การประกวดเพลงชิงชนะเลิศแห่งชาติยุโรป ครั้งที่ 62 (ยูโรวิชั่น ซอง คอนเทสต์ 2017)
วันที่ 9, 11, และ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2560
ณ ประเทศยูเครน
สวัสดีค่ะสาวกยูโรวิชั่นและผู้อ่านทุกคน
กระทู้ Eurovision Magazine ยังอยู่เป็นเพื่อนคุณเหมือนเดิม แม้ว่าจะเป็นช่วงพักซีซั่นก็ตาม
ซึ่งยังมีข่าวคราวเกี่ยวกับยูโรวิชั่นมานำเสนอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการคัดเลือกเมืองเจ้าภาพปีหน้า ซึ่งตอนนี้กำลังเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ
นอกจากนี้ยังมีข่าวอื่นๆที่น่าสนใจในชาวงนี้ ซึ่งเราก็จะนำเสนอเช่นกันค่ะ
สามเมืองสุดท้าย (จากซ้าย) กรุงเคียฟ เมืองดนีโปร และเมืองโอเดสซ่า แต่จะมีแค่เมืองเดียวที่จะได้เป็นเจ้าภาพยูโรวิชั่น 2017
© NTU
เรามาเริ่มที่เรื่องแรกก่อนนะคะ เรื่องการคัดเลือกเมืองเจ้าภาพยูโรวิชั่น 2017 อย่างที่เราได้นำเสนอไปเมื่อครั้งที่แล้วว่าตอนนี้เหลือแค่สามเมืองที่ผ่านเข้ารอบสุดท้าย อย่างกรุงเคียฟ เมืองดนีโปร และเมืองโอเดสซ่าในยูเครน และกำหนดการที่จะประกาศเมืองเจ้าภาพคือวันพรุ่งนี้ (1 ส.ค.) นั้น เราต้องแจ้งให้ทราบว่ามีการเลื่อนวันประกาศไปก่อนนะคะ เพราะจอน โอลา ซาน ผู้แทนแห่งอีบียูและเจ้าพ่อยูโรวิชั่นของเรานั้น ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าขอเวลาไปพิจารณาให้ถี่ถ้วนก่อน หลังจากเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาเขาและคณะผู้แทนคนอื่นๆจากอีบียูไปตรวจเชคความพร้อมของทั้งสามเมือง ซึ่งก็คงหนักใจกันพอสมควรว่าจะเลือกเมืองไหนเป็นเจ้าภาพ ซึ่งเราก็ต้องติดตามกันต่อไปว่าจะประกาศเมื่อไหร่และจะเป็นเมืองไหนที่ได้รับอันทางเกียรตินี้ สามารถดูข่าวนี้เพิ่มเติมได้ที่
ยูโรวิชั่น เลยค่ะ
ถึงแม้ว่าตอนนี้เราต้องรอไปก่อน แต่เรามีภาพบรรยากาศการตรวจเชคความพร้อมของทั้งสามเมืองในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามาให้ชมกันค่ะ
ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา มีคณะผู้แทนจากอีบียูมาตรวจสอบความพร้อมและสังเกตการณ์ความพร้อมของทั้งสามเมืองในยูเครนที่เสนอตัวเป็นเจ้าภาพปีหน้า นำโดยจอน โอลา ซานค่ะ เรียกว่าเขาผู้นี้กำหนดความเป็นไปได้เลยนะนั่น ฉะนั้นแต่ละเมืองต้องพร้อมให้มากที่สุดเพื่อได้รับเลือก
ภาพนี้เขาให้สัมภาษณ์กับทิมัวร์ มิโรชนิเชนโก้ พิธีกรจูเนียร์ยูโรวิชั่นปี 2009 และ 2013 ที่ทำหน้าที่เป็นพิธีกรรายการ City Battle ทางช่อง NTU Channel 1 ที่เจาะลึกการคัดเลือกครั้งนี้ค่ะ
