สวัสดีค่ะ วันนี้เป็นตอนที่2 ของการมาแชร์ประสบการณ์ที่เลห์ของพวกเรานะคะ

อ่านย้อนหลัง Chapter 1: 10 เหตุผลง่ายๆ ทำไม เลห์-ลาดักห์ (Leh-Ladakh) ถึงเหมือนสวิสฯแต่ ‘คูล’ กว่า!
ที่นี่ค่ะ http://ppantip.com/topic/35411317


จากประสบการณ์ 10 วันเต็มในเลห์ที่เราได้ไปเจอมากับตัวเอง ขอบอกเลยว่า มีเป็นร้อยเหตุผลพรั่งพรูออกมาในช่วงที่อยู่ที่นั่น ที่เราอยากจะมาบอกพ่อแม่พี่น้อง ผองเพื่อนทุกคนว่า เห้ยไปเหอะ จริงๆนะ ควรไป ไปซักครั้งมั้ยขอร้อง มันสุดๆจริงๆ เพราะสาเหตุมากมายบลาๆๆ
ถ้าเล่าให้หมดจริงๆอาจจะใช้เวลาหลายวัน ไม่ได้ไปกันพอดี พวกเราจึงขอสรุป เป็นเหตุผลหลักๆ 10 ข้อ ไว้ตรงนี้
....ลองไปดูกันว่ามันคืออะไรบ้าง!!


1) A Whole New World
   แหล่งรวมธรรมชาติหลากหลายในที่เดียว!!
เค้าว่ากันว่า การอยู่กับธรรมชาติเป็นการเพิ่มความคิดสร้างสรรค์ให้ชีวิต เลห์นี่แหละ เหมาะที่สุด
....มันเป็นเมืองที่ประหลาดมากกก เราไม่สามารถหลับระหว่างทางได้เลย ได้แต่อุทานว่า "นี่มันคืออะไรรรร" เพราะวิวเปลี่ยนตลอดเวลา
....ภูมิประเทศที่นี่ มีตั้งแต่ต้นไม้ ยันทะเลทราย มีภูเขาสูงใหญ่มาก มีหิมะ ภูเขาหิน มีหินเล็ก หินใหญ่ ลายภูเขาเป็น pattern ลายๆสีน้ำตาล มีทะเลสาบน้ำจืด ทะเลสาบน้ำเค็มที่อยู่สูงที่สุดในโลก มีต้นไม้เขียวขจี ดอกไม้บานสดใส มีสัตว์ต่างๆ Yak อูฐ ฝูงม้า ฝูงแพะ ฝูงวัว มีน้ำตก มีจุดตัดของแม่น้ำสายสำคัญ มีแสงแดด ที่ตกกระทบกับผิวน้ำ สะท้อนภาพภูเขาอย่างสมมาตร
.....ใช่! มันคืออยู่ใน เลห์-ลาดักห์ แห่งเดียว!!!

ละบางที่สามารถถ่ายรูป 360 องศาเก็บภาพภูเขา ทะเลทราย ทุ่งหญ้าเขียวๆ ภายในภาพเดียวกันได้เลยจ้าาาา



2) วัฒนธรรมพื้นเมืองจากวัดและวัง
    วัดที่ถูกสร้างเป็นขั้นบันไดบนภูเขาสูงๆ อาจไม่ค่อยมีในไทย
แต่ที่นี่ วัดทุกแห่งจะอยู่สูงมากๆๆๆๆ
ข้างบนนั้น เราจะรับรู้ได้ถึงความเก่า ความมีประวัติศาสตร์ และความพยายามในการขึ้นไปสร้างวัดบนที่สูงขนาดนั้น เพื่อความศักดิสิทธิ์และเพื่อที่พระจะได้มีสถานที่เงียบสงบในการทำสมาธิ
...ที่สำคัญคือ พอเดินขึ้นไปบนจุดสูงสุดของวัด เราจะเจอวิวอลังการมากๆแทบทุกที่ค่ะ (ภาพมุมสูงที่MAYiถ่ายมา จะถ่ายจากวัดซะมาก)

MAYiตั้งใจไปเลห์ ในช่วง Hemis Festival ซึ่งจัดปีละครั้งๆละ 2 วัน ตอนแรกก็ไม่รู้หรอกว่าเป็นงานอะไร แต่พอไป ได้เห็นถึงความเลื่อมใสของคนที่นั่น และความศักดิ์สิทธิ์ แถมงานนี้ ถือเป็นพิธีการที่ใหญ่ทีสุดของเลห์ด้วย รู้สึกโชคดีมากที่ได้ไป



