ภาพเปิดตอนนี้
- ต่อจากตอนที่แล้วที่พระเอกทำอีเวนต์ย่อยกับสาวคาบาเร่ต์จนได้ข้อมูลมาเขียนนิยายสำเร็จ โดยหลังจากได้ข้อมูลมา พระเอกก็หายจากอาการหัวตันกลับมาเขียนได้คล่องมืออีกครั้ง
- วันหนึ่งพระเอกเขียนงานอยู่จนดึกเกิดง่วงขึ้นมา เลยลงไปจะหาอะไรกินข้างล่าง
- พอลงไปก็เจอคนน้องนั่งอ่านหนังสืออยู่ ก็ทักก็คุยกันตามปกติ โดยเนื้อหาที่คุยก็ไม่มีอะไรมาก แค่พระเอกไม่สบายใจเรื่องที่ตัวเองยุให้สาวคาบาเร่ต์ไปเจอแฟน จนต้องเจอเรื่องเจ็บปวดแบบนั้น คิดว่าตัวเองทำถูกแล้วรึเปล่าที่ยุให้เค้าไปหาแฟนแบบนั้น คิดว่าถ้าไปแล้วต้องเจอแบบนี้ สู้ไม่ไปหาเสียเลยจะดีกว่ามั้ย
- คนน้องเลยบอกว่าจะถูกหรือไม่ถูก สาวคาบาเร่ต์ก็ตัดสินใจเลือกแล้วว่าจะไปหาแฟน เพราะงั้นมานั่งคิดว่าถ้าทำแบบนั้นถ้าทำแบบนี้เอาตอนนี้ไปก็เปล่าประโยชน์ ว่าจบก็ยกตัวอย่างเรื่องของตัวเองตอนไปทัศนศึกษาที่เกาะแล้วเจอคนพี่ให้ฟัง โดยบอกว่าตั้งแต่วันนั้นตัวคนน้องเองก็เคยคิดเหมือนกัน ว่าถ้าวันนั้นตัวเองเลือกไม่ไปทัศนศึกษาที่เกาะ ถ้าวันนั้นพระเอกกับคนน้องไม่ได้เจอคนพี่ ความสัมพันธ์ระหว่างตัวเองกับพระเอกก็คงไม่ต้องมาลงเอยแบบนี้ แต่ถึงจะคิดกี่ตลบก็ไม่มีทางเปลี่ยนสิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้วได้ ว่าจบก็บอกให้พระเอกเลิกคิดเรื่องนั้นแล้วเอาเวลาไปนั่งเขียนนิยายต่อดีกว่า ก่อนจะขอตัวขึ้นห้องไปนอน ทิ้งให้พระเอกนั่งอ้าปากค้างอยู่แบบนั้น
- ตัดมาวันรุ่งขึ้นระหว่างกินข้าวกันอยู่ แม่คนน้องก็มาบอกว่าตัวเองต้องไปงานทำบุญครบรอบวันเสียของญาติที่บ้านเกิด เลยว่าจะพาพ่อพระเอกที่เป็นสามีใหม่ไปแนะนำให้ญาติๆ ที่บ้านเกิดรู้จักด้วย และถามพระเอกกับคนน้องว่าจะไปด้วยกันมั้ย คนน้องก็ตอบกลับว่าไม่ไปเพราะติดงานที่ร้านพ่อ ส่วนพระเอกก็ขอตัวไม่ไปเช่นกัน
- ปรากฏว่าพ่อกับแม่ต้องไปกัน 3 วัน พระเอกพอได้ยินเข้าก็ถึงกับอึ้ง เพราะถ้าเป็นแบบนั้นก็เท่ากับว่าตลอด 3 วันนี้ตัวเองจะต้องอยู่ใต้ชายคาเดียวกับคนน้องแบบสองต่อสองไม่มีคนอื่นอยู่ด้วย เลยแอบรู้สึกกระอักกระอ่วนกันทั้งพระเอกทั้งคนน้องเลย
- จากนั้นฉากก็ตัดมาวันที่พ่อแม่ออกเดินทาง โดยหลังจากส่งพ่อแม่ออกเดินทางแล้ว คนน้องก็ออกไปทำงานที่ร้านพ่อตามปกติ โดยบอกพระเอกว่าวันนี้จะทำจนดึก พระเอกก็ไม่ได้ว่าอะไร ออกมายืนส่งเงียบๆ ที่หน้าบ้านเฉยๆ จนคนน้องไปถึงได้แอบหน้าแดงนิดๆ ด้วยความเขิน
