บิลเพย์เมนต์ขยับรับแข่งดุไม่หวั่น 'พร้อมเพย์' เขย่าสมรภูมิธุรกิจ
ประชาชาติธุรกิจ ฉบับวันที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2559
เปิดตัวพร้อมให้ประชาชนลงทะเบียนแล้วสำหรับบริการ "พร้อมเพย์" หรือ เอนี่ ไอดี (Any ID) ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. ที่ผ่านมา และคาดว่าจะกดปุ่มเปิดบริการในเดือน ก.ย.นี้ เริ่มจากบริการจ่ายสวัสดิการภาครัฐตามด้วยบริการโอนเงินของธนาคารที่เข้าร่วมให้บริการในเดือน ต.ค.(โอนเงินไม่เกิน 5,000 บาท ไม่เสียค่าธรรมเนียม) และขยายไปยังบริการอื่น ๆ เช่น การชำระ ค่าสาธารณูปโภค เป็นต้น
ไม่มากก็น้อยย่อมกระทบกับบรรดาผู้ให้บริการที่มีอยู่เดิม แต่กับผู้ให้บริการอีคอมเมิร์ซมองว่าจะส่งเสริมให้การซื้อขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์เติบโตขึ้นอีกมากจากต้นทุนระบบชำระเงินที่ลดลงมาก
เปิดไทม์ไลน์ "พร้อมเพย์"
ก่อนหน้านี้ "ทองอุไร ลิ้มปิติ" รองผู้ว่าการด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) อธิบายว่า "พร้อมเพย์" เป็นบริการโอนเงินและรับโอนเงินแบบใหม่ ซึ่งเฟสถัดไปจะเปิดให้ ผู้ให้บริการอีวอลเลตเชื่อมต่อกับระบบได้ด้วย
"ธปท.กำลังทำถนน ตอนนี้เปิดให้เฉพาะแบงก์พาณิชย์เข้ามาต่อเชื่อม ต่อไปจะขยับไปน็อนแบงก์ ในแง่ระบบไอทีทำได้อยู่แล้ว แต่สิ่งที่ต้องระวังคือข้อมูล เราจะทดลองบริการให้นิ่งเพื่อสร้างความมั่นใจให้ประชาชนก่อน โดยไล่เป็นสเต็ป เมื่อเปิดให้บุคคลธรรมดาเข้ามาเชื่อมระบบให้รับจ่ายโอนเงินได้แล้ว ต่อไปจะเป็นนิติบุคคล ส่วนน็อนแบงก์ และอีวอลเลตจะราวปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า ซึ่งข้อดีของการเปิดให้อีวอลเลตเข้ามาเชื่อมกับพร้อมเพย์ได้ คือทำให้ผู้ใช้บริการรับโอน และใช้เงินข้ามไปทั่วทั้งระบบ จากเดิมที่ใช้ข้ามกันได้แค่ 3 ค่ายมือถือที่ทำข้อตกลงไว้"
แหล่งข่าวจาก ธปท.เปิดเผยว่า "พร้อมเพย์" ในเฟสต่อไปจะเปิดให้ชำระค่าบริการสาธารณูปโภคได้ด้วย
"แคท" ผนึกเคาน์เตอร์เซอร์วิส
"สมยศ ธนพิรุณธร" ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.กสท โทรคมนาคม (แคท) เปิดเผยว่า แคทมีศูนย์บริการลูกค้า 140 แห่งทั่วประเทศ แต่ไม่สร้างรายได้โดยตรงจึงเปิดบริการ "เคาน์เตอร์เซอร์วิส" เพื่อสร้างรายได้เพิ่มและดึงคนให้เข้ามาใช้บริการเพื่อเพิ่มโอกาสธุรกิจในอนาคต เริ่มจาก 22 แห่ง ใน ก.ค.นี้ และครบทั้งหมดในสิ้นปีหน้า
ด้าน "วีรเดช อัครผลพานิช" รองกรรมการ ผู้จัดการ บริษัท เคาน์เตอร์เซอร์วิส จำกัด กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า บริการของเคาน์เตอร์เซอร์วิสแบ่งเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ All Bill รับชำระบิลครอบคลุมตั้งแต่ค่าสาธารณูปโภคไปจนถึงค่าธรรมเนียมการศึกษา รวมกว่า 1,000 รายการ, All Ticket รับจองตั๋วการเดินทางและการแสดงสุดท้าย All Insurance รับชำระประกันภัยรายย่อย โดยแต่ละปีมีจำนวนธุรกรรม 200 ล้านรายการ เฉลี่ย 15 ล้านรายการ/เดือน