มาดูกันว่าทั้งสามเมืองจะงัดอะไรให้จอนดู โดยเฉพาะสนามแข่งซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการจัดการแข่งขัน ซึ่งต้องพร้อมอย่างยิ่ง
เมืองแรก
กรุงเคียฟ อย่างที่บอกไปหลายๆครั้งแล้วว่าเมืองนี้มีประสบการณ์การเป็นเจ้าภาพยูโรวิชั่นในปี 2005 และจูเนียร์ยูโรวิชั่น 2009 และ 2013 แน่นอนว่าไม่พลาดที่เสนอตัวเป็นเจ้าภาพเพราะเป็นเมืองหลวงของประเทศที่เพียบพร้อมไปทุกอย่าง เมืองนี้ส่ง 2 สนามเป็นตัวเลือกค่ะ ได้แก่
สนามแรก สนาม Palace of Sports สนามกีฬาในร่มที่เคยใช้ในการจัดยูโรวิชั่นปี 2005 และจูเนียร์ยูโรวิชั่น 2009 ปัญหาที่มีอยู่ในตอนนี้ ได้แก่
- ขนาดสนามเล็กเกินไป ซึ่งจุได้เต็มที่แค่ 10,000 คน ซึ่งไม่สอดคล้องกับการจัดในปัจจุบันที่ต้องรองรับผู้ชมมากว่า 10,000 คน
- สนามนี้จะถูกใช้ในการจัดฮ๊อกกี้น้ำแข็งชิงแชมป์โลกในปลายเดือนเมษายนปีหน้า ซึ่งอาจจะเตรียมสถานที่จัดไม่ทันตามกำหนดที่จะแข่งในวันที่ 9 พฤษภาคมปีหน้า
- แผนการปรับปรุงต้องใช้งบประมาณเยอะมากกกก
อย่างไรก็ตามแต่ทางกรุงเคียฟได้มีแผนการการปรับปรุงสนามให้มีหน้าตาประมาณนี้เพื่อทั้งสองงาน และเขาอาจจะย้ายสนามแข่งฮ๊อคกี้น้ำแข่งไปที่อื่น ถ้าที่นี่ได้รับเลือกนะคะ ดูจากภาพแล้วให้อารมณ์เหมือนอาคารศูนย์การค้าตามจังหวัดใหญ่ๆที่นิยมทำสไตล์นี้กันจัง
ในขณะเดียวกัน เขาได้เตรียมแผนจัดการสถานที่บริเวณรอบสนามโอลิมปิกซึ่งใกล้กับสนามนี้ใช้เป็นสถานที่จัดหมู่บ้านยูโรวิชั่น ที่แถลงข่าว และยูโรคลับและยูโรคาเฟ่อีกด้วย
ส่วนตัวเลือกที่สองที่ทางกรุงเคียฟส่งสำรองไว้อย่าง International Exhibition Centre ศูนย์การประชุมแห่งชาติ ที่จุผู้คนได้เต็มที่ถึง 18,000 คน ซึ่งเพียงพอในการจัดการแข่งขัน แต่ที่นี่ก็มีปัญหาอย่าง...
- ที่นี่หลังคาเตี้ยมาก ซึ่งอาจจะทำอัฒจรรย์สูงได้ไม่มาก
- ที่นี่ไม่เคยมีประสบการณ์จัดการแข่งขันรายการใหญ่ๆ และแน่นอนการเตรียมสถานที่จัดอุปกรณ์การถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์นั้นไม่ต้องพูดถึงเลย
และนี่คือแผนการของศูนย์การประชุมนี้ถ้าได้จัดการแข่งขันค่ะ ดูจากภาพแล้วยังไม่ใช่น่ะ ต้องทำการบ้านใหม่นะคะ เพราะดูยังไงเหมือนสตูดิโออัดรายการทีวียังไงก็ไม่รู้
และนี่คือภาพบรรยากาศที่ประชุมกันที่กรุงเคียฟค่ะ โดยจอนเป็นผู้ซักถามถึงนายกเทศมนตรีกรุงเคียฟเองเลย
ส่วนเมืองที่สอง
เมืองดนีโปร เมืองนี้ส่งสนาม Meteor Stadium ซึ่งตอนนี้มีแผนการการปรับปรุงสนามนี้อยู่ และจะเปลี่ยนชื่อเป็นเป็น DniproEuroArena อีกด้วย ถ้าได้รับเลือก โดยสนามนี้มีความจุประมาณ 9,000 กว่าคน แต่ปัญหาของเมืองนี้มีแค่อย่างเดียวคือ สนามบินที่เมืองนี้เล็กมาก และไม่มีเที่ยวบินระหว่างประเทศเลย แถมอยู่ใกล้กับพื้นที่สู้รบกับรัสเซียอีกด้วย แต่ข้อได้เปรียบคือพื้นที่บริเวณฮอลล์นี้สามารถจัดสถานที่สำหรับหมู่บ้านยูโรวิชั่นและยูโรคลับและยูโรคาเฟ่ได้
