สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 48
พูดกลางๆ มีสิทธิ์หยุดหรือลานี่ก็เรื่องหนึ่ง จะทำก็ทำได้ แต่ในความเป็นจริงการหยุดกระทันหันมันก็กระทบเพื่อนร่วมงานรอบข้างรวมถึงองค์กรนะ
คนที่ต้องลาเพราะลูกป่วยจริงๆหรือมีเหตุสุดวิสัยมันก็คงทำกันไม่บ่อยหรอก และพอลาไปก็คงไม่มีใครบ่นหรือว่า เพื่อนร่วมงานเขาคงเข้าใจได้ แต่กับคนบางคนลาบ่อยด้วยเหตุผลเดิมๆแล้วทำให้คนอื่นเดือดร้อนมันถูกต้องรึเปล่า ลองมองในมุมคนที่มีเพื่อนร่วมงานลาบ่อยๆเขาก็มีสิทธิ์ไม่พอใจได้ว่าทำไมไม่คิดแผนการอื่นรองรับ หรือลามั่วรึเปล่า
ส่วนไอ้เหตุผลว่าไม่มีลูกไม่เข้าใจหรอก ไม่มีภาระไม่เข้าใจหรอก แบบนี้คือเหตุผลยอดฮิตในการ argue ของคนในสังคมนี้เลยเวลามีเรื่องแบบนี้ ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงชอบเอาความเดือดร้อนตนเองไปแผ่กระจายให้ผู้อื่น แทนที่จะจัดการให้กระทบคนอื่นน้อยที่สุด
คนที่ต้องลาเพราะลูกป่วยจริงๆหรือมีเหตุสุดวิสัยมันก็คงทำกันไม่บ่อยหรอก และพอลาไปก็คงไม่มีใครบ่นหรือว่า เพื่อนร่วมงานเขาคงเข้าใจได้ แต่กับคนบางคนลาบ่อยด้วยเหตุผลเดิมๆแล้วทำให้คนอื่นเดือดร้อนมันถูกต้องรึเปล่า ลองมองในมุมคนที่มีเพื่อนร่วมงานลาบ่อยๆเขาก็มีสิทธิ์ไม่พอใจได้ว่าทำไมไม่คิดแผนการอื่นรองรับ หรือลามั่วรึเปล่า
ส่วนไอ้เหตุผลว่าไม่มีลูกไม่เข้าใจหรอก ไม่มีภาระไม่เข้าใจหรอก แบบนี้คือเหตุผลยอดฮิตในการ argue ของคนในสังคมนี้เลยเวลามีเรื่องแบบนี้ ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงชอบเอาความเดือดร้อนตนเองไปแผ่กระจายให้ผู้อื่น แทนที่จะจัดการให้กระทบคนอื่นน้อยที่สุด
ความคิดเห็นที่ 1
ก็คงเหมือนกับการพาพ่อแม่ไปหาหมอเเหละค่ะ
ถ้าเป็นไปได้ ก็รับพนักงานที่ไม่มีลูกเเละไม่มีพ่อแม่นะคะ จะได้ไม่ต้องพาใครไปหาหมอ
บริษัทเราส่วนใหญ่ไม่มีลูก พาพ่อแม่ไปหาหมอกันซะเยอะ
เเต่เพิ่งงานศพพ่อ/เเม่ไปคนสองคน ก็สบายใจได้ว่าไม่ต้องพาไปหาหมอเเล้ว
บริษัทที่คิดจุกจิกเเบบนี้ พนักงานดีๆ จะอยู่ไม่ทนเอา ออกไปทำบริษัทสตาร์ทอัพ ไปทำฟรีเเลนซ์กันหมด
เพราะดูที่ผลงาน ไม่ได้มานั่งดูเวลาเข้างาน (เเต่งานเดินรึเปล่าก็ไม่รู้)
ถ้าเป็นไปได้ ก็รับพนักงานที่ไม่มีลูกเเละไม่มีพ่อแม่นะคะ จะได้ไม่ต้องพาใครไปหาหมอ
บริษัทเราส่วนใหญ่ไม่มีลูก พาพ่อแม่ไปหาหมอกันซะเยอะ