เคาน์เตอร์เซอร์วิสย้ำจุดแข็ง
โดยเคาน์เตอร์เซอร์วิสมีสาขามากเป็นอันดับ 3 ของโลก เมื่อเทียบกับผู้ให้บริการประเภทเดียวกัน โดยในสิ้นปีจะเพิ่มจาก 11,000 จุด เป็น 12,250 จุด มีทั้งแฟรนไชส์และจับมือกับองค์กรต่าง ๆ
ปัจจุบันสัดส่วนรายได้อยู่ที่บริการ All Bill ราว 70% ในจำนวนนี้ 30% มาจากการจ่ายค่าสาธารณูปโภค น้อยกว่าการชำระบิลการเงิน และบริการโทรคมนาคม จึงจะไม่ได้รับผลกระทบหากให้ชำระค่าสาธารณูปโภคผ่านพร้อมเพย์ได้
"พร้อมเพย์" แค่เพิ่มทางเลือก
"พร้อมเพย์เป็นระบบเนชั่นแนลอีเพย์เมนต์ ของภาครัฐ คือการจ่ายและชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งในไทยมีมานานแล้วผ่านระบบธนาคารพาณิชย์ เท่าที่ดูในเบื้องต้นเป็นการนำเสนอทางเลือกให้ประชาชน ซึ่งในแง่การแข่งที่จะเป็นจุดชำระเงินต่าง ๆ สำหรับเรายังเหมือนเดิม คนมองว่าน่าจะรุนแรง ตั้งแต่มีการเข้ามาของผู้ให้บริการ อีวอลเลต แต่เราเชื่อว่าด้วยจุดแข็งที่ความใกล้ชิดกับลูกค้า จากการมีช่องทางการให้บริการมากที่สุดในชุมชนจะไม่ได้รับผลกระทบ เพราะมนุษย์ยังต้องการปฏิสัมพันธ์ในการทำธุรกรรมต่าง ๆ"
ผู้บริหาร "เคาน์เตอร์เซอร์วิส" กล่าวว่า ใน 2 ปีข้างหน้าบริการอีเพย์เมนต์จะเปลี่ยนแปลงรูปแบบเพื่อรองรับพฤติกรรมของผู้บริโภครุ่นใหม่ใน 2 ปี แต่ยังต้องใช้เวลาในการพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ ขึ้นมารองรับ ซึ่งถ้าโลกและตลาดก้าวไปถึงจุดที่ต้องการให้ทุกอย่างอยู่บนสมาร์ทดีไวซ์ บริษัทก็พร้อมที่จะเปลี่ยนแปลง
พร้อมปรับตัวรับอนาคต
"20 ปีที่ทำธุรกิจนี้มา เคาน์เตอร์เซอร์วิสพัฒนาตนเองตลอด ไม่ใช่แค่ฝัน ลูกค้าและตลาดต้องเป็นคนบอกเราว่าต้องการอะไร แม้หลายธุรกิจจะพยายามทำให้ซับซ้อน แต่ลูกค้ายังต้องการสิ่งที่เบสิกอยู่ดี"
จุดตัดสินว่าตลาดพร้อมไปอีเพย์เมนต์ครบวงจรแล้ว คือเจเนอเรชั่นของลูกค้า, ความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐาน, ความพร้อมของดีไวซ์ ซึ่งเปลี่ยนแปลงไปเรื่อย ๆ ตั้งแต่คอมพิวเตอร์พีซี, โน้ตบุ๊ก, แท็บเลต ถามว่าวันนี้จะแน่ใจได้อย่างไร ว่าสมาร์ทโฟน คือคำตอบทั้งหมด
"มองไปอีก 5 ปี คิดว่าคงจะเห็นการเปลี่ยนแปลงบ้าง แต่ไม่ใช่ทั้งหมด ประเทศไทยใหญ่กว่าที่ใครคิด และไม่ใช่แค่กรุงเทพฯ แต่ละปีเรากันงบฯไว้ 10% ของรายได้ เพื่อนำมาพัฒนาบริการ และทยอยเปิดบริการใหม่เสมอ เช่น บริการจุดชำระเงินสำหรับแรงงานต่างด้าว ที่ต้องชำระค่าธรรมเนียมหลายประเภทให้ทางการ เช่น การต่ออายุใบอนุญาต และเพิ่มบริการสำหรับกลุ่มที่ไม่สามารถเข้าถึงบริการทางการเงิน เป็นต้น"
ผู้บริหารเคาน์เตอร์เซอร์วิสย้ำว่า จุดยืนของบริษัทคือดูแลผู้บริโภคทุกกลุ่ม
ปณท อัพเกรด Pay@Post
