สวัสดีค่ะสาวกยูโรวิชั่นและผู้อ่านทุกคน
กระทู้ Eurovision Magazine ยังอยู่เป็นเพื่อนคุณเหมือนเดิม แม้ว่าจะเป็นช่วงพักซีซั่นก็ตาม
ช่วงนี้ดูเงียบๆแต่ข่าวคราวไม่เงียบนะคะ เพราะเราจะมาแจ้งข่าวหลายเรื่องเลย
เรื่องแรกทางยูเครนขอเปลี่ยนวันการจัดการแข่งขันปีหน้าจากวันที่ 16, 18, และ 20 พฤษภาคม เป็นวันที่ 9, 11, และ 13 พฤษภาคม
เพื่อที่จะไม่ชนกับวันรำลึกการขับไล่ชาวทาท่าร์ในไครเมียของรัสเซียในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งตรงกับวันที่ 18 พฤษภาคมพอดี
แต่อย่างไรก็ตามอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงวันอีกที (โอ๊ยยย เยอะเนาะยูเครน) รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถไปดูตามลิงค์บนข้อความนี้เลย  

ส่วนเรื่องสองเหรอ...ตอนนี้ที่ยูเครนกำลังคัดเลือกเมืองเจ้าภาพสำหรับปีหน้ากันอยู่ และนี่คือหัวข้อในการนำเสนอครั้งนี้ค่ะ  

เมื่อวานนี้ทางยูโรวิชั่นได้แจ้งข่าวอย่างเป็นทางการว่าช่อง NTU Channel 1 ซึ่งเป็นช่องแห่งชาติของยูเครนได้ประกาศเมืองที่เสนอตัวเป็นเจ้าภาพถึง 6 เมือง เพื่อเป็นเมืองเจ้าภาพยูโรวิชั่นปีหน้า ซึ่งสามารถเข้าไปดูรายละเอียดข่าวนี้ตามข้อความนี้ ถึงแม้ว่ามีกระแสข่าวว่าอีบียูอาจจะเลือกกรุงเคียฟเมืองหลวงของประเทศก็ตาม แต่อย่างไรเสียก็ต้องมีการจัดการคัดเลือกเมืองเจ้าภาพอยู่ดี




หลังจากปิดรับสมัครไปแล้วเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคมที่ผ่านมา ก็ได้ประกาศเสียทีว่า 6 เมืองมีเมืองไหนบ้าง

เริ่มจากเมืองแรก กรุงเคียฟ เมืองหลวงของประเทศ ในตอนแรก ทางสภากรุงเคีฟพยายามดันสนามโอลิมปิกที่เคยใช้ในการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2012
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ถึงแม้ว่าจะจุได้ถึงเจ็ดหมื่นกว่าคน ซึ่งใหญ่โตมาก และมีโอกาสทำสถิติสถานที่จัดยูโรวิชั่นที่จุผู้คนมาที่สุดด้วย แต่ปัญหาคือสนามนี้ไม่มีหลังคาคลุมทั้งหมด ถึงแม้ว่าจะมีแผนการก่อสร้างต่อเติมหลังคาที่เหลือก็ตาม แต่มีข่าวออกมาว่ารมว.กระทรวงวัฒนธรรมบ้านเขาบอกว่าให้ตัดสนามนี้ออกจากลิสต์ได้เลย ในที่สุด ทางสภาเคียฟต้องจำใจส่ง Palace of Sports ที่กรุงเคียฟ สนามกีฬาในร่มที่เคยใช้ในการจัดยูโรวิชั่นปี 2005 และจูเนียร์ยูโรวิชั่น 2009 เป็นสนามตัวเลือกแทน แต่ปัญหาคือฮอลล์นี้แคบมากๆ และจุแค่หมื่นคน ซึ่งไม่อาจตอบโจทย์ได้เพราะผู้ชมในฮอลล์มีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆทุกปี





แต่เมืองนี้ยังพอมีตัวเลือกเพิ่มขึ้นมาอีกหน่อยคือสนามเคียฟอารีน่าซึ่งเป็นสนามกีฬาในร่มแห่งใหม่ ซึ่งจุได้มากกว่าหมื่นคนซึ่งเพียงพอต่อการจัด
เดิมทีสนามนี้จะถูกใช้เป็นสนามจัดการแข่งขันยูโรบาสเกต 2015 ที่ยูเครนเป็นเจ้าภาพ แต่ปัญหาคือยูเครนขอถอนตัวการเป็นเจ้าภาพเนื่องจากปัญหาทางการเมืองและงบประมาณ ซึ่งทำให้เยอรมนี ฝรั่งเศส อิตาลี และโครเอเชียทำหน้าที่เจ้าภาพแทนโดยทำหน้าที่เป็นเจ้าภาพร่วม และนั่นก็มีผลต่อการก่อสร้างสนามที่หยุดชะงักลงด้วย ถ้าสนามนี้ได้รับเลือกจริง เราคงต้องลุ้นกันสนุกว่าจะสร้างเสร็จทันกำหนดไหม








เมืองที่สอง เมืองลวีฟ เมืองใหญ่ในภาคตะวันตกของประเทศ โดยจะส่งนสนามอารีน่าลวีฟที่จุกว่า 34,915 คน เป็นตัวเลือก โดยสนามนี้เปิดใช้เพื่อต้อนรับบอลยูโร 2012 เหมือนกัน และเป็นสนามเหย้าของทีมฟุตบอลชัตตาร์โดเนสท์ที่ย้ายมาอยู่สนามนี้แทนสนามเดิมของเมืองเขาหลังได้รับความเสียหายอย่างหนักจากการสู้รบกับรัสเซีย แต่ปัญหาก็คือไม่มีหลังคาคลุมเหมือนกัน และอาจจะเป็นการผลักภาระให้กับทีมโดเนสท์ที่มีปัญหาไร้สนามเหย้าอยู่แล้วให้หนักกว่าเดิม



แต่เมืองนี้ยังมีทางเลือกอยู่เหมือนกัน เพราะได้ส่งสนามนิวลวีฟอารีน่าที่มีแผนเปิดใช้ในการจัดการแข่งขันยูโรบาสเกต 2015 เหมือนกัน แต่โครงการนี้ก็หยุดชะงักเหมือนกับที่กรุงเคียฟ และตอนนี้กำลังมีแผนฟื้นฟูการก่อสร้าง ถ้าสนามนี้ได้รับเลือก ก็ต้องมาลุ้นว่าจะเสร็จทันกำหนดหรือเปล่าเช่นกัน






เมืองที่สาม เมืองดนีโปร เป็นชื่อใหม่แกะกล่อง ตั้งอยู่ทางตอนกลางทางใต้ของประเทศ เดิมชื่อเมืองดนีโปรเปตรอฟสค์ แต่ได้เปลี่ยนชื่อเมืองเมื่อสองเดือนที่แล้วเพื่อลบล้างชื่อที่ถูกตั้งในสมัยโซเวียต โดยเมืองนี้ยังไม่บอกสนามที่ส่งเข้าเสนอตัว ซึ่งอาจจะใช้สนามดนีโปรอารีน่า สนามฟุตบอลของทีมดนีโปรอันเลื่องชื่อของบ้านเขา ซึ่งจุถึง 31,003 คน ปัญหาก็คือ...ไม่มีหลังคาคลุมเหมือนกับที่เคียฟและลวีฟ และถ้าใช้จริงจะรบกวนทีมดนีโปรอย่างมากในช่วงแข่งฟุตบอลลีก เพราะต้องใช้เวลาเตรียมสนามถึงสองเดือนซึ่งตรงกับช่วงโค้งสุดท้ายของบอลลีกในฤดูกาล

ปล. ตอนนี้ทีมนี้กำลังอยู่ในภาวะล้มละลายเพราะหนี้บานเบอะค่ะ




แต่เมืองนี้ก็อาจจะส่งสนามนิวดนีโปรอารีน่า ซึ่งเป็นโครงการสนามในร่มที่เคยจะใช้เป็นสนามแข่งยูโรบาสเกต 2015 เหมือนกัน แต่สนามนี้ก็ยังไปไม่ถึงไหนเมืองสองเมืองที่บอกไว้แต่ต้น




