว
ก่อนเราจะเรียนจบมหาวิทยาลัย เราคิดว่าภาษาอังกฤษสำคัญ แล้วเราก็รู้สึกชอบภาษาขึ้นมา เราเลยตั้งใจว่าเราต้องเริ่มเก็บตังตั้งแต่ตอนนี้ เพื่อที่ว่าเรียนจบมาจะได้มีเงินเรียนภาษาอย่างที่ตั้งใจ เรามีเวลาเก็บเงิน 1 ปี แต่เราก็ไม่ได้ไปทำงานที่ไหนหรอก อาศัยเก็บจากที่แม่ส่งเงินให้ตอนเรียนนั่นแหละ แค่ต้องประหยัดหน่อย งดเที่ยว บลาๆ ระหว่างนั้นเราก็หาดูตามเว็บว่ามีที่ไหนให้ทุนเรียนภาษาบ้าง(แต่ทุนพวกนั้นมันต้องเก่งภาษาก่อน) เราเลยดูว่าที่ไหนบ้างที่มีโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษแบบถูกๆ เราเจออยู่ที่นึงคือที่อินเดีย ค่าเรียน ค่ากิน ค่าอยู่ ถูกมาก เลยตั้งใจว่าเรียนจบจะไปเรียนที่อินเดียนี่แหละ ไม่เปลี่ยนใจแน่ๆ (จองตั๋วเรียบร้อย) แต่ช่วงก่อนเรียนจบนั้น มีข่าวออกมาว่าจะมีการสอบบรรจุ แล้วจะเปิดสอบช่วงวันที่เราจะไปอินเดียพอดี โอ้ยยย !! เครียดไปที จะเอาไงดี ถามหลายๆคนก็บอกเรียนมาแล้วต้องสอบก่อน เราก็เลย เอาวะ สอบก็สอบ เราเลยพับโครงการไปอินเดียไว้ (เสียดายค่าตั๋วเครื่องบินมากๆ ทั้งไป ทั้งกลับ ...เห้อ)
แต่ !! ความคิดมันก็ฝุดขึ้นมาอีกว่า .. จะเป็นไปได้มั้ยที่จะไปอเมริกา เราเลยหาข้อมูลว่ามีโครงการอะไรบ้างที่ไปอเมริกาได้
เราเจอโครงการ Work and Travel แต่พอดูรายละเอียดแล้วไม่โอเคอะ คือค่าโครงการก็แพง ถ้าไปก็ได้ไปอยู่ไม่นาน แล้วยังต้องไปเจอนายจ้างที่ไม่โอเคอีก(หาข้อมูลจากหลายๆทาง) แล้วเรามาเจอโครงการออแพร์อีกโครงการ ซึ่งดูรายละเอียดแล้วโอเคเลยนะ ฮ่าาาาา เข้าทางเราเลย ค่าโครงการก็รวมๆแล้วไม่เกิน 6 หมื่น ค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าที่พักก็ไม่ต้องเสีย โฮสออกให้หมดเลย แถมยังได้เงินรายอาทิตย์อีก มีทุนให้เรียน ที่สำคัญที่สุดเลยคือ โครงการนี้อยู่ได้ 1-2 ปีแหน่ะ แถมยังได้มีโอกาสเที่ยวที่อเมริกาอีก คุณพระ!! เข้าทางน้ำฝนเลย ฮ่าาาาา และมันก็เป็นจุดเริ่มต้นของการสมัครโครงการออแพร์ ^_____^
4 พฤษภาคม 2559
เป็นวันที่ไปสมัครโครงการออแพร์ หลังจากซุ่มเก็บข้อมูลมานาน ฮ่าาาา (คิดในใจว่าถ้าไม่สมัครตอนนี้ก็ไม่ได้ไปซักที)ก็เลยตัดสินใจสมัคร
