เมื่อฉันได้ไปขับมอเตอร์ไซค์เที่ยวที่อเมริกาใต้(กลายเป็นมหากาฬที่ชิวบ้างไม่ชิวบ้างนะเออ) Part I


เป็นครั้งแรกที่เราตั้งกระทู้ยาวขนาดนี้อาจจะวกไปวนมาบ้างหรือผิดพลาดประการใดขออภัย เขียนผิดบอกได้เตือนได้ยินดีแก้ไข
เราอาจจะลงรายละอียดย่อยไม่หมดเพราะมันเยอะมากแต่เรายินดีตอบทุกคำถาม

เรื่องมันเริ่มจากแฟนเราบอกเราว่าอยากขับมอเตอร์เที่ยวไปรอบโลกจัง (ซึ่งตอนนี้ได้ตกเป็นสามีของเราเรียบร้อย555) เป็นความฝันตลอดสิบปีที่ผ่านมาของเค้าเลยนะตัวเอง ไอ้เราก็รับมุขแบบจริงจังว่า เออถ้าซื้อBig Bike กับออกเงินให้ก็ไปว่ะ เราไม่เคยขับมอเตอร์ไซค์แบบมีคลัทช์เลย นี่คือสิ่งที่เรามี zuzuki step 125 ถือว่าเร็วมากสำหรับเรา555 ขับแซงรถอิแต๋นที่บ้านสบายๆ

เครดิต http://www.sinkardd.com/img/c3b/7ec/c3b7ecfbd8d4d07049331befe6438119_1.jpg

เพื่อนสนิทที่เรียนมหาวิทยาลัยด้วยกันจะรู้ดีว่า สกิลการแว็นซ์ของเราแย่ถึงแย่มาก555 แล้วยังไปบอกแฟนอย่างมั่นใจว่าถ้าจะออกทริปต้อง Big Bike เท่านั้น ช่างกล้า หลังจากนั้นประมาณหนึ่งเดือน แฟนก็บอกเราว่า นี่เธอฉันไปดร็อปเรียนมาละนะหนึ่งปี ตึ้ง ตึ้ง ตึ้ง ไอ้เราก็เฮร้ยเมริงเอาจริงหรอเนี่ย แต่ก็เป็นไงเป็นกันว่ะ โอกาสมาอยู่ตรงหน้าแล้ว ขับเองไม่ได้ให้ซ้อนท้ายไปด้วยก็ยังดี

โดยแพลนของพวกเราเริ่มจาก America, Central America, South America และจบทริปที่ Africa แต่อย่างว่า ฟ้ายังมีวันหม่น ฝนยังมีวันแล้ง.(ยืมพี่ติ้กมา ฮา) มีเหตุการณ์หลายๆอย่างเกิดขึ้นระหว่างนี้จนทำเราไม่สามารถไป Central America กับ Africaได้

เส้นสีแดงคือเส้นทางคร่าวๆที่เราผ่าน ถนนสายสายหลักคือ Pan American Highway ถนนเส้นนี้เริ่มจากอลาสก้า อเมริกายาวไปจนถึงอาร์เจนติน่า ยกเว้นพรมแดนระหว่างปานามากับโคลัมเบียไม่มีถนนตัดผ่าน(ข้อมูลเพิ่มเติม https://en.wikipedia.org/wiki/Pan-American_Highway)

ความซวยอันแรก วีซ่าอเมริกาโดนปฏิเสธ ฮา(ฮา ไม่ออกอ่ะตอนนั้น เดินออกมาจากสถาทูตโดนรุมอย่างก่ะแร้งทึ้งจากพวกรับแก้วีซ่า) เราเลยอดไปเริ่มทริปจากอเมริกาตามแผน แฟนเราเลยต้องฉายเดี่ยว ที่อเมริกากับเซ็นทรัลอเมริกาคนเดียว(อันนี้ถ้ามีคนสนใจถามได้ แฟนบอกที่เซ็นทรัลอเมริกาชายแดนแบบโหด) เราเลยต้องเปลี่ยนแผนโดยการนัดเจอแฟนที่ปานามา(ปานามาฟรีวีซ่าสำหรับคนไทย) แต่เราต้องนั่งเครื่องอ้อมไปทางยุโรปรวมเวลาทั้งหมดเกือบ40ชม.เพราะเราไม่มีทรานสิตวีซ่าของอเมริกา เฮ้อออ และแล้วความซวยก็บังเกิดขึ้นอีกครั้งเมื่อสายการบินปฏิเสธไม่ให้ขึ้นเครื่อง เราเคยตั้งกระทู้ไว้เข้าไปอ่านได้ตามลิงค์ http://ppantip.com/topic/32879432 แม่ใหญ่ที่บ้านบอก อย่าไปเถาะลุกเอ้ยเฮิ้กมันบ่ดีแล้วแม่ใหญ่ว่า แต่มีรึว่าเราจะฟัง555

