ก่อนที่จะเข้าเรื่อง Xiaomi ขอเล่าเรื่องราวในทริปคร่าวๆก่อนนะคะ
สิ่งที่ประทับใจนอกเหนือจากความสวยงามของทะเลภาคใต้แล้ว ก็คงจะเป็น “คลื่นยักษ์”

เอาจริงๆตั้งแต่เที่ยวทะเลมาเพิ่งจะเคยเห็นคลื่นที่สูงแบบนี้เป็นครั้งแรก วิ่งลงไปเต้นแร้งแต้นกา กระโดดเล่นกับคลื่นสนุกมาก แต่ก็อันตรายมากเหมือนกัน นี่ขนาดไม่ได้ไปเล่นไกลนะ แค่นั่งเล่นอยู่ริมหาดยังโดยซัดซะปลิวเลย ลองดูตอนจบในคลิปแล้วจะเข้าใจความหมายของคำว่า "ปลิว" ที่เราพูดถึง 55555

อุปกรณ์ที่ใช้ในทริปนี้หลักๆคือ Canon 5D Mark3 และ Xiaomi ที่ไว้ถ่ายตอนเล่นในน้ำ
นอกจากคลื่นยักษ์แล้ว สิ่งที่ประทับใจรองลงมาก็น่าจะเป็นที่พัก
ที่ศรีพันวา วิวจากห้องพักคือที่สุดแล้ว วิวสวยยยยมากแบบไม่รู้จะอธิบายยังไง มองไปเห็นทะเลกว้าง สุดลูกหูลูกตาไปหมด

ตื่นมาตอนเช้าก็เห็นวิวพระอาทิตย์ขึ้นแบบนี้ รู้สึกคุ้มค่ามากๆที่ได้มาพักที่นี่

แสงสีส้มค่อยส่องสว่างขึ้นๆ เป็นช่วง 5 นาทีที่มีความสุขสุดๆ

อีกหนึ่งมุมที่เด็ดก็คือที่ Baba nest ที่นี่คือจุดชมวิวที่สูงที่สุดของศรีพันวา สามารถเห็นวิวได้ 360 องศา มีที่นั่งไม่กี่ที่ ถ้าจะมาต้องจองล่วงหน้าประมาณเดือนนึง คนนิยมขึ้นมาสั่งเครื่องดื่มและดูวิวยามเย็นและถ่ายรูปเล่นกันที่นี่ ตอนที่พระอาทิตย์กำลังจะตกเป็นช่วงเวลานาทีทอง เพราะท้องฟ้าจะสวยมาก
กิจกรรมที่ได้ทำตอนอยู่ทะเลก็ไม่พ้นการออกไปทริปดำน้ำ นั่งเรือชมความสวยงามของทะเล

บรรยากาศตอนอยู่บนเรือ ชิวมากก คนกรุงนานๆทีได้มาอยู่กลางทะเล ไม่ต้องคิดเรื่องงานอะไรที่รกสมอง เป็นการชาร์ตพลังที่ดีจริงๆ


ขนาดอยู่กลางทะเลยังมีเรือของชาวบ้านมาขายกุ้ง กุ้งสดๆตัวใหญ่ๆ ไข่เพียบ น่ากินมากกก

ซื้อกุ้งมา1 โล แถมปูม้าจ้าาา

และแล้วก็ถึงเวลาดำน้ำ วันที่ไปดำฝนตกตอนเช้า น้ำเลยไม่ใสมาก ปลาก็น้อย แต่ได้ลงทะเลก็ฟินแล้วล่ะ
กล้องที่เตรียมมาใช้ถ่ายเล่นในน้ำก็คือ กล้อง Xiaomi Yi ลักษณะภายนอกและการใช้งานใกล้เคียงกับโกโปรมากเป็นกล้องตัวเล็กๆพกพาและใช้งานสะดวก เราซื้อโดมกันน้ำมาเพิ่มเพราะอยากเอาไปลองถ่ายรูปใต้น้ำ กิมมิคของโดมอันนี้คือถ่ายออกมาแล้วจะเห็นบนบกครึ่งนึงในน้ำครึ่งนึง เป็นภาพที่อยากถ่ายมานานมากกกก ได้ลองครั้งแรกก็คราวนี้

ตอนถ่ายบนบกปกติจะไม่ยากเท่าตอนอยู่ในน้ำนะ เนื่องจากเวลากดถ่ายตอนอยู่ในน้ำเรามองไม่เห็นว่ารูปจะออกมาแบบไหน พอลองใช้ก็ค้นพบเทคนิคว่าถ้าอยากได้ภาพอาร์ตๆ ควรถือให้กล้องขนานกับผิวน้ำ ให้ครึ่งนึงอยู่ในน้ำ ครึ่งนึงอยู่เหนือน้ำ รูปจะออกมาแบบนี้ ซึ่งอันนี้คือจุดเด่นที่เคสกันน้ำปกติทำไม่ได้ ต้องใส่โดมกันน้ำเท่านั้น ส่วนเวลาถ่ายตอนดำน้ำดูปะการังแนะนำให้เปิดโหมดวีดีโอ กดถ่ายไปตั้งแต่ต้นเลย แล้วถือกล้องไว้อย่างเดียว จะถ่ายมุมไหนก็เล็งกล้องไปทางนั้นเพราะตอนนั้นเราจะต้องใช้สมาธิกับการพยุงตัวในน้ำ ดำดูปลาอีก ถ้าต้องมากดถ่าย จังหวะพลาดเยอะ ถ้ากดเป็นโหมดวีดีโอไว้ตั้งแต่ต้น เราสามารถมาเปิดดูแล้วแคปภาพจังหวะที่ชอบไว้ น่าจะง่ายกว่าเยอะเลย แถมยังได้ไฟล์วีดีโอเก็บไว้ดูด้วย



ในกรณีที่ถ่ายบนบก กล้องนี้ถ่ายขอบฟ้าหรือขอบทะเลก็สวยดีนะ ภาพที่ได้มันจะโค้งๆเหมือน fish eye แต่มีเทคนิคคือ ต้องยกกล้องให้สูงหน่อยแล้วค่อยกดถ่าย ถ้าไม่ยกกล้องสูง ถ่ายในระดับปกติ ภาพก็จะออกมาแบบปกติ จะไม่โค้งมากเท่าไหร่

สรุปคือหลังจากได้ใช้กล้องคู่กับโดมกันน้ำตัวนี้มาสี่ห้าวัน ก็รู้สึกประทับใจนะ สนุกทุกครั้งที่เปิดคอมดู ลุ้นว่ารูปจะออกมาเป็นยังไง ไฟล์ภาพและวีดีโอชัดพอสมควร ตอบโจทย์ทุกอย่างที่อยากได้

เวลาคลื่นซัดมาแรงๆ ก็จะภาพที่มีฟองคลื่นขาวๆ สวยดีค่ะ

นานๆจะได้รูปเป๊ะๆแบบครึ่งบกครึ่งน้ำซักที

แล้วทริปภูเก็ตนี้ก็จบลงแบบ Happy Endingค่ะ ได้ความทรงจำดีๆกลับบ้าน พร้อมพลังที่ชาร์ตมาเต็มที่ เอาไว้เป็นแรงในการทำงานเก็บเงินเที่ยวต่อไป : )

มีทำรีวิวอย่างละเอียดของทริปนี้ไว้ในเวปกับใน Facebook รายละเอียดอยู่ในหน้าบัญชีผู้ใช้ ตามไปอ่านได้นะค๊า ขอบคุณค่ะ