กระทู้นี้สำหรับคนไทยทุกเพศทุกวัยที่ชื่นชอบการมีชีวิตสโลไลฟ์ วันๆ ไม่ต้องทำอะไร ได้อยู่ในห้องแอร์ทั้งวัน (recommend สำหรับหนุ่มๆนะคะ เพราะทริปนี้ผู้หญิงเยอะมากกกก)
สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ทุกคน วันนี้เราจะมารีวิวการไปปฏิบัติธรรมที่ยุวพุทธิกสมาคม 7 คืน 8 วัน ในหลักสูตรพัฒนาจิตให้เกิดปัญญาและสันติสุข โดยคุณแม่ ดร. สิริ กรินชัย นะคะ
ที่พิมไว้จะค่อนข้างยาวมาก เพราเขียนทีเดียวจบ ถ้าใครขี้เกียจอ่านรายละเอียดยิบย่อยเราก็ spoil ไว้ให้นะคะ สามารถอ่านข้ามเพลินๆ ไปได้เลย
ตัวเราได้มีโอกาสไปเข้าร่วมการปฏิบัติธรรมดังกล่าวเมื่อวันที่ 5-12 กค 2559 ที่ผ่านมานี้ เป็นรุ่นที่6/2559 ยุวพุธิกสมาคมที่เราไปเป็นศูนย์1 ตั้งอยู่ที่ถนนเพชรเกษม 54 แยก 6 เขตภาษีเจริญ กทม. นะคะ
ด้านล่างนี้จะเป็นลิ้งค์เว็บไชต์ ตารางหลักสูตรต่างๆในแต่ละเดือน และพวกวิธีการสมัครนะคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เริ่มแรกเราก็ไปดูตารางในแต่ละเดือนก่อนเลยค่ะ สามารถเลือกหลักสูตรต่างๆ ตามความชอบ และเวลาว่างได้เลยนะคะ โดยหลักสูตรคุณแม่สิริ นี้จะเปิดทุกเดือนเลยค่ะ
http://www.ybat.org/v5/backoffice/mydownload/table_2559.xls
หลังจากนั้นเราก็เข้าไปสมัครสมาชิกแล้วก็สมัครเข้าร่วมปฏิธรรมได้เลยค่า เค้าจะมีเขียนอธิบายวิธีไว้
http://www.ybat.org/v5/index.php
หลังจากสมัครและยืนยันเรียบร้อยแล้ว เราก็ปริ้นใบยืนยันนั้นนำไปวันลงทะเบียน แต่ถ้าใครยืนยันแล้วไม่ไป เค้าก็จะจำกัดสิทธิ์ไม่ให้สมัครอีก 6 เดือนนะคะ
ขอเท้าความไปตั้งแต่แรกก่อนที่เราจะไปเข้าปฏิบัติธรรมกันก่อนนะคะ ว่าทำไมเราถึงได้มีโอกาสไปปฏิบัติธรรมที่นี่
เริ่มแรกเลยก็คือด้วยความที่เราเองก็เป็นวัยรุ่นชาวพุทธทั่วไปที่ไม่ได้มีความสนใจหรือผูกพันธ์ลึกซึ้งกับพระพุทธศาสนามากมายอะไรนัก เรียกได้ว่าปีนึงจะเข้าวัดทำบุญประมาณ 2-3 ครั้งเท่านั้นเอง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้spoil) ส่วนตัวเป็นคนไม่ชอบการตักบาตร เข้าวัด (บางครั้งรู้สึกว่าวัดน่ากลัวแทนที่จะสงบ) ฟังเทศน์ฟังธรรมอะไรเท่าไหร่ เพราะไม่ได้รู้สึกศรัทธาอย่างจริงจังอะไรมากมาย และส่วนมากเวลาไปตักบาตรหรือร่วมกิจกรรมเวียนเทียนอะไรก็แล้วแต่ จะรู้สึกว่าคนเยอะ ร้อน และอึดอัด (ถอดรองเท้าแล้วก็หายาก T T) ฟังธรรมทีก็จะหลับ ฟังไปก็ไม่รู้เรื่อง พระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าก็ช่างเข้าใจยากกกก อ่านแล้วก็งงจริงๆ ไม่ชอบเลย