- พระเอกก็อยู่บ้านทำงานไปเรื่อยๆ จนเย็นค่อยลงมาทำกับข้าวรอคนน้องกลับบ้าน
- ระหว่างนั้นฝนก็เริ่มตกลงมาแรงขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นพายุใหญ่พัดโหม พระเอกเห็นพายุแรงขนาดนั้นก็เริ่มกังวลว่าคนน้องจะกลับบ้านคนเดียวไหวมั้ย
- กำลังเป็นห่วงได้ที่จวนจะเอาร่มออกไปรับอยู่แล้ว ก็พอดีคนน้องกลับเข้ามาเสียก่อน สภาพเปียกมะล่อกมะแล่กไปทั้งตัว พระเอกเห็นคนน้องเปียกมาทั้งตัวแบบนั้นก็เข้าไปถามอย่างเป็นห่วง แต่คนน้องตัดบทว่าไม่เป็นไร แล้วเดินเข้าไปอาบน้ำทันทีเพื่อจะได้ไม่เป็นหวัด พร้อมบอกพระเอกให้ช่วยไปเอาเสื้อผ้ามาให้เปลี่ยนด้วย
- พระเอกก็อึ้ง เพราะนึกไม่ถึงว่าคนน้องจะกล้าขอให้ผู้ชายอย่างตัวเองไปเอาเสื้อผ้าผู้หญิงมาให้หน้าตาเฉยแบบนั้น แต่สุดท้ายก็ยอมไปแต่โดยดี
- แต่ลงเอยพอเปิดตู้เสื้อผ้า เห็นกางเกงในของคนน้องวางเรียงในลิ้นชักเป็นตับก็ออกอาการลนลานไม่กล้าหยิบขึ้นมา ได้แต่ยืนเงอะงะอยู่หน้าตู้เสื้อผ้าแบบนั้น
- จังหวะนั้นเองที่ทัศนวิสัยของพระเอกก็ดับวูบ ตอนแรกพระเอกนึกว่าคนน้องอาบน้ำเสร็จเข้ามาแกล้งปิดตาเล่น แต่พอดูดีๆ ถึงค่อยเห็นว่าไม่ใช่ แต่เป็นเพราะไฟดับทั้งเขตเนื่องจากพายุต่างหาก
- เห็นแบบนั้นพระเอกก็นึกห่วงคนน้องขึ้นมา รีบคว้าเสื้อผ้าที่หยิบไว้แล้วลงไปร้องเรียกคนน้องพลางคลำทางเปะปะหาบันไดลงชั้นล่าง แต่เพราะในบ้านมืดมากจนมองอะไรไม่เห็น พระเอกเลยก้าวพลาดจนเกือบตกบันไดปึงปังลงมา
- ฝ่ายคนน้องได้ยินเสียงพระเอกลื่นบนบันไดก็ตกใจ พยายามร้องบอกพระเอกว่าไม่ต้องมา ตัวเองจะไปหาเอง แต่พระเอกไม่ยอม จะคลำทางไปหาคนน้องให้ได้
- ปรากฏว่าคลำไปคลำมาก็ดันไปคว้าหน้าอกคนน้องเข้าเต็มๆ แถมฟ้าเจ้ากรรมก็ดันแลบขึ้นมาให้เห็นภาพในจังหวะที่ขยำเข้าไปเต็มไม้เต็มมืออีกต่างหาก
- คนน้องช็อคตาค้างแถมหน้าแดงอีกต่อ ส่วนพระเอกตกใจยกมือถอยหนีเปะปะ แต่จังหวะที่กำลังจะถอยหนี เสียงฟ้าร้องก็ดังตามมาต่อจากฟ้าแลบเมื่อครู่ คนน้องได้ยินเสียงฟ้าร้องเข้าก็ตกใจ โผเข้าไปกอดพระเอกแน่นทั้งสภาพกึ่งเปลือยเพราะกลัวเสียงฟ้าร้อง
- สุดท้ายพอรู้จากปากพระเอก (ที่รู้มาจากพยากรณ์อากาศอีกที) ว่าคืนนี้พายุน่าจะเข้าทั้งคืน คนน้องเลยขอให้พระเอกมานอนด้วยกันเพราะไม่อยากฟังเสียงฟ้าร้องคนเดียวทั้งคืน พระเอกแม้จะอึดอัดบ้าง แต่ลงเอยก็ตอบตกลง
- ระหว่างที่นอนอยู่ด้วยกันนั้น พระเอกก็ตัวเกร็งตลอดเพราะต้องมานอนเตียงเดียวกับผู้หญิง ในขณะที่คนน้องเอาแต่นอนตัวเกร็งด้วยความกลัวจัด ฟ้าผ่าทีไหนเป็นสะดุ้งตลอด
