ตอนที่ 1/1
http://ppantip.com/topic/35410199
ตอนที่ ½
http://ppantip.com/topic/35415075
ตอนที่ 2/1
http://ppantip.com/topic/35420931
ตอนที่ 2/2
http://ppantip.com/topic/35424607
ตอนที่ 2/3
http://ppantip.com/topic/35428585
ตอนที่ 3/1
http://ppantip.com/topic/35432013
ตอนที่ 3/2
http://ppantip.com/topic/35435842
บทที่ 4 ทะเลทราย
ราฮีมและฟาติมานั่งอยู่ในเฮลิคอปเตอร์เพื่อไปยังทะเลทราย โดยที่ผู้ติดตามของเขาได้ล่วงหน้าไปก่อนแล้วเพื่อเตรียมสถานที่
และเมื่อไปถึงยังจุดหมาย เฮลิคอปเตอร์ก็ลงจอด
ราฮีมและฟาติมาลงจากเครื่อง แล้วเดินไปยังคนของเขาที่ล่วงหน้ามาก่อน
“หวัดดี ฟาติน”ราฮีมสวมกอดเพื่อนรักเป็นการทักทาย
“จะฮันนี่มูนทั้งที แต่ดันนัดแข่งรถกับพรรคพวก อย่างนี้เมียนายไม่น้อยใจเหรอ”ฟาตินถาม
“กลางทะเลทรายมันไม่มีอะไรให้ทำมากนัก ฉันก็ต้องหากิจกรรมมาให้เมียตื่นเต้นหน่อย”ราฮีมบอก
“ไม่เห็นจะเคยพาคาดียะฮ์มาตะลอนทัวร์กันแบบนี้เลย”ฟาตินมองหน้าเพื่อนยิ้มๆ
“นายก็รู้ว่าอะไรเป็นอะไร”
“เอาน่า คราวนี้นายเลือกเมียด้วยตัวเองแล้วนี่ คงได้ที่ถูกใจแล้วนะ”
“หึ!”ราฮีมยิ้มอารมณ์ดี “เดี๋ยวจะแนะนำให้รู้จักกัน”
เขาหันมาทางฟาติมา
“นี่ฟาติน เพื่อนฉันเอง”ราฮีมบอก
“อัสลามูอาลัยกุม”ฟาติมากล่าวสลาม พร้อมทั้งยกมือขึ้นแตะหน้าผากตัวเองราวกับขอพรให้พระเจ้าประทานความสุขและสันติแก่เขา
“วาอาลัยกุมมุสลาม”ฟาตินเอามือแตะที่หน้าผากตัวเอง เป็นการสลาม กลับ
“แล้วนั่นก็ ซาลีน่า ..ภรรยาของฟาติน”ราฮีมแนะนำ
“อัสลามูอาลัยกุม”ทั้งสองสาวกล่าวพร้อมๆ กัน จึงทำให้ต่างก็ยิ้มออกมา เพราะไม่รู้ว่าใครควรทักทายกันก่อน
“วาอาลัยกุมมุสลาม”พวกเธอพูดพร้อมกันอีกครั้ง
“สงสัยจะใจตรงกัน”ฟาตินกล่าว
“นั่นสิ”ราฮีมยิ้มให้ “ว่าแต่ อัสมานกับคนอื่นๆ ยังไม่มาอีกเหรอ”
“อัสมานมานั่นแล้ว”ฟาตินมองไปยังรถของเพื่อนและผู้ติดตามที่ขับเข้ามาใกล้ทุกทีๆ
“ว่าแต่ อาฟียะ น้องสาวนาย ตกลงจะรับหมั้นอัสมานหรือเปล่า”ฟาตินถาม
“ไม่รู้สิ”ราฮีมส่ายหน้าน้อยๆ “แต่แม่คงบังคับให้แต่ง เหมือนตอนบังคับฉันนั่นล่ะ”
