---

หลายชั่วโมงหลังจากรัฐประหารที่ล้มเหลวในตุรกี
ยังมีเรื่องที่ต้องทำความเข้าใจก่อนว่าเกิดอะไรขึ้น
ผมต้องการตอบคำถามในใจผม  
บางอย่างที่เกี่ยวข้องกับรัฐประหารครั้งนี้
หนังสือเกี่ยวกับรัฐประหาร  
ต้องมีการทบทวนและเขียนใหม่อย่างมีนัยสำคัญ



ผมไม่ใช่นักวิเคราะห์เรื่องทหาร
แต่ผมอยู่ในช่วงรัฐประหารเมืองไทย 2 ครั้ง
ดังนั้นผมจึงมีประสบการณ์มากกว่าคนอื่น
หนังสือเกี่ยวกับรัฐประหาร Luttwak’s Coup d’État
ต้องมีการทบทวนใหม่เกี่ยวกับการใช้พลังของไซเบอร์ Cyberpower
ในทำนองเดียวกันกับชาวบ้านพูดคุยกันเรื่องนี้กันอย่างแรง
ก็จำเป็นจะต้องเข้าใจเรื่องนี้อย่างแท้จริง

(เคล็ดลับ ไม่ใช่ใช้อาวุธยุทโธปกรณ์จำนวนมาก
แต่ต้องสามารถสร้างสรรค์และรักษาผลประโยชน์ไว้ให้ได้
หรือ คุณภาพ ไม่ใช่ ปริมาณ)



แนวทางรัฐประหารที่ดี

รัฐประหารตอบแบบง่าย ๆ เหมือนนักชกข้างถนน
เคล็ดลับ คือ ต่อยต่อสู้ให้ล้มลงก่อนที่จะเริ่มชก
เพราะกลุ่มผู้ก่อการมีจำนวนน้อยและลากยาวไม่ได้
แม้ว่าจะมีชัย แต่ยังมีกับดักหลายเรื่องรออยู่ เช่น
ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ และการรักษาความมั่นคง

เป้าหมาย คือ ต้องชิงลงมือกับผู้นำรัฐบาลอย่างรวดเร็ว
แล้วแต่งตั้งผู้นำคนอื่นขึ้นแทนที่ทันที
ก่อนที่ชาวบ้านจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
พร้อมกับห้ามชาวบ้านออกจากบ้านอย่างเด็ดขาด
เพราะคนหมู่มากมักจะเรื่องมากจบเรื่องได้ยาก

(ทรอสกี้   การปฏิวัติก็เหมือนกับการใช้คนไม่กี่คน
ไปรุมกระทืบคนบ้าเพียงคนเดียวให้อยู่หมัด)

เรื่องที่จำเป็นที่สุด
ต้องล้มล้างอำนาจผู้นำรัฐบาล
ช่องทางในการสั่งการประสานงาน
และต้องหยุดยั้งการต่อต้านทันที
จะใช้อาวุธหรือกฎหมู่ก็ตามแต่
อีกเรื่องที่ง่าย ๆ คือ ยึดช่องทางสื่อสารมวลชน
(เช่น สถานีโทรทัศน์ หรือสถานีวิทยุ)

---

วิธีรัฐประหารให้สำเร็จ

ขั้นพื้นฐาน คือ ทำและต้องทำพร้อมกัน

กักตัวผู้นำ ล้มล้างผู้นำ
ลงมือทำตอนผู้นำสั่งการไม่ได้
หรือไม่มีคนคุ้มกัน
เช่น อยู่ต่างประเทศ ปลีกวิเวก อยู่บนเครื่องบิน

ยึดสื่อสารมวลชน เช่น ทีวี สถานีวิทยุ
เพื่อป้องกันการสื่อสารจากผู้นำ
ที่จะประสานงาน/สั่งการ
หรือเรียกร้องให้ประชาชนออกมาต่อต้านรัฐประหาร

จำกัดเสรีภาพ ในการชุมนุม การพูด
กิจกรรมทางการเมือง หรือฝ่ายค้านที่จะออกมาต่อต้าน

สุดท้าย ใช้กำลังทหาร ยืนอยู่ตามท้องถนน
เพื่อสั่งให้ทุกคนต้องทำตามคำสั่งคณะรัฐประหาร
แล้วทุกคนต้องยอมรับชนชั้นปกครองชุดใหม่

