ข้อมูลผู้รีวิว
    เพศ: ชาย
    น้ำหนัก: 80 กิโลกรัม
    ส่วนสูง: 170 เซนติเมตร
    ประสบการณ์การวิ่ง: ประมาณ 2 ปี
    ระยะทางที่เคยวิ่งมา: 5, 7, 10, 21 กิโลเมตรสำหรับวิ่งบนถนน
    รองเท้าที่เคยใช้ Adidas Adiprene, Puma Faas 800, Brooks, Puma Mobium Elite, Asics Kayano 20, Nike Lunarglide 5, Puma Ignite PWCool, Brooks Ghost 8 Urban Jungle, Puma Speed 300 Ignite และ Puma Ignite Ultimate
    ลักษณะเท้า: มีอุ้งเท้าปกติ (Normal Arch)
    ลักษณะการลงเท้า: ลงกลางเท้า

เนื่องด้วยต้องเร่งปั่นวิทยานิพนธ์ จึงดองเค็มรีวิวรองเท้าไว้อื้อเลย มีเวลาแค่ซ้อมวิ่งช่วงเช้าๆ ในหมู่บ้านแค่วันละ 2-3 กม. เท่านั้นเอง ฮือๆ ข้อมูลที่ได้จากการรีวิวเป็นข้อมูลส่วนตัว ความรู้สึกส่วนตัวที่ได้ลอง ซึ่งสุดท้ายแล้วผู้อ่านสามารถนำไปใช้อ้างอิงเพียงแค่เป็นตัวเลือกเพิ่มเติมในการหาซื้อรองเท้าวิ่งเท่านั้น

กลับมาอีกครั้งกับติ่ง Puma ด้วยความที่ซีรี่ย์ Ignite ได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดี Puma จึงแตกไลน์ของซีรี่ย์ออกมาอีกมาก ไม่ว่าจะเป็น Ignite PwrCool , Ignite PwrWarm , Ignite XT , Ignite Disc  , Ignite V2 หรือแม้แต่ Ignite Dual

แต่เจ้าตัวที่ผมจะมารีวิววันนี้คือเจ้า Puma Ignite Ultimate ทีแรกตอนเจ้านี่ออกมาหลงคิดว่าเป็น Ignite V2 ที่แก้จุดอ่อนของ Ignite V1 ปรากฏว่า เฮ้ย! ไม่ใช่นี่หว่า เป็นอีกไลน์ไปเลย (ก็ประมาณ gorun กับ gorun ultra นั่นแหล่ะ) ด้วยความที่ชอบระบบพื้นของ Ignite V1 แต่ไม่ชอบ upper ที่ค่อนข้างเรียวและบีบ ตามที่เคยรีวิวไว้ http://ppantip.com/topic/33793070 ซึ่งไอ้เจ้าตัว Ultimate ได้มีการแก้ไข upper ใหม่หมดให้มีความกว้างมากขึ้น ใช้วัสดุที่มีการยืดหยุ่นได้ดีขึ้น ทำให้ผมตกอยู่ในสภาพไร้จิตซื้อมาลองจนได้

ไซค์ที่ผมเลือกคือไซค์ 8US / 40.5EUR / 7UK / 26CM กระชับกำลังดี หัวรองเท้าเหลือนิดหน่อยประมาณ 0.5 CM พอให้นิ้วไม่ชนหัวรองเท้า แต่ที่รู้สึกได้ทันทีคือ บริเวณ toe box กว้างสบายกว่าตัว Ignite 1 มาก ส่วนสีที่เลือกซื้อคือสี Atomic Blue/Red Blast

สำหรับรุ่น Ignite Ultamate จัดอยู่ในรองเท้าวิ่งสาย Neutral & Cushioning บวกด้วย Energy Return ออกแบบสำหรับผู้ที่มีรูปเท้าแบบ Medium Arch


Puma Ignite Ultimate เป็นซีรี่ย์ใหม่ที่แยกออกมาจากซีรี่ย์ Ignite ซึ่งเรียกได้ว่าแทบไม่เหลือเค้าของซีรี่ย์ Ignite เลยก็ว่าได้ มีการปรับปรุงตั้งแต่ชุดพื้น outsole , midsole ไปจนถึง upper เลยทีเดียว เท่ากับว่าต้องรีวิวใหม่หมดตั้งแต่ต้น อดอู้เอาของเก่ามาลงใหม่เลย