“น้องสาวนายหัวนอก ไปเรียนอยู่ต่างประเทศตั้งนาน แล้วจะยอมให้โดนจับคลุมถุงชนงั้นเหรอ”ฟาตินถาม
“ฉันเองก็จบนอก แต่สุดท้าย ..ก็ยังต้องโดนบังคับให้แต่งกับผู้หญิงที่ไม่เคยเห็นหน้ากันมาก่อน”ราฮีมกล่าว
“มันก็อย่างนี้ล่ะ เพราะนี่คือสังคมของเรา ครอบครัวของเรา ธุรกิจอีกล่ะ การแต่งงานของชนชั้นระดับพวกเราในดูไบ มันยากนะที่จะรับคนนอกเข้ามา ..เพราะอย่าลืมว่า เราต้องสืบทอดตระกูล”ฟาตินพยักหน้าให้เพราะเขาเองก็แต่งงานเพราะถูกบังคับเช่นกัน ทว่า เขาและภรรยา อยู่ๆ กันแล้วก็รักผูกพัน
ไม่เหมือนกับคู่ของราฮีมและคาดียะฮ์ ที่ไม่ว่านานเท่าไหร่ ใจเขาก็ไม่เคยเป็นของเธอ
“ว่าไง พรรคพวก”เสียงของอัสมานทักทาย ขณะที่เดินตรงมา
“นายช้านะ”ราฮีมกล่าว
“ช่วยไม่ได้ ก็ฉันมันโสด เลยไม่มีเมียช่วยเตรียมสัมภาระให้”อัสมานยิ้มล้อเพื่อนทั้งสอง
“แต่อีกไม่นานก็จะไม่โสดแล้วนี่”ฟาตินล้อ
“ยังต้องรอฟังคำตอบอยู่เลย”อัสมานถอนหายใจ
“ความคิดนายเองเหรอ ที่อยากแต่งงานกับน้องสาวฉัน ..หรือความคิดของครอบครัว”ราฮีมถาม
“ก็ครอบครัวฉันอีกนั่นล่ะ บวกกับความพอใจของฉันด้วย”อัสมานหันไปมองฟาติมา “นี่เมียใหม่นายเหรอ”
“ใช่”ราฮีมตอบ แล้วแนะนำให้ทั้งสองรู้จักกัน “นี่ฟาติมา”
“อัสลามูอาลัยกุม”อัสมานกล่าว
“วาอาลัยกุมมุสลาม”ฟาติมาตอบ
อัสมานหันไปทักทายซาลีน่าซึ่งรู้จักกันมาก่อนแล้ว “อัสลามูอาลัยกุม”
“วาอาลัยกุมมุสลาม”ซาลีน่าตอบ
“เอาล่ะสาวๆ ไปทำความรู้จักกันเพิ่มเติมนะ พวกเราหนุ่มๆ จะเข้าไปในกระโจมทางฝั่งโน้นแล้ว”ราฮีมบอก และหันไปทางซาลีน่า “ฝากฟาติมาด้วยนะ”
“ได้ค่ะ”
จากนั้น พวกเขาก็แยกกันไป เพื่อสังสรรค์ในกระโจมขนาดใหญ่ที่อยู่กันคนละฝั่งซึ่งแยกไว้สำหรับพวกผู้ชายและพวกผู้หญิง
*______________________*
ฟาติมาและซาลีน่าพูดคุยกันอย่างถูกคอ ทั้งสองรู้สึกเหมือนมีอะไรคล้ายๆ กัน ต่างฝ่ายต่างก็รู้สึกคุ้นเคยกันอย่างบอกไม่ถูก
จากการที่ทั้งสองพูดคุยทำความรู้จักกันแล้วนั้น ทำให้ฟาติมารู้ว่าตัวเองอายุมากกว่าซาลีน่าสองปี
“คุณแต่งงานกับฟาตินได้ยังไง รู้จักกันมาก่อน หรือเป็นเพราะครอบครัวจัดหาให้”ฟาติมาถาม “ขอโทษนะคะ ถ้าละลาบละล้วงเกินไป”