และนี่คือภาพการนำเสนอแผนการปรับปรุงฮอลล์นี้ในที่ประชุมค่ะ
ทีนี้พามาดูสถานที่จริง ซึ่งกำลังอยู่ช่วงปรับปรุงพอดี
นอกจากนี้มีการพามาดูสถานที่ที่จะใช้เป็นยูโรคลับและยูโรคาเฟ่ และสถานที่จัดพิธีเปิดอีกด้วย ซึ่งจะเห็นวิวแม่น้ำดนีโปรที่สวยงาม
และเมืองที่สาม
เมืองโอเดสซ่า ที่ส่งสนามโคเนโทเรทเป็นตัวเลือก ซึ่งเป็นสนามฟุตบอลแถมไม่มีหลังคา และเป็นสนามบอลสนามเดียวที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายในการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพ ซึ่งมีปัญหาแค่อย่างเดียวคือจะกางเต้นท์ค่ะ และงบที่จะใช้แพงมากซึ่งไม่คุ้มเอาเสียเลย ถ้าไม่นับเรื่องนี้ สนามนี้ได้เปรียบคือจุคนได้เยอะมาก
จากการไปตรวจเมืองนี้ ในที่ประชุมมีการเสนอแนวทางการปรับปรุงสนามนี้และมีการโต้กันเผ็ดมันเลยทีเดียว
ในขณะเดียวกันมีคนเสนอให้ใช้แผนเดียวที่เดนมาร์กจัดในปี 2001 ที่ประสบความสำเร็จในการติดตั้งหลังคาถาวรภายในไม่ถึงปี และใช้ประสบการณ์ในปี 2014 มาช่วยเสริม และมีบริษัทต่างชาติบางบริษัทขอเสนอในการช่วยในการปรับปรุงให้เสร็จทันเวลาและต้องออกมาดีด้วย
ทีนี้มาดูสถานที่จริงบ้าง เจ้าหน้าที่จากเมืองนี้ได้นำเสนอแผนการในการกางเต้นท์ เราว่าเสียดายมากเพราะไม่ได้ใช้อัฒจรรย์ถาวรให้เต็มที่ เพราะใช้แค่สนามหญ้าเท่านั้น ซึ่งแคบเอามากๆ น่าจะคลุมตรงหลังคาสนามไปเลย
ทีนี้ไปดูสถานที่ในเมืองนี้ในการใช้จัดยูโรคลับและยูโรคาเฟ่ เมืองนี้ได้เปรียบมากเพราะสถานที่สวย เพราะเป็นเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมของประเทศนี้เลย แถมจัดเทศกาลหนังนานาชาติทุกปี คนในเมืองพูดภาษาอังกฤษและฝรั่งเศสมากที่สุดของประเทศที่เป็นข้อได้เปรียบ
ในช่วงค่ำมีการมีทติ้งกับคนในเมืองที่ออกมาสนับสนุนการเป็นเจ้าภาพของเมืองนี้ อารมณ์เหมือนจัดโอลิมปิกมาก โดยคนเมืองนี้เขาตื่นตัวกันมากที่สุดแล้วล่ะ
ข้อได้เปรียบและข้อบกพร่องสามเมืองที่นำเสนอไปนั้น นี่อาจะเป็นเหตุผลที่ต้องเลื่อนวันประกาศผลค่ะ โปรดติดตามกันต่อไปว่าทางอีบียูจะแจ้งข่าวดีเมื่อไหร่และจะเมืองไหนจะโชคดีไปนะคะ
ปิดท้ายข่าวนี้ด้วยคลิปโปรโมตกรเสนอตัวเป็นเจ้าภาพของทั้งสามเมืองกันค่ะ ซึ่งครั้งที่แล้วเอามาแปะแล้ว แต่มาชมกันอีกทีค่ะ
กรุงเคียฟ
เมืองดนีโปร
และเมืองโอเดสซ่า