ข้างเท้าด้านนอก


ข้างเท้าด้านใน

ข้างเท้าด้านในและข้างเท้าด้านนอก นอกจากตัวสกรีนบอกชื่อรุ่นแล้วแทบไม่มีความต่างกันเลย

หน้าผ้าเป็นเทคโนโลยีใหม่ของ Puma โดยใช้หน้าผ้าทั้งหมด 3 ชั้น ชั้นนอกสุดมีลักษณะเป็นตาข่าย ชั้นกลางมีลักษณะเป็นโฟมยางมีช่องเป็นซี่ๆ เพื่อให้รองเท้าอยู่ทรง ส่วนชั้นในสุดเป็นชั้น lining (สีส้มๆแดงๆ) ที่มีความหนานุ่มมาก การระบายความร้อนทำได้ในระดับปานกลาง ไม่ดี แต่ก็ไม่แย่ จุดอ่อนน่าจะอยู่ที่ชั้นของโฟมยางที่กักความร้อนทำให้ความร้อนระบายออกไม่ดีเท่าที่ควร

ส่วนปลายเท้าจะเห็นว่าใช้วัสดุประเภทผ้าแทนรุ่นเก่าที่ใช้วัสดุเป็นยาง ประโยชน์คือทำให้มีการยืดหยุ่นได้ดีกว่ามาก


วัสดุบุรองเท้าชั้นใน (lining) นุ่มมากๆ ใส่สบายแม้ไม่ใส่ถุงเท้า แต่บริเวณส้นเท้าด้านในมีการทำสีเทกเจอร์จากวัสดุซิลิโคนไว้สำหรับกันลื่น แต่ปัญหาที่พบคือ ส่วมใส่แค่ 1-2 ครั้ง ซิลิโคนที่สกรีนไว้ก็หลุดหมดแล้ว


เกราะบริเวณส้นเท้าด้านนอก (heel counter) มีลักษณะเป็นพลาสติกหุ้มเอ็นร้อยหวาย มีความแข็งแรงมาก ข้อเสียคือไม่ได้ใช้สีสะท้อนแสง เป็นเพียงสีเงินเมทัลลิคเท่านั้นทำให้การสะท้อนแสงไฟสู้แถบสีที่สกรีนจากสีสะท้อนแสงไม่ได้


และแล้วก็มาถึงเทคโลโลยีที่เป็นตัวชูโรงของรองเท้ารุ่นนี้ นั่นคือเทคโนโลยี Ignite Foam คุณสมบัติหลักๆ คือให้แรงกระเด้งกลับที่สูงมาก แถมยังนุ่มอีกด้วย นี่กะเอามาท้าดวลกับเทคโนโลยี Lunarlon ของ Nike หรือ Boost Foam ของ Adidas เต็มที่เลย ซึ่งหากเปรียบเทียบกับตัว Ignite V1 จะเห็นว่าส่วนของพื้น midsole ในรุ่น Ignite Ultimate มีความหนากว่ารุ่น Ignite V1 มาก ซึ่งทำให้มีความนุ่มที่เพิ่มขึ้น และแรงสปริงที่สูงขึ้นด้วย เรียกได้ว่าโดนใจอย่างแรงสำหรับหนุ่มเจ้าเนื้อแบบผม ในรุ่นเก่าต้องวิ่งจึงจะรู้สึกถึงความเด้ง แต่สำหรับตัว Ignite Ultimate เพียงแค่วิ่งเหยาะๆ ก็เด้งแล้ว เริ่มทำให้ Boost Foam ของ adidas หนาวๆ ร้อนๆ ได้เหมือนกัน


เทียบกันระหว่าง Ignite และ Ignite Ultimate จะเห็นว่าพื้น midsole ของรุ่น Ignite Ultimate มีความหนากว่าอย่างเห็นได้ชัด แต่ยังคงมีระยะ heel to toe drop 12 mm เท่าเดิม โดยมี Forefoot 24 mm / Heel 36 mm
อีกจุดคือเจ้าตัว Ignite Ultimate ไม่มีการกล่าวถึง Forever Foam ภายในรองเท้าเลย คาดว่าอาจจะเอาออก แต่ใช่วิธีเปลี่ยนวัสดุ Foam ในส่วนของ Ignite Foam แทน