“ไม่หรอกค่ะ ฉันตอบได้”ซาลีน่ายิ้มให้ “ครอบครัวเราจัดหาให้ค่ะ พ่อฉันกับพ่อเขาเป็นเพื่อนสนิทกัน ส่วนแม่ๆ ก็เป็นเพื่อนรักกัน”
“มีคนบอกว่า ผู้หญิงดูไบ แทบไม่ต้องทำงานอะไรเลย จริงเหรอคะ”ฟาติมาถามตามตรง
“ก็อาจจะแล้วแต่ครอบครัวด้วยค่ะ อีกอย่าง งานของผู้หญิงถูกจำกัดสิทธิ์เยอะเหมือนกัน อย่างเช่น ผู้หญิงจะไปมีบทบาททางการเมืองไม่ได้ จะมีบทบาทในธุรกิจก็ไม่ได้อีก เมื่อก่อนเคร่งกว่านี้ แต่ปัจจุบันก็ถือว่าเบาลงเยอะแล้ว ผู้หญิงสามารถออกไปทำงานนอกบ้านเหมือนในประเทศอื่นๆ แต่อาจจะจำกัดสิทธิบางอย่าง”ซาลีน่ากล่าว “แต่ระดับคุณฟาติมา ไม่จำเป็นต้องออกไปทำงานหรอกค่ะ เพราะคุณราฮีมคงดูแลได้อย่างไม่ให้ลำบาก”
“แต่ฉันอยากจะทำงานนะคะ”
“ผู้ชายที่มีฐานะ จะไม่ยอมให้ภรรยาทำงานข้างนอกหรอกค่ะ มันเหมือนเป็นการหยามหน้า เหมือนกับว่า พวกเขาไม่สามารถดูแลเธอได้”
“เป็นงั้นไป”ฟาติมารู้สึกได้เลยว่า การแต่งงาน ทำให้เธอต้องปรับตัวหลายๆ อย่างทีเดียว
“โดยเฉพาะ ถ้ามีเมียมากกว่าหนึ่ง แล้วให้เมียออกไปทำงาน ยิ่งทำให้ถูกมองในทางเสียหาย”ซาลีน่าบอก “ในดูไบ กำหนดให้ ผู้ชายที่มีฐานะตามที่รัฐกำหนด จึงจะสามารถมีเมียสอง สาม สี่ ไม่ใช่ผู้ชายทุกคนจะมีเมีย 4 ได้ทุกคน แต่มันอยู่ที่ฐานะด้วย”
“ผู้ชายธรรมดามีเมีย 4 ไม่ได้เหรอคะ”ฟาติมาถาม
“ก็อาจจะได้ แต่รัฐบาลจะไม่รับรองสิทธิ์ในหลายๆ อย่าง หรือถ้าพวกเขาอยู่กันโดยแต่งงาน แต่ไม่จดทะเบียนสมรส ก็ได้เหมือนกัน”ซาลีน่าเน้นย้ำ “แต่ต้องประกอบพิธีแต่งงานตามพิธีของมุสลิม จึงจะสามารถอยู่ด้วยกันได้ ..การที่อยู่ด้วยกันก่อนแต่งงาน ถือว่าเป็นความผิดบาปมหันต์”
“ถ้าไม่จดทะเบียนสมรส แล้วลูกที่เกิดมาล่ะ”ฟาติมาสงสัย
“บิดาสามารถเซ็นต์รับรองบุตรได้ค่ะ”
ทั้งสองนั่งพูดคุยกันไป จนกระทั่งมีภรรยาของเพื่อนๆ ราฮีมมาเพิ่ม
ซาลีน่าจึงช่วยแนะนำคนอื่นๆ ให้รู้จักกับฟาติมา “นี่ ดาร์ยะ แล้วก็ นัจญ์มีย์”
“อัสลามูอาลัยกุม”ดาร์ยะและนัจญ์มีย์กล่าวสลาม
“วาอาลัยกุมมุสลาม”ฟาติมาตอบ
จากนั้นพวกเธอก็เริ่มพูดคุยทำความรู้จัก
ฟาติมารู้สึกได้ว่า เธอกำลังก้าวไปอีกสังคม และกำลังก้าวเข้าไปยังชนชั้นสูงของดูไบ
*______________________*
