สวัสดีเพื่อนๆ ชาว Pantip ทุกคนนะคะ สำหรับวันหยุดยาวที่เพิ่งผ่านไป หลายคนคงออกไปเที่ยวต่างจังหวัด ใช้เวลาวันหยุดไปกับครอบครัวหรือมีทริปแจ่มๆ กับแก๊งค์เพื่อน หวังว่าวันหยุดยาวที่ผ่านมา เพื่อนๆหลายคนคงได้ผ่อนคลายและมีแรงกลับมาทำงานกันใหม่หลังจากได้ชาร์จพลังกันมาเต็มที่แล้วนะคะ
เมื่อวันหยุดยาวที่ผ่านมา  นี่ไม่ได้ไปไหนไกลเลยค่ะ สายกิน สายล่าของอร่อยๆ อย่างเราก็รื้อกระทู้ดูรีวิวซิคะว่า แถวๆเมืองหลวงของเรานี้ มีที่กินที่ใดบ้างที่ยังไม่ได้ไปโดน และ ป๊ะโช๊ะ!! เกาะเกร็ด เจ้าค่ะ!

สำหรับเพื่อนๆ ที่เคยไปก็คงจะได้ฟินไปกับของกินหลากหลายกันไปแล้ว เพราะฉะนั้น นี่ขออนุญาตพูดคร่าวๆ เกี่ยวกับเกาะแห่งนี้ว่า เอ้อออ มันเป็นยังไง อยู่ตรงไหนหนอ เพื่อเป็นประโยชน์ให้กับเพื่อนๆที่ยังไม่เคยไปนะคะ

เกาะเกร็ด ตั้งอยู่กลางแม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่างในจังหวัดนนทบุรี มีลักษณะเป็นเกาะเล็กๆ พื้นที่บนเกาะมีความเป็นอยู่อาศัยแบบชุมชนชาวมอญและขึ้นชื่ออย่างมากในเรื่องของเครื่องปั้นดินเผา ส่วนบริเวณคลองต่างๆรอบๆเกาะ ชาวบ้านจะนิยมทำขนมไทย เช่นพวกทองหยิบ ทองหยอด ซึ่งหากเพื่อนๆ ไปเที่ยวจะมีเรือนำเที่ยวชมการทำขนมรอบๆเกาะด้วยนะคะ เอาล่ะ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ออกเดินทางกันเลยดีกว่า



วิธีการไปเกาะเกร็ดในแบบฉบับของเรานั้นง่ายมากค่ะ โดย จขกท เริ่มต้นการเดินทางที่อนุสาวรีชัยฯ ในส่วนนี้มาได้หลายทางค่ะ จะBTS เมล์ หรือรถตู้มาก็ได้ตามสะดวก เมื่อถึงอนุสาวรีชัยฯ แล้วให้เดินค่ะ เดินบน skywalk นั้นแหละ เดินยาวๆ ไปจนสุดทางโค้งเลยค่ะ  


เห็นทางลงตรงนั้นมั้ยคะ นั้นคือที่ที่เราจะไปขึ้นรถเมล์ต่อไปเกาะเกร็ดค่ะ

เมื่อเดินมาจนสุดทางให้เพื่อนๆ ลงบันไดแล้วมารอรถเมล์สาย 166 บอกกระเป๋ารถเมล์ว่าไปลงปากเกร็ดนะคะ การเดินทางโดยรถเมล์ใช้เวลาประมาณ 20-30 นาที รถจะขึ้นทางด่วน ถือว่าสะดวกและไวมากๆ  ค่าโดยสารคนละ 18 บาทค่ะ



เมื่อรถเมล์พาเราเข้าสู่ปากเกร็ด ให้สังเกตด้านขวามือ บอกกระเป๋ารถเมล์ลงหน้าโลตัสexpress ตรงนั้นจะมีพี่วินรับส่งเข้าปากซอยเพื่อไปยังท่าเรือข้ามฟากไปเกาะเกร็ด ค่าวินเบาๆ เพียง 10 บาทเท่านั้น  ตามภาพเลย จขกท ไปกับพี่วินที่กำลังโบกไม้โบกมืออย่างมีไมตรีจิตรท่านนี้แหละ แกกวักๆ เรียกให้ไป นี่รีบบอก "พี่ๆ ขอถ่ายก่อน"


เพียงอึกใจเดียว เราก็ถึงท่าเรือข้ามฟากไปเกาะเกร็ดแล้วค่ะ บริเวณนี้จะเต็มไปด้วยร้านขายหมวกสานราคาย่อมเยาว์ เริ่มต้นที่ใบละ 20 บาท ซื้อใส่เดินตลาดกันชิวๆ เหมาะกับบรรยากาศมากๆ