รูปนี้ถ่ายที่เปรู

หลังจากถูกปฏิเสธไม่ให้ขึ้นเครื่องในวันนั้น เราก็ทำการซื้อตั๋วใหม่บินในวันรุ่งขึ้นทันที รอบนี้ไม่มีปัญหา เครื่องไปลงที่อังกฤษ ต่อเครื่องไปสเปน ที่สเปนเครื่องดีเลย์ประมาณ2ชม. เรารู้สึกแปลกๆเหมือนกำลังจะซวยอะไรสักอย่าง แต่แล้วเครื่องก็ออกจาสเปนมุ่งหน้าไปปานามาอย่างปลอดภัย พอไปถึงปานามาผ่าน ตม.ออกมาแล้ว รู้สึกว่าวิ่งเล่นอยู่ในทุ่งลาเวนเดอร์ทุกอย่างสวยงามฉันผ่านเรื่องร้ายๆมามากพอแล้ว ผ่านไปประมาณ30นาที เปรี้ยง เหมือนฟ้าผ่ากลางกบาล กระเป๋าเราหลงไปที่ฝรั่งเศสคร่า โอโนว คิดในใจกรุน่าจะเชื่อแม่ใหญ่ เฮิ้กบ่ดีแล้วเฮ็ดหยังก็บ่ดี ครั้งนี้เป็นครั้งที่สองในชิวิตที่กระเป๋าเดินทางเราไปเที่ยวเล่นที่ฝรั่งเศส ครั้งแรกที่ออสเตรเลีย เราไปต่อเครื่องที่สิงคโปร์แต่ไฟล์ที่สิงคโปร์ยกเลิก เราเลยต้องค้างที่นู่นกระเป๋าเช็คอินไปที่ปลายทางแล้ว เจ้าหน้าที่บอกไม่ต้องห่วงๆกระเป๋าถึงแน่นอน ค่ะถึงห้าวันหลังจากเครื่องลงจอด บ่นซะยาว กลับมาที่ปานามา พนักงานสายการบินรู้งาน ขอชื่อที่อยู่โรงแรม รอสองวันพี่แกจัดส่งให้ถึงที่
อารัมภบทมายกใหญ่555 ถึงเวลาเริ่มทริปจริงสักที สิ่งที่ต้องมีสำหรับทริปนี้อย่างแรกเลย คือ ใบขับขี่มอเตอร์ไซค์สากล วิธีทำไม่ยุ่งยาก ไปที่ขนส่งใกล้บ้านแล้วบอกเจ้าหน้าที่ว่ามาทำใบขับขี่สากล(เรามีใบขับขี่มอเตอร์ไซค์5ปีที่ไทยอยู่แล้ว) จ่ายเงินค่าธรรมเนียมประมาณ500บาท ถ้าจำไม่ผิด รอรับได้เลย


หลักฐานการฉีดวัณซีนไข้เหลือง(เป็นกฎของอเมริกาใต้) เราไปฉีดที่สถานเสาวภา คุณหมอบอกเอาไข้หวัดใหญ่ไปเผื่อด้วยไหม ไปป่วยไกลบ้านเดียวลำบาก เราเลยตกลงเอาก็เอาค่ะคุณหมอฉีดเลย หลังจากที่ฉีดแล้วทางเจ้าหน้าที่จะให้สมุดเล่มเล็กๆหน้าตาแบบนี้มา...


วัคซีนที่เราฉีดก่อนเดินทางได้แก่ ไข้เหลือง ไข้หวัดใหญ่ พิษสุนัขบ้า และบาดทะยัก(สองอันหลังเราฉีดที่ รพ.ประจำอำเภอ) ในส่วนของวีซ่า ประเทศในทวีปอเมริกาใต้ให้ฟรีวีซ่ากับคนไทย ได้แก่ เอกัวดอร์ เปรู ชิลี อาร์จนติน่า โบลิเวีย บราซิล นอกจากประเทศที่กล่าวมาต้องมีวีซ่าก่อนเข้าประเทศ

ฟรีวีซ่าของโบลิเวีย อันนี้เราทำก่อนเข้าประเทศโบลิเวียไม่เสียตังค์สักบาท

ส่วนอันนี้วีซ่าโบลิเวียเหมือนกัน แต่เสียตังค์ประมาณ60เหรียญ เดี๋ยวเล่าให้ฟังในพาร์ทต่อๆไปว่าเกิดอะไรขึ้น หึหึ