3) สนุกด้วยค่าครองชีพแสนถูก
    ค่าเข้าสถานที่ประมาน20-30บาท
ค่าอาหาร 1 คน 1 มื้อ ตามนี้
- ตามร้านข้างทางเวลาไปเที่ยวนอกเมือง ไม่เกิน 50 บาท
- ร้านในเมือง อิ่มหมีพลีมันได้ไม่เกิน 200 บาท
(ที่ร้าน Gesmo กินของหวานตบท้ายด้วย สรุปคนละ200กว่าบาท)
ค่าของฝากเช่น ครีม ลิปมัน ก็ถูกและดีมาก
นมกล่อง 1 ลิตร ราคา 30 บาท หอมกลมกล่อม
ค่าเดินทางก็ไม่แพง แถมถูกควบคุมอย่างดีมีมาตรฐานของเมือง ราคาเป๊ะๆไม่โดนโกงแน่นอน



4) ชาวเลห์ผู้อ่อนโยน
    MAYi มองว่า ถึงเลห์จะไม่เจริญทางเทคโนโลยี แต่เค้าเจริญทางด้านจิตใจ!
คนที่นี่ใจดีและเป็นมิตรจริงๆ!! ไม่ว่าจะไปไหน จะมีคนทักทายและยิ้มให้ทุกๆที่ เวลาส่วนใหญ่ของเราจะอยู่บนถนน จึงได้เห็นความน่ารักหลายๆอย่าง เช่น
- คนขับรถทักทายกัน บางทีก็รู้จัก บางทีก็แปลกหน้า
- บีบแตรเพื่อเตือนกันและกัน (เขาไม่บีบแตรด้วยความโกรธนะคะ)
- ป้ายคำคมน่ารักๆตามทาง เน้นให้ขับขี่อย่างปลอดภัย (ลองอ่านดูนะคะ เพลินดี)
- ป้ายแสดงความ Think Clean + Go Green เค้ามักจะเน้นให้คนรักสิ่งแวดล้อมอ่ะ ที่เราชอบก็คือ ข้างถังขยะจะเขียนว่า"Use Me" และพวกป้ายเชิญชวนให้หันมาเติมน้ำแทนที่จะซื้อขวดใหม่กัน
- คนในร้านอาหารเป็นมิตร ละเอียดอ่อน ใส่ใจกับการกินของเราเสมอ อิ่มและประทับใจ

สรุปคือที่นี่ แม้ถนนจะแคบแต่เพื่อนร่วมทางนั้นใจกว้างงงงง



5) ลิ้มรสอาหารใหม่ๆ
    อาหารอินเดียและอาหารพื้นเมืองของเลห์มีให้เลือกกินเยอะแยะ
นี่ถ้าใครกินมังฯ เราจะหาเมนูมังฯได้ง่ายมาก เพราะเขาเน้นผักและแป้ง
ตามโรงแรมมีการแปลงปลูกผักเล็กๆไว้กินเองนะคะ ไม่ได้พูดเล่น ผัดสดสะอาด รู้สึกว่าได้กินอะไรเรียลๆ

สิ่งที่ได้กินมาคือมีให้เลือกมากมาย ทั้งอาหารอินเดียเอง พิซซ่า สลัดผัก อาหารพื้นเมือง เช่น เหมือนเส้นสปาเก็ตตี้ผัดขี้เมา สารพัดไข่ ไข่ต้ม ไข่กวน ไข่เจียว ของหวานก็ดีงาม ไปแล้วก็ต้องลองป่ะ!

ที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องชาหลายๆรส หาทานได้ทุกร้าน กันดารแค่ไหนก็มีเมนูชา ลองไปเรื่อยๆจนกว่าจะเจอชาที่ถูกใจ

ความน่าสนใจก็คือ แม้เราจะไปกินร้านริมทาง แต่เขามีช้อนส้อมให้นะคะ ไม่ต้องเปิบด้วยมือ มีกระดาษทิชชู่ อ่างล้างมือให้บริการ ถ้าอยู่ป่าเขามากๆ เขาจะต่อท่อมาจากลำธารให้เราล้าง (ที่สูงๆของที่นี่น้ำในลำธารสะอาดมากค่ะ เห็นคนที่นี่ดื่มได้เลย)

