คนกลุ่มที่ 1 "ฉันคือผู้ดูแล Pantip" คนกลุ่มนี้มักจะทำหน้าที่ตัดสินใจแทนใครหลายๆคน ว่ากระทู้นี้ไม่ดี ไม่น่าสนใจ เราจะสังเกตคำพูดเหล่านี้ได้จากคห.ต่างๆ ตัวอย่างเช่น "เรื่องแค่นี้ทำไมต้องเอามาเป็นประเด็น..." , "ไร้สาระ....." , ซึ่งแท้ที่จริงแล้ว Pantip เปิดกว้างเสมือนเวทีสาธารณะ ถ้ากระทู้ที่โพสท์ลงไปไม่ผิดกฏหมาย ไม่ผิดศีลธรรม ไม่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน ทุกกระทู้ก็ควรมีสิทธิ์เท่าเทียมกัน ซึ่งผู้ที่เข้ามาดูเขาจะเป็นคนพิจารณาและตัดสินใจเองว่ามันไร้สาระหรือเปล่า หรือไม่ควรหยิบมาเป็นประเด็นหรือเปล่า เหมือนเราอ่านหนังสือพิมพ์ ข่าวไหนเราไม่ชอบเราก็ไม่ต้องอ่าน กระทู้ไหนไม่น่าสนใจหรือเราไม่ชอบ เราก็ไม่ต้องเข้าไปตอบกระทู้

คนกลุ่มที่ 2 "เจ้าพ่อ/เจ้าแม่ Pantip" คนกลุ่มนี้มักจะแฝงดัวอยู่ตามห้องต่างๆ โดยทำตัวเองเหมือนดังผู้รู้และเชี่ยวชาญในห้องนั้นๆ ข้อสังเกตของคนกลุ่มนี้คือ มักใช้คำพูดเสียดสีหรือดูแคลนผู้ตั้งกระทู้ว่าเป็นคนที่ไม่ฉลาด เรื่องแค่นี้ทำไมไม่รู้ นอกจากนี้มักใช้คำพูดแรงๆแบบไม่ถนอมน้ำใจผู้ตั้งกระทู้ เดาว่าคงจะเลียนแบบมาจากนักวิชาการหรือบุคคลสาธารณะบางคน ซึ่งคนกลุ่มนี้อาจจะลืมไปว่า แต่ก่อนตนเองก็เคยเป็นผู้ที่ไม่รู้หรือไม่ฉลาดมาก่อน ยกตัวอย่างเช่น มีคนสอบถามว่าเกียร์รถรุ่นนี้ใช้ยังไง คนในกลุ่มที่ 2 จะเข้ามาตอบในทำนองว่า "ถ้าซื้อมาแล้วใช้ไม่เป็นก็ขายทิ้งแล้วนั่งรถเมล์ดีกว่า หัดศึกษาข้อมูลก่อนซื้อรถซะบ้าง....." ซึ่งเป็นคำพูดที่ฟังดูแล้วแย่มากๆ

คนกลุ่มที่ 3 "ชวนทะเลาะ" คนกลุ่มนี้มักมีปัญหาในการอ่านและตีความภาษาไทย หรือบางคนอาจจะอ่านแค่หัวข้อกระทู้และตีความเอาเอง โดยมากจะตีความไปทางด้านลบ จากนั้นจึงตอบกระทู้ด้วยข้อกล่าวหาที่ทำให้เกิดการโต้แย้งอย่างรุนแรง ยกตัวอย่างเช่นมีกระทู้สอบถามเกี่ยวกับว่า "เส้นทาง.....เดี๋ยวนี้เขาอนุโลมให้รถมอเตอร์ไซด์วิ่งได้แล้วหรือ" คนกลุ่มนี้ก็จะเข้ามาเปิดประเด็นในทำนองว่า "คนขี่มอเตอร์ไซด์มันเลวร้ายนักหรือไง ถึงจ้องจับผิดกันจัง...." ซึ่งมันไม่ใช่ประเด็นที่เจ้าของกระทู้ต้องการ และพอเริ่มมีการโต้เถียงกันไปมา คนจุดประเด็นดังกล่าวก็จะหายออกไปจากกระทู้นั้น โดยไม่มีการเข้ามาร่วมวงเสวนาด้วย ซึ่งบางคนเรียกคนกลุ่มนี้ว่าพวกชอบวางเพลิง พอไฟไหม้แล้วตนเองก็กระโดดหนีหายไปเฉยๆ

นอกเหนือจากนี้ยังนึกไม่ออกครับ..........