พูดมาถึงตรงนี้หลายคนอาจจะคิดว่าเราเป็นพวกแอนตี้พระพุทธศาสนาหรือป่าว แต่ความจริงไม่ใช่นะคะเราก็รับๆ จำๆ คำสอนของพระพุทธเจ้ามาบ้าง แต่คิดว่า เออ มันก้แอบยากนะ ที่เราจะนำมาปรับใช้กับชีวิตประจำวันจริงๆ
ถึงอย่างนั้นเราก็มีความรู้สึกอยากไปลองปฏิบัติธรรมแบบจิงๆจังๆ กับเค้าบ้างซักที ที่ใครๆ เค้าก็ชอบไปกัน คือรู้ว่ามันดี พระพุทธศาสนาน่ะ แต่ที่เรียนๆกันมาก็เป็นแต่ทฤษฎีที่สุดท้ายแล้วไม่รู้ว่าแก่นแท้จริงๆมันคืออะไรกันแน่
จนกระทั่งมาถึงช่วงก่อนหน้านี้ที่เราเรียนจบพอดี และยังไม่ได้เริ่มทำงาน ก็เรียกได้ว่านอนง่วงเปื่อยๆ อยู่บ้านแบบฟูลไทม์กันเลยทีเดียว 5555555 วันๆ ก็นั่งเล่นเฟสค่ะ เล่นวนไปเรื่อยๆ และสไลด์ลงมาเจอเพื่อนคนนึงเช็คอินที่ยุวพุธิกสมาคม และขึ้นสเตตัสว่าไม่อยู่นะวันนี้ถึงวันนี้ เราก็เอ๊ะ ชั้นจำได้นะ เพื่อนคนนี้ดูเป็นคนชอบปฏิบัติธรรม และเคยเห็นว่าเค้าเคยไปที่ยุวพุทธฯ มาก่อนแล้วนี่นา หรือว่ามันจะดี55555 คิดในใจคนเดียวนะคะ (คือเพื่อนคนนี้ก็เป็นวัยรุ่นทั่วๆ ไปน่ารัก นิสัยดี และก็มีไปปฏิบัติธรรมเรื่อยๆ เราก็เริ่มรู้สึกเออมันต้องมีอะไรดีแน่ๆ)
ทีนี้เราไปกินข้าวแล้วเจอเพื่อนก็เลยลองถามเรื่องยุวพุทธ ว่าแกรู้จักที่นี่มั้ย ชั้นเห็นเพื่อนคนนี้ไปมา เพื่อนสองสามคนในนั้นก็ตอบว่ารู้จักกก พวกเราก็เคยไปแต่เป็นตอนหลักสูตรเยาวชนอะไรงี้ มันดี เราก็อ้อเหรอ เพื่อนก็คอนเฟิร์มกันไป เราก็โอเค กลับบ้านมานั่งเปิดหาหลักสูตรเลยค่ะ อ่านรีวิว มีอยู่สองสามอัน ทุกอันดูเชียร์ให้ไปมากค่ะ ตัดสินใจ ไปค่ะ ไปคนเดียวเนี่ยแหละค่ะ 5555555 เพราะเพื่อนๆ เริ่มทำงานหรือไม่ก็ติดธุระกันหมด ชั้นลุยเดียวก็ได้จ่ะ ว่าง อยากไป เครียดด้วย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ตอนช่วงเรียนเราจะมีความเครียดเรื่องการเรียน เพราะไม่ชอบสิ่งที่เรียนเอามากๆ รู้สึกไม่ใช่สุดๆ ตอนเข้าเราก็เอาที่พ่อแม่สบายใจ ไม่ได้เรียนที่อยากเรียน พอเข้ามาแล้วก็ไม่ไหวจริงๆ แต่จะซิ่วก็ไม่ได้เพราะตอนที่รู้ว่าไม่ไหวแล้วก็ปี3 เข้าไปแล้ว ช่วงนั้นก็เลยรู้สึกเศร้าสุดๆ แล้วความรู้สึกเครียดก็ฝังรากลึกยาวมาเรื่อยๆ จนเรียนจบค่ะ
พอเราตัดสินใจว่าจะไปก็บอกพ่อแม่ บอกแฟน ทั้งพ่อแม่และแฟนเราไม่ได้ฝักใฝ่ทางด้านนี้อยู่แล้ว เค้าก็เป็นห่วงว่าไปคนเดียว ตั้ง 7คืน 8วัน โทรศัพท์ก็ไม่ให้ใช้ ไปหาก็ไม่ได้ พ่อเราก็ไม่ค่อยอยากให้ไป แต่เราคิดว่าเราอยากไปจริงๆ ก็ซุ่มเก็บกระเป๋าค่ะ (บอกรอบเดียวจบไม่พูดให้ยาวเดี๋ยวไม่ให้ไป) ชุดที่ใช้ก็เป็นเสื้อขาวกางเกงขาว เสื้อมีแขน ตัวยาวถึงสะโพก ไม่บาง ไม่รัดรูป กางเกงก็สีขาวยาวเลยเข่า ไม่บาง ไม่รัดรูป พูดเหมือนง่ายนะคะ แต่ว่าคนอะไรจะมีเสื้อขาวกางเกงขาวพอขนาดเป็นอาทิตย์คะ เราก็ซื้อใหม่บ้าง แม่ก็ไปขุดเสื้อที่ใส่ไม่ได้แล้วมาให้บ้าง แต่ชุดนอนสีปกติได้นะคะ โอเคค่ะ พร้อมแล้ว