เรื่องอาหาร ติดตามชมรายละเอียดได้ใน Chapter 4 ค่า



6ุ) 'แตะขอบฟ้า' (อย่างสบาย!)
    ที่สูงที่ว่านี้คือ Khardongla Top ถนนที่สูงที่สุดในโลก!! 5,602เมตร
สูงแบบที่มองก้อนเมฆได้ในระดับสายตาเลยจ้า หูวววว
ผู้หญิงบอบบางอย่างเราๆ ก็ขึ้นไปได้ ไม่ต้องปีนให้เมื่อยเพราะเราจะนั่งรถไปกัน เหมาะกับคนที่ไม่ต้องการผจญภัยขนาดนั้น(แบบเรา 555)

ถ้าสงสัยว่า 5,602เมตรนี่มันสูงแค่ไหนกันนะ? จะลองเทียบๆกะภูเขาคุ้นเคยให้ดูนะคะ
>สูงกว่าดอยอินทนนท์ (2,565เมตร) 2เท่ากว่า
>สูงกว่ายอดเขา Fuji-san ของญี่ปุ่น (3,776เมตร) ซึ่งต้องเดินขึ้นเท่านั้น
>เตี้ยกว่ายอดเขาEverest(8,850เมตร) แต่ต้องปีนและต้องอึดด้วย (พอๆ ไม่เคยคิดจะปีนค่ะ)

.... สำหรับเรา Khardongla Top ของเลห์แหละค่ะ นั่งรถไปได้ด้วย ...เท่านี้ก็ฟินแล้วววว

ที่เลห์เรายังสามารถไป Pangong Lake ชิมทะเลสาบน้ำเค็มที่สูงที่สุดในโลกได้ด้วยนะเออ




7) Chillก็ได้ Adventureก็มี
    บอกเลยว่า ที่เลห์คุณสามารถทำได้ทุกอย่างที่คุณปรารถนา!!

ตั้งแต่นั่งชิลอยู่โรงแรม เพราะบรรยากาศมันดีมาก เงียบสงบ หรือออกไปท่องเที่ยวตามที่ต่างๆ ได้ถ่ายรูปสวยๆ
... นอกจากนั้น ไม่ต้องไปถึงอียิปต์เราก็ขี่อูฐได้ อูฐที่นี่มี2โหนกด้วย ถ้าไม่อยากขี่ ก็ไปถ่ายรูปเฉยๆก็ได้เค้าไม่ว่าไร หน้าตาน้องอูฐจะทำให้เรางงๆว่านี่มันลืมตาหรือหลับตา ต้องถ่ายซ่อมมั้ย
... ถ้าแค่ขี่อูฐยังไม่ตื่นเต้นพอ ที่นี่มีให้ขับรถ ATV, ล่องแก่ง, เดินป่า,ปีนเขา สารพัดสิ่งแห่งการผจญภัย เลือกเลยว่าชอบแบบไหน ส่วน MAYi ขอมาเก็บกิจกรรมเหล่านี้คราวหน้านะคะ ครั้งนี้ขอแค่ถ่ายรูปสวยๆก่อน



8) กลับไปสู่ชีวิตออฟไลน์
    เนื่องจากที่นี่ไม่มีสัญญาณมือถือเครือข่ายใดๆทั้งสิ้นที่ชาวต่างชาติอย่างเราจะใช้ได้ (เพื่อรักษาความปลอดภัยของประเทศ) และเนี่ยแหละค่ะ ข้อดีที่ MAYi ก็คาดไม่ถึง จนกว่าจะได้ประสบเอง

... แม้เราจะถูกตัดขาดจากโลกภายนอก แต่เราได้ดื่มด่ำกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า ได้คุยกะคนข้างๆ ไม่ต้องร้องเพลงโอมจงเงย ลดละเลิกกับการที่กายอยู่เลห์ แต่ใจอยู่ไทย




9) นั่ง Time Machine ย้อนอดีต
    มันเหมือน MAYi ได้ย้อนเวลากลับไปอดีตเห็นความจริงของชีวิต อินเดีย ขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศที่ 'REAL' มาก มันทำให้เราซึ้งถึง เกิดแก่เจ็บตาย เหมือนคนที่มาแสวงบุญที่อินเดีย แต่ที่เราเจออาจจะไม่ขนาดนั้น แต่มันได้ย้อนเวลา ทำให้เข้าใจชีวิตในอดีตเลยจร้าาา