หลังจากที่กลุ่มเพื่อนของราฮีมมาครบแล้ว พวกเขาก็เตรียมตัวจะแข่งรถกัน
ฟาติมาและเหล่าภรรยาของเพื่อนๆ ราฮีมเดินไปขึ้นรถของสามีพวกเธอ
“เพื่อนใหม่เป็นไงบ้าง”ราฮีมถาม เมื่อฟาติมาเข้ามานั่งยังเบาะข้างคนขับ
“ก็ดีค่ะ พวกเธอน่ารักกันทุกคนเลย”
“ถูกชะตากับใครเป็นพิเศษหรือเปล่า”เขาอยากรู้
“ค่ะ ฉันรู้สึกดีกับซาลีน่ามากๆ เลย”
เมื่อได้ยินอย่างนั้น ราฮีมก็ยิ้มน้อยๆ และคิดในใจ สายเลือดเดียวกัน ย่อมมีสายสัมพันธ์ที่แนบแน่น แม้พวกเธอจะยังไม่รู้ว่าเป็นพี่น้องที่มีพ่อเดียวกัน
“ดีแล้วล่ะ ฉันดีใจนะที่เธอมีเพื่อนใหม่ เพราะเวลาที่อยู่ดูไบ จะได้ไม่เหงา ว่างๆ ก็ชวนเพื่อนๆ มาปาตี้ที่บ้านเสียบ้าง จะได้สนิทสนมกันมากขึ้น”เขาบอก
“ซาลีน่าเองก็ชวนฉันไปปาตี้ที่บ้านเธอเหมือนกัน”
“งั้นก็ไปสิ”
“เธอบอกว่า สังคมของสาวๆ ที่นี่คือ ปาตี้กันบ้านโน้นบ้านนี้ในกลุ่มเพื่อนๆ”ฟาติมาส่ายหน้าน้อยๆ เมื่อนึกว่า พวกเธอเหล่านั้นก็สรรหากิจกรรมมาทำเพื่อไม่ให้ว่างจนเกินไป ใช้ชีวิตสนุกไปกับการสังสรรค์ และมีความสุขกับชีวิตได้อย่างน่าสนใจ
“นั่นล่ะ กิจกรรมของเมียๆ และผู้หญิงชนชั้นสูงในดูไบ”ราฮีมกล่าว “รถของพวกเธอแต่ละคันก็ราคาพอๆ กับที่ฉันซื้อให้เธอนั่นล่ะ”
“หึ!”ฟาติมายิ้มสบตาเขา
“ก็อย่างที่ฉันบอก เมียคือสมบัติ และเป็นหน้าตาของสามี ..ผู้ชายที่นี่แข่งเรื่องเมียกันน่าดูเหมือนเชียว”
“งั้นฉันก็จะปรับตัว เพื่อไม่ให้คุณน้อยหน้าใคร”
“น่ารักมาก”ราฮีมยิ้มร่า
ทั้งสองมัวแต่พูดคุยกัน เลยทำให้ไม่เห็นสัญญาณการเตรียมรถเข้าไปยังจุดสตาร์ท
“ปี๊น!ปี๊น!”อัสมานกดแตร ส่งเสียงเรียก พร้อมทั้งลงกระจกรถ แล้วตะโกนออกไป “เอ้ย! อย่ามัวแต่สวีทกัน จะเริ่มแข่งกันแล้ว”
ราฮีมลดกระจกรถลงเพื่อฟังว่าอีกฝ่ายพูดอะไร
“จะแข่งแล้ว ช่วยหยุดสวีทกันไว้ก่อน”อัสมานแซวยิ้มๆ “ช่วยเห็นใจคนไม่มีเมียอย่างฉันบ้างเถอะ ..อิจฉา”
“โอเคๆ”ราฮีมยิ้มให้ก่อนจะกดขึ้นกระจกรถ แล้วขับไปยังจุดสตาร์ท
“เข้าประจำที่”ผู้ที่ทำหน้าที่เป็นคนปล่อยรถบอก พร้อมทั้งยกธงที่อยู่ในมือขึ้น “ระวัง”
เมื่อมองแล้วว่ารถทุกคันพร้อม และล้ออยู่ในระดับเดียวกัน จึงฟาดธงลง
“ไป!”
