สวัสดีค่ะ วันนี้อยากจะมาเล่าเรื่องของลูกสาวให้เพื่อนๆฟังเป็นอุทาหรณ์นะคะ เมื่อวันหยุดยาวอาสาฬหบูชา เราพาเด็กๆไปล่องแก่งที่นครนายกมาค่ะ เด็กๆสนุกกันมากเลยค่ะ แต่ก็มีเรื่องราวไม่คาดคิดเกิดขึ้น จะขอเล่าเป็นลำดับเหตุการณ์ตามนี้นะคะ
รูปแรกเราลงเรือกันเพื่อไปล่องแก่ง เด็กๆตื่นเต้นกันมาก

เราล่องกันไปจนถึงจุดเล่นน้ำตรงฝายทดน้ำ ทุกคนสนุกสนาน ทั้งกระโดดน้ำและว่ายน้ำ

หลังจากเล่นน้ำกันไปสักพักก็ล่องเรือต่อเพื่อไปขึ้นฝั่งจุดที่รถมารอรับ

ระหว่างทางน้องทีมงานก็บอกเราว่าจุดนี้สามารถลงเล่นน้ำได้ เราเลยตัดสินใจลงเล่นน้ำกัน โดยเริ่มจากเจ้าลูกชายแต่เค้ารอปะป๊าเลยยังไม่ไปไกลต่อจากนั้นก็ลูกสาวและมี๊ลงด้วยกัน จากรูปจะเห็นว่าเราและลูกสาวอยู่หน้าสุด ตอนแรกลูกสาวอยู่หน้าเรา ระหว่างเราจับลูกสาวหมุนให้มาอยู่หลังเรา คือให้เราอยู่หน้าสุด ลูกสาวก็ร้องเจ็บ พอถามเค้าว่าทำไมถึงเจ็บเค้าก็บอกว่าเล็บหม่ามี๊ ซึ่งเราค่อนข้างมั่นใจว่าเล็บเราไม่โดนเค้า ระหว่างที่ลอยคอไปเค้าก็พูดขึ้นมาอีกว่าเจ็บ เราเลยเรียกปะป๊ามาดูแผลให้ พอยกตัวเค้าขึ้นมาดูแผลที่ต้นขา ก็เห็นเป็นรอยเข็มสองรูเหมือนแผลงูพิษกัด ทุกคนตกใจมาก น้องทีมงานก็ขอดูแผลแล้วบอกว่าไม่เคยเห็นถ้าปลาปักเป้ากัด แผลไม่ใช่แบบนี้ พอถึงรถลุงคนขับรถก็ขอดูแผลแล้วบอกว่าแผลไม่เหมือนปลาปักเป้า เราทุกคนใจเสีย คอยดูอาการเจ้าตัวเล็กว่ามีอะไรผิดปกติมั้ย แล้วก็พาไปแวะที่โรงพยาบาลสาธารณะสุขแต่เจ้าหน้าที่ดูแผลแล้วบอกว่าให้พาไปโรงพยาบาลเลยห่างออกไปแค่20KM พอไปถึงโรงพยาบาลเราไปทำบัตรและเข้าห้องฉุกเฉินทันที ที่โรงพยาบาลนครนายกเจ้าหน้าที่ดูแลเด็กน้อยดีมาก และให้อยุ่เฝ้าระวังอาการ 1คืน คุณหมอแจ้งว่าถึงน้องจะไม่มีอาการเหมือนโดนพิษ แต่เนื่องจากบาดแผลคล้ายเขี้ยวของงูพิษหมอจึงต้องสันนิษฐานเหตุร้ายแรงสุดไว้ก่อนจึงจำเป็นต้องให้เฝ้าระวังอาการอย่างน้อย 6-12 ชั่วโมง โดยจะต้องอดอาหารด้วยเพราะถ้ามีอาการอาเจียนจะได้ไม่สันนิษฐานชนิดของงูผิด และเนื่องจากเป็นอาการร้ายแรงต้องนอนห้องรวมไม่สามารถย้ายไปห้องพิเศษได้เพราะพี่พยาบาลจะได้ช่วยเหบือได้ทันท่วงทีหากมีอาการผิดปกติ คืนนั้นเด็กน้อยไม่มีอาการผิดปกติอะไรน้อกจากหิวข้าวมาก ซึ่งเราขอขอบคุณพี่ๆพยาบาลและคุณหมอที่ดูแลและให้ความรู้เราอย่างดี ตอนเช้าหมออนุญาติให้เด็กน้อยกินข้าวและออกจากโรงพยาบาลได้ พี่พยาบาลบอกว่า เดือนนี้คนไข้โดนปลาปักเป้ากัดมาโรงพยาบาลเกือบ10คน

หลังจากลูกสาวหลับเราก็searchหาข้อมูลเรื่องปลาปักเป้ากัดคน เนื่องจากช่วงนี้เป็นฤดูวางไข่ และเค้าหวงไข่ แล้วเราอาจว่ายเข้าไปใกล้จุดที่เค้าวางไข่เลยถูกกัด แต่สิ่งหนึ่งที่เราสงสัยก็คือ ทำไมน้องทีมงานของทางล่องแก่งถึงไม่แจ้งเราว่าอาจมีปลาปักเป้า ทั้งที่เป็นเหตุที่เกิดขึ้นอยู่บ่อยๆ และน้องเค้าก็รู้
อย่างไรก็ตามเราไม่โทษใคร จริงๆเราก็ควรเช็คข้อมูลต่างๆก่อนพาลูกไปด้วย ครั้งนี้เราถือว่าเราโชคดีมากที่ลูกสาวไม่ได้โดนสัตว์มีพิษกัด หรือโดนปลาปักเป้ากัดแบบจังๆซื่งแผลจะใหญ่มาก (เนื้อหลุดเป็นรูปวงรี)
ประสบการณครั้งนี้เป็นอุทาหรณ์ให้เราว่าจะพาลูกเที่ยวต้องหาข้อมูลให้แน่นกว่านี้ และเมื่อเกิดเหตุเเล้วเราต้องเร็วกว่านี้ เนื่องจากลูกเราไม่มีอาการอะไรนอกจากรอยเขี้ยวเราเลยใช้เวลาประมาณ40นาทีกว่าจะไปถึงโรงพยาบาลซึ่งถ้าเป็นงูพิษจริงๆลูกเราคงแย่
จริงๆเราคิดว่าเราโชคดีนะ ที่ทุกอย่างมันไม่ได้เลวร้ายมาก เราคิดว่าเรื่องนี้จะเป็นประสบการณ์และบทเรียนให้เรา ซึ่งต่อไปเราคงต้องเตรียมข้อมูลก่อนท่องเที่ยวให้มากกว่านี้ และมีสติมากกว่านี้ด้วย