ทุกอย่างต้องทำอย่างรวดเร็วและลดช่องโหว่ให้เหลือน้อยที่สุด
ตั้งแต่เริ่มต้นรัฐประหารจนรัฐประหารเสร็จสิ้นลง
ชาวบ้านส่วนใหญ่ต้องยอมรับผู้ปกครองคนใหม่ทันที

---

รัฐประหารที่ผมรู้จัก

รัฐประหารที่ผมมีประสบการณ์ว่า ทำสำเร็จ


เมืองไทยปี 2006

นายกรัฐมนตรีไทยไปต่างประเทศเพื่อไปปราศรัยที่  UN
กองทัพเคลื่อนพลออกมาตอนกลางคืน
ยึดกรุงเทพฯ แล้วยึดสถานีโทรทัศน์

นายกรัฐมนตรีออกอากาศจากเมืองนอก
ผ่านทางสถานีโทรทัศน์บางแห่ง
พยายามที่จะบอกประชาชนว่า
รัฐประหารจะล้มเหลว
เขายังมีอำนาจสั่งการอยู่
มีคำสั่งปลดนายทหารบางคน ฯลฯ

เมื่อกองทัพไม่สามารถควบคุมสื่อทั้งหมดได้
เรื่องง่าย ๆ คือ ตัดไฟทั้งเมือง
ทำให้ฝ่ายตรงข้ามติดต่อสื่อสารกันไม่ได้
กลางคืนในกรุงเทพฯ ที่ไม่มีไฟฟ้าใช้
คือ ทุกคนต่างไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
ไม่ใช่เรื่องสนุกเลย  ผมอยากจะบอกคุณ

วันต่อมามีทหารประจำอยู่ตามท้องถนน
มันช่างแสนดีและเงียบสงบ
คนไทยเรียกว่า เรียบเหมือนผ้าไหม


เมืองไทย ปี  2014

ในปี  2014 กองทัพไทยเรียก
พวกผู้นำทางการเมืองทั้งสองฝ่าย
เข้ามาร่วมเจรจากันเป็นเวลาหลายวันแล้ว
สุดท้ายบอกว่า ทุกคนถูกจับแล้วและถูกปฏิวัติแล้ว

กองทัพอยู่บนท้องถนนเรียบร้อยแล้ว
แถมยังยึดสถานีโทรทัศน์ทุกแห่ง
มีการปิด Facebook ช่วงสั้น ๆ
แล้วเริ่มจับคนบางคนเข้าปรับทัศนคติในค่ายทหาร
เป็นเวลาหลายวันหรือหลายสัปดาห์

คนกรุงเทพฯ ส่วนมากอยากให้มีรัฐประหาร
เพราะจะได้จบได้สิ้นเรื่องวุ่นวายทางการเมือง
(พวกม็อบเสื้อเหลือง เสื้อแดง สลิ่ม ฯลฯ)
กองทัพให้สัญญาว่าจะจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่
ที่มีนายกรัฐมนตรีจากคนนอกเหมือนปี 2006

นับเป็นอีกครั้งที่   รัฐประหารราบรื่นอย่างมาก
ไม่มีการต่อต้านจากประชาชนแต่อย่างใด
พวกฝ่ายค้าน/พวกต่อต้านรีบทำตัวเป็นกลาง
แบบไม่รับรู้ ไม่สนใจ ไม่ต่อต้าน ไม่ใช้วาทกรรม
ขณะที่ชาวบ้านต้องยอมรับผู้นำคนใหม่

---

ข้อความทางโทรศัพท์มือถือ ทำไมทหารตุรกีไม่สามารถรัฐประหาร

พวกรัฐประหารในตุรกีประสานงานและสั่งการผ่าน
ข้อความที่เข้ารหัสซึ่งกันและกันผ่าน WhatsApp

และข้อความต่อต้านรัฐประหารจาก Erdogan
ก็ถูกส่งผ่านข้อความที่เข้ารหัสผ่าน FaceTime

เรื่องราวต่อไปนี้  ช่างน่าตื่นเต้นเร้าใจยิ่งนัก

รัฐประหารแบบยุคโบราณเริ่มลงมือ

ฝ่ายรัฐประหารเข้ายึดสถานีโทรทัศน์หลัก  (TRT)
ผู้นำคนใหม่ประกาศคำสั่งคณะปฏิวัติว่า