รถที่ร่วมแข่งมีทั้งหมดสิบคัน และตอนนี้ได้ออกสตาร์ทไปพร้อมๆ กันแล้ว
รถกำลังแข่งกันในทะเลทรายที่ร้อนระอุ และรถที่จะนำมาแข่งกันแบบนี้ได้ ก็ย่อมผ่านการแต่งมาอย่างดีเยี่ยม
ฟาติมาไม่คิดเลยว่า การฮันนีมูนของเธอกับเขาจะแปลกและแตกต่างจริงๆ
“เส้นชัยอยู่ไกลไหมคะ”
“เราจะไปกันที่ร้านอาหารกลางทะเลทราย ใครไปถึงก่อน คนนั้นชนะ”ราฮีมบอก “ส่วนใครไปถึงคันสุดท้าย ต้องจ่ายค่าอาหารทั้งหมด”
“งั้นคุณก็ห้ามแพ้นะคะ”
“เมียพูดขนาดนี้แล้วจะแพ้ได้ไง”เขาหันมาขยิบตาให้เธอก่อนจะหันไปสนใจเส้นทางการแข่งเหมือนเดิม
กรงวิวาห์ซาตาน(ตอนที่ 4)
ตอนที่ 1/1 http://ppantip.com/topic/35410199
ตอนที่ ½ http://ppantip.com/topic/35415075
ตอนที่ 2/1 http://ppantip.com/topic/35420931
ตอนที่ 2/2 http://ppantip.com/topic/35424607
ตอนที่ 2/3 http://ppantip.com/topic/35428585
ตอนที่ 3/1 http://ppantip.com/topic/35432013
ตอนที่ 3/2 http://ppantip.com/topic/35435842
บทที่ 4 ทะเลทราย
ราฮีมและฟาติมานั่งอยู่ในเฮลิคอปเตอร์เพื่อไปยังทะเลทราย โดยที่ผู้ติดตามของเขาได้ล่วงหน้าไปก่อนแล้วเพื่อเตรียมสถานที่
และเมื่อไปถึงยังจุดหมาย เฮลิคอปเตอร์ก็ลงจอด
ราฮีมและฟาติมาลงจากเครื่อง แล้วเดินไปยังคนของเขาที่ล่วงหน้ามาก่อน
“หวัดดี ฟาติน”ราฮีมสวมกอดเพื่อนรักเป็นการทักทาย
“จะฮันนี่มูนทั้งที แต่ดันนัดแข่งรถกับพรรคพวก อย่างนี้เมียนายไม่น้อยใจเหรอ”ฟาตินถาม
“กลางทะเลทรายมันไม่มีอะไรให้ทำมากนัก ฉันก็ต้องหากิจกรรมมาให้เมียตื่นเต้นหน่อย”ราฮีมบอก
“ไม่เห็นจะเคยพาคาดียะฮ์มาตะลอนทัวร์กันแบบนี้เลย”ฟาตินมองหน้าเพื่อนยิ้มๆ
“นายก็รู้ว่าอะไรเป็นอะไร”
“เอาน่า คราวนี้นายเลือกเมียด้วยตัวเองแล้วนี่ คงได้ที่ถูกใจแล้วนะ”
“หึ!”ราฮีมยิ้มอารมณ์ดี “เดี๋ยวจะแนะนำให้รู้จักกัน”
เขาหันมาทางฟาติมา
“นี่ฟาติน เพื่อนฉันเอง”ราฮีมบอก
“อัสลามูอาลัยกุม”ฟาติมากล่าวสลาม พร้อมทั้งยกมือขึ้นแตะหน้าผากตัวเองราวกับขอพรให้พระเจ้าประทานความสุขและสันติแก่เขา
“วาอาลัยกุมมุสลาม”ฟาตินเอามือแตะที่หน้าผากตัวเอง เป็นการสลาม กลับ
“แล้วนั่นก็ ซาลีน่า ..ภรรยาของฟาติน”ราฮีมแนะนำ
“อัสลามูอาลัยกุม”ทั้งสองสาวกล่าวพร้อมๆ กัน จึงทำให้ต่างก็ยิ้มออกมา เพราะไม่รู้ว่าใครควรทักทายกันก่อน
“วาอาลัยกุมมุสลาม”พวกเธอพูดพร้อมกันอีกครั้ง
“สงสัยจะใจตรงกัน”ฟาตินกล่าว
“นั่นสิ”ราฮีมยิ้มให้ “ว่าแต่ อัสมานกับคนอื่นๆ ยังไม่มาอีกเหรอ”
