เมื่อร่างรัฐธรรมนูญ และคำถามพ่วงให้ ส.ว. จากการแต่งตั้งของ คสช. มีอำนาจโหวตเลือกนายกฯได้ ออกมา
อภิสิทธิ์ก็แถลงข่าวทันที ว่า
ไม่เห็นด้วย ไม่รับกับคำถามพ่วงที่ให้ ส.ว. แต่งตั้งมีอำนาจโหวตเลือกนายกฯได้
ส่วนเรื่องตัวร่างรัฐธรรมนูญ ยังไม่มีความเห็น ว่าจะเห็นด้วย หรือไม่เห็นด้วย
และจนถึงวันนี้ ที่อภิสิทธิ์ยังไม่ให้ความชัดเจน
มีเพียงการพูดซื้อเวลาว่า เมื่อถึงเวลาอันสมควรจะแสดงจุดยืนแน่นอน
เรื่องนี้ ไม่ว่าเพื่อไทย ไม่ว่า นปช. ไม่ว่า กปปส. ล้วนแสดงจุดยืนไปชัดเจนนานแล้ว
แต่อภิสิทธิ์ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยังอมพนำ
ก็น่าเห็นใจครับ
หากรัฐธรรมนูญ และเกม เป็นอย่างช่วงปี 2550
อภิสิทธิ์ คงโดดออกมาแสดงจุดยืนนานแล้วว่า รับ เห็นด้วย และคงบอกด้วยว่า
หากใครเห็นว่าตรงไหนไม่ดี ค่อยไปแก้ทีหลัง
แต่เมื่อรัฐธรรมนูญ และเกม ไม่เป็นอย่างปี 2550 ไม่มีแนวโน้มว่าจะมีใครอุ้มเป็นนายกฯอีก
อภิสิทธิ์ก็ต้องซื้อเวลาเพื่อสร้างราคาต่อรองให้ถึงที่สุด
หวังเล็ก ๆ ก็ยังเป็นหวัง
เผื่อมีอะไรวิ่งมาเข้าทางอย่างไม่คาดคิด มีสิทธิ์โดนอุ้มขึ้นเป็นนายกฯอีกรอบ ก็ต้องหวัง
ที่น่าเห็นใจยิ่งกว่านั้น
อภิสิทธิ์ไม่ได้ตัวเปล่าตัวเปลือย มีชะนักปักหลังที่หนักหนาอยู่สองเรื่อง หนัก ๆ ทั้งนั้น
ทั้งเรื่องคดี 99 ศพ ที่อยู่ในชั้นฎีกาฟ้อง ทั้งเรื่องหนีทหาร นายร้อยเก๊
อภิสิทธิ์นี่ หลายคดีนะครับ แต่เพราะตัวช่วยดี จึงหลุดเป็นพรวน
ไม่ว่าเรื่องระบายข้าว เรื่องโรงพัก เรื่องสลายการชุมนุมปี 53 เรื่องยุบพรรค ปชป. ฯลฯ
เหลือสองคดีหนักอยู่แค่ 2 คือ 99 ศพ และหนีทหาร นายร้อยเก๊
ซึ่งสองคดีนี้ ย่อมมีผลต่อการตัดสินใจในการแสดงจุดยืนเรื่องรัฐธรรมนูญของอภิสิทธิ์
ขืนแสดงจุดยืนไม่ดูหน้าดูหลัง ก็อาจเป็นโทษต่อตัวเอง
อภิสิทธิ์จึงต้องกั๊ก เอาล่อเอาเถิดไม่เปิดจุดยืนสักที
น่าเห็นใจครับ
ทำให้นึกถึงคำพูดที่อภิสิทธิ์เหน็บแนมคุณชัชชาติ สิทธิพันธุ์
ที่บอกว่า คุณชัชชาติรับใช้ระบบอันเลวร้าย
ถึงวันนี้ คุณชัชชาติเฉิบ ๆ วิ่งออกกำลังกายเช้า ๆ ที่สวนลุมฯได้สบาย
แต่อภิสิทธิ์ แค่แสดงจุดยืนทางการเมืองยังทำยาก ยังต้องเกรง ยังต้องดูทิศทางลมของระบบที่อภิสิทธิ์เคยร่วม
ทำให้เห็นครับ ว่าใครกันแน่ที่รับใช้ระบบอันเลวร้าย
คนวิ่งนั้น ยิ่งวิ่งยิ่งแข็งแรงครับ ร่างกายไร้ไขมัน สร้างกล้ามเนื้อ
แต่แปลก ว่ากันว่า ระยะหนึ่งปีมานี่ อภิสิทธิ์วิ่งจัด แต่ยิ่งวิ่งยิ่งอ้วน หน้าบวม
คงเพราะวิ่งเท่าไร ก็ไม่ได้ผล ยังโดนกุมไม้เด็ดไว้เพื่อจัดการหากขืนดึ้อดึง
เลยทำให้ยิ่งวิ่งยิ่งบวม