ได้หมวกคนละใบใส่กันร้อนแล้วก็ข้ามฟากกันเล้ยยยยย จริงด้วย ค่าเรือข้ามฟากคนละ 2 บาทนะคะ



บรรยากาศที่ได้ในระหว่างข้ามฟากค่ะ เจดีย์เอียงองค์นี้ชื่อว่า พระเจดีย์มุตา ตั้งอยู่ในวัดปรมัยยิกาวาส ถือเป็นแลนด์มาร์คของเกาะเกร็ดเลยก็ว่าได้ สาธุๆ


และเมื่อเท้าแตะพื้น งานกินก็บังเกิดเจ้าค่ะ แวะชิมแวะช็อปกันยาวๆ ถ่ายรูปกันแทบไม่ทัน โน้นก็น่ากิน นี่ก็น่ากิน บอกเลยว่าเกาะเกร็ดคือสวรรค์ของนักชิมมากๆค่ะ ใครไม่มา ถือว่าพลาด

แวะร้านแรกกันด้วยกุ้งทอด ดอกไม้ทอด


โอ๊ะ นี่มัน ทอดมันหน่อกะลา อันนี้เด็ดๆ ไม่กินคือมาไม่ถึง !


กินของทอดติดกันมันก็คอแห้ง แวะดื่มน้ำในภาชนะเครื่องปั้นซักหน่อย


ระหว่างทางเลือกซื้อของกิน ก็ไม่ลืมที่จะหันมานมัสการพระเจดีย์


และก็กินต่อค่ะ แหะๆ

ร้านผลไม้ดองร้านนี้รสดีมากค่ะคุณ แม่ค้าเขาจะทำใส่กล่องพลาสติก กล่องละ 35 บาท อันนี้ไม่แน่ใจว่า 3 กล่อง 100 รึเปล่านะคะ พอดี จขกท ซื้อไม่ถึง 3 กล่อง ฮ่าๆ แต่เด็ดจริง กะปิดีงามมาก

ของกินสมัยเด็กก็มา พ่อค้าน่ารักมากก พูดเก่ง ไปลองฟังแกโฆษณาได้ค่ะ ^^


เดินเข้ามาเรื่อยๆค่ะ ของอร่อยยังรอคอยคุณอยู่เบื้องหน้า


คนที่น่ารักมากๆค่ะ พ่อค้าแม่ค้าอัทยาศัยดี แหนะ มียิ้มอวดกล้องด้วย นี่เลยเป็นเหยื่อรอยยิ้มเลยไง อุดหนุนชามะนาวคุณลุงไป 25 บาท


ร้านน้ำของคุณลุงอยู่ใกล้ๆทางเข้า "ร้านข้าวแช่คุณแดง" ค่ะ ต้องบอกเลยว่าถ้ามาเกาะเกร็ด นอกจากทอดมันหน่อกะลา ก็ต้องลองข้าวแช่ของที่นี่ มีขายอยู่หลายเจ้านะคะ แต่ จขกท เข้าไปกินของร้านคุณแดงมา รสชาติอร่อยอยู่ค่ะ คือจริงๆ ไม่ได้กินมานานจนจำรสชาติไม่ได้แล้ว พอมาลองมากินก็ชอบนะคะ กินแล้วรู้สึกเป็นชาววังขึ้นมาทันที ฮ่าๆ



ทานไปดูบรรยากาศรอบคลองไปค่ะ ร้านคุณแดงเขาอยู่ติดริมน้ำ ลมเอื่อยๆ กับข้าวแช่ 1 ชุด เหมาะมาก เหมาะที่สุด

อิ่มท้องอิ่มบรรยากาศไปกับข้าวแช่ชาววังแล้วก็เดินต่อค่ะ รอบนี้มาแวะร้านก๋วยเตี๋ยวซะหน่อย


ซัดไปคนละถ้วยก็เดินเก็บแต้มต่อค่ะ ไหนดูซิ มีอะไรให้ชิมอีกบ้างง
โอ๊ะ!


โอ๊ะะะ!


โอ๊ะะะะะ!!


ยังไม่หนำใจ เอามาอีกๆ !!
ข้าวหลามจิ๋วก็มา! มีอีกมั้ย?!


เอาไป หม่อหก!
ตลก!?  
อ่ะ ห่อหมก!!  


