จะดูแลแฟนที่เป็นโรคซึมเศร้ายังไง ให้เค้ากลับมาสดใสดีครับ

แฟนเป็นโรคซึมเศร้าครับ เพิ่งได้รับยามากินได้ 3 เดือนละ.  อาการโดยรวมไม่ได้รุนแรงอะไรมาก. แค่ อาทิตยนึง จะมีวัน2วัน ที่ ร้องไห้คนเดียว ซึม พูดน้อยลง ไม่สดใส

สาเหตุที่เป็นส่วนนึงน่าจะเกิดจากเรื่องในอดีตที่ไม่ค่อยดีนะครับ เหมือนภาพ flashback มันหวนมา

ผมก็รักและห่วงแฟนมาก อยากให้เค้ายิ้มเยอะๆ เลยให้กำลังใจอยู่ และวันไหนที่เจอกัน ก็จะกอดเค้าไว้ ให้เค้ารู้สึกดี ว่าเราไม่ได้ไปไหน  ไม่ทราบว่ามีแนวทางดูแลคนที่ป่วยเป็นโรคนี้ยังไงดีครับ

ขอบคุณครับ


ปล ผมกับแฟนอยู่คนละบ้านกัน จะเจอกันอาทิตยละ 2 3 ครั้งนะครับ


#ขอบคุณทุกท่านสำหรับคำแนะนำดีๆนะครับ. ผมก็จะพยามทำให้ดีที่สุดเช่นกัน หัวเราะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 18
ผมเคยเป็นมาก่อน เมื่อห้าปีที่แล้ว เศร้ามากจนคิดว่าเราคงจะมีแต่ความรู้สึกเศร้านี้ไปตลอดชีวิต กินยาโดสที่หนักที่สุดก็แค่ช่วยบรรเทา
แต่ความรู้สึกเศร้ายังมีคงมีอยู่ เป็นอยู่ประมาณ 3 ปี เหมือนช่วงชีวิตมันหายไปเลย แต่ตอนนี้หายแล้ว หายสนิทแบบไม่ต้องใช้ยามาประมาณสองปีแล้วครับ โรคซึมเศร้านี้น่ากลัวแต่ถ้าเรารู้ว่าเราจะกำจัดมันยังงัย มันจะไม่ใช่เรื่องที่ยากครับ

ขั้นแรก ยาที่คุณหมอให้มาไม่ต้องกลัวครับ ทานไปก่อน มันจะช่วยปรับสมดุลของสารเคมีในสมองให้เรามีอาการลดลง ส่วนใครเป็นโรคกังวลมากๆบอกหมอไปเขาจะมียาซึมเศร้าที่มีส่วนผสมของยาลดอาการเหล่านี้ได้ การทานยาเหมือนช่วยดึงเรากลับมาในระดับหนึ่ง การสู้โรคนี้ด้วยความคิดเพียงลำพังยากครับ ประมาณว่าเราต้องกินยาฆ่าเชื้อให้มันทุเลาก่อนแล้วค่อยให้ร่างกายสู้กับมันให้เด็ดขาดทีหลัง

ขั้นสอง หาต้นตอของเหตุที่ทำให้เป็นโรคนี้แล้วพยายามกำจัดมันซะ บางคนจมอยู่กับความทุกข์ของอดีตมาก ๆจนเก็บกด บางคนกลัวอะไรบางอย่างมากๆ กลัวมากจนทำให้กลายเป็นพวกระเเวง ส่วนตัวผมมีปัญหาเรื่องนอน อยู่คนเดียว ทำงานตื่นเช้าบ้างเข้ากะดึกบ้าง ชีวิตวางจรเป็นวัฎจักรแบบนี้จนเริ่มนอนไม่หลับและเครียด จนเลยเถิดไปถึงการกลัวว่าเราจะทำยังงัยถ้านอนไม่ได้ อันนี้คือสาเหตุของผม ถ้าเราไม่สามารถกำจัดต้นตอของสาเหตุของการเป็นโรคนี้ได้ ยากครับที่จะหายขาด เพราะเราจะกังวลและคิดถึงแต่เรื่องนั้นๆ จนทำให้โรคนี้มันกลับมาเรื่อยๆ ของผมโชคดีที่หาวิธีการช่วยให้นอนหลับได้ เปลี่ยนวิธีการใช้ชีวิตซะ จนกลับมานอนหลับได้ตามปรกติ