[Eurovision Magazine] ผู้แทนอีบียูตรวจความพร้อมเลือกเมืองเจ้าภาพ 2017/ ตัวแทนรัสเซียวิ่งคบเพลิงที่ริโอ และข่าวอีกมากมาย
การประกวดเพลงชิงชนะเลิศแห่งชาติยุโรป ครั้งที่ 62 (ยูโรวิชั่น ซอง คอนเทสต์ 2017)
วันที่ 9, 11, และ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2560
ณ ประเทศยูเครน
สวัสดีค่ะสาวกยูโรวิชั่นและผู้อ่านทุกคน
กระทู้ Eurovision Magazine ยังอยู่เป็นเพื่อนคุณเหมือนเดิม แม้ว่าจะเป็นช่วงพักซีซั่นก็ตาม
ซึ่งยังมีข่าวคราวเกี่ยวกับยูโรวิชั่นมานำเสนอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการคัดเลือกเมืองเจ้าภาพปีหน้า ซึ่งตอนนี้กำลังเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ
นอกจากนี้ยังมีข่าวอื่นๆที่น่าสนใจในชาวงนี้ ซึ่งเราก็จะนำเสนอเช่นกันค่ะ
สามเมืองสุดท้าย (จากซ้าย) กรุงเคียฟ เมืองดนีโปร และเมืองโอเดสซ่า แต่จะมีแค่เมืองเดียวที่จะได้เป็นเจ้าภาพยูโรวิชั่น 2017
© NTU
เรามาเริ่มที่เรื่องแรกก่อนนะคะ เรื่องการคัดเลือกเมืองเจ้าภาพยูโรวิชั่น 2017 อย่างที่เราได้นำเสนอไปเมื่อครั้งที่แล้วว่าตอนนี้เหลือแค่สามเมืองที่ผ่านเข้ารอบสุดท้าย อย่างกรุงเคียฟ เมืองดนีโปร และเมืองโอเดสซ่าในยูเครน และกำหนดการที่จะประกาศเมืองเจ้าภาพคือวันพรุ่งนี้ (1 ส.ค.) นั้น เราต้องแจ้งให้ทราบว่ามีการเลื่อนวันประกาศไปก่อนนะคะ เพราะจอน โอลา ซาน ผู้แทนแห่งอีบียูและเจ้าพ่อยูโรวิชั่นของเรานั้น ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าขอเวลาไปพิจารณาให้ถี่ถ้วนก่อน หลังจากเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาเขาและคณะผู้แทนคนอื่นๆจากอีบียูไปตรวจเชคความพร้อมของทั้งสามเมือง ซึ่งก็คงหนักใจกันพอสมควรว่าจะเลือกเมืองไหนเป็นเจ้าภาพ ซึ่งเราก็ต้องติดตามกันต่อไปว่าจะประกาศเมื่อไหร่และจะเป็นเมืองไหนที่ได้รับอันทางเกียรตินี้ สามารถดูข่าวนี้เพิ่มเติมได้ที่ ยูโรวิชั่น เลยค่ะ
ถึงแม้ว่าตอนนี้เราต้องรอไปก่อน แต่เรามีภาพบรรยากาศการตรวจเชคความพร้อมของทั้งสามเมืองในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามาให้ชมกันค่ะ
ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา มีคณะผู้แทนจากอีบียูมาตรวจสอบความพร้อมและสังเกตการณ์ความพร้อมของทั้งสามเมืองในยูเครนที่เสนอตัวเป็นเจ้าภาพปีหน้า นำโดยจอน โอลา ซานค่ะ เรียกว่าเขาผู้นี้กำหนดความเป็นไปได้เลยนะนั่น ฉะนั้นแต่ละเมืองต้องพร้อมให้มากที่สุดเพื่อได้รับเลือก
ภาพนี้เขาให้สัมภาษณ์กับทิมัวร์ มิโรชนิเชนโก้ พิธีกรจูเนียร์ยูโรวิชั่นปี 2009 และ 2013 ที่ทำหน้าที่เป็นพิธีกรรายการ City Battle ทางช่อง NTU Channel 1 ที่เจาะลึกการคัดเลือกครั้งนี้ค่ะ