" เพื่อร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
ที่มีความเป็นระบอบประชาธิปไตย
รับรองสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพ
เพื่อให้กฎหมายต้องเป็นกฎหมาย
กฎหมายและคำสั่งต่าง ๆ
ทุกคนจะต้องปฏิบัติตามโดยเคร่งครัด
แล้วสั่งให้ประชาชนทุกคนอยู่ในบ้าน

เรื่องแบบนี้คือ มาตรการเบื้องต้น
ยึดสื่อมวลชนให้มากที่สุด
ห้ามชาวบ้านออกจากบ้านมาต่อต้านรัฐประหาร

อย่าลืม Cyberpower

แต่ยุคนี้เป็นยุคของพลังไซเบอร์ Cyber​​Power
การใข้เพียงแต่สถานีโทรทัศน์ สถานีวิทยุ ยังไม่เพียงพอ
เพราะอินเทอร์เน็ตเป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพมากกว่า
ติดต่อสื่อสารได้มากกว่า/เร็วกว่า ทีวี วิทยุ
มีความยืดหยุ่น/สะดวกมากกว่า
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับประชาชนจำนวนมาก

เติร์กเองก็มีประสบการณ์ในการจัดการเรื่องนี้
เรื่องการจัดการไม่ให้ประชาชนเข้าถึงสื่อสังคม Social media

แต่คณะรัฐประหารไม่ได้ยึดผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต ISPs

ความล้มเหลวในการปิดกั้นอินเทอร์เน็ต
หมายถึงผู้ทำรัฐประหารกำลังต่อสู้กับ
ผู้นำที่ยังมีอำนาจและใช้ประสิทธิภาพจาก
พลังไซเบอร์  Cyber​​Power
โดยยังสามารถบอกเล่าข้อมูลต่าง ๆ
บอกให้ชาวบ้านออกมาต่อต้านรัฐประหาร
ประสานงานในการถล่มพวกรัฐประหารตุรกี

เพราะทุกอย่างมีการถ่ายทอดสด
ผ่าน Twitter Periscope และ Facebook Live
ทำให้ชาวบ้านเลือกที่จะแชร์ข้อมูลกันแบบสด ๆ ร้อน ๆ
เผยแพร่ทั้งภาพและเสียงพร้อมข้อมูลต่าง ๆ
สร้างขวัญและกำลังใจในการต่อต้านรัฐประหาร

หลักการที่ยอมรับกันคือ
ข้อมูลข่าวสารจะไร้ค่า  ถ้าไม่มีการเผยแพร่
Facebook Live Twitter และ Periscope
ให้ภาพและเสียงในเวลาและสถานที่เกิดเหตุจริง
และเป็นข่าวสารสด ๆ ร้อน ๆ จากที่เกิดเหตุ
ทำให้ชาวบ้านต่างรู้ข้อมูลและติดตามเหตุการณ์ได้ทันที
พร้อมจะตัดสินใจได้ด้วยตนเองหรือประมวลข้อมูลข่าวสารได้

---

Cyber​​weapon

Erdogan หนีออกจากโรงแรมในวันหยุด
แล้วนั่งเครื่องบินเจ็ททำให้รอดจากเงื้อมมือพวกรัฐประหาร
ดังนั้นจึงมีอิสระที่จะจัดการและประสานงานต่อต้านรัฐประหาร
แต่เพราะเขาไม่สามารถไปที่สถานีทีวี เพราะเขาอยู่บนเครื่องบิน

หลังจากนั้น เขาหันไป Cyber​​Power
เป็นวิธีการในการส่งข้อความสื่อสาร
แล้วเรียกร้องให้ประชาชนต่อต้านรัฐประหาร

Erdogan เรียกร้องให้ชาวบ้านออกไปที่ท้องถนน
เพื่อปกป้องระบอบประชาธิปไตยและประเทศตุรกี

แล้วมันก็ประสบความสำเร็จ

เขาสามารถเรียกชาวบ้านมาชุมนุมด้วยการใช้ FaceTime
ส่งตรงไปยังสถานีโทรทัศน์ที่ยอมแพร่ภาพข่าวของเขา
ทุกอย่างจากเครื่องบินเจ็ทที่บินอยู่บนน่านฟ้าของตุรกี

คำขอร้องของเขามีการเผยแพร่อย่างน้อยที่สถานีทีวีสองแห่ง
และต่อมามัศยิดอีกหลายแห่งได้กระจายเสียงของเขาผ่านหออะซาน
เพื่อปลุกระดมชาวบ้านให้ออกมาต่อต้านรัฐประหาร