- เห็นแบบนั้นพระเอกก็ทนไม่ไหว ยื่นมือไปกุมมือของคนน้องไว้เป็นเชิงปลอบให้หายกลัว พร้อมบอกว่าถ้าไม่ชอบก็ให้บอก จะปล่อยมือทันที
- คนน้องชะงักไปนิดหนึ่ง ก่อนจะแกล้งถามว่าตื่นเต้นเหรอ เห็นมือเหงื่อออกเต็มเลย
- พระเอกโดนถามแบบแทงใจดำเข้าก็ชะงัก พรวดพราดปล่อยมือคนน้องแล้วลุกพรวดขึ้นจากเตียงตรงไปที่ประตู คนน้องเห็นแบบนั้นก็ลุกขึ้นนั่งแล้วถามว่าโกรธเหรอ พระเอกก็ปฏิเสธเงียบๆ ว่าเปล่า แล้วแกล้งขอตัวไปห้องน้ำทันที
- หลังพระเอกออกจากห้องน้ำไป คนน้องก็ก้มหน้ามองมือตัวเองข้างที่พระเอกกุมเมื่อกี้ แล้วพึมพำในใจเงียบๆ ว่า
"ต่างจากตอนที่อยู่กับอัลจริงๆ ด้วย"
- จากนั้นภาพก็แพนออก เผยให้เห็นภาพคนน้องค่อยๆ ปลดกระดุมเสื้อนอนของตัวเองออกทีละเม็ดๆ จนเสื้อนอนด้าหน้าเปิดออกเห็นหน้าอกอวบอัดที่ไม่ได้ใส่บราเต็มสองตา
แล้วก็เข้าสู่ช่วงอีเวนต์ใหญ่ประจำตอนจนได้แฮะ
งานนี้นึกอะไรจะพูดไม่ออก นอกจากรอดูโลดแฮะว่าเวลา 3 วันอันตรายนี้พระเอกกับคนน้องจะรักษาตัวรอดไปได้ถึงไหน จะเลยเถิดกันตั้งแต่คืนแรกมั้ย
อนึ่ง เนื่องจากภาพสำคัญของตอนนี้มีแต่ภาพอันตราย เพราะงั้นขอไม่ลงภาพนะครับ
[Spoil] Domestic na Kanojo #104 - คืนพายุ
- ต่อจากตอนที่แล้วที่พระเอกทำอีเวนต์ย่อยกับสาวคาบาเร่ต์จนได้ข้อมูลมาเขียนนิยายสำเร็จ โดยหลังจากได้ข้อมูลมา พระเอกก็หายจากอาการหัวตันกลับมาเขียนได้คล่องมืออีกครั้ง
- วันหนึ่งพระเอกเขียนงานอยู่จนดึกเกิดง่วงขึ้นมา เลยลงไปจะหาอะไรกินข้างล่าง
- พอลงไปก็เจอคนน้องนั่งอ่านหนังสืออยู่ ก็ทักก็คุยกันตามปกติ โดยเนื้อหาที่คุยก็ไม่มีอะไรมาก แค่พระเอกไม่สบายใจเรื่องที่ตัวเองยุให้สาวคาบาเร่ต์ไปเจอแฟน จนต้องเจอเรื่องเจ็บปวดแบบนั้น คิดว่าตัวเองทำถูกแล้วรึเปล่าที่ยุให้เค้าไปหาแฟนแบบนั้น คิดว่าถ้าไปแล้วต้องเจอแบบนี้ สู้ไม่ไปหาเสียเลยจะดีกว่ามั้ย
- คนน้องเลยบอกว่าจะถูกหรือไม่ถูก สาวคาบาเร่ต์ก็ตัดสินใจเลือกแล้วว่าจะไปหาแฟน เพราะงั้นมานั่งคิดว่าถ้าทำแบบนั้นถ้าทำแบบนี้เอาตอนนี้ไปก็เปล่าประโยชน์ ว่าจบก็ยกตัวอย่างเรื่องของตัวเองตอนไปทัศนศึกษาที่เกาะแล้วเจอคนพี่ให้ฟัง โดยบอกว่าตั้งแต่วันนั้นตัวคนน้องเองก็เคยคิดเหมือนกัน ว่าถ้าวันนั้นตัวเองเลือกไม่ไปทัศนศึกษาที่เกาะ ถ้าวันนั้นพระเอกกับคนน้องไม่ได้เจอคนพี่ ความสัมพันธ์ระหว่างตัวเองกับพระเอกก็คงไม่ต้องมาลงเอยแบบนี้ แต่ถึงจะคิดกี่ตลบก็ไม่มีทางเปลี่ยนสิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้วได้ ว่าจบก็บอกให้พระเอกเลิกคิดเรื่องนั้นแล้วเอาเวลาไปนั่งเขียนนิยายต่อดีกว่า ก่อนจะขอตัวขึ้นห้องไปนอน ทิ้งให้พระเอกนั่งอ้าปากค้างอยู่แบบนั้น