หลังจากหาข้อมูลเกี่ยวกับพาหนะที่ใช้ในทริปนี้มาพักใหญ่ บิ้กไบค์ที่คนส่วนมากใช้ออกทริปยาวๆที่ทวิปอเมริกากับแอฟฟริกา ได้มาสองตัวเลือก BMW GS 650 ขึ้นไป กับ KAWASAKI KLR 650  (เราหาข้อมูลจาก http://www.horizonsunlimited.com/ )  นี่คือพาหนะคู่ใจแฟนเรา KLR650 ปี 2012

ส่วนเรามองหา BMW GS 650 ตอนเริ่มทริปแรกๆเรายังไม่ได้ขับเองเป็นสก๊อยไปก่อน(ตอนแรกก่ะได้วีซ่าอเมริกาจะไปซื้อที่นู่นเพราะถูกกว่าที่อื่น)  สิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับผู้ที่ขับขี่มอเตอร์ไซค์(เพื่อความปลอดภัย) คือ riding gear หลักๆก็มีหมวกกันน๊อก เจ็คเก็ต กางเกง บู๊ท ถุงมือ(ร้อนแค่ไหนพวกเราก็ใส่เพราะชีวิตรีเท็คไม่ได้) ตามรูปเลย

เจ๊คเก็ต หมวกกันน๊อก กางเกง ถุงมือเราสั่งจากเยอรมัน เจอภาษี14,500 บาท เคยตั้งกระทู้ไว้http://ppantip.com/topic/32488950 ที่จริงก็มีขายที่ไทยแระราคาก็เท่าๆกัน แต่แฟนเถียงๆที่อเมริกาไม่เห็นต้องเสียไอก็สั่งออนไลค์ เป็นไงล่ะ หึหึ ส่วนรองเท้าบู๊ทเราซื้อที่ไทยนี้แระ นอกจากนี้แล้วก็จะมีพวก camping gear เช่น เต้นท์ ถุงนอน หม้อ กาต้มน้ำ ประมาณนี้

พวก Camping gear ที่เรามีนี้คือขนาดเล็กน้ำหนักเบา ทั้งหมดใส่ไว้ใน pannier หนึ่งข้างพอดี
ส่วนเสื้อผ้า ก่อนไปเราคิดว่าจะแต่งตัวสวยๆถ่ายรูปแต่ที่ไหนได้รูปที่ได้หลังจบทริปมีแค่สองสามชุดถ่ายวนไปค่ะ5555 ส่วนมากที่เรามีจะเป็นพวกลายเนอร์ที่ใส่ไว้ข้างในก่ะเสื้อกันหนาวซะส่วนมาก ไอ้พวกชุดสวยที่ขนไปเอาทิ้งเกือบหมด

จะกินจะเที่ยวก็ชุดเดียวนี่แหละน้อง5555

ประเทศแรกที่เราเริ่มคือปานามา ที่ปานามาร้อนมาก บ้านเมืองเค้าก็ดูสวยดี เราพักอยู่ฝั่ง Old Town  โรงแรมที่เราพักชื่อ LUNA’S CASTEL HOSTEL คืนเท่าไหร่จำไม่ได้แฮ่ๆ จำได้ว่ามีแพนเค้กกับกล้วยให้กินทุกเช้า
ข้างๆโรงแรมเป็นผับ ตอนกลางคืนนี่ห้องที่เราพักสั่นทั้งคืน5555 ฝั่ง old town ตำรวจถือปืนไรเฟิลเต็มไปหมดแต่เรากลับสึกไม่ปลอดภัยเลย555 ที่ขึ้นชื่อก็คงหนีไม่พ้นPanama Hat มีขายอยู่ทั่วไป ตั้งแต่ราค่าย่อมเยาว์ถึงแพงเว่อร์ คนขายบอกคุณภาพมันต่างกันอีน้องหลังจากนั้นคุณพี่ก็ไม่ได้เงินอิน้องค่ะ หลังจากนั้นไม่นานเราก็ได้รู้ความจริงว่าที่แท้ Panama Hat มีถิ่นกำเหนิดในเอกัวดอร์