(ถ้าเมืองไทยคงต้องใช้หอกระจายข่าวตามหมู่บ้าน)

ทุกวันนี้โทรทัศน์และวิทยุไม่มีความสำคัญเหมือนเดิมแล้ว
ในการให้ข้อมูลข่าวสาร/โฆษณาชวนเชื่อกับประชาชน

การที่รัฐประหารตุรกีเข้ามายึดสถานีโทรทัศน์บางช่อง
แล้วประกาศคำสั่งคณะปฏิวัติมาตรฐาน:

"เรากำลังทำเรื่องนี้ให้คุณ บลา บลา บลา"

แต่พวกเขาล้มเหลวที่จะกำจัดอินเทอร์เน็ต
และทำการปิดกั้นการสื่อสารแบบใด ๆ
ที่สามารถติดต่อสื่อสารกันได้อย่างรวดเร็วทันเวลา

หลายปีที่ผ่านมา
ชาวบ้านตุรกีเริ่มจากกลุ่มเล็ก ๆ
ต่างเริ่มเรียนรู้แล้วแชร์ข้อมูลซึ่งกันและกัน
วิธีการที่จะหลีกเลี่ยงอุปสรรคสื่อสังคม (Hack Cybers)
ที่ Erdogan กับพรรคพวกได้วางยาไว้ได้หลาย ๆ ครั้ง
ทำให้ประชาชนต่างปรับตัวได้และหลีกเลี่ยงได้
ทำให้ความพยายามของรัฐบาลไร้ผล
ในการลดพลังอาวุธไซเบอร์ที่ชาวบ้านใช้กันอยู่

---

FaceTime เป็น Cyber​​weapon  Cyberpower คือ Structure

คนตุรกีต่างเปิดหน้าจอมือถือ
แล้วดูสิ่งที่เกิดขึ้นใน Twitter และ Facebook
แล้วหลั่งไหลออกมาเต็มท้องถนนเพื่อหยุดยั้งรถถัง

รัฐประหารของพวกนักชกข้างถนนล้มเหลว
ล้มเหลวในการจัดการกับผู้นำ
(Erdogan ยังมีชีวิตอยู่และเป็นอิสระ)
ล้มเหลวในการใส่ร้ายป้ายสีผู้นำ
ผู้นำจึงมีเวลาจัดระเบียบสังคมได้
แล้วเรียกร้องประชาชนให้ออกมาต่อต้านรัฐประหาร

รัฐประหารจะสำเร็จได้ เมื่อประชาชนเชื่อว่ารัฐประหารสำเร็จแล้ว

FaceTime จาก Erdogan
เรียกร้องให้ประชาชนออกมาต่อต้านรัฐประหาร
ภาพวิดีโอของชาวบ้านที่ยึดรถถังได้สำเร็จ
คือ จุดเริ่มต้นของการสิ้นสุดรัฐประหาร

สถานที่เกิดเหตุ ... บทเรียนที่เรียนรู้

สิ่งที่ควรจะเรียนรู้ในยุคนี้  ถ้าจะทำรัฐประหาร

เรื่องสำคัญที่สุด

อย่าเพิกเฉยกับ Cyberspower

ต้องรับมือกับ Cyberweapons

ในช่วงรัฐประหารต้องมีประสิทธิภาพ

1. ตัดไฟทั้งเมือง

2. ต่อต้าน/จับกุมผู้นำทันที

3. ยึด : เครือข่ายโทรศัพท์ ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต และสถานีโทรทัศน์/สถานีวิทยุทุกแห่ง

4. มีพรรคการเมืองที่ให้การสนับสนุน/หนุนหลัง

เรียบเรียง/ที่มา

https://goo.gl/V4f4sl


เรื่องเดิม  

http://ppantip.com/topic/35392288  ผู้บัญชาการฐานทัพอากาศตุรกี Incirlik ถูกจับแล้วข้อหาร่วมมือกับกบฏ

http://ppantip.com/topic/35391131  ตุรกีกล่าวหาสหรัฐหนุนหลังพวกกบฎ

http://ppantip.com/topic/35388336  ขบถในตุรกีถูกจับกุม 2,839 คน ตาย 265 คน บาดเจ็บ 1,440 คน

---