ของสาธารณะคือสาธารณะ ป่าสงวนคือป่าสงวน กฏหมายคือกฏหมาย โปรดอย่าให้ความเห็นส่วนตัวมาตัดสินนะครับ จะอ้างอากาศดี วิวสวย เหมาะสร้างวัด เลยใช้เป็นเหตุผลมามารุกที่ป่าและที่สาธารณะนั้นไม่สมควรนะครับ
ยุทธการทวงคืนผืนป่าโครงการสวนป่าหิมวันต์ อ.ภูเรือ จ.เลย พบเป็นสำนักสงฆ์เครือข่ายธรรมกาย ออกหลักฐาน นส.3 ก อันเป็นเท็จในชื่อ "พระธัมมชโย"
พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา พร้อมด้วย ผบ.ตร. พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. ในฐานะ ผอ.ศูนย์ปราบปรามผู้มีอิทธิพลและมือปืนรับจ้างสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.ท.เดชา ชวยบุญชุม ผู้ช่วย ผบ.ตร. เป็นผู้ควบคุม กำกับดูแลการปฏิบัติการทวงคืนผืนป่าสวนป่าหิมวันต์ อ.ภูเรือ จ.เลย นำกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ปกครอง เจ้าหน้าที่ป่าไม้ เจ้าหน้าที่ที่ดิน เจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนา ได้ร่วมกันปิดล้อม ตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายข้างต้น ตามหมายค้นศาลจังหวัดเลย ที่ 196/2559 ลงวันที่ 13 กรกฎาคม 2559 และหมายค้นศาลจังหวัดเลย ที่ 197/2559 ลงวันที่ 14 กรกฎาคม 2559
ผลการตรวจค้นพบว่า สวนป่าหิมวันต์ เลขที่ 191 หมู่ 1 ต.ร่องจิก อ.ภูเรือ จ.เลย เป็นสถานปฏิบัติธรรม ไม่มีพระสงฆ์อยู่ประจำ มีเนื้อที่รวม 193-1-20 ไร่ โดยมีสิ่งปลูกสร้างประกอบด้วย 1.กุฏิ 2 หลัง 2. อาคารปฏิบัติธรรม 1 หลัง 3.อาคารโรงอาหาร 1 หลัง 4.อาคารโรงครัว (กำลังก่อสร้าง) 1 หลัง 5.บ้านพักผู้ปฏิบัติธรรม 150 หลัง 6.บ้านพักรับรอง 3 หลัง
จากการตรวจพบการกระทำความผิด คือ 1.มีการสร้างอาคาร (กุฏิ) รุกล้ำเข้าไปในลำห้วยน้ำข้าวมัน อันเป็นความผิดฐาน “ก่อสร้าง แผ้วถาง หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่า หรือเข้ายึดถือ หรือครอบครองป่า เพื่อตนเองหรือผู้อื่น” ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 และมีความผิดตามมาตรา 9 (108 ทวิ) ตามประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2497 และ “ก่อสร้างอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาต” ตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522
2.มีการยึดครองที่ดินที่เป็นทางสาธารณประโยชน์ อันเป็นความผิดฐาน “เข้าไปยึดถือ ครอบครอง รวมตลอดถึงการก่อสร้าง หรือเผาป่าฯ” และมีความผิดตามมาตรา 9 (108 ทวิ) ตามประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2497 และ “ทำให้เสียหาย ทำลาย ทำให้เสื่อมค่าหรือทำให้ไร้ประโยชน์ ซึ่งทรัพย์ที่ใช้หรือมีไว้เพื่อสาธารณประโยชน์” ตาม ป.อาญา มาตรา 360
3.มีการออกหลักฐาน นส.3 ก อันเป็นเท็จ รุกล้ำเข้าไปในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าภูเปือย ป่าภูขี้เถ้าและป่าภูเรือ จำนวน 45-0-72 ไร่ (จากการรวม นส.3 ก จำนวน 10 แปลง มีเนื้อที่รวม 84-3-21 ไร่ ไปเป็น นส.3 ก ฉบับเดียว โดยออกให้ในชื่อ พระไชยบูลย์ สุทธิผล หรือ พระธัมมชโย แต่กลับมีเนื้อที่เพิ่มขึ้นเป็น 129-1-10 ไร่) อันเป็นความผิดฐาน “ก่อสร้าง แผ้วถาง หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่า หรือเข้ายึดถือ หรือครอบครองป่า เพื่อตนเองหรือผู้อื่น” ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484, “เข้าไปยึดถือ ครอบครอง รวมตลอดถึงการก่อสร้าง หรือ เผาป่าฯ” และมีความผิดตามมาตรา 9 (108 ทวิ) ตามประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2497 และ พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 มาตรา 14
รายละเอียดเพิ่มเติมติดตามได้ที่นี่เลยครับ