หลังจากอยู่ปานามาได้สองวันเราก็ออกเดินทางไป Colon ที่ซึ่งคลองปานามาและ Duty free ตั้งอยู่ ถนนในปานามาถือว่าสะดวกสบายพอสมควร ไอ้เราก็คิดว่าคงเป็นแบบนี้ไปจนจบทริป หึหึ แต่ป่าวเลยจ๊ะ พอมาถึงก็แวะที่ Duty free ก่อนเลย แต่ไม่ได้ถ่ายรูปเพราะมันร้อนมากก เดินเพลินไปหน่อยพอไปถึงคลองปานามาเจ้าหน้าที่บอกปิดแล้ว แหง่ว อดเลย ที่Colon นี่แบบเสื่อมโทรมสุดๆ โจรชุมมากร้อนอาหารต้องมีนคนถือปืนคุม พอมืดแล้วต้องเรียกแท็กซี่อย่างเดียว ไม่ถ่ายรูปเลยเพราะมัวแต่กลัวตอนนั้นยังใหม่สำหรับวงการอยู่5555
สถานที่สุดท้ายที่เราแว้นซ์ไปเยือนที่ปานามาคือ Sanblas Island เป็นกลุ่มเกาะที่อยู่ระหว่างปานามากับโคลัมเบีย ซึ่งบางส่วนเป็นเขตปกครองพิเศษของปานามา กลุ่มเกาะนี้ยังคงความสวยงานตามธรรมชาติอยู่มากทีเดียว ซึ่งแฟนเราจะข้ามจากปานามาไปโคลัมเบียจากที่นี่แหละ

มีเรือไปส่งตามเกาะต่างๆ อันนี้เราสุ่มเลือกเลย ไปกลับประมา20เหรียญ ถ้ามาที่นี้อย่าหวังว่าจะมีโรงแรมห้าให้พักเพราะทุกสิ่งทุกอย่างบนเกาะจัดการโดยชนเผ่าท้องถิ่น

กระท่อมที่เราพักคืนแรก


วันที่สองต้องย้ายมานอนเต้นท์เพราะกระท่อมมีคนจ้องแล้ว555
ราคาที่พักรวมอาหารสามมื้อแล้วถ้าเราไม่ผิดน่าจะประมาณ 40 เหรียญ การเดินทางมาที่เกาะนี้ ส่วนมากคนเค้าจะมารถส่วนตัวกันแต่โรงแรมในปานามาเค้าจะมี Package ให้อยู่ ต้องถามดู ส่วนเรานะหรอโชคดีที่มีคนใจดีให้ติดรถกลับออกไปแถมไปส่งที่สนามบินด้วย ระหว่างปานามากับโคลัมเบียไม่มีถนนเชื่อมต่อ เส้นทางที่ใช้จึงมีแค่ทางอากาศกับทางน้ำ ซึ่งถ้าจะข้ามไปโคลัมเบียต้องข้ามไปกับ Sail Boat(เราไม่ได้ลงเรือเพราะวีซ่าโคลัมเบียไม่ผ่าน ฮา แต่ก็เอาประสบการณ์ที่แฟนเล่าให้ฟังมาเล่าต่อ น่าสนใจดี)

เรือลำนี้แระที่จะพาผู้โดยสารข้ามไปยังโคลัมเบีย ใช้เวลาประมาณ 4-5วัน ฉงนราคาอยู่ที่ 1,050 ดอลลาร์ ราคานี้รวมทุกอย่างไม่มีจ่ายเพิ่ม หลังจากที่แฟนเราใช้บริการ Sail Boat ประมาณ2อาทิตย์ก็มีบริการ Ferry ที่เร็วกว่าและถูกกว่า แต่ตอนนี้มีคนบอกเราว่าเจ๊งไปแล้วต้องกลับไปใช้บริการ Sail Boat เหมือนเดิม555

ชาวบ้านที่อยู่แถวนั้นมาช่วยลำเลียงยานพาหนะขึ้นเรือ

อาหารการกินดีมากกกกก ร็อบสเตอร์แบบไม่อั้น(กลืนน้ำลายเอิ้กๆเพราะเราไม่ได้ไปด้วย)

เรือออกจากฝั่งไปได้สักพัก กัปตันก็จอดที่เกาะนี้แล้วบอกทุกคนว่าคืนนี้เราพักที่นี่ ที่เกาะนี้มีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ2,000คน โดยเป็นชนพื้นเมืองทั้งหมด


ห้องน้ำบนเกาะ ฝรั่งสยองกันเป็นแถวๆ

คืนนั้นแฟนเล่าให้ว่าพวกเค้าเหล่านี้ได้กินเบียร์ทั้งหมดที่ทีอยู่บนเกาะ5555

บรรยากาศบนเรือ ใครไคร่เมาเมา555( เราคุยๆกันแฟนได้ว่าสักวันเราต้องมี Sail Boat เป็นของตัวเอง แล้วไปแมร่งทุกเกาะที่อยากไปแต่คงได้แค่ฝันไปก่อน)
ในระหว่างการเดินทางกัปตันได้แวะตามเกาะต่างๆ ที่ยังคงความสวยงามตามธรรมชาติ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่