============
วันฟ้าใส
============
เช้านี้อากาศสดชื่นแจ่มใสเหลือเกินท้องฟ้าสวยและใสไร้ปุยเมฆแต่งแต้ม
เด็กหญิงอายุประมาณห้าหกขวบ กำลังน่ารักน่าอุ้มกับชุดนักเรียนอนุบาล นัยน์ตาแจ่มใสเป็นประกาย ผิวแก้มเนียนบาง แบบเด็กๆในมือมีตุ๊กตาหมีแสนรัก สนามหญ้าหน้าบ้านมีใบไม้ใบหญ้าอุ้มหยาดน้ำค้างพราวพรายราวเกล็ดไข่มุกประกายวับวาวใสจิ๋ว และกับลูกสุนัขวัยซนขนปุกปุยกำลังกระโดดโลดเต้นไปมาอย่างสนุกสนาน ผีเสื้อฝูงหนึ่งโบยบินอยู่รอบแปลงดอกไม้หลากสีสดสวยหน้าบ้านห่างออกไปไม่มากนัก
“ไหนๆๆมือซ้ายยกขึ้นสวัสดีสิ” ใบหน้าใสๆนั้นออกอาการดุเข้มแบบประสาเด็กๆ ขณะพยายามสอนลูกหมาตัวน้อยให้รู้จักกับมรรยาทแบบมนุษย์
“สวัสดีต้องยกขาแบบนี้”
มือน้อยจับขาหน้าลูกหมาน่ารักสีขาวยกขึ้น ส่ายไปมา ลูกหมาตัวน้อยดูเหมือนไม่รู้เรื่องหรอกว่าเจ้านายขนาดกะทัดรัดของมันกำลังพยายามทำอะไรอยู่ แต่มันก็พยายามเอาใจด้วยการส่ายหางไปมาแบบไม่คิดชีวิต ปากมอมๆเลียมือน้อยๆที่จับขาหน้าของมันอยู่อย่างเอาใจ
“ลูกจ้ะ” เสียงผู้เป็นแม่ดังมาจากหน้าต่างห้องครัว “รีบมาทานข้าว เดี๋ยวคุณพ่อจะไปส่งที่โรงเรียนแล้วนะจ้ะ”
“รอเดี๋ยวค่ะแม่” แม่หนูหันไปร้องบอก มือยังจับหัวลูบหลังลูกหมาตัวน้อยอย่างรักใคร่ เจ้าหมาตัวน้อยมีท่าทางดีใจและมีความสุขกับมิตรภาพตามประสาหมา พอมองเห็นเด็กหญิงวิ่งเข้าไปในบ้านได้แต่ทำตาระห้อย เห่าตามสองสามครั้ง แต่ก็ยอมรับสภาพโดยดี หันไปวิ่งเล่นหน้าบ้านแทน เพราะรู้ว่าบ่ายๆ เจ้านายตัวน้อยจะกลับมาวิ่งเล่นกันสนุกสนานเหมือนเดิม
“แม่คะ หนูจะรีบกลับมาหาแม่ บอกคุณพ่อให้ไปรับหนูเร็วๆนะคะ” เสียงใสๆอ้อนผู้เป็นแม่ ผู้ก้มตัวลงหอมแก้มใสๆของลูกสาวอย่างแสนรัก
“แม่จะทำขนมอร่อยๆไว้ลูกทานตอนเย็นนะจ้ะ”
“ขอบคุณค่ะแม่ หนูรักแม่ที่สุดเลย”
“แม่ก็รักลูกจ๊ะ แต่เอาล่ะ ไปโรงเรียนได้แล้ว มามะ...ให้แม่หอมแก้มน่ารักๆก่อน”