“อัสมานมานั่นแล้ว”ฟาตินมองไปยังรถของเพื่อนและผู้ติดตามที่ขับเข้ามาใกล้ทุกทีๆ
“ว่าแต่ อาฟียะ น้องสาวนาย ตกลงจะรับหมั้นอัสมานหรือเปล่า”ฟาตินถาม
“ไม่รู้สิ”ราฮีมส่ายหน้าน้อยๆ “แต่แม่คงบังคับให้แต่ง เหมือนตอนบังคับฉันนั่นล่ะ”
“น้องสาวนายหัวนอก ไปเรียนอยู่ต่างประเทศตั้งนาน แล้วจะยอมให้โดนจับคลุมถุงชนงั้นเหรอ”ฟาตินถาม
“ฉันเองก็จบนอก แต่สุดท้าย ..ก็ยังต้องโดนบังคับให้แต่งกับผู้หญิงที่ไม่เคยเห็นหน้ากันมาก่อน”ราฮีมกล่าว
“มันก็อย่างนี้ล่ะ เพราะนี่คือสังคมของเรา ครอบครัวของเรา ธุรกิจอีกล่ะ การแต่งงานของชนชั้นระดับพวกเราในดูไบ มันยากนะที่จะรับคนนอกเข้ามา ..เพราะอย่าลืมว่า เราต้องสืบทอดตระกูล”ฟาตินพยักหน้าให้เพราะเขาเองก็แต่งงานเพราะถูกบังคับเช่นกัน ทว่า เขาและภรรยา อยู่ๆ กันแล้วก็รักผูกพัน
ไม่เหมือนกับคู่ของราฮีมและคาดียะฮ์ ที่ไม่ว่านานเท่าไหร่ ใจเขาก็ไม่เคยเป็นของเธอ
“ว่าไง พรรคพวก”เสียงของอัสมานทักทาย ขณะที่เดินตรงมา
“นายช้านะ”ราฮีมกล่าว
“ช่วยไม่ได้ ก็ฉันมันโสด เลยไม่มีเมียช่วยเตรียมสัมภาระให้”อัสมานยิ้มล้อเพื่อนทั้งสอง
“แต่อีกไม่นานก็จะไม่โสดแล้วนี่”ฟาตินล้อ
“ยังต้องรอฟังคำตอบอยู่เลย”อัสมานถอนหายใจ
“ความคิดนายเองเหรอ ที่อยากแต่งงานกับน้องสาวฉัน ..หรือความคิดของครอบครัว”ราฮีมถาม
“ก็ครอบครัวฉันอีกนั่นล่ะ บวกกับความพอใจของฉันด้วย”อัสมานหันไปมองฟาติมา “นี่เมียใหม่นายเหรอ”
“ใช่”ราฮีมตอบ แล้วแนะนำให้ทั้งสองรู้จักกัน “นี่ฟาติมา”
“อัสลามูอาลัยกุม”อัสมานกล่าว
“วาอาลัยกุมมุสลาม”ฟาติมาตอบ
อัสมานหันไปทักทายซาลีน่าซึ่งรู้จักกันมาก่อนแล้ว “อัสลามูอาลัยกุม”
“วาอาลัยกุมมุสลาม”ซาลีน่าตอบ
“เอาล่ะสาวๆ ไปทำความรู้จักกันเพิ่มเติมนะ พวกเราหนุ่มๆ จะเข้าไปในกระโจมทางฝั่งโน้นแล้ว”ราฮีมบอก และหันไปทางซาลีน่า “ฝากฟาติมาด้วยนะ”
“ได้ค่ะ”
จากนั้น พวกเขาก็แยกกันไป เพื่อสังสรรค์ในกระโจมขนาดใหญ่ที่อยู่กันคนละฝั่งซึ่งแยกไว้สำหรับพวกผู้ชายและพวกผู้หญิง
*______________________*
ฟาติมาและซาลีน่าพูดคุยกันอย่างถูกคอ ทั้งสองรู้สึกเหมือนมีอะไรคล้ายๆ กัน ต่างฝ่ายต่างก็รู้สึกคุ้นเคยกันอย่างบอกไม่ถูก
จากการที่ทั้งสองพูดคุยทำความรู้จักกันแล้วนั้น ทำให้ฟาติมารู้ว่าตัวเองอายุมากกว่าซาลีน่าสองปี
“คุณแต่งงานกับฟาตินได้ยังไง รู้จักกันมาก่อน หรือเป็นเพราะครอบครัวจัดหาให้”ฟาติมาถาม “ขอโทษนะคะ ถ้าละลาบละล้วงเกินไป”
