ปลายสัปดาห์ที่แล้วมีโอกาสได้ไปทำธุระที่จังหวัดอุดรฯ
รู้สึกตื่นเต้นเหมือนทุกๆครั้ง ที่ได้ไปที่ใหม่ๆ เจอสิ่งใหม่ๆ ประสบการณ์ใหม่ๆ
และมีเรื่องนึงที่ค่อนข้างน่าจดจำที่สุดในการมาครั้งนี้
เรื่องเริ่มจากการได้ฟังเรื่องเล่าเกี่ยวกับตำนานเมืองคำชะโนด
เมืองที่ผูกพันธ์กับความเชื่อเรื่องพญานาค
วัดที่ชาวบ้านเชื่อว่ามีบ่อน้ำที่เชื่อมกับเมืองบาดาล
พระที่ลงไปประกวดชายงามที่เมืองบาดาล (ใช่....พระประกวดชายงามที่เมืองบาดาล อ่านไม่ผิด)
และคนที่ถูกผีหลอกไปฉายหนังกลางแปลงในปี2532 (ที่ดังจนถูกสร้างเป็นหนัง)
ด้วยเรื่องเล่าทั้งหมดนี้ ทำให้ตัดสินใจแวะไปที่คำชะโนดและวัดซึ่งเป็นสถานที่ต้นกำเนิดเรื่องทั้งหมดนี้
เพราะอยากเก็บมุมมอง บุคลิกของสถานที่นี้ไว้
พอไปถึงวัด ภาพแรกที่เห็นนั้นตรงข้ามกับภาพในหัวที่วาดไว้เกือบทุกอย่าง
ไม่มีวัดที่บุคลิกเงียบขรึมวังเวง ไม่มีความหนาและรกของต้นไม้ใหญ่ ไม่มีความเงียบสงบ
มีแต่ลานจอดรถกว้างๆ คนเยอะๆ ร้านค้าตั้งวุ่นวาย
นกหงอยๆในกรงเล็กๆรอ"คนใจบุญ"มาปล่อย....
และจับมาขังใหม่รอ"คนใจบุญ"มาปล่อยอีกครั้ง....
......อยากกลับ
(หอรูปเหมือน หลวงปู่คำตา อยู่ส่วนหน้าวัด)
แต่ผู้ใหญ่ที่พามา(พ่อตา)บอกว่าเดี๋ยวจะพาไปทางเข้าส่วนของเกาะคำชะโนด
ห่างจากจุดวุ่นวายมาประมาณ30วินาที ก็มาถึงทางเข้าที่เชื่อมไปถึงตัวเกาะ
ที่ทำเป็นตัวพญานาคคู่ ขนานยาวสุดทางเดิน
มีต้นไม้ขนาดใหญ่และสูงมากคล้ายต้นมะพร้าวปนปาล์มขึ้นจนรกครึ้ม (คือต้น"ชะโนด")
กลิ่นขี้ค้างคาวฉุนแรงตลอดทางเดิน (คาดว่าจะเกาะอยู่บนยอดชะโนด)
ความวุ่นวายทั้งหมดหายไป (ทั้งที่ห่างกันแค่ไม่เกิน 30 วินาที)
เดินจากจุดเริ่มต้นไปถึงตัวเกาะใช้เวลาอีกประมาณ 5 นาที
บนเกาะเต็มไปด้วยต้นไม้สูงใหญ่หนาทึบ
สิ่งของต่างๆที่แสดงถึงวัฒนธรรมความเชื่อ
โชคดีที่วันนั้นเป็นวันที่มีคนมาถวายการแสดงต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์บริเวณนั้น
เลยได้เห็นการแสดงที่มีเอกลักษณ์ของท้องถิ่น
ได้เห็นผู้จ้าง(น่าจะ) ที่มีบุคลิกเฉพาะตัว
ได้เห็นพญานาคที่ทำมาจากใบไม้ ถูกนำมาสานให้สวยงามด้วยความตั้งใจ
ได้เจอแมลงแปลกตา(น่าจะเป็นมวน)
ได้เห็นฆ้องที่ไม่ต้องตีข้างหน้า แต่ใช้มือค่อยๆลูบด้านหลังก็มีเสียงดังกังวาลออกมา
ได้เจอบ่อน้ำที่มีความเชื่อว่าเป็นทางเชื่อมกับเมืองพญานาค
ได้เจอรูปปั้นพระ ที่ท่านเล่าว่าเคยได้ลงไปประกวดชายงามที่เมืองบาดาล
ได้เจอเรื่องราวที่ตั้งใจว่าจะได้มาเจอ
มาครั้งนี้ได้ลดอคติตัวเองลงในเรื่องความเชื่อ