เเต่เพิ่งงานศพพ่อ/เเม่ไปคนสองคน ก็สบายใจได้ว่าไม่ต้องพาไปหาหมอเเล้ว
บริษัทที่คิดจุกจิกเเบบนี้ พนักงานดีๆ จะอยู่ไม่ทนเอา ออกไปทำบริษัทสตาร์ทอัพ ไปทำฟรีเเลนซ์กันหมด
เพราะดูที่ผลงาน ไม่ได้มานั่งดูเวลาเข้างาน (เเต่งานเดินรึเปล่าก็ไม่รู้)
ความคิดเห็นที่ 6
ถ้าลูกป่วยก็ต้องพาไปหาหมอค่ะ ถึงงานจะสำคัญ แต่ลูกสำคัญกว่า
้เด็กๆ ภูมิต้านทานยังไม่ดี ป่วยบ่อย ยิ่งช่วงนี้หน้าฝน ลูกเราป่วยแทบทุกเดือน เดือนที่แล้วพึ่งแอดมิท เดือนนี้เป็นไข้หวัดอีก และป่วยแต่ละครั้งไม่ใช่ไปหาหมอครั้งเดียวแล้วจบ มันอาจจะต้องมีติดตามอาการต่ออีก
คุณคงไม่มีลูกเลยมีความคิดเช่นนี้ แต่ทราบไว้อย่างนึงนะคะ ไม่มีใครอยากให้ลูกป่วย ไม่มีใครเอาลูกที่ไม่ป่วยไปเที่ยวเล่นรพ.หรอกค่ะ
ถ้าเป็นหัวหน้างานแล้ว ต้องอย่าใจแคบกับเรื่องนี้นะคะ
้เด็กๆ ภูมิต้านทานยังไม่ดี ป่วยบ่อย ยิ่งช่วงนี้หน้าฝน ลูกเราป่วยแทบทุกเดือน เดือนที่แล้วพึ่งแอดมิท เดือนนี้เป็นไข้หวัดอีก และป่วยแต่ละครั้งไม่ใช่ไปหาหมอครั้งเดียวแล้วจบ มันอาจจะต้องมีติดตามอาการต่ออีก
คุณคงไม่มีลูกเลยมีความคิดเช่นนี้ แต่ทราบไว้อย่างนึงนะคะ ไม่มีใครอยากให้ลูกป่วย ไม่มีใครเอาลูกที่ไม่ป่วยไปเที่ยวเล่นรพ.หรอกค่ะ
ถ้าเป็นหัวหน้างานแล้ว ต้องอย่าใจแคบกับเรื่องนี้นะคะ
ความคิดเห็นที่ 44
ทำไมแต่ละคอมเม้นท์ ตอบดุเดือดกันจังเลย 555
เราเคยเป็นhrนะ พนักงานมีมากมายหลายแบบ
บางคนโกหก บางคนไม่โกหก ปนๆกันไป
คนโกหก ไม่กระทบงาน ก็เอาหูไปนาเอาตาไปไร่ได้
คนโกหก แล้วกระทบงาน ต้องจัดการขั้นเด็ดขาด
คนไม่โกหก แต่กระทบงาน ต้องช่วยเขาหาทางออกที่เป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย(บริษัท และ พนักงาน)
วิธีการจัดการก็แตกต่างกันไปค่ะ
เป็น hr ต้องรู้จักยืดหยุ่น
เราเคยเป็นhrนะ พนักงานมีมากมายหลายแบบ
บางคนโกหก บางคนไม่โกหก ปนๆกันไป
คนโกหก ไม่กระทบงาน ก็เอาหูไปนาเอาตาไปไร่ได้
คนโกหก แล้วกระทบงาน ต้องจัดการขั้นเด็ดขาด
คนไม่โกหก แต่กระทบงาน ต้องช่วยเขาหาทางออกที่เป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย(บริษัท และ พนักงาน)
วิธีการจัดการก็แตกต่างกันไปค่ะ
เป็น hr ต้องรู้จักยืดหยุ่น
แสดงความคิดเห็น
พาลูกไปหาหมอ คือข้ออ้างยอดฮิต ของคนหยุดงานป่าว
เอะอะ พาลูกไปหาหมอ
ก่อนหน้านี้พนักงานคนอื่น ๆ ก็เช่นเดียวกัน
ทำไมมีลูกแล้วมันลำบากอย่างนี้