สมัยอธิบดีฯเผ่า ศรียานนท์เป็นยุคที่ตำรวจมีอิทธิพลเท่ากองทัพบก การจับฝิ่นและการค้าฝิ่นอยู่ในอำนาจของอัศวินเผ่าฯ ว่ากันว่าพลตำรวจเอกเผ่า ศรียานนท์ บงการจับฝิ่นและค้าฝิ่นเสียเอง เป็นเรื่องที่รู้กันในยุคนั้น
ยุคอัศวินเผ่า ศรียานนท์ เป็นยุคปลายชีวิตขุนพันธ์ฯ แต่ท่านยังเป็นใหญ่อยู่ทางปักษ์ใต้ ตอนนั้นเองที่ขุนพันธ์ฯจับฝิ่นเถื่อนของอธิบดีกรมตำรวจนามบุรุษเล็กแห่งเอเชีย พล.ต.อ เผ่า ศรียานนท์ ท่านจับทั้งๆที่รู้ว่าเป็นฝิ่นของอัศวินเผ่า...
เมื่อลูกน้องรายงานว่าขุนพันธ์ฯ จับฝิ่นของตนที่ปักษ์ใต้ อธิบดีเผ่าศรียานนท์จึงมีคำสั่งเรียกตัวขุนพันธ์ฯเข้าพบ
วันที่ขุนพันธ์ฯเดินทางมาจากเมืองปักษ์ใต้มาพบอธิบดีกรมตำรวจ เขาไม่แต่งเครื่องแบบ ปริศนาการไม่สวมเครื่องแบบของขุนพันธ์ฯทำให้อธิบดีฯ เผ่า อดประหลาดใจไม่ได้
ท่านขุนรู้หรือไม่ว่า ฝิ่นที่จับน่ะเป็นของใคร?
"ผมจับเพราะผมเป็นตำรวจ" ขุนพันธ์ฯตอบอย่างไม่สะทกสะท้านต่ออิทธิพลแห่งบุรุษเอกเอเชีย สั้นและเข้าใจง่าย ท่านอธิบดีฯเผ่า ศรียานนท์ อึ่ง...นึกนับถือน้ำใจของขุนพันธ์ฯว่ากล้าหาญและเป็นตำรวจที่แท้จริง ใจนักเลงดีนัก ท่านขุนเป็นนายตำรวจเข้ามาพบผู้บัญชา เหตุใดจึงไม่แต่งเครื่องแบบมา? อธิบดีเผ่า ศรียานนท์ถามตามที่ค้างคาใจมาแต่แรก "ผมไม่แต่งเครื่องแบบมา เพราะเตรียมใจไว้พร้อมตั้งแต่ได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชา ถ้าผิด ผมพร้อมที่จะเป็นพลเรือน" ดูเหมือนคำตอบของขุนพันธ์ฯช่วยไขปริศนาการถอดเครื่องแบบได้อย่างดี ขุนพันธ์ฯรู้ดีว่าอธิบดีเผ่าไม่เอาไว้แน่ แต่การที่ท่านจะให้ใครมาถอดเครื่องแบบผู้พิทักษ์ สันติราษฎร์ออกจากเนื้อตัว ไม่ใช่วิสัยคนอย่างขุนพันธ์ฯ ท่านถอดของท่านเองมาจากบ้าน การเผชิญหน้าระหว่างบุรุษแห่งเอเชียกับขุนพันธ์ฯ วีรบุรุษมือปราบเหล็กน้ำพี้ในครั้งนั้น ลือลั่นกันไปทั่วกรมตำรวจ ว่ากันว่า พล ต.อ. เผ่า ศรียานนท์นับถือน้ำใจขุนพันธ์ฯมาก อยากจะได้มาใช้ใกล้ชิด ขอให้ขุนพันธ์ฯมาอยู่ด้วย แต่ขุนพันธ์ฯปฎิเสธว่า " ขออยู่อย่างที่เคยเป็น"
https://www.facebook.com/Khunphan/posts/195369217271624
เล่าเรื่อง พลตำรวจตรีขุนพันธ์ ปะทะ พลตำรวจเอกเผ่า
ยุคอัศวินเผ่า ศรียานนท์ เป็นยุคปลายชีวิตขุนพันธ์ฯ แต่ท่านยังเป็นใหญ่อยู่ทางปักษ์ใต้ ตอนนั้นเองที่ขุนพันธ์ฯจับฝิ่นเถื่อนของอธิบดีกรมตำรวจนามบุรุษเล็กแห่งเอเชีย พล.ต.อ เผ่า ศรียานนท์ ท่านจับทั้งๆที่รู้ว่าเป็นฝิ่นของอัศวินเผ่า...
เมื่อลูกน้องรายงานว่าขุนพันธ์ฯ จับฝิ่นของตนที่ปักษ์ใต้ อธิบดีเผ่าศรียานนท์จึงมีคำสั่งเรียกตัวขุนพันธ์ฯเข้าพบ
วันที่ขุนพันธ์ฯเดินทางมาจากเมืองปักษ์ใต้มาพบอธิบดีกรมตำรวจ เขาไม่แต่งเครื่องแบบ ปริศนาการไม่สวมเครื่องแบบของขุนพันธ์ฯทำให้อธิบดีฯ เผ่า อดประหลาดใจไม่ได้
ท่านขุนรู้หรือไม่ว่า ฝิ่นที่จับน่ะเป็นของใคร?
"ผมจับเพราะผมเป็นตำรวจ" ขุนพันธ์ฯตอบอย่างไม่สะทกสะท้านต่ออิทธิพลแห่งบุรุษเอกเอเชีย สั้นและเข้าใจง่าย ท่านอธิบดีฯเผ่า ศรียานนท์ อึ่ง...นึกนับถือน้ำใจของขุนพันธ์ฯว่ากล้าหาญและเป็นตำรวจที่แท้จริง ใจนักเลงดีนัก ท่านขุนเป็นนายตำรวจเข้ามาพบผู้บัญชา เหตุใดจึงไม่แต่งเครื่องแบบมา? อธิบดีเผ่า ศรียานนท์ถามตามที่ค้างคาใจมาแต่แรก "ผมไม่แต่งเครื่องแบบมา เพราะเตรียมใจไว้พร้อมตั้งแต่ได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชา ถ้าผิด ผมพร้อมที่จะเป็นพลเรือน" ดูเหมือนคำตอบของขุนพันธ์ฯช่วยไขปริศนาการถอดเครื่องแบบได้อย่างดี ขุนพันธ์ฯรู้ดีว่าอธิบดีเผ่าไม่เอาไว้แน่ แต่การที่ท่านจะให้ใครมาถอดเครื่องแบบผู้พิทักษ์ สันติราษฎร์ออกจากเนื้อตัว ไม่ใช่วิสัยคนอย่างขุนพันธ์ฯ ท่านถอดของท่านเองมาจากบ้าน การเผชิญหน้าระหว่างบุรุษแห่งเอเชียกับขุนพันธ์ฯ วีรบุรุษมือปราบเหล็กน้ำพี้ในครั้งนั้น ลือลั่นกันไปทั่วกรมตำรวจ ว่ากันว่า พล ต.อ. เผ่า ศรียานนท์นับถือน้ำใจขุนพันธ์ฯมาก อยากจะได้มาใช้ใกล้ชิด ขอให้ขุนพันธ์ฯมาอยู่ด้วย แต่ขุนพันธ์ฯปฎิเสธว่า " ขออยู่อย่างที่เคยเป็น"
https://www.facebook.com/Khunphan/posts/195369217271624