มาดูกันว่าทั้งสามเมืองจะงัดอะไรให้จอนดู โดยเฉพาะสนามแข่งซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการจัดการแข่งขัน ซึ่งต้องพร้อมอย่างยิ่ง
เมืองแรก กรุงเคียฟ อย่างที่บอกไปหลายๆครั้งแล้วว่าเมืองนี้มีประสบการณ์การเป็นเจ้าภาพยูโรวิชั่นในปี 2005 และจูเนียร์ยูโรวิชั่น 2009 และ 2013 แน่นอนว่าไม่พลาดที่เสนอตัวเป็นเจ้าภาพเพราะเป็นเมืองหลวงของประเทศที่เพียบพร้อมไปทุกอย่าง เมืองนี้ส่ง 2 สนามเป็นตัวเลือกค่ะ ได้แก่
สนามแรก สนาม Palace of Sports สนามกีฬาในร่มที่เคยใช้ในการจัดยูโรวิชั่นปี 2005 และจูเนียร์ยูโรวิชั่น 2009 ปัญหาที่มีอยู่ในตอนนี้ ได้แก่
- ขนาดสนามเล็กเกินไป ซึ่งจุได้เต็มที่แค่ 10,000 คน ซึ่งไม่สอดคล้องกับการจัดในปัจจุบันที่ต้องรองรับผู้ชมมากว่า 10,000 คน
- สนามนี้จะถูกใช้ในการจัดฮ๊อกกี้น้ำแข็งชิงแชมป์โลกในปลายเดือนเมษายนปีหน้า ซึ่งอาจจะเตรียมสถานที่จัดไม่ทันตามกำหนดที่จะแข่งในวันที่ 9 พฤษภาคมปีหน้า
- แผนการปรับปรุงต้องใช้งบประมาณเยอะมากกกก
อย่างไรก็ตามแต่ทางกรุงเคียฟได้มีแผนการการปรับปรุงสนามให้มีหน้าตาประมาณนี้เพื่อทั้งสองงาน และเขาอาจจะย้ายสนามแข่งฮ๊อคกี้น้ำแข่งไปที่อื่น ถ้าที่นี่ได้รับเลือกนะคะ ดูจากภาพแล้วให้อารมณ์เหมือนอาคารศูนย์การค้าตามจังหวัดใหญ่ๆที่นิยมทำสไตล์นี้กันจัง
ในขณะเดียวกัน เขาได้เตรียมแผนจัดการสถานที่บริเวณรอบสนามโอลิมปิกซึ่งใกล้กับสนามนี้ใช้เป็นสถานที่จัดหมู่บ้านยูโรวิชั่น ที่แถลงข่าว และยูโรคลับและยูโรคาเฟ่อีกด้วย
ส่วนตัวเลือกที่สองที่ทางกรุงเคียฟส่งสำรองไว้อย่าง International Exhibition Centre ศูนย์การประชุมแห่งชาติ ที่จุผู้คนได้เต็มที่ถึง 18,000 คน ซึ่งเพียงพอในการจัดการแข่งขัน แต่ที่นี่ก็มีปัญหาอย่าง...
- ที่นี่หลังคาเตี้ยมาก ซึ่งอาจจะทำอัฒจรรย์สูงได้ไม่มาก
- ที่นี่ไม่เคยมีประสบการณ์จัดการแข่งขันรายการใหญ่ๆ และแน่นอนการเตรียมสถานที่จัดอุปกรณ์การถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์นั้นไม่ต้องพูดถึงเลย
และนี่คือแผนการของศูนย์การประชุมนี้ถ้าได้จัดการแข่งขันค่ะ ดูจากภาพแล้วยังไม่ใช่น่ะ ต้องทำการบ้านใหม่นะคะ เพราะดูยังไงเหมือนสตูดิโออัดรายการทีวียังไงก็ไม่รู้
และนี่คือภาพบรรยากาศที่ประชุมกันที่กรุงเคียฟค่ะ โดยจอนเป็นผู้ซักถามถึงนายกเทศมนตรีกรุงเคียฟเองเลย