- ตัดมาวันรุ่งขึ้นระหว่างกินข้าวกันอยู่ แม่คนน้องก็มาบอกว่าตัวเองต้องไปงานทำบุญครบรอบวันเสียของญาติที่บ้านเกิด เลยว่าจะพาพ่อพระเอกที่เป็นสามีใหม่ไปแนะนำให้ญาติๆ ที่บ้านเกิดรู้จักด้วย และถามพระเอกกับคนน้องว่าจะไปด้วยกันมั้ย คนน้องก็ตอบกลับว่าไม่ไปเพราะติดงานที่ร้านพ่อ ส่วนพระเอกก็ขอตัวไม่ไปเช่นกัน
- ปรากฏว่าพ่อกับแม่ต้องไปกัน 3 วัน พระเอกพอได้ยินเข้าก็ถึงกับอึ้ง เพราะถ้าเป็นแบบนั้นก็เท่ากับว่าตลอด 3 วันนี้ตัวเองจะต้องอยู่ใต้ชายคาเดียวกับคนน้องแบบสองต่อสองไม่มีคนอื่นอยู่ด้วย เลยแอบรู้สึกกระอักกระอ่วนกันทั้งพระเอกทั้งคนน้องเลย
- จากนั้นฉากก็ตัดมาวันที่พ่อแม่ออกเดินทาง โดยหลังจากส่งพ่อแม่ออกเดินทางแล้ว คนน้องก็ออกไปทำงานที่ร้านพ่อตามปกติ โดยบอกพระเอกว่าวันนี้จะทำจนดึก พระเอกก็ไม่ได้ว่าอะไร ออกมายืนส่งเงียบๆ ที่หน้าบ้านเฉยๆ จนคนน้องไปถึงได้แอบหน้าแดงนิดๆ ด้วยความเขิน
- พระเอกก็อยู่บ้านทำงานไปเรื่อยๆ จนเย็นค่อยลงมาทำกับข้าวรอคนน้องกลับบ้าน
- ระหว่างนั้นฝนก็เริ่มตกลงมาแรงขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นพายุใหญ่พัดโหม พระเอกเห็นพายุแรงขนาดนั้นก็เริ่มกังวลว่าคนน้องจะกลับบ้านคนเดียวไหวมั้ย
- กำลังเป็นห่วงได้ที่จวนจะเอาร่มออกไปรับอยู่แล้ว ก็พอดีคนน้องกลับเข้ามาเสียก่อน สภาพเปียกมะล่อกมะแล่กไปทั้งตัว พระเอกเห็นคนน้องเปียกมาทั้งตัวแบบนั้นก็เข้าไปถามอย่างเป็นห่วง แต่คนน้องตัดบทว่าไม่เป็นไร แล้วเดินเข้าไปอาบน้ำทันทีเพื่อจะได้ไม่เป็นหวัด พร้อมบอกพระเอกให้ช่วยไปเอาเสื้อผ้ามาให้เปลี่ยนด้วย
- พระเอกก็อึ้ง เพราะนึกไม่ถึงว่าคนน้องจะกล้าขอให้ผู้ชายอย่างตัวเองไปเอาเสื้อผ้าผู้หญิงมาให้หน้าตาเฉยแบบนั้น แต่สุดท้ายก็ยอมไปแต่โดยดี
- แต่ลงเอยพอเปิดตู้เสื้อผ้า เห็นกางเกงในของคนน้องวางเรียงในลิ้นชักเป็นตับก็ออกอาการลนลานไม่กล้าหยิบขึ้นมา ได้แต่ยืนเงอะงะอยู่หน้าตู้เสื้อผ้าแบบนั้น
- จังหวะนั้นเองที่ทัศนวิสัยของพระเอกก็ดับวูบ ตอนแรกพระเอกนึกว่าคนน้องอาบน้ำเสร็จเข้ามาแกล้งปิดตาเล่น แต่พอดูดีๆ ถึงค่อยเห็นว่าไม่ใช่ แต่เป็นเพราะไฟดับทั้งเขตเนื่องจากพายุต่างหาก