...เริ่มจากประเด็นแรกที่รู้ๆกันอยู่คือ "ห้องน้ำ" เวลาถามหาห้องน้ำ ทุกคนจะตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า "Toilet is everywhere." เรียลลลลี๊?? ตอนแรกอาจจะไม่ชินๆ แต่หลังๆเราจะซึ้งเอง คิดซะว่าการที่เราไปปลดทุกข์หลังโขดหิน เป็นการเพิ่มปุ๋ยคอกให้ดินก็แล้วกัน

... นอกจากนั้นเราก็จะเจอ คนจอดรถเติมน้ำกิน จอดล้างรถโดยน้ำในลำธาร จอดล้างหน้า จอดเฉยๆเลยกลางถนน เปิดประตูกลางถนน กดแตรกันสนั่น มีความสดชื่นของอากาศ มีกลิ่นของปุ๋ยคอก มีฝุ่น เหมือนย้อนกลับไปในอดึต มีชาว Nomadic เดินทางย้ายถิ่นไปเรื่อยๆพร้อมฝูงสัตว์ มีตาชั่งที่ใช้เหล็กถ่วงน้ำหนักในตลาด



10) สัมผัสความสดใหม่
    ต้องรีบเลย รีบไปเลห์ด่วนมาก!!!! ในขณะที่มันกำลังสดใหม่อยู่ เพราะเมื่อความเจริญเข้ามา คนอาจจะเปลี่ยนไป

โรงแรม Padma ที่พวกเราพัก กำลังสร้างห้องเพิ่ม 21 ห้อง และในเมืองยังมีการก่อสร้างอีกมากมาย เราว่ามันเริ่มจะเยอะแล้วนะ
... เราอยากให้ทุกๆคนได้เจอเมืองน่ารักๆแบบนี้ และได้ประสบการณ์ดีดีเหมือนที่เราพบเจอตอนนี้จริงๆ
ลองนึกถึงปาย เชียงคาน หลีเป๊ะ ในสมัยก่อนที่ยังไม่ฮิตเหมือนตอนนี้ดู จะเห็นว่าความเจริญได้เปลี่ยนมันไปเยอะมากๆแล้วจริงมั้ยล่ะ
ทีนี้...อย่ามัวลังเล รีบทำตาม Chapter3 แล้วไปเลห์กันเถอะ

---

เป็นอย่างไรบ้างคะ Chapter2 ของเรา อ่านแล้วมีคำแนะนำติชมอะไร บอกกันมาได้เลยค่ะ
** หากหัวข้อนี้มีประโยชน์ อย่าลืม"แชร์"ให้เพื่อนคนอื่นๆได้ดูกันด้วยนะคะ **
** ถ้ามีคำแนะนำหรือข้อสงสัยอะไรเกี่ยวกับเลห์ คุยได้ในคอมเม้นนี้เลยค่ะ **

ภาพทั้งหมดที่เราตั้งใจไปถ่ายมา เชิญชมได้ที่นี่นะคะ
https://goo.gl/yGukDj

ตอนอื่นๆ....
Chapter 1: 10 เหตุผลง่ายๆ ทำไม เลห์-ลาดักห์ (Leh-Ladakh) ถึงเหมือนสวิสฯแต่ ‘คูล’ กว่า! http://ppantip.com/topic/35411317
Chapter 2: 10 เหตุผล ทำไม 'ตอนนี้' จึงต้องไป เลห์-ลาดักห์  http://ppantip.com/topic/35417398
Chapter 3: 10 STEPS เตรียมตัวก่อนไป เลห์ - ลาดักห์  http://ppantip.com/topic/35420723
Chapter 4: 10 เมนู 'สุดปลื้ม' ที่เลห์-ลาดักห์  http://ppantip.com/topic/35424877
Chapter 5: 10 To-Do List เมื่ออยู่ เลห์-ลาดักห์

ถ้าอยากอ่านทั้งหมดทีเดียวรวด เรารวบรวมทุกๆ Chapter ไว้หมดแล้วที่ Facebook 'MAYiGIFTYOU'
ตามเข้าไปอ่านในนั้นได้จ้าาาา
https://goo.gl/o1nvwa
ถ้าถูกใจ อย่าลืมกด Like, Comment และ Share แล้วเราจะเจอความสนุก และประสบการณ์ใหม่ๆในชีวิตไปด้วยกัน