เห็นข่าวนี้แล้วก็เป็นอุทาหรณ์ สำหรับใครที่ชอบคบคนในเครื่องแบบ ระวังให้ดี
ต้องตรวจสอบกันว่า จริงๆ แล้ว แต่ละวันทำอะไรที่ไหน
ไม่งั้นจะเงิบแบบนี้
ที่มา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://news.bugaboo.tv/watch/264941?link=2
ตำรวจกองปราบปราม และตำรวจภูธรภาค 7 สนธิกำลังจับสองผู้ต้องหา แต่งกายเป็นทหาร แอบอ้างสถาบันเบื้องสูง หลอกลวงเหยื่อให้หลงเชื่อ สูญเงินจำนวนมาก ลงสนามข่าวนี้กับคุณศจี วงศ์อำไพ
ตำรวจกองปราบปราม และตำรวจภูธรภาค 7 นำกำลังเข้าจู่โจมห้องพักของนายภาคิน จักรกาบาตร์ ที่คอนโดหรูย่านสนามบินน้ำ นนทบุรี พร้อมกับยึดของกลางทั้งเครื่องแบบทหาร เข็มติดยศ เอกสารข้าราชการ และสิ่งลามกอนาจารไปตรวจสอบ ก่อนหน้านี้ตำรวจสืบทราบมาว่า นายภาคินมีพฤติการณ์แอบอ้างเป็นนายทหารติดตามขบวนเสด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามกุฎราชกุมาร ทำให้คนหลงเชื่อตระเวณหลอกหญิงสาวให้หลงรัก แล้วปลอกลอกเอาเงินและทรัพย์สินไป
นายภาคิน ยอมให้จับแต่โดยดี ไม่ขัดขืน สารภาพสิ้นใฝ่ฝันอยากเป็นนายทหาร จึงหาซื้อเครื่องแบบและยศมาสวมใส่ ตั้งแต่ยศร้อยตรีจนถึงยศพันตรี โดยไม่มีใครสงสัย เพราะทุกวันจะแต่งเครื่องแบบทหารออกจากบ้านเหมือนไปทำงานตามปกติถ่ายรูป ตัดต่อภาพให้ดูเสมือนจริงที่ผ่านมาเปลี่ยนชื่อและนามสกุลมาหลายครั้ง อ้างเป็นลูกบุญธรรมพลเอกทรงกิตติ จักกาบาตร ทำให้สาวๆ หลงเชื่อ ซึ่งตนเองเคยมีภรรยามาแล้ว 4 คน ทั้งหมดไม่เคยรู้เลยว่า สามีตนไม่ใช่ทหารตามที่กล่าวอ้าง
แฟนสาวนายภาคินถึงกับอึ้ง พูดไม่ออก เมื่อรู้ความจริงว่า ชายคนรักที่เพิ่งจะคบหาไม่กี่เดือน และพร่ำบอกเสมอว่า เขาคือนายทหาร ที่แท้ก็จอมลวงโลกเธอสูญเงินไป 60,000
ไม่ต่างจากเพื่อนข้างห้องและเจ้าหน้าที่คอนโดแห่งนี้ ก็ถึงกับตกใจ เมื่อรู้ว่านายภาคินโดยจับ หมดสภาพนายทหารหนุ่มที่เคยเห็น
จากนั้นตำรวจก็พาผุ้ต้องหาไปค้นบ้านภรรยาคนที่ 2 ที่ท่าอิฐนนทบุรี พบรูปถ่ายที่นายภาคินสวมเครื่องแบบทหารติดตามผนังหลายจุด จึงนำมาตรวจสอบขณะที่ภรรยาถึงกับหน้าถอดสีไม่นึกว่าสามีจะกุเรื่องหลอกคนในครอบครัว ที่สำคัญเพิ่งรู้ด้วยว่าเงินที่นำมาก่อสร้างบ้านหลังนี้ มาจากนายภาคินไปฉ้อโกงพ่อตาคนปัจจุบัน
ผู้เสียหาย ซึ่งเป็นพ่อตาของนายภาคิน แจ้งตำรวจว่านายภาคินลักทรัพย์ หลอกเอาเงินครอบครัวไป 7 ล้านบาท อ้างนำไปทำธุรกิจ ตำรวจจึงแจ้งหาหาทั้งลักทรัพย์ แต่งกายเลียนแบบทหาร ปลอมแปลงเอกสารทางราชการและแอบอ้างสถาบัน ผิดมาตรา 112