บางร้านก็ซื้อมาชิม บางร้านก็ถ่ายรูปเก็บมาไว้ เนื่องจากของกินพ่อคุณเอ๋ยยย มันเยอะะะมากค่ะ กินกันไม่หวาดไม่ไหว นี่คงต้องไปหลายๆรอบ ถึงจะตามเก็บครบทุกร้าน

อ๊ะ มาอันนี้บ้างค่ะ อันนี้เด็ด คุณป้าเค้าทำหม้อแกง มันบด ผักโขมอบชีส และก็เบคอนอบชีส ใส่ไว้ในหม้อดินจิ๋ว หน้าตาน่ารักและรสชาติดันอร่อยมากๆด้วย คือบอกเลยว่าป้าแกไม่งกเครื่องจริงๆค่ะ ชีสคือชีส ครีมคือครีม กลิ่นมันหอม รสชาติมันมัน คือกินคำแรกไปนี่แบบอื้ออออ อร่อยอ่ะ ราคาประมาณถ้วยละ 49-59 บาทนะคะ คุ้มมากอ่ะ ต้องลองๆ อันนี้โหวตเลยค่ะ !


นอกเหนือจากของกินแล้ว ตามที่ได้บอกไว้ว่าเกาะเกร็ดเค้าทำหัตถกรรมประเภทเครื่องปั้นดินเผา งั้นลองตามไปดูเค้าทำกันนะคะ










ที่นี่เค้ามีให้คนทั่วไปลองปั้นหม้อด้วยนะคะ เสียค่าปั้นคนละ 50 บาท แถมได้หม้อกลับไปด้วย ถือว่าคุ้มมากสำหรับประสบการณ์ดีๆ แบบนี้



เอาล่ะค่ะ ออกจากโรงปั้นหม้อดินเผาซึ่งก็ใช้เวลาอยู่ในนั้นพอสมควรอยู่เพราะว่า จขกท แวะปั้นหม้อกะเขาด้วย ต่อไปจะพาไปชิมขนมถ้วยและเฉาก๊วยต่อนะคะ ร้านนี้เลยย "ขนมถ้วยคันทรี่"














คือต้องบอกเลยว่าบรรยากาศร้านแปลกมากอ่ะ ฮ่าๆๆ แต่ จขกท ชอบนะ ร้านสไตล์คันทรี่ขายขนมถ้วยกับเฉาก๊วย คนมาแวะกินกันเยอะเลยล่ะค่ะ นี่ก็เหยื่ออีกไง แวะเข้ามากินเฉาก๊วยให้หายเหนื่อยเพราะเพิ่งเสียพลังงานไปกับการปั้นหม้อมา  (เหนื่อยอะไรขนาดนั้นวะ ข้ออ้างกินชัดๆ)


เป็นไงกันบ้างคะ หวังว่ากระทู้นี้จะทำให้เพื่อนๆ รู้สึกหิวและอยากออกจากบ้านไปล่าของอร่อยๆที่เกาะเกร็ดนะคะ ใช้วันหยุดเพียงวันเดียวแต่สิ่งที่ได้นั้นคุ้มค่ามากๆเลยค่ะ เพราะมันไม่ได้มีแค่ของอร่อยน่ะซิ สายบุญ สายเที่ยวเชิงอนุรักษ์วัฒนธรรมไทย ก็แวะไปเที่ยวไปชมได้เนอะ สำหรับคนที่ดูแล้วรู้สึกแบบ "เอ้อเห้ย อยากไปเลยว่ะ" แล้วคืออ่านกระทู้ตอนเที่ยงคืน นี่ก็ต้องอดใจรอนะคะ เพราะเกาะเกร็ดจะเปิดทุกๆวัน เสาร์- อาทิตย์ และวันหยุดวันหยุดนักขัตฤกษ์ ไปเช้าๆ หน่อยก็ดีค่ะ เวลาปิดจะอยู่ที่ประมาณ 4 โมงเย็นค่ะ แม่ค้าพ่อค้าเริ่มเก็บของกันแล้ว อย่าไปสายน้าา เดี๋ยวอดของอร่อยๆ ><



เอาล่ะค่ะ ก่อนลา ขอทิ้งท้ายด้วยอีกหนึ่งร้านน่ารักๆ พอดีเจอตอนนั่งพี่วินออกมาจากท่าเรือ กำลังจะกลับอยู่แล้วเชียว โดนอีกจนได้
ร้าน "พูลูปุย" ค่ะ








เมนู Snow Cream Brownie อร่อยดีค่ะ คล้ายๆ บิงซู แต่หวานกว่า แต่ก็ไม่ถึงกับเลี่ยน ราคา 99 บาท บราวนี่อร่อยดีนะ หนึบๆ















โอเคหมดแล้ววววว  ได้เวลากลับบ้านและบ๊ายบายเพื่อนๆ แล้วนะคะ ไว้เจอกันอีกรีวิวหน้านะคะ สำหรับวันนี้แยกย้ายค่ะ มาทางไหนกลับทางนั้นเลยยย โบกเมล์ 166 กลับก่อนนะคะ บ๊ายบายค่าาาา