http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/707450
สะเทือนใจ!!!สำนักสงฆ์เครือข่ายธรรมกายบุกรุกป่าภูเรือ นส.3ก เท็จระบุชื่อ"ธัมมชโย"
ยุทธการทวงคืนผืนป่าโครงการสวนป่าหิมวันต์ อ.ภูเรือ จ.เลย พบเป็นสำนักสงฆ์เครือข่ายธรรมกาย ออกหลักฐาน นส.3 ก อันเป็นเท็จในชื่อ "พระธัมมชโย"
พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา พร้อมด้วย ผบ.ตร. พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. ในฐานะ ผอ.ศูนย์ปราบปรามผู้มีอิทธิพลและมือปืนรับจ้างสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.ท.เดชา ชวยบุญชุม ผู้ช่วย ผบ.ตร. เป็นผู้ควบคุม กำกับดูแลการปฏิบัติการทวงคืนผืนป่าสวนป่าหิมวันต์ อ.ภูเรือ จ.เลย นำกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ปกครอง เจ้าหน้าที่ป่าไม้ เจ้าหน้าที่ที่ดิน เจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนา ได้ร่วมกันปิดล้อม ตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายข้างต้น ตามหมายค้นศาลจังหวัดเลย ที่ 196/2559 ลงวันที่ 13 กรกฎาคม 2559 และหมายค้นศาลจังหวัดเลย ที่ 197/2559 ลงวันที่ 14 กรกฎาคม 2559
ผลการตรวจค้นพบว่า สวนป่าหิมวันต์ เลขที่ 191 หมู่ 1 ต.ร่องจิก อ.ภูเรือ จ.เลย เป็นสถานปฏิบัติธรรม ไม่มีพระสงฆ์อยู่ประจำ มีเนื้อที่รวม 193-1-20 ไร่ โดยมีสิ่งปลูกสร้างประกอบด้วย 1.กุฏิ 2 หลัง 2. อาคารปฏิบัติธรรม 1 หลัง 3.อาคารโรงอาหาร 1 หลัง 4.อาคารโรงครัว (กำลังก่อสร้าง) 1 หลัง 5.บ้านพักผู้ปฏิบัติธรรม 150 หลัง 6.บ้านพักรับรอง 3 หลัง
จากการตรวจพบการกระทำความผิด คือ 1.มีการสร้างอาคาร (กุฏิ) รุกล้ำเข้าไปในลำห้วยน้ำข้าวมัน อันเป็นความผิดฐาน “ก่อสร้าง แผ้วถาง หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่า หรือเข้ายึดถือ หรือครอบครองป่า เพื่อตนเองหรือผู้อื่น” ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 และมีความผิดตามมาตรา 9 (108 ทวิ) ตามประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2497 และ “ก่อสร้างอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาต” ตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522
2.มีการยึดครองที่ดินที่เป็นทางสาธารณประโยชน์ อันเป็นความผิดฐาน “เข้าไปยึดถือ ครอบครอง รวมตลอดถึงการก่อสร้าง หรือเผาป่าฯ” และมีความผิดตามมาตรา 9 (108 ทวิ) ตามประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2497 และ “ทำให้เสียหาย ทำลาย ทำให้เสื่อมค่าหรือทำให้ไร้ประโยชน์ ซึ่งทรัพย์ที่ใช้หรือมีไว้เพื่อสาธารณประโยชน์” ตาม ป.อาญา มาตรา 360
3.มีการออกหลักฐาน นส.3 ก อันเป็นเท็จ รุกล้ำเข้าไปในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าภูเปือย ป่าภูขี้เถ้าและป่าภูเรือ จำนวน 45-0-72 ไร่ (จากการรวม นส.3 ก จำนวน 10 แปลง มีเนื้อที่รวม 84-3-21 ไร่ ไปเป็น นส.3 ก ฉบับเดียว โดยออกให้ในชื่อ พระไชยบูลย์ สุทธิผล หรือ พระธัมมชโย แต่กลับมีเนื้อที่เพิ่มขึ้นเป็น 129-1-10 ไร่) อันเป็นความผิดฐาน “ก่อสร้าง แผ้วถาง หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่า หรือเข้ายึดถือ หรือครอบครองป่า เพื่อตนเองหรือผู้อื่น” ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484, “เข้าไปยึดถือ ครอบครอง รวมตลอดถึงการก่อสร้าง หรือ เผาป่าฯ” และมีความผิดตามมาตรา 9 (108 ทวิ) ตามประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2497 และ พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 มาตรา 14
รายละเอียดเพิ่มเติมติดตามได้ที่นี่เลยครับ
http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/707450