หางเปียยาวๆไหวแกว่งไกวไปมาตามจังหวะการเดิน มือน้อยๆเกาะมือผู้เป็นพ่อตามความเคยชินและตามประสาเด็กๆตุ๊กตาหมีน่ารักยังถูกหิ้วไปด้วยแบบไม่ยอมปล่อย หลังสะพายกระเป๋านักเรียนแถมด้วยกระติกน้ำเล็กๆลายการ์ตูน ผู้เป็นแม่มองผ่านหน้าต่างอย่างปลื้มใจและมีความสุข ครอบครัวน้อยๆแต่อบอุ่นอันประกอบด้วย พ่อแม่ลูก และลูกหมาน้อยน่ารักตัวหนึ่งซึ่งตอนนี้กำลังกระโดดโลดเต้นตามไปอย่างไม่รู้ประสีประสา เจ้าหมาน้อยรู้ว่าตอนเย็นเจ้านายตัวน้อยจะกลับมา กอดมัน อุ้มไว้ในวงแขน อาจแกล้งตบหัวลูบหลังบ้างแต่มันก็เรียนรู้ว่า นั่นล่ะคือความรักที่จริงใจของเจ้านายตัวน้อย
อากาศเช้านี้ดีเหลือเกิน ฟ้าสีครามเริ่มแต่งแต้มเมฆขาวลอยฟ่อง และสายลมเย็นเฉื่อยฉิว
และโดยไม่คาดฝัน ปราศจากวี่แววและการเตือนภัย แสงสว่างจ้าที่ร้อนแรงยิ่งกว่าแสงอาทิตย์หลายหมื่นเท่าก่อกลุ่มไฟนรกประลัยกัลป์รูปดอกเห็ดพวยพุ่งขึ้นบนท้องฟ้าติดตามด้วยเสียงกึกก้องกัมปนาทสะท้านสะเทือนราวโลกจะแตกเป็นผุยผง คลื่นแห่งความวิบัติกวาดล้างแผ่อาณาเขตไปไกล แรงทำลายมหาศาลแห่งระเบิดไฮโดรเจนลูกนั้น ทำลายชีวิต ความหวัง และความฝันของผู้คนแถวนั้นละลายหายสูญไปในเสี้ยววินาที
ไม่เหลือแม้แต่ตุ๊กตาหมี หรือลูกสุนัขตัวน้อยตัวนั้น
จบแล้วครับ^^
ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาในวันฟ้าใสครับ
วันฟ้าใส
วันฟ้าใส
============
เช้านี้อากาศสดชื่นแจ่มใสเหลือเกินท้องฟ้าสวยและใสไร้ปุยเมฆแต่งแต้ม
เด็กหญิงอายุประมาณห้าหกขวบ กำลังน่ารักน่าอุ้มกับชุดนักเรียนอนุบาล นัยน์ตาแจ่มใสเป็นประกาย ผิวแก้มเนียนบาง แบบเด็กๆในมือมีตุ๊กตาหมีแสนรัก สนามหญ้าหน้าบ้านมีใบไม้ใบหญ้าอุ้มหยาดน้ำค้างพราวพรายราวเกล็ดไข่มุกประกายวับวาวใสจิ๋ว และกับลูกสุนัขวัยซนขนปุกปุยกำลังกระโดดโลดเต้นไปมาอย่างสนุกสนาน ผีเสื้อฝูงหนึ่งโบยบินอยู่รอบแปลงดอกไม้หลากสีสดสวยหน้าบ้านห่างออกไปไม่มากนัก
“ไหนๆๆมือซ้ายยกขึ้นสวัสดีสิ” ใบหน้าใสๆนั้นออกอาการดุเข้มแบบประสาเด็กๆ ขณะพยายามสอนลูกหมาตัวน้อยให้รู้จักกับมรรยาทแบบมนุษย์
“สวัสดีต้องยกขาแบบนี้”
มือน้อยจับขาหน้าลูกหมาน่ารักสีขาวยกขึ้น ส่ายไปมา ลูกหมาตัวน้อยดูเหมือนไม่รู้เรื่องหรอกว่าเจ้านายขนาดกะทัดรัดของมันกำลังพยายามทำอะไรอยู่ แต่มันก็พยายามเอาใจด้วยการส่ายหางไปมาแบบไม่คิดชีวิต ปากมอมๆเลียมือน้อยๆที่จับขาหน้าของมันอยู่อย่างเอาใจ