- เห็นแบบนั้นพระเอกก็นึกห่วงคนน้องขึ้นมา รีบคว้าเสื้อผ้าที่หยิบไว้แล้วลงไปร้องเรียกคนน้องพลางคลำทางเปะปะหาบันไดลงชั้นล่าง แต่เพราะในบ้านมืดมากจนมองอะไรไม่เห็น พระเอกเลยก้าวพลาดจนเกือบตกบันไดปึงปังลงมา
- ฝ่ายคนน้องได้ยินเสียงพระเอกลื่นบนบันไดก็ตกใจ พยายามร้องบอกพระเอกว่าไม่ต้องมา ตัวเองจะไปหาเอง แต่พระเอกไม่ยอม จะคลำทางไปหาคนน้องให้ได้
- ปรากฏว่าคลำไปคลำมาก็ดันไปคว้าหน้าอกคนน้องเข้าเต็มๆ แถมฟ้าเจ้ากรรมก็ดันแลบขึ้นมาให้เห็นภาพในจังหวะที่ขยำเข้าไปเต็มไม้เต็มมืออีกต่างหาก
- คนน้องช็อคตาค้างแถมหน้าแดงอีกต่อ ส่วนพระเอกตกใจยกมือถอยหนีเปะปะ แต่จังหวะที่กำลังจะถอยหนี เสียงฟ้าร้องก็ดังตามมาต่อจากฟ้าแลบเมื่อครู่ คนน้องได้ยินเสียงฟ้าร้องเข้าก็ตกใจ โผเข้าไปกอดพระเอกแน่นทั้งสภาพกึ่งเปลือยเพราะกลัวเสียงฟ้าร้อง
- สุดท้ายพอรู้จากปากพระเอก (ที่รู้มาจากพยากรณ์อากาศอีกที) ว่าคืนนี้พายุน่าจะเข้าทั้งคืน คนน้องเลยขอให้พระเอกมานอนด้วยกันเพราะไม่อยากฟังเสียงฟ้าร้องคนเดียวทั้งคืน พระเอกแม้จะอึดอัดบ้าง แต่ลงเอยก็ตอบตกลง
- ระหว่างที่นอนอยู่ด้วยกันนั้น พระเอกก็ตัวเกร็งตลอดเพราะต้องมานอนเตียงเดียวกับผู้หญิง ในขณะที่คนน้องเอาแต่นอนตัวเกร็งด้วยความกลัวจัด ฟ้าผ่าทีไหนเป็นสะดุ้งตลอด
- เห็นแบบนั้นพระเอกก็ทนไม่ไหว ยื่นมือไปกุมมือของคนน้องไว้เป็นเชิงปลอบให้หายกลัว พร้อมบอกว่าถ้าไม่ชอบก็ให้บอก จะปล่อยมือทันที
- คนน้องชะงักไปนิดหนึ่ง ก่อนจะแกล้งถามว่าตื่นเต้นเหรอ เห็นมือเหงื่อออกเต็มเลย
- พระเอกโดนถามแบบแทงใจดำเข้าก็ชะงัก พรวดพราดปล่อยมือคนน้องแล้วลุกพรวดขึ้นจากเตียงตรงไปที่ประตู คนน้องเห็นแบบนั้นก็ลุกขึ้นนั่งแล้วถามว่าโกรธเหรอ พระเอกก็ปฏิเสธเงียบๆ ว่าเปล่า แล้วแกล้งขอตัวไปห้องน้ำทันที
- หลังพระเอกออกจากห้องน้ำไป คนน้องก็ก้มหน้ามองมือตัวเองข้างที่พระเอกกุมเมื่อกี้ แล้วพึมพำในใจเงียบๆ ว่า "ต่างจากตอนที่อยู่กับอัลจริงๆ ด้วย"
- จากนั้นภาพก็แพนออก เผยให้เห็นภาพคนน้องค่อยๆ ปลดกระดุมเสื้อนอนของตัวเองออกทีละเม็ดๆ จนเสื้อนอนด้าหน้าเปิดออกเห็นหน้าอกอวบอัดที่ไม่ได้ใส่บราเต็มสองตา
แล้วก็เข้าสู่ช่วงอีเวนต์ใหญ่ประจำตอนจนได้แฮะ
งานนี้นึกอะไรจะพูดไม่ออก นอกจากรอดูโลดแฮะว่าเวลา 3 วันอันตรายนี้พระเอกกับคนน้องจะรักษาตัวรอดไปได้ถึงไหน จะเลยเถิดกันตั้งแต่คืนแรกมั้ย
อนึ่ง เนื่องจากภาพสำคัญของตอนนี้มีแต่ภาพอันตราย เพราะงั้นขอไม่ลงภาพนะครับ