แผ่นพื้นรอง (sockliner) Puma หันมาใช้เทคโนโลยี EVA Foam ในเกือบจะทุกรุ่น ซึ่งในแต่ละรุ่นจะมีลูกเล่นต่างกันนิดๆหน่อยๆ อย่างในรุ่นนี้จะมีการทำเส้นนูนต่ำสำหรับกันลื่น ทำส่วนหนาบริเวณส้นเท้าและฝ่าเท้าส่วนหน้าเพื่อเพิ่ม cushioning นิดๆหน่อยๆ


พื้น outsole ยังคงเป็นเทคโนโลยียาง EverTrack ขาประจำของ Puma ช่วยเพิ่มความทนทาน ชะลอการสึกหรอ ส่วนตัวรู้สึกว่าเทคโนโลยียางชนิดนี้ไม่ค่อยทนเท่าไหร่ แถมเจอพื้นถนนเปียกก็ลื่นเอาเรื่อง แต่ตัวนี้จัดว่าพัฒนาขึ้นเล็กน้อย นั่นคือลื่นน้อยลงกว่ารุ่นเก่าๆ แถมยังมีความหนาขึ้นด้วยเล็กน้อย ทาง Puma มีการโฆษณาว่าได้พัฒนาการเรียงดอกยางใหม่เพื่อให้การวิ่งมีความ “ไหลลื่น” ยิ่งขึ้น ซึ่ง Puma มักจะเน้นเรื่องการวิ่งที่ไหลลื่นเป็นพิเศษมากกว่าแบรนด์อื่นๆ


ความเทพอย่างนึงของ Puma แต่ไม่ค่อยถูกกล่าวถึง นั่นคือ “เชือก” เชือกผูกรองเท้าวิ่งของ Puma เท่าที่ผมจำความได้ มันไม่เคยหลุดระหว่างวิ่งเลยแม้แต่ครั้งเดียว


น้ำหนักรองเท้าiรุ่นนี้โดยประมาณ 340 กรัม


ระยะทางที่เหมาะสมในการใช้งาน : mini-marathon (10.5 km) , half-marathon (21 km)

สรุปการใช้งานรวม
ข้อดี
- รองเท้าจัดอยู่ในกลุ่มสำหรับผู้มีเท้าแบบ normal arch
- นุ่มสบายเท้ามาก (8/10)
- วิ่งได้ไหลลื่นมาก (10/10)
- การรองรับแรงกระแทกอยู่ในเกณฑ์ดี ทั้งในส่วนของ Forefoot Cushioning  และ Heel Cushioning ในการวิ่งระยะ 10.5 กม. นับว่าพัฒนาขึ้นกว่ารุ่น Ignite V1 อย่างเห็นได้ชัด (8/10)
- ความเด้งดึ๋ง  (9/10)
- ระบายความร้อนได้ดี แต่ควรจะดีได้กว่านี้ (7/10)
- คู่เดียวคุ้ม สามารถใส่เป็นรองเท้า Training ได้ เนื่องจากมี toe box ที่กว้างและยืดหยุ่นได้ดี ชุดพื้นก็มี flexibility สูงกว่ารองเท้าวิ่งปกติ ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ดีของรองเท้า Training (9/10)
- ดีไซน์เท่สมกับเป็น Puma แถมมีเชือกเทพ

ข้อเสีย
- น้ำหนักมาก ประมาณ 340 กรัม
- ยางพื้น outsole ค่อนข้างลื่นเมื่อวิ่งบนถนนที่เปียก
- ระบายความร้อนได้ไม่ดีพอ
- พื้น midsole สกปรกง่ายมากๆ แถมทิ้งไว้นานๆ ก็เหลือง
- ในไทยหาซื้อสีสวยๆ ยาก เนื่องจากนำเข้ามาน้อย และจำกัดสาขาที่ขาย

ราคาในไทยอยู่ที่ 3,999 บาท (จขกท. ใช้สิทธิลด 15% เหลือ 3,399 บาท)





โฆษณา :


หมายเหตุ : รีวิวชุดนี้เป็นการรีวิวจากการใช้งานส่วนตัวเพื่อโพสใน pantip เป็นการแชร์ประสบการณ์การใช้งาน ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับทางบริษัทผู้จำหน่ายหรือห้างร้านหรือเวปเพจใดๆ ทั้งสิ้น