"ปริษา ปานะนนท์" ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ด้านการตลาด บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า มีบริการ Pay@Post รับชำระค่าบริการและใบแจ้งหนี้ผ่านที่ทำการไปรษณีย์ ทั่วประเทศ มีผู้ใช้บริการเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในต่างจังหวัด แม้ผู้บริโภคบางกลุ่มจะไปใช้อีเพย์เมนต์บนแอปพลิเคชั่น ทั้งของสถาบันการเงินและบริการอีวอลเลต มากขึ้น
"ผู้บริโภคไม่น้อยไม่คุ้นชินและไม่สบายใจที่จะใช้อีเพย์เมนต์ จึงยังเป็นช่องว่างที่จะทำตลาดได้ หากในอนาคตพร้อมเพย์เปิดให้ชำระค่าสาธารณูปโภคได้ก็ไม่น่ากระทบเพราะ Pay@Post มีธุรกรรมอื่น เช่น รับชำระเบี้ยประกันภัยและประกันชีวิต และเตรียมพัฒนาบริการใหม่ ๆ ให้สอดคล้องกับการพัฒนาระบบไอที โดยขยับไปเป็นเคาน์เตอร์อัจฉริยะให้บริการเพิ่มเติม เช่น ไมโครไฟแนนซ์ของรัฐบาล"
นอกจากนี้ ยังเตรียมปรับปรุงบริการให้สอดคล้องกับสภาพตลาดที่เปลี่ยนไปตามพฤติกรรมผู้บริโภคโดยกำลังจะเปิดบริการ "POST ID" ให้ลูกค้าไปรษณีย์ไทยมีบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์สำหรับชำระค่าสินค้าและบริการทุกประเภทของไปรษณีย์ไทยได้สะดวกและรวดเร็ว
ปัจจุบัน Pay@Post ให้บริการ ณ ที่ทำการไปรษณีย์ไทย 1,341 แห่งทั่วประเทศ และร้านไปรษณีย์ไทย (แฟรนไชส์) 82 แห่ง เป็นบริการในกลุ่มธุรกิจการเงิน ได้แก่ บริการธนาณัติออนไลน์ Pay@Post และบริการตัวแทนอื่น ๆ ซึ่งไตรมาสแรกปี 2559 มีรายได้คิดเป็น 2.04% ของรายได้รวม 6,242.13 ล้านบาท
แหล่งข่าว
หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ ฉบับวันที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2559 (หน้า 28,32)
บิลเพย์เมนต์ขยับรับแข่งดุไม่หวั่น 'พร้อมเพย์' เขย่าสมรภูมิธุรกิจ
บิลเพย์เมนต์ขยับรับแข่งดุไม่หวั่น 'พร้อมเพย์' เขย่าสมรภูมิธุรกิจ
ประชาชาติธุรกิจ ฉบับวันที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2559
เปิดตัวพร้อมให้ประชาชนลงทะเบียนแล้วสำหรับบริการ "พร้อมเพย์" หรือ เอนี่ ไอดี (Any ID) ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. ที่ผ่านมา และคาดว่าจะกดปุ่มเปิดบริการในเดือน ก.ย.นี้ เริ่มจากบริการจ่ายสวัสดิการภาครัฐตามด้วยบริการโอนเงินของธนาคารที่เข้าร่วมให้บริการในเดือน ต.ค.(โอนเงินไม่เกิน 5,000 บาท ไม่เสียค่าธรรมเนียม) และขยายไปยังบริการอื่น ๆ เช่น การชำระ ค่าสาธารณูปโภค เป็นต้น
ไม่มากก็น้อยย่อมกระทบกับบรรดาผู้ให้บริการที่มีอยู่เดิม แต่กับผู้ให้บริการอีคอมเมิร์ซมองว่าจะส่งเสริมให้การซื้อขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์เติบโตขึ้นอีกมากจากต้นทุนระบบชำระเงินที่ลดลงมาก
เปิดไทม์ไลน์ "พร้อมเพย์"
ก่อนหน้านี้ "ทองอุไร ลิ้มปิติ" รองผู้ว่าการด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) อธิบายว่า "พร้อมเพย์" เป็นบริการโอนเงินและรับโอนเงินแบบใหม่ ซึ่งเฟสถัดไปจะเปิดให้ ผู้ให้บริการอีวอลเลตเชื่อมต่อกับระบบได้ด้วย