ความเชื่อที่เป็นกุศโลบายให้ทำเรื่องดีๆ เป็นสิ่งที่น่าสนับสนุน
ความเชื่อที่เป็นอุบายหลอกคนให้งมงาย อวิชชา สมควรประณาม (นะจ๊ะ)
เกือบตัดสินหนังสือจากปก เกือบตัดสินวัดนี้จากความพลุกพล่านแถวลานจอดรถในตอนแรก
ดีใจที่ได้มาดูและเก็บประสบการณ์ครั้งนี้ไว้
ทริปต่อไป น่าจะเป็นทะเล
#WorldCitizen
ลิ้งค์เรื่องราวตำนานต่างๆของคำชะโนด
http://nopparatnonsiri.blogspot.com/
ติดตามรีวิวอื่นได้คับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
http://m.ppantip.com/topic/35117894?
Part 1 Osaka - Kyoto 5 วันเต็ม ซากุระจ๋าาาพี่มาแล้ววววว Kyoto 2 วัน
http://m.ppantip.com/topic/35123616?
Part 2 Osaka - Kyoto 5 วันเต็ม ซากุระจ๋าาาพี่มาแล้ววววว Universal Studio Japan
http://m.ppantip.com/topic/35125412?
Part 3 Osaka - Kyoto 5 วันเต็ม ซากุระจ๋าพี่มาแล้ววววว Osaka 2.5 วัน
http://m.ppantip.com/topic/35139044?
รีวิวไซส์เล็ก Resort de paskani + Inu cafe ให้รูปเล่าเรื่อง
http://ppantip.com/topic/35182023
รีวิวไซส์เล็ก Fat Cat cafe' คาเฟ่เล็ก แต่แมวใหญ่มากกก!
http://m.ppantip.com/topic/35208595?
"ภูริตารีสอร์ท" หลีเป๊ะ ชวนพัก "บ้านเพียงพอ โฮสเทล"
http://m.ppantip.com/topic/35210071?
หลีเป๊ะ หน้าโลว์ซีซั่น ก็เที่ยวได้...จริงดิ?!
http://m.ppantip.com/topic/35386533?
รีวิวร้าน 1950's izakaya "ร้านเหล้าแบบญี่ปุ่น"
[CR] เกาะคำชะโนด
ปลายสัปดาห์ที่แล้วมีโอกาสได้ไปทำธุระที่จังหวัดอุดรฯ
รู้สึกตื่นเต้นเหมือนทุกๆครั้ง ที่ได้ไปที่ใหม่ๆ เจอสิ่งใหม่ๆ ประสบการณ์ใหม่ๆ
และมีเรื่องนึงที่ค่อนข้างน่าจดจำที่สุดในการมาครั้งนี้
เรื่องเริ่มจากการได้ฟังเรื่องเล่าเกี่ยวกับตำนานเมืองคำชะโนด
เมืองที่ผูกพันธ์กับความเชื่อเรื่องพญานาค
วัดที่ชาวบ้านเชื่อว่ามีบ่อน้ำที่เชื่อมกับเมืองบาดาล
พระที่ลงไปประกวดชายงามที่เมืองบาดาล (ใช่....พระประกวดชายงามที่เมืองบาดาล อ่านไม่ผิด)
และคนที่ถูกผีหลอกไปฉายหนังกลางแปลงในปี2532 (ที่ดังจนถูกสร้างเป็นหนัง)
ด้วยเรื่องเล่าทั้งหมดนี้ ทำให้ตัดสินใจแวะไปที่คำชะโนดและวัดซึ่งเป็นสถานที่ต้นกำเนิดเรื่องทั้งหมดนี้
เพราะอยากเก็บมุมมอง บุคลิกของสถานที่นี้ไว้
พอไปถึงวัด ภาพแรกที่เห็นนั้นตรงข้ามกับภาพในหัวที่วาดไว้เกือบทุกอย่าง
ไม่มีวัดที่บุคลิกเงียบขรึมวังเวง ไม่มีความหนาและรกของต้นไม้ใหญ่ ไม่มีความเงียบสงบ
มีแต่ลานจอดรถกว้างๆ คนเยอะๆ ร้านค้าตั้งวุ่นวาย
นกหงอยๆในกรงเล็กๆรอ"คนใจบุญ"มาปล่อย....