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
หลังจากสมัคร เอเจนก็ให้ไปเก็บชั่วโมงเด็กเล็กๆ เพราะเราไม่มีประสบการณ์เลี้ยงเด็กเล็กเลย มีแต่ประสบการณ์เลี้ยงเด็กโตๆ เพราะเราเรียนครูมาไง ได้ฝึกสอนในโรงเรียนตั้งปีนึงเลยได้เปรียบนิดนึง เก็บชั่วโมงเด็กเล็กเพิ่มแค่นิดหน่อย ส่วนเด็กเล็กเราไปเก็บชั่วโมงกับเพื่อน เพราะเพื่อนเรามีลูก เลยสะดวกหน่อย เราก็แค่ต้องเก็บภาพ ถ่ายวิดีโอตอนอยู่กับเด็ก ตอนทำกิจกรรมร่วมกันอะไรพวกนี้ไว้ เพื่อที่ว่าจะได้นำไปประกอบกับวิดีโอนำเสนอของเราเอง... แต่มาเสียเปรียบตรงภาษาอังกฤษนี่แหละ ฮึๆ
ที่เสียเปรียบเพราะ เราต้องผ่านการตอบคำถามกับเอเจนเป็นภาษาอังกฤษก่อน โอยยยย เจอคำถามทีอึ้งกิมกี้เลยค่ะ เอเจนให้กลับไปซ้อมใหม่ พร้อมเมื่อไหร่ค่อยกลับไปตอบคำถามใหม่ ยากอยู่นะ ภาษาห่วยๆของเราเอง แต่มันไม่ทำให้ยกเลิกความคิดหรอก ใช้ความหน้าด้านหน้ามึนให้เป็นประโยชน์ ฮ่าาาา ฉันจะต้องทำได้ !! (บอกกับตัวเอง เพื่ออนาคตตัวเอง) หลังจากที่พร้อมแล้วเรากลับไปใหม่ เอเจนถามคำถามเดิมแหละ แต่เวลาตอบเราก็ตอบแบบสั้นๆ แบบอยากให้จบเร็วๆ แต่เอเจนก็ถามเพิ่มอีก คุณพระ!! รู้เรื่องนะว่าเค้าถามอะไร บางทีเรานึกคำตอบได้แล้ว แต่ดันลืมศัพท์ที่จะตอบออกมา...
มือไม้นี่เย็นไปหมดเลยค่ะ ธรรมดาของเราเอง ฮ่าาาา แต่หลังจากตอบคำถามกับเอเจนรอบสองแล้ว เอเจนก็ทำใจให้ผ่านๆไป ฮ่าาา ดีใจแบบ เห้ย ผ่านละ (ถึงในใจจะรู้ว่าเราต้องไปฝึกภาษาอีกเยอะนะ) แต่ก็เอาน่าาา เราต้องเอาตัวรอดได้สิ
หลังจากสมัครแล้วเอเจนให้เราไปตรวจสุขภาพตามรูปแบบที่บริษัทต้องการ เราก็ไปตรวจก็จ่ายไป 900 กว่าบาท(อันนี้มันก็แล้วแต่นะว่า แต่ละ ร.พ.จะคิดเท่าไหร่)
เอกสารที่เราต้องใช้ก็ครบหมดแล้ว แต่ เอ๊ะ! ยังขาดใบขับขี่รถยนต์ เราเลยสมัครเรียนขับรถกับโรงเรียนสอนขับรถที่นนทบุรี คือที่ไปสมัครก็เพราะ เรียนแล้วสอบที่โรงเรียนเลย ไม่ต้องรอคิวนานเหมือนที่ขนส่ง เราเรียกเรียนเกียร์ออโต้ เรียน 5 วัน วันละ 2 ชั่วโมง แล้วแต่ว่าเราจะลงเรียนเวลาไหน เรียนเสร็จสอบวันอาทิตย์เลย แล้วทางโรงเรียนจะออกใบรับรองมาให้ ให้เราเอาไปยื่นที่ขนส่งแล้วทำบัตรได้เลยไม่ต้องสอบอีก เสียค่าทำบัตร 300 กว่าบาท และเราก็ได้ใบขับขี่เรียบร้อย