เมืองที่สี่ เมืองคาร์คีฟ เมืองทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ ซึ่งมีรายงานว่าจะส่งสนาม Metalist Oblast Sports Complex ซึ่งเป็นสนามฟุตบอลที่เคยใช้ในการแข่งฟุตบอลยูโร 2012 และเป็นสนามเหย้าทีมเมทัลลิสต์คาร์คีฟ โดยจุประมาณ 40,003 คน แต่ปัญหาก็คือไม่มีหลังคาคลุมทั้งหมดและอาจจะกระทบบอลลีกของทีมนี้ด้วย






เมืองที่ห้า เมืองโอเดสซ่า  ตั้งอยู่ทางภาคใต้ของประเทศ โดยอาจจะส่งสนามโคเนโทเรทเป็นสนามตัวเลือก ซึ่งเป็นสนามเหย้าของทีมโคเนโทเรทโอเดสซ่า จุได้ถึง 34,164 คน ซึ่งก็ไม่มีหลังคาและอาจจะรบกวนทีมบอลที่ต้องใช้สนามนี้เช่นกัน แต่ทางเมืองอาจจะส่งสนามโอเดสซ่าอารีน่าซึ่งเป็นโครงการสนามในร่มที่เคยจะใช้เป็นสนามแข่งยูโรบาสเกต 2015 เหมือนกัน แต่สนามนี้ก็ยังไปไม่ถึงไหนอีกเช่นเคย






และเมืองสุดท้าย เมืองเคอร์ซอน อยู่ทางตอนใต้ของประเทศ โดยเมืองนี้ไม่ได้บอกว่าจะส่งสนามไหนแข่ง แต่เท่าที่ดูมา ไม่มีสนามในร่ม แถมสนามบอลบ้านเขาเล็กมาก ไม่รู้ว่าจะส่งไปทำไมกัน เพราะแม้ว่าจะมีการก่อสร้าง ก็อาจจะสร้างไม่เสร็จทันกำหนดแน่ๆ




ทีนี้มาดูแผนที่ประเทศยูเครนเพื่อให้เห็นภาพที่ตั้ง 6 เมืองที่เสนอตัวเป็นเจ้าภาพยูโรวิชั่น 2017 ว่าตั้งอยู่ตรงไหนบ้าง
ที่น่าเป็นห่วงคือเมืองคาร์คีฟที่ตั้งใกล้เขตสู้รบทางภาคตะวันออกของประเทศซึ่งทหารยูเครนสู้รบกับกบฏแบ่งแยกดินแดนที่รัสเซียสนับสนุนอยู่ (พื้นที่สีแดงในภาพ) ซึ่งเราว่าเมืองนี้ตัดออกได้เลย และอีกเมืองคือเคอร์ซอนที่ใกล้กับไครเมียที่ยูเครนกับรัสเซียพิพาทเรื่องอ้างสิทธิ์ความเป็นเจ้าของอยู่






ขอบอกว่านี่เป็นการโคสอัพการเลือกเมืองเจ้าภาพยูโรวิชั่นที่หน้าปวดหัวที่สุดตั้งแต่ตั้งกระทู้ Eurovision Magazine เลยแหล่ะ เพราะยูเครนแทบไม่มีสนามกีฬาในร่มที่เหมาะสมในการจัด มีแต่สนามบอลที่มาจากบอลยูโร 2012 แต่ก็ดันไม่มีหลังคาคลุมทั้งสนาม แถมสนามที่มีแผนก่อสร้างก็มาดองเค็มอีก ซึ่งเราว่าทางรัฐบาลยูเครนจะใช้โอกาสนี้ปัดฝุ่นโครงการนี้ แต่ต้องแข่งกับเวลาจนเหนื่อยเลยว่าจะเสร็จทันไหม และเมืองต่างๆที่เสนอตัวเป็นเจ้าภาพ มีแค่เมืองเคียฟและเมืองลวีฟที่ผ่านเกณฑ์เรื่องความพร้อมเรื่องสาธารณูปโภคพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ แต่ถ้าจะมาคิดว่ายูเครนจะถอนตัวแล้วให้ประเทศอื่นจัดแทนไหม เราว่าเรื่องนี้ไม่มีอยู่ในสารบบของประเทศนี้แน่นอน ส่วนเมืองไหนจะได้เป็นเจ้าภาพนั้น วันที่ 1 สิงหาคมจะได้รู้คำตอบกันค่ะ