"ธปท.กำลังทำถนน ตอนนี้เปิดให้เฉพาะแบงก์พาณิชย์เข้ามาต่อเชื่อม ต่อไปจะขยับไปน็อนแบงก์ ในแง่ระบบไอทีทำได้อยู่แล้ว แต่สิ่งที่ต้องระวังคือข้อมูล เราจะทดลองบริการให้นิ่งเพื่อสร้างความมั่นใจให้ประชาชนก่อน โดยไล่เป็นสเต็ป เมื่อเปิดให้บุคคลธรรมดาเข้ามาเชื่อมระบบให้รับจ่ายโอนเงินได้แล้ว ต่อไปจะเป็นนิติบุคคล ส่วนน็อนแบงก์ และอีวอลเลตจะราวปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า ซึ่งข้อดีของการเปิดให้อีวอลเลตเข้ามาเชื่อมกับพร้อมเพย์ได้ คือทำให้ผู้ใช้บริการรับโอน และใช้เงินข้ามไปทั่วทั้งระบบ จากเดิมที่ใช้ข้ามกันได้แค่ 3 ค่ายมือถือที่ทำข้อตกลงไว้"
แหล่งข่าวจาก ธปท.เปิดเผยว่า "พร้อมเพย์" ในเฟสต่อไปจะเปิดให้ชำระค่าบริการสาธารณูปโภคได้ด้วย
"แคท" ผนึกเคาน์เตอร์เซอร์วิส
"สมยศ ธนพิรุณธร" ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.กสท โทรคมนาคม (แคท) เปิดเผยว่า แคทมีศูนย์บริการลูกค้า 140 แห่งทั่วประเทศ แต่ไม่สร้างรายได้โดยตรงจึงเปิดบริการ "เคาน์เตอร์เซอร์วิส" เพื่อสร้างรายได้เพิ่มและดึงคนให้เข้ามาใช้บริการเพื่อเพิ่มโอกาสธุรกิจในอนาคต เริ่มจาก 22 แห่ง ใน ก.ค.นี้ และครบทั้งหมดในสิ้นปีหน้า
ด้าน "วีรเดช อัครผลพานิช" รองกรรมการ ผู้จัดการ บริษัท เคาน์เตอร์เซอร์วิส จำกัด กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า บริการของเคาน์เตอร์เซอร์วิสแบ่งเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ All Bill รับชำระบิลครอบคลุมตั้งแต่ค่าสาธารณูปโภคไปจนถึงค่าธรรมเนียมการศึกษา รวมกว่า 1,000 รายการ, All Ticket รับจองตั๋วการเดินทางและการแสดงสุดท้าย All Insurance รับชำระประกันภัยรายย่อย โดยแต่ละปีมีจำนวนธุรกรรม 200 ล้านรายการ เฉลี่ย 15 ล้านรายการ/เดือน
เคาน์เตอร์เซอร์วิสย้ำจุดแข็ง
โดยเคาน์เตอร์เซอร์วิสมีสาขามากเป็นอันดับ 3 ของโลก เมื่อเทียบกับผู้ให้บริการประเภทเดียวกัน โดยในสิ้นปีจะเพิ่มจาก 11,000 จุด เป็น 12,250 จุด มีทั้งแฟรนไชส์และจับมือกับองค์กรต่าง ๆ
ปัจจุบันสัดส่วนรายได้อยู่ที่บริการ All Bill ราว 70% ในจำนวนนี้ 30% มาจากการจ่ายค่าสาธารณูปโภค น้อยกว่าการชำระบิลการเงิน และบริการโทรคมนาคม จึงจะไม่ได้รับผลกระทบหากให้ชำระค่าสาธารณูปโภคผ่านพร้อมเพย์ได้
"พร้อมเพย์" แค่เพิ่มทางเลือก
"พร้อมเพย์เป็นระบบเนชั่นแนลอีเพย์เมนต์ ของภาครัฐ คือการจ่ายและชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งในไทยมีมานานแล้วผ่านระบบธนาคารพาณิชย์ เท่าที่ดูในเบื้องต้นเป็นการนำเสนอทางเลือกให้ประชาชน ซึ่งในแง่การแข่งที่จะเป็นจุดชำระเงินต่าง ๆ สำหรับเรายังเหมือนเดิม คนมองว่าน่าจะรุนแรง ตั้งแต่มีการเข้ามาของผู้ให้บริการ อีวอลเลต แต่เราเชื่อว่าด้วยจุดแข็งที่ความใกล้ชิดกับลูกค้า จากการมีช่องทางการให้บริการมากที่สุดในชุมชนจะไม่ได้รับผลกระทบ เพราะมนุษย์ยังต้องการปฏิสัมพันธ์ในการทำธุรกรรมต่าง ๆ"
ผู้บริหาร "เคาน์เตอร์เซอร์