ทุกอย่างพร้อม เอเจนก็ให้เรากรอกข้อมูลของเราลงเว็บของออแพร์ เราก็กรอกไปเหมือนที่เคยเขียนในเอกสารตอนสมัคร ต้องแนบเอกสารหลายอย่างมาก ทั้งรูปภาพ วิดีโอ บลาๆ ยากก็ตรงวิดีโอนำเสนอตัวเองนี่แหละ ทำตอนแรก อัดอยู่ในห้อง เอเจนบอกว่าไม่โอเคเลย ให้อัดใหม่ ให้ออกไปอัดข้างนอก ให้มันดูน่าสนใจหน่อย เราก็ไปอัดใหม่ค่ะ (พูดกับกล้องมันแสดงอารมณ์ยากชะมัด ไม่สวยเลย)
แต่ก็ทำเสร็จ อัพใหม่ เอเจนดูแล้วบอกว่า ดีกว่าเดิมนิดนึง (หือ!!) เราเลยบอกเอาอันนี้แหละพี่ อัพเลย เอเจนก็ตรวจสอบข้อมูลของเราที่จะใช้ออนไลน์ทั้งหมด ต้องแก้ตรงไหนเค้าก็ทำให้เราเลย เราก็แค่รอ....รอวันที่ได้ทำแบบทดสอบจิตวิทยา
28/07/2016
วันนี้เป็นวันที่ดีใจมากๆ ฮ่าาา เพราะเราเองรอมานาน รอวันที่จะได้ทำแบบทดสอบจิตวิทยา เพราะถ้าผ่านขั้นตอนนี้ไปได้เราก็จะได้ออนไลน์เต็มรูปแบบแล้วววววว...เย้ๆ
แต่จะว่าไปมันก็ยากเหมือนกันนะกว่าจะผ่านการตอบคำถามกับเอเจน แล้วต้องมาทำแบบทดสอบจิตวิทยาอีก ข้อมูลทั้งหมดเป็นภาษาอังกฤษ ศัพท์ยากๆทั้งนั้น ซึ่งเราเองบอกเลยว่าไม่เก่งภาษาอังกฤษเลย ถ้าจัดลำดับก็อยู่ในขั้น LOW เลยล่ะ แต่เราก็พอฟังจับใจความได้นะ แบบการสนทนาทั่วไปอะไรแบบนั้น เพราะศัพท์มันไม่ได้ยากอะไร เราอาศัยดูหนังซาวแทร็ค ดูซีรี่ย์ฝรั่งซับไทย แต่ถ้าให้พูดสื่อสารก็ได้แค่นิดๆหน่อยๆแค่นั้น
แต่ แต่ แต่ เพราะเราไม่เก่งภาษาอังกฤษนี่แหละเราถึงอยากไปเป็นออแพร์ที่อเมริกา เพื่อจะได้ไปฝึกภาษาที่โน้น นอกจากเรื่องภาษาแล้วยังจะได้เที่ยวอีก ฮ่าาาา
ดูฝันสูงใช่มั้ยล่ะ แต่บอกเลยว่าฝันสูงจริง ฮ่าาาา แต่เราก็เดินตามฝันได้ครึ่งทางแล้วนะ อิอิ (ดีใจแบบระริกระรี้)
ช่วงนี้ก็ต้องรอทางอเมริกาตรวจสอบข้อมูลออนไลน์ของเราก่อน ถึงจะได้ออไลน์เต็มรูปแบบ ...
3/08/2016
วันนี้ตื่นแต่เช้าเพราะได้ยินเสียงเจ้งเตือนอีเมลดัง พอเปิดดูก็พบว่าทางออแพร์แคร์ที่เมกาส่งมา ว่าเราได้ออนไลน์แล้ว ในที่สุดก็ได้ออนไลน์ซักที ฮ่าาาาาา จากนี้ก็รอโฮสเข้ามาวิว ขอให้ได้ขอให้โดนโฮสดีๆ สาธุ
เดี๋ยวกลับมาอัพเดตใหม่ หลังจากที่มีโฮสมาวิว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้