และจับมาขังใหม่รอ"คนใจบุญ"มาปล่อยอีกครั้ง....
......อยากกลับ
(หอรูปเหมือน หลวงปู่คำตา อยู่ส่วนหน้าวัด)
แต่ผู้ใหญ่ที่พามา(พ่อตา)บอกว่าเดี๋ยวจะพาไปทางเข้าส่วนของเกาะคำชะโนด
ห่างจากจุดวุ่นวายมาประมาณ30วินาที ก็มาถึงทางเข้าที่เชื่อมไปถึงตัวเกาะ
ที่ทำเป็นตัวพญานาคคู่ ขนานยาวสุดทางเดิน
มีต้นไม้ขนาดใหญ่และสูงมากคล้ายต้นมะพร้าวปนปาล์มขึ้นจนรกครึ้ม (คือต้น"ชะโนด")
กลิ่นขี้ค้างคาวฉุนแรงตลอดทางเดิน (คาดว่าจะเกาะอยู่บนยอดชะโนด)
ความวุ่นวายทั้งหมดหายไป (ทั้งที่ห่างกันแค่ไม่เกิน 30 วินาที)
เดินจากจุดเริ่มต้นไปถึงตัวเกาะใช้เวลาอีกประมาณ 5 นาที
บนเกาะเต็มไปด้วยต้นไม้สูงใหญ่หนาทึบ
สิ่งของต่างๆที่แสดงถึงวัฒนธรรมความเชื่อ
โชคดีที่วันนั้นเป็นวันที่มีคนมาถวายการแสดงต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์บริเวณนั้น
เลยได้เห็นการแสดงที่มีเอกลักษณ์ของท้องถิ่น
ได้เห็นผู้จ้าง(น่าจะ) ที่มีบุคลิกเฉพาะตัว
ได้เห็นพญานาคที่ทำมาจากใบไม้ ถูกนำมาสานให้สวยงามด้วยความตั้งใจ
ได้เจอแมลงแปลกตา(น่าจะเป็นมวน)
ได้เห็นฆ้องที่ไม่ต้องตีข้างหน้า แต่ใช้มือค่อยๆลูบด้านหลังก็มีเสียงดังกังวาลออกมา
ได้เจอบ่อน้ำที่มีความเชื่อว่าเป็นทางเชื่อมกับเมืองพญานาค
ได้เจอรูปปั้นพระ ที่ท่านเล่าว่าเคยได้ลงไปประกวดชายงามที่เมืองบาดาล
ได้เจอเรื่องราวที่ตั้งใจว่าจะได้มาเจอ
มาครั้งนี้ได้ลดอคติตัวเองลงในเรื่องความเชื่อ
ความเชื่อที่เป็นกุศโลบายให้ทำเรื่องดีๆ เป็นสิ่งที่น่าสนับสนุน
ความเชื่อที่เป็นอุบายหลอกคนให้งมงาย อวิชชา สมควรประณาม (นะจ๊ะ)
เกือบตัดสินหนังสือจากปก เกือบตัดสินวัดนี้จากความพลุกพล่านแถวลานจอดรถในตอนแรก
ดีใจที่ได้มาดูและเก็บประสบการณ์ครั้งนี้ไว้
ทริปต่อไป น่าจะเป็นทะเล
#WorldCitizen
ลิ้งค์เรื่องราวตำนานต่างๆของคำชะโนด
http://nopparatnonsiri.blogspot.com/
ติดตามรีวิวอื่นได้คับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้