มาถึงวันไปค่ะ เค้าให้ลงทะเบียนตั้งแต่ 7.30 – 9.00 น. เราก็ควรไปถึงก่อน 9โมง เพราะต้องเช็คเอกสารเล็กน้อย ฝากโทรศัพท์ และเครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งหมด (ไดร์เป่าผมก็ไม่ได้นะคะ ทีแรกก็สงสัยว่าแล้วผมชั้นจะแห้งมั้ยล่ะ แต่เค้ามีพัดลมยักษ์ให้ค่ะ ก็ไปยืนเป่าได้ เพราะเป็นห้องนอนรวม 40 และ 60 คน ถ้าห้าทุ่มเที่ยงคืนยังเป่าผมกันก็ตายค่ะ คนอื่นไม่ได้นอน หรือใครฟิตตื่นมาสระผมเป่าผมตอนตีสามก็นาฬิกาปลุกดีๆนี่แหละค่ะ) หลังจากนั้นก็ให้เอาของขึ้นไปเก็บบนห้อง ห้องที่เราอยู่เป็นห้องรวม 60 คนค่ะ เป็นเตียง2ชั้น เด็กๆ หน่อยก็จะได้อยู่ข้างบนค่ะ ใครกรนก็สามารถแจ้งเค้าได้ แล้วก็จะมีล้อกเกอร์พร้อมกุญแจไว้ใส่ของด้วยค่ะ ใหญ่พอสมควร สามารถเก็บกระเป๋าได้เลย แล้วก็ลงไปเตรียมตัวด้านล่าง
ด้านล่างเป็นตารางปฏิบัติธรรมนะคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้วันเปิดการอบรม
๐๗.๓๐ – ๐๙.๐๐ น. ลงทะเบียน เข้าที่พัก
๐๙.๐๐ – ๑๒.๐๐ น. ปฐมนิเทศ แนะนำสมาคม แนะนำการปฏิบัติ
๑๒.๐๐ น. รับประทานอาหารกลางวัน
๑๓.๐๐ น. พิธีเปิดการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน
สมาทานศีล และสมาทานกรรมฐาน
สัมโมทนียกถาและให้หลักการปฏิบัติ
เริ่มการปฏิบัติ
๑๔.๔๕ น. ฝึกปฏิบัติ เดินจงกรม นั่งสมาธิ
๑๖.๓๐ น. รับประทานอาหารเย็น
๑๗.๔๕ น. สวดมนต์
๑๙.๓๐ น. ฝึกปฏิบัติ เดินจงกรม นั่งสมาธิ
๒๑.๐๐ น. พักผ่อน
ระหว่างการอบรม
๐๔.๐๐ น. ตื่นนอน ทำสรีระกิจ
๐๔.๓๐ น. ฝึกปฏิบัติ เดินจงกรม นั่งสมาธิ
๐๕.๓๐ น. สวดมนต์ ฟังธรรม
๐๗.๐๐ น. ทานอาหารเช้า
๐๘.๐๐ น. ฝึกปฏิบัติ เดินจงกรม นั่งสมาธิ
๑๒.๐๐ น. ทานอาหารกลางวัน
๑๓.๐๐ น. ฝึกปฏิบัติ เดินจงกรม นั่งสมาธิ
๑๖.๓๐ น. รับประทานอาหารเย็น
๑๗.๔๕ น. สวดมนต์เย็น
๑๘.๓๐ น. ฟังธรรมบรรยาย
๑๙.๓๐ น. ฝึกปฏิบัติ เดินจงกรม นั่งสมาธิ
๒๑.๐๐ น. พักผ่อน
วันปิดการอบรม
๐๔.๐๐ น. ตื่นนอน ทำสรีระกิจ
๐๔.๓๐ น. ฝึกปฏิบัติ เดินจงกรม นั่งสมาธิ
๐๕.๓๐ น. สวดมนต์ แผ่เมตตา บังสกุล
๐๖.๓๐ น. ฟังโอวาท คุณแม่สิริ กรินชัย
๐๘.๐๐ น. รับประทานอาหารเช้า / เดินทางกลับบ้าน
[CR] ไปค่ะ!! เชิญไปใช้ชีวิตสโลไลฟ์ กินฟรีอยู่สบาย มีแต่ได้ กับการปฏิบัติธรรมที่ยุวพุทธฯ (คุณแม่สิริ) กันค่ะ ไปค่ะพี่สุชาติ!!
สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ทุกคน วันนี้เราจะมารีวิวการไปปฏิบัติธรรมที่ยุวพุทธิกสมาคม 7 คืน 8 วัน ในหลักสูตรพัฒนาจิตให้เกิดปัญญาและสันติสุข โดยคุณแม่ ดร. สิริ กรินชัย นะคะ
ที่พิมไว้จะค่อนข้างยาวมาก เพราเขียนทีเดียวจบ ถ้าใครขี้เกียจอ่านรายละเอียดยิบย่อยเราก็ spoil ไว้ให้นะคะ สามารถอ่านข้ามเพลินๆ ไปได้เลย
ตัวเราได้มีโอกาสไปเข้าร่วมการปฏิบัติธรรมดังกล่าวเมื่อวันที่ 5-12 กค 2559 ที่ผ่านมานี้ เป็นรุ่นที่6/2559 ยุวพุธิกสมาคมที่เราไปเป็นศูนย์1 ตั้งอยู่ที่ถนนเพชรเกษม 54 แยก 6 เขตภาษีเจริญ กทม. นะคะ
ด้านล่างนี้จะเป็นลิ้งค์เว็บไชต์ ตารางหลักสูตรต่างๆในแต่ละเดือน และพวกวิธีการสมัครนะคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ขอเท้าความไปตั้งแต่แรกก่อนที่เราจะไปเข้าปฏิบัติธรรมกันก่อนนะคะ ว่าทำไมเราถึงได้มีโอกาสไปปฏิบัติธรรมที่นี่
เริ่มแรกเลยก็คือด้วยความที่เราเองก็เป็นวัยรุ่นชาวพุทธทั่วไปที่ไม่ได้มีความสนใจหรือผูกพันธ์ลึกซึ้งกับพระพุทธศาสนามากมายอะไรนัก เรียกได้ว่าปีนึงจะเข้าวัดทำบุญประมาณ 2-3 ครั้งเท่านั้นเอง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
จนกระทั่งมาถึงช่วงก่อนหน้านี้ที่เราเรียนจบพอดี และยังไม่ได้เริ่มทำงาน ก็เรียกได้ว่านอนง่วงเปื่อยๆ อยู่บ้านแบบฟูลไทม์กันเลยทีเดียว 5555555 วันๆ ก็นั่งเล่นเฟสค่ะ เล่นวนไปเรื่อยๆ และสไลด์ลงมาเจอเพื่อนคนนึงเช็คอินที่ยุวพุธิกสมาคม และขึ้นสเตตัสว่าไม่อยู่นะวันนี้ถึงวันนี้ เราก็เอ๊ะ ชั้นจำได้นะ เพื่อนคนนี้ดูเป็นคนชอบปฏิบัติธรรม และเคยเห็นว่าเค้าเคยไปที่ยุวพุทธฯ มาก่อนแล้วนี่นา หรือว่ามันจะดี55555 คิดในใจคนเดียวนะคะ (คือเพื่อนคนนี้ก็เป็นวัยรุ่นทั่วๆ ไปน่ารัก นิสัยดี และก็มีไปปฏิบัติธรรมเรื่อยๆ เราก็เริ่มรู้สึกเออมันต้องมีอะไรดีแน่ๆ)