ส่วนเมืองที่สอง เมืองดนีโปร เมืองนี้ส่งสนาม Meteor Stadium ซึ่งตอนนี้มีแผนการการปรับปรุงสนามนี้อยู่ และจะเปลี่ยนชื่อเป็นเป็น DniproEuroArena อีกด้วย ถ้าได้รับเลือก โดยสนามนี้มีความจุประมาณ 9,000 กว่าคน แต่ปัญหาของเมืองนี้มีแค่อย่างเดียวคือ สนามบินที่เมืองนี้เล็กมาก และไม่มีเที่ยวบินระหว่างประเทศเลย แถมอยู่ใกล้กับพื้นที่สู้รบกับรัสเซียอีกด้วย แต่ข้อได้เปรียบคือพื้นที่บริเวณฮอลล์นี้สามารถจัดสถานที่สำหรับหมู่บ้านยูโรวิชั่นและยูโรคลับและยูโรคาเฟ่ได้
และนี่คือภาพการนำเสนอแผนการปรับปรุงฮอลล์นี้ในที่ประชุมค่ะ
ทีนี้พามาดูสถานที่จริง ซึ่งกำลังอยู่ช่วงปรับปรุงพอดี
นอกจากนี้มีการพามาดูสถานที่ที่จะใช้เป็นยูโรคลับและยูโรคาเฟ่ และสถานที่จัดพิธีเปิดอีกด้วย ซึ่งจะเห็นวิวแม่น้ำดนีโปรที่สวยงาม
และเมืองที่สาม เมืองโอเดสซ่า ที่ส่งสนามโคเนโทเรทเป็นตัวเลือก ซึ่งเป็นสนามฟุตบอลแถมไม่มีหลังคา และเป็นสนามบอลสนามเดียวที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายในการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพ ซึ่งมีปัญหาแค่อย่างเดียวคือจะกางเต้นท์ค่ะ และงบที่จะใช้แพงมากซึ่งไม่คุ้มเอาเสียเลย ถ้าไม่นับเรื่องนี้ สนามนี้ได้เปรียบคือจุคนได้เยอะมาก
จากการไปตรวจเมืองนี้ ในที่ประชุมมีการเสนอแนวทางการปรับปรุงสนามนี้และมีการโต้กันเผ็ดมันเลยทีเดียว
ในขณะเดียวกันมีคนเสนอให้ใช้แผนเดียวที่เดนมาร์กจัดในปี 2001 ที่ประสบความสำเร็จในการติดตั้งหลังคาถาวรภายในไม่ถึงปี และใช้ประสบการณ์ในปี 2014 มาช่วยเสริม และมีบริษัทต่างชาติบางบริษัทขอเสนอในการช่วยในการปรับปรุงให้เสร็จทันเวลาและต้องออกมาดีด้วย
ทีนี้มาดูสถานที่จริงบ้าง เจ้าหน้าที่จากเมืองนี้ได้นำเสนอแผนการในการกางเต้นท์ เราว่าเสียดายมากเพราะไม่ได้ใช้อัฒจรรย์ถาวรให้เต็มที่ เพราะใช้แค่สนามหญ้าเท่านั้น ซึ่งแคบเอามากๆ น่าจะคลุมตรงหลังคาสนามไปเลย
ทีนี้ไปดูสถานที่ในเมืองนี้ในการใช้จัดยูโรคลับและยูโรคาเฟ่ เมืองนี้ได้เปรียบมากเพราะสถานที่สวย เพราะเป็นเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมของประเทศนี้เลย แถมจัดเทศกาลหนังนานาชาติทุกปี คนในเมืองพูดภาษาอังกฤษและฝรั่งเศสมากที่สุดของประเทศที่เป็นข้อได้เปรียบ
ในช่วงค่ำมีการมีทติ้งกับคนในเมืองที่ออกมาสนับสนุนการเป็นเจ้าภาพของเมืองนี้ อารมณ์เหมือนจัดโอลิมปิกมาก โดยคนเมืองนี้เขาตื่นตัวกันมากที่สุดแล้วล่ะ
ข้อได้เปรียบและข้อบกพร่องสามเมืองที่นำเสนอไปนั้น นี่อาจะเป็นเหตุผลที่ต้องเลื่อนวันประกาศผลค่ะ โปรดติดตามกันต่อไปว่าทางอีบียูจะแจ้งข่าวดีเมื่อไหร่และจะเมืองไหนจะโชคดีไปนะคะ
ปิดท้ายข่าวนี้ด้วยคลิปโปรโมตกรเสนอตัวเป็นเจ้าภาพของทั้งสามเมืองกันค่ะ ซึ่งครั้งที่แล้วเอามาแปะแล้ว แต่มาชมกันอีกทีค่ะ
กรุงเคียฟ
เมืองดนีโปร
และเมืองโอเดสซ่า