“ลูกจ้ะ” เสียงผู้เป็นแม่ดังมาจากหน้าต่างห้องครัว “รีบมาทานข้าว เดี๋ยวคุณพ่อจะไปส่งที่โรงเรียนแล้วนะจ้ะ”
“รอเดี๋ยวค่ะแม่” แม่หนูหันไปร้องบอก มือยังจับหัวลูบหลังลูกหมาตัวน้อยอย่างรักใคร่ เจ้าหมาตัวน้อยมีท่าทางดีใจและมีความสุขกับมิตรภาพตามประสาหมา พอมองเห็นเด็กหญิงวิ่งเข้าไปในบ้านได้แต่ทำตาระห้อย เห่าตามสองสามครั้ง แต่ก็ยอมรับสภาพโดยดี หันไปวิ่งเล่นหน้าบ้านแทน เพราะรู้ว่าบ่ายๆ เจ้านายตัวน้อยจะกลับมาวิ่งเล่นกันสนุกสนานเหมือนเดิม
“แม่คะ หนูจะรีบกลับมาหาแม่ บอกคุณพ่อให้ไปรับหนูเร็วๆนะคะ” เสียงใสๆอ้อนผู้เป็นแม่ ผู้ก้มตัวลงหอมแก้มใสๆของลูกสาวอย่างแสนรัก
“แม่จะทำขนมอร่อยๆไว้ลูกทานตอนเย็นนะจ้ะ”
“ขอบคุณค่ะแม่ หนูรักแม่ที่สุดเลย”
“แม่ก็รักลูกจ๊ะ แต่เอาล่ะ ไปโรงเรียนได้แล้ว มามะ...ให้แม่หอมแก้มน่ารักๆก่อน”
หางเปียยาวๆไหวแกว่งไกวไปมาตามจังหวะการเดิน มือน้อยๆเกาะมือผู้เป็นพ่อตามความเคยชินและตามประสาเด็กๆตุ๊กตาหมีน่ารักยังถูกหิ้วไปด้วยแบบไม่ยอมปล่อย หลังสะพายกระเป๋านักเรียนแถมด้วยกระติกน้ำเล็กๆลายการ์ตูน ผู้เป็นแม่มองผ่านหน้าต่างอย่างปลื้มใจและมีความสุข ครอบครัวน้อยๆแต่อบอุ่นอันประกอบด้วย พ่อแม่ลูก และลูกหมาน้อยน่ารักตัวหนึ่งซึ่งตอนนี้กำลังกระโดดโลดเต้นตามไปอย่างไม่รู้ประสีประสา เจ้าหมาน้อยรู้ว่าตอนเย็นเจ้านายตัวน้อยจะกลับมา กอดมัน อุ้มไว้ในวงแขน อาจแกล้งตบหัวลูบหลังบ้างแต่มันก็เรียนรู้ว่า นั่นล่ะคือความรักที่จริงใจของเจ้านายตัวน้อย
อากาศเช้านี้ดีเหลือเกิน ฟ้าสีครามเริ่มแต่งแต้มเมฆขาวลอยฟ่อง และสายลมเย็นเฉื่อยฉิว
และโดยไม่คาดฝัน ปราศจากวี่แววและการเตือนภัย แสงสว่างจ้าที่ร้อนแรงยิ่งกว่าแสงอาทิตย์หลายหมื่นเท่าก่อกลุ่มไฟนรกประลัยกัลป์รูปดอกเห็ดพวยพุ่งขึ้นบนท้องฟ้าติดตามด้วยเสียงกึกก้องกัมปนาทสะท้านสะเทือนราวโลกจะแตกเป็นผุยผง คลื่นแห่งความวิบัติกวาดล้างแผ่อาณาเขตไปไกล แรงทำลายมหาศาลแห่งระเบิดไฮโดรเจนลูกนั้น ทำลายชีวิต ความหวัง และความฝันของผู้คนแถวนั้นละลายหายสูญไปในเสี้ยววินาที
ไม่เหลือแม้แต่ตุ๊กตาหมี หรือลูกสุนัขตัวน้อยตัวนั้น
จบแล้วครับ^^
ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาในวันฟ้าใสครับ