ขั้นที่สาม ช่วงที่ทานยามาได้เกือบปีชีวิตก็ค่อนข้างปรกติมากขึ้น อาการเศร้ามีเกิดขึ้นเป็นช่วงเวลาเดิมๆ ของผมคือช่วงเย็นๆ แต่ก็ไม่แย่เหมือนเมื่อก่อนคือตลอดเวลา แต่ตอนนั้นก็คิดว่าถ้าเป็นแบบนี้ก็คงจะกินยาไปตลอดชีวิต จนมีโอกาสคุยกับเพื่อนที่รู้จักกับคนที่เป็นเขาบอกว่ามีเพื่อนทานยาพวกนี้นานมากจนเริ่มเพี้ยน (อันนี้ไม่ขอฟันธงว่าจริงไหม) เลยเริ่มรู้สึกกลัวแล้วก็อยากเลิกกินยา ประกอบกับช่วงนั้นก็เริ่มจับทางโรคนี้ได้ คือรู้สึกได้ว่าถ้าอาการเศร้ามาแล้วเราไปนึกถึงหรือตามความรู้สึก จะยิ่งทำให้เราเศร้าและอาการของโรคกลับมาถี่ขึ้น พักหลังๆเวลามีอาการเลยเริ่มฮึดสู้ บอกกับสมองตัวเองว่าอยากมาก็มา เราไม่กลัวนายหรอก เราจะชนะนายให้ดู แล้วเราก็พยายามลืมความรู้สึกนั้นไป เชื่อไหมครับ ผมคิดแบบนี้เมื่อมีอาการเศร้า จากที่ปรกติอาการจะมาบ่อยก็เริ่มลดลง หรือถ้ามานานก็จะเริ่มลดช่วงเวลาที่เป็น จนพักหลังก็หักดิบการทานยาไปเลย (ทราบมาว่าคนที่เป็นโรคนี้การเลิกทานยาต้องค่อยๆลดปริมาณห้ามหยุดทันทีเพราะจะทำให้อาการโรคกลับมา) แล้วสู้เอาหลังจากที่เราเริ่มจับการรักษาโรคด้วยตัวเราเองได้  ก็สู้ด้วยตัวเองหลังจากเลิกยามาได้เกือบปีกว่าครับ อาการที่ว่าทั้งหมดถึงหายไปแบบสิ้นเชิง ความรู้สึกตอนนั้นคือเหมือนฟ้าหลังฝน เพราะนิสัยส่วนตัวเป็นคนที่มีความสุขได้กับเรื่องเล็กๆน้อยๆแต่ช่วงที่เป็นโรคนี้ทุกอย่างเป็นสีเทาหมด อะไรที่เราทำง่ายๆแล้วมีความสุขก็ไม่มีความสุข

สรุปนะครับ โรคนี้รักษาหายได้ กินยาช่วย หาต้นเหตุของความเศร้าแล้วไปกำจัดมันซะ สุดท้ายถ้าอยากหายขาด ไม่มีใครช่วยได้ดีไปกว่าคนที่เป็นโรคเอง ต้องสู้ อย่าไปยอมให้ความรู้สึกเศร้ามาอยู่เหนือความคิดของเราขอให้แฟนคุณหายป่วยโดยเร็ว ปล.สำหรับคนที่ทานกาแฟกับสูบบุหรี่ สองตัวนี้สาเหตุหลักที่ดึงความเศร้ามาเลยนะคับ อันนี้คือส่วนตัวของผมเองแต่แค่แนะนำไว้ หากใครสูบบุหรี่หรือทานกาแฟให้ลองสังเกตุว่าอาการมันกำเริบไหมถ้ากำเริบก็ต้องหยุดไปก่อนเลย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่