เห็นใจอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เพราะต้องอุบไพ่ไว้จนนาทีสุดท้าย ด้วยความจำเป็นหลายประการ น่าเห็นใจ ๆ
อภิสิทธิ์ก็แถลงข่าวทันที ว่า
ไม่เห็นด้วย ไม่รับกับคำถามพ่วงที่ให้ ส.ว. แต่งตั้งมีอำนาจโหวตเลือกนายกฯได้
ส่วนเรื่องตัวร่างรัฐธรรมนูญ ยังไม่มีความเห็น ว่าจะเห็นด้วย หรือไม่เห็นด้วย
และจนถึงวันนี้ ที่อภิสิทธิ์ยังไม่ให้ความชัดเจน
มีเพียงการพูดซื้อเวลาว่า เมื่อถึงเวลาอันสมควรจะแสดงจุดยืนแน่นอน
เรื่องนี้ ไม่ว่าเพื่อไทย ไม่ว่า นปช. ไม่ว่า กปปส. ล้วนแสดงจุดยืนไปชัดเจนนานแล้ว
แต่อภิสิทธิ์ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยังอมพนำ
ก็น่าเห็นใจครับ
หากรัฐธรรมนูญ และเกม เป็นอย่างช่วงปี 2550
อภิสิทธิ์ คงโดดออกมาแสดงจุดยืนนานแล้วว่า รับ เห็นด้วย และคงบอกด้วยว่า
หากใครเห็นว่าตรงไหนไม่ดี ค่อยไปแก้ทีหลัง
แต่เมื่อรัฐธรรมนูญ และเกม ไม่เป็นอย่างปี 2550 ไม่มีแนวโน้มว่าจะมีใครอุ้มเป็นนายกฯอีก
อภิสิทธิ์ก็ต้องซื้อเวลาเพื่อสร้างราคาต่อรองให้ถึงที่สุด
หวังเล็ก ๆ ก็ยังเป็นหวัง
เผื่อมีอะไรวิ่งมาเข้าทางอย่างไม่คาดคิด มีสิทธิ์โดนอุ้มขึ้นเป็นนายกฯอีกรอบ ก็ต้องหวัง
ที่น่าเห็นใจยิ่งกว่านั้น
อภิสิทธิ์ไม่ได้ตัวเปล่าตัวเปลือย มีชะนักปักหลังที่หนักหนาอยู่สองเรื่อง หนัก ๆ ทั้งนั้น
ทั้งเรื่องคดี 99 ศพ ที่อยู่ในชั้นฎีกาฟ้อง ทั้งเรื่องหนีทหาร นายร้อยเก๊
อภิสิทธิ์นี่ หลายคดีนะครับ แต่เพราะตัวช่วยดี จึงหลุดเป็นพรวน
ไม่ว่าเรื่องระบายข้าว เรื่องโรงพัก เรื่องสลายการชุมนุมปี 53 เรื่องยุบพรรค ปชป. ฯลฯ
เหลือสองคดีหนักอยู่แค่ 2 คือ 99 ศพ และหนีทหาร นายร้อยเก๊
ซึ่งสองคดีนี้ ย่อมมีผลต่อการตัดสินใจในการแสดงจุดยืนเรื่องรัฐธรรมนูญของอภิสิทธิ์
ขืนแสดงจุดยืนไม่ดูหน้าดูหลัง ก็อาจเป็นโทษต่อตัวเอง
อภิสิทธิ์จึงต้องกั๊ก เอาล่อเอาเถิดไม่เปิดจุดยืนสักที
น่าเห็นใจครับ
ทำให้นึกถึงคำพูดที่อภิสิทธิ์เหน็บแนมคุณชัชชาติ สิทธิพันธุ์
ที่บอกว่า คุณชัชชาติรับใช้ระบบอันเลวร้าย
ถึงวันนี้ คุณชัชชาติเฉิบ ๆ วิ่งออกกำลังกายเช้า ๆ ที่สวนลุมฯได้สบาย
แต่อภิสิทธิ์ แค่แสดงจุดยืนทางการเมืองยังทำยาก ยังต้องเกรง ยังต้องดูทิศทางลมของระบบที่อภิสิทธิ์เคยร่วม
ทำให้เห็นครับ ว่าใครกันแน่ที่รับใช้ระบบอันเลวร้าย
คนวิ่งนั้น ยิ่งวิ่งยิ่งแข็งแรงครับ ร่างกายไร้ไขมัน สร้างกล้ามเนื้อ
แต่แปลก ว่ากันว่า ระยะหนึ่งปีมานี่ อภิสิทธิ์วิ่งจัด แต่ยิ่งวิ่งยิ่งอ้วน หน้าบวม
คงเพราะวิ่งเท่าไร ก็ไม่ได้ผล ยังโดนกุมไม้เด็ดไว้เพื่อจัดการหากขืนดึ้อดึง
เลยทำให้ยิ่งวิ่งยิ่งบวม