เมื่อลูกชายถูกปลาปักเป้าน้ำจืดกัดปลายนิ้ว

เมื่อวันที่ 12/04/67 ได้พาลูกชาย อายุ 10 ขวบ ไปเล่นน้ำคลายร้อนริมแม่น้ำนครนายก  เนื่องจากใกล้กรุงเทพ ขับรถ 1.30 ช.ม. ลูกลงเล่นน้ำกับพ่อตั้งแต่บ่ายๆ จนถึงเวลาประมาณ 16.00 น. (พ่อขึ้นมาอาบน้ำก่อน เลยคุยกับแฟนว่าประมาณ 17.00 น. ก็จะให้เลิกเล่นมาทานข้าวเย็น) 
ตอนโดนกัด ลูกชายนั่งขัดสมาธิอยู่บนแพโฟม แต่เอานิ้วมือจุ่มลงในน้ำจับแพโฟม นั่งคุยเล่นกับเด็กๆ ที่มาเล่นน้ำด้วยกัน สักพักลูกพูดเสียงดังว่า ปลากัดนิ้ว ภาพที่เห็นคือเลือดเต็มนิ้ว ไหลหยดลงพื้น (ตอนนั้นตกใจ ไม่ได้ถ่ายภาพไว่) เลยวิ่งไปเอาทิชชู่มาห้ามเลือด พาลูกไปขอที่ทำแผลกับทางที่พัก ทางที่พักเขาไปซื้ออุปกรณ์มาให้ แล้วเจ้าของที่พักบอกว่าน่าจะเป็นปลาปักเป้า ก็ตรงกับที่ลูกบอกว่าเห็นเป็นปลาตัวกลมๆ  ทำแผลแล้วแต่เลือดยังไม่หยุดไหล เลยตัดสินใจขับรถพาลูกไปหาที่ทำแผลใกล้ๆ ค้นหาใน Google มีสถานีอนามัยใกล้ๆ แต่ตอนนั้น 16.30 น. ขับรถไปถึง สถานีอนามัยก็ปิดแล้ว เลยพากันขับรถไปหาคลินิก หรือ ร.พ. ระหว่างทางเจอจุดบริการเต็นท์ หน้าอบต.สาริกา ลงไปสอบถามเจ้าหน้าที่ว่า แถวๆนี้มีคลินิกหรือร.พ. ใกล้ๆบ้างมั้ย
พอดีมีพี่ๆ กู้ภัย อบต.สาลิกา มีอุปกรณ์ทำแผลเลยทำแผลเบื้องต้น และพาไปส่ง ร.พ.นครนายก จัดการเรื่องเอกสารและพาติดต่อเจ้าหน้าที่ ร.พ.ให้เรียบร้อย
พยาบาลบอกว่านักท่องเที่ยวโดนปลาปักเป้าน้ำจืดกัดเยอะ
เราไปหาข้อมูลปลาปักเป้าน้ำจืด เดือนเมษายน จะเป็นฤดูวางไข่ ปลาจะดุร้าย
ลูกชายชอบเล่นน้ำมาก ตอนนี้เข็ดกลัวการเล่นน้ำไปเลยค่ะ อดเล่นน้ำสงกรานต์ด้วย เพราะหมอห้ามแผลโดนน้ำ

ต้องขอบคุณพี่ๆ กู้ภัย อบต.สาลิกา มากๆ นะคะ ที่ช่วยเหลือ ไม่มีการเรียกเก็บค่าบริการด้วย
ขอบคุณ ร.พ.นครนายก บริการดี รวดเร็วรอไม่นาน ทำแผลน้องมือเบามาก

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่