“ไม่หรอกค่ะ ฉันตอบได้”ซาลีน่ายิ้มให้ “ครอบครัวเราจัดหาให้ค่ะ พ่อฉันกับพ่อเขาเป็นเพื่อนสนิทกัน ส่วนแม่ๆ ก็เป็นเพื่อนรักกัน”
“มีคนบอกว่า ผู้หญิงดูไบ แทบไม่ต้องทำงานอะไรเลย จริงเหรอคะ”ฟาติมาถามตามตรง
“ก็อาจจะแล้วแต่ครอบครัวด้วยค่ะ อีกอย่าง งานของผู้หญิงถูกจำกัดสิทธิ์เยอะเหมือนกัน อย่างเช่น ผู้หญิงจะไปมีบทบาททางการเมืองไม่ได้ จะมีบทบาทในธุรกิจก็ไม่ได้อีก เมื่อก่อนเคร่งกว่านี้ แต่ปัจจุบันก็ถือว่าเบาลงเยอะแล้ว ผู้หญิงสามารถออกไปทำงานนอกบ้านเหมือนในประเทศอื่นๆ แต่อาจจะจำกัดสิทธิบางอย่าง”ซาลีน่ากล่าว “แต่ระดับคุณฟาติมา ไม่จำเป็นต้องออกไปทำงานหรอกค่ะ เพราะคุณราฮีมคงดูแลได้อย่างไม่ให้ลำบาก”
“แต่ฉันอยากจะทำงานนะคะ”
“ผู้ชายที่มีฐานะ จะไม่ยอมให้ภรรยาทำงานข้างนอกหรอกค่ะ มันเหมือนเป็นการหยามหน้า เหมือนกับว่า พวกเขาไม่สามารถดูแลเธอได้”
“เป็นงั้นไป”ฟาติมารู้สึกได้เลยว่า การแต่งงาน ทำให้เธอต้องปรับตัวหลายๆ อย่างทีเดียว
“โดยเฉพาะ ถ้ามีเมียมากกว่าหนึ่ง แล้วให้เมียออกไปทำงาน ยิ่งทำให้ถูกมองในทางเสียหาย”ซาลีน่าบอก “ในดูไบ กำหนดให้ ผู้ชายที่มีฐานะตามที่รัฐกำหนด จึงจะสามารถมีเมียสอง สาม สี่ ไม่ใช่ผู้ชายทุกคนจะมีเมีย 4 ได้ทุกคน แต่มันอยู่ที่ฐานะด้วย”
“ผู้ชายธรรมดามีเมีย 4 ไม่ได้เหรอคะ”ฟาติมาถาม
“ก็อาจจะได้ แต่รัฐบาลจะไม่รับรองสิทธิ์ในหลายๆ อย่าง หรือถ้าพวกเขาอยู่กันโดยแต่งงาน แต่ไม่จดทะเบียนสมรส ก็ได้เหมือนกัน”ซาลีน่าเน้นย้ำ “แต่ต้องประกอบพิธีแต่งงานตามพิธีของมุสลิม จึงจะสามารถอยู่ด้วยกันได้ ..การที่อยู่ด้วยกันก่อนแต่งงาน ถือว่าเป็นความผิดบาปมหันต์”
“ถ้าไม่จดทะเบียนสมรส แล้วลูกที่เกิดมาล่ะ”ฟาติมาสงสัย
“บิดาสามารถเซ็นต์รับรองบุตรได้ค่ะ”
ทั้งสองนั่งพูดคุยกันไป จนกระทั่งมีภรรยาของเพื่อนๆ ราฮีมมาเพิ่ม
ซาลีน่าจึงช่วยแนะนำคนอื่นๆ ให้รู้จักกับฟาติมา “นี่ ดาร์ยะ แล้วก็ นัจญ์มีย์”
“อัสลามูอาลัยกุม”ดาร์ยะและนัจญ์มีย์กล่าวสลาม
“วาอาลัยกุมมุสลาม”ฟาติมาตอบ
จากนั้นพวกเธอก็เริ่มพูดคุยทำความรู้จัก
ฟาติมารู้สึกได้ว่า เธอกำลังก้าวไปอีกสังคม และกำลังก้าวเข้าไปยังชนชั้นสูงของดูไบ
*______________________*
หลังจากที่กลุ่มเพื่อนของราฮีมมาครบแล้ว พวกเขาก็เตรียมตัวจะแข่งรถกัน
ฟาติมาและเหล่าภรรยาของเพื่อนๆ ราฮีมเดินไปขึ้นรถของสามีพวกเธอ
“เพื่อนใหม่เป็นไงบ้าง”ราฮีมถาม เมื่อฟาติมาเข้ามานั่งยังเบาะข้างคนขับ
“ก็ดีค่ะ พวกเธอน่ารักกันทุกคนเลย”