ทีนี้เราไปกินข้าวแล้วเจอเพื่อนก็เลยลองถามเรื่องยุวพุทธ ว่าแกรู้จักที่นี่มั้ย ชั้นเห็นเพื่อนคนนี้ไปมา เพื่อนสองสามคนในนั้นก็ตอบว่ารู้จักกก พวกเราก็เคยไปแต่เป็นตอนหลักสูตรเยาวชนอะไรงี้ มันดี เราก็อ้อเหรอ เพื่อนก็คอนเฟิร์มกันไป เราก็โอเค กลับบ้านมานั่งเปิดหาหลักสูตรเลยค่ะ อ่านรีวิว มีอยู่สองสามอัน ทุกอันดูเชียร์ให้ไปมากค่ะ ตัดสินใจ ไปค่ะ ไปคนเดียวเนี่ยแหละค่ะ 5555555 เพราะเพื่อนๆ เริ่มทำงานหรือไม่ก็ติดธุระกันหมด ชั้นลุยเดียวก็ได้จ่ะ ว่าง อยากไป เครียดด้วย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
พอเราตัดสินใจว่าจะไปก็บอกพ่อแม่ บอกแฟน ทั้งพ่อแม่และแฟนเราไม่ได้ฝักใฝ่ทางด้านนี้อยู่แล้ว เค้าก็เป็นห่วงว่าไปคนเดียว ตั้ง 7คืน 8วัน โทรศัพท์ก็ไม่ให้ใช้ ไปหาก็ไม่ได้ พ่อเราก็ไม่ค่อยอยากให้ไป แต่เราคิดว่าเราอยากไปจริงๆ ก็ซุ่มเก็บกระเป๋าค่ะ (บอกรอบเดียวจบไม่พูดให้ยาวเดี๋ยวไม่ให้ไป) ชุดที่ใช้ก็เป็นเสื้อขาวกางเกงขาว เสื้อมีแขน ตัวยาวถึงสะโพก ไม่บาง ไม่รัดรูป กางเกงก็สีขาวยาวเลยเข่า ไม่บาง ไม่รัดรูป พูดเหมือนง่ายนะคะ แต่ว่าคนอะไรจะมีเสื้อขาวกางเกงขาวพอขนาดเป็นอาทิตย์คะ เราก็ซื้อใหม่บ้าง แม่ก็ไปขุดเสื้อที่ใส่ไม่ได้แล้วมาให้บ้าง แต่ชุดนอนสีปกติได้นะคะ โอเคค่ะ พร้อมแล้ว
มาถึงวันไปค่ะ เค้าให้ลงทะเบียนตั้งแต่ 7.30 – 9.00 น. เราก็ควรไปถึงก่อน 9โมง เพราะต้องเช็คเอกสารเล็กน้อย ฝากโทรศัพท์ และเครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งหมด (ไดร์เป่าผมก็ไม่ได้นะคะ ทีแรกก็สงสัยว่าแล้วผมชั้นจะแห้งมั้ยล่ะ แต่เค้ามีพัดลมยักษ์ให้ค่ะ ก็ไปยืนเป่าได้ เพราะเป็นห้องนอนรวม 40 และ 60 คน ถ้าห้าทุ่มเที่ยงคืนยังเป่าผมกันก็ตายค่ะ คนอื่นไม่ได้นอน หรือใครฟิตตื่นมาสระผมเป่าผมตอนตีสามก็นาฬิกาปลุกดีๆนี่แหละค่ะ) หลังจากนั้นก็ให้เอาของขึ้นไปเก็บบนห้อง ห้องที่เราอยู่เป็นห้องรวม 60 คนค่ะ เป็นเตียง2ชั้น เด็กๆ หน่อยก็จะได้อยู่ข้างบนค่ะ ใครกรนก็สามารถแจ้งเค้าได้ แล้วก็จะมีล้อกเกอร์พร้อมกุญแจไว้ใส่ของด้วยค่ะ ใหญ่พอสมควร สามารถเก็บกระเป๋าได้เลย แล้วก็ลงไปเตรียมตัวด้านล่าง
ด้านล่างเป็นตารางปฏิบัติธรรมนะคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้