น่าสงสารมาก แฟนสาวเงิบ ทหารเก๊โดนบุกจับ ที่ผ่านมาโดนหลอก เมีย 4 คน ไม่มีใครรู้
ต้องตรวจสอบกันว่า จริงๆ แล้ว แต่ละวันทำอะไรที่ไหน
ไม่งั้นจะเงิบแบบนี้
ที่มา [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตำรวจกองปราบปราม และตำรวจภูธรภาค 7 สนธิกำลังจับสองผู้ต้องหา แต่งกายเป็นทหาร แอบอ้างสถาบันเบื้องสูง หลอกลวงเหยื่อให้หลงเชื่อ สูญเงินจำนวนมาก ลงสนามข่าวนี้กับคุณศจี วงศ์อำไพ
ตำรวจกองปราบปราม และตำรวจภูธรภาค 7 นำกำลังเข้าจู่โจมห้องพักของนายภาคิน จักรกาบาตร์ ที่คอนโดหรูย่านสนามบินน้ำ นนทบุรี พร้อมกับยึดของกลางทั้งเครื่องแบบทหาร เข็มติดยศ เอกสารข้าราชการ และสิ่งลามกอนาจารไปตรวจสอบ ก่อนหน้านี้ตำรวจสืบทราบมาว่า นายภาคินมีพฤติการณ์แอบอ้างเป็นนายทหารติดตามขบวนเสด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามกุฎราชกุมาร ทำให้คนหลงเชื่อตระเวณหลอกหญิงสาวให้หลงรัก แล้วปลอกลอกเอาเงินและทรัพย์สินไป
นายภาคิน ยอมให้จับแต่โดยดี ไม่ขัดขืน สารภาพสิ้นใฝ่ฝันอยากเป็นนายทหาร จึงหาซื้อเครื่องแบบและยศมาสวมใส่ ตั้งแต่ยศร้อยตรีจนถึงยศพันตรี โดยไม่มีใครสงสัย เพราะทุกวันจะแต่งเครื่องแบบทหารออกจากบ้านเหมือนไปทำงานตามปกติถ่ายรูป ตัดต่อภาพให้ดูเสมือนจริงที่ผ่านมาเปลี่ยนชื่อและนามสกุลมาหลายครั้ง อ้างเป็นลูกบุญธรรมพลเอกทรงกิตติ จักกาบาตร ทำให้สาวๆ หลงเชื่อ ซึ่งตนเองเคยมีภรรยามาแล้ว 4 คน ทั้งหมดไม่เคยรู้เลยว่า สามีตนไม่ใช่ทหารตามที่กล่าวอ้าง
แฟนสาวนายภาคินถึงกับอึ้ง พูดไม่ออก เมื่อรู้ความจริงว่า ชายคนรักที่เพิ่งจะคบหาไม่กี่เดือน และพร่ำบอกเสมอว่า เขาคือนายทหาร ที่แท้ก็จอมลวงโลกเธอสูญเงินไป 60,000
ไม่ต่างจากเพื่อนข้างห้องและเจ้าหน้าที่คอนโดแห่งนี้ ก็ถึงกับตกใจ เมื่อรู้ว่านายภาคินโดยจับ หมดสภาพนายทหารหนุ่มที่เคยเห็น
จากนั้นตำรวจก็พาผุ้ต้องหาไปค้นบ้านภรรยาคนที่ 2 ที่ท่าอิฐนนทบุรี พบรูปถ่ายที่นายภาคินสวมเครื่องแบบทหารติดตามผนังหลายจุด จึงนำมาตรวจสอบขณะที่ภรรยาถึงกับหน้าถอดสีไม่นึกว่าสามีจะกุเรื่องหลอกคนในครอบครัว ที่สำคัญเพิ่งรู้ด้วยว่าเงินที่นำมาก่อสร้างบ้านหลังนี้ มาจากนายภาคินไปฉ้อโกงพ่อตาคนปัจจุบัน
ผู้เสียหาย ซึ่งเป็นพ่อตาของนายภาคิน แจ้งตำรวจว่านายภาคินลักทรัพย์ หลอกเอาเงินครอบครัวไป 7 ล้านบาท อ้างนำไปทำธุรกิจ ตำรวจจึงแจ้งหาหาทั้งลักทรัพย์ แต่งกายเลียนแบบทหาร ปลอมแปลงเอกสารทางราชการและแอบอ้างสถาบัน ผิดมาตรา 112