“ถูกชะตากับใครเป็นพิเศษหรือเปล่า”เขาอยากรู้
“ค่ะ ฉันรู้สึกดีกับซาลีน่ามากๆ เลย”
เมื่อได้ยินอย่างนั้น ราฮีมก็ยิ้มน้อยๆ และคิดในใจ สายเลือดเดียวกัน ย่อมมีสายสัมพันธ์ที่แนบแน่น แม้พวกเธอจะยังไม่รู้ว่าเป็นพี่น้องที่มีพ่อเดียวกัน
“ดีแล้วล่ะ ฉันดีใจนะที่เธอมีเพื่อนใหม่ เพราะเวลาที่อยู่ดูไบ จะได้ไม่เหงา ว่างๆ ก็ชวนเพื่อนๆ มาปาตี้ที่บ้านเสียบ้าง จะได้สนิทสนมกันมากขึ้น”เขาบอก
“ซาลีน่าเองก็ชวนฉันไปปาตี้ที่บ้านเธอเหมือนกัน”
“งั้นก็ไปสิ”
“เธอบอกว่า สังคมของสาวๆ ที่นี่คือ ปาตี้กันบ้านโน้นบ้านนี้ในกลุ่มเพื่อนๆ”ฟาติมาส่ายหน้าน้อยๆ เมื่อนึกว่า พวกเธอเหล่านั้นก็สรรหากิจกรรมมาทำเพื่อไม่ให้ว่างจนเกินไป ใช้ชีวิตสนุกไปกับการสังสรรค์ และมีความสุขกับชีวิตได้อย่างน่าสนใจ
“นั่นล่ะ กิจกรรมของเมียๆ และผู้หญิงชนชั้นสูงในดูไบ”ราฮีมกล่าว “รถของพวกเธอแต่ละคันก็ราคาพอๆ กับที่ฉันซื้อให้เธอนั่นล่ะ”
“หึ!”ฟาติมายิ้มสบตาเขา
“ก็อย่างที่ฉันบอก เมียคือสมบัติ และเป็นหน้าตาของสามี ..ผู้ชายที่นี่แข่งเรื่องเมียกันน่าดูเหมือนเชียว”
“งั้นฉันก็จะปรับตัว เพื่อไม่ให้คุณน้อยหน้าใคร”
“น่ารักมาก”ราฮีมยิ้มร่า
ทั้งสองมัวแต่พูดคุยกัน เลยทำให้ไม่เห็นสัญญาณการเตรียมรถเข้าไปยังจุดสตาร์ท
“ปี๊น!ปี๊น!”อัสมานกดแตร ส่งเสียงเรียก พร้อมทั้งลงกระจกรถ แล้วตะโกนออกไป “เอ้ย! อย่ามัวแต่สวีทกัน จะเริ่มแข่งกันแล้ว”
ราฮีมลดกระจกรถลงเพื่อฟังว่าอีกฝ่ายพูดอะไร
“จะแข่งแล้ว ช่วยหยุดสวีทกันไว้ก่อน”อัสมานแซวยิ้มๆ “ช่วยเห็นใจคนไม่มีเมียอย่างฉันบ้างเถอะ ..อิจฉา”
“โอเคๆ”ราฮีมยิ้มให้ก่อนจะกดขึ้นกระจกรถ แล้วขับไปยังจุดสตาร์ท
“เข้าประจำที่”ผู้ที่ทำหน้าที่เป็นคนปล่อยรถบอก พร้อมทั้งยกธงที่อยู่ในมือขึ้น “ระวัง”
เมื่อมองแล้วว่ารถทุกคันพร้อม และล้ออยู่ในระดับเดียวกัน จึงฟาดธงลง
“ไป!”
รถที่ร่วมแข่งมีทั้งหมดสิบคัน และตอนนี้ได้ออกสตาร์ทไปพร้อมๆ กันแล้ว
รถกำลังแข่งกันในทะเลทรายที่ร้อนระอุ และรถที่จะนำมาแข่งกันแบบนี้ได้ ก็ย่อมผ่านการแต่งมาอย่างดีเยี่ยม
ฟาติมาไม่คิดเลยว่า การฮันนีมูนของเธอกับเขาจะแปลกและแตกต่างจริงๆ
“เส้นชัยอยู่ไกลไหมคะ”
“เราจะไปกันที่ร้านอาหารกลางทะเลทราย ใครไปถึงก่อน คนนั้นชนะ”ราฮีมบอก “ส่วนใครไปถึงคันสุดท้าย ต้องจ่ายค่าอาหารทั้งหมด”
“งั้นคุณก็ห้ามแพ้นะคะ”
“เมียพูดขนาดนี้แล้วจะแพ้ได้ไง”เขาหันมาขยิบตาให้เธอก่อนจะหันไปสนใจเส้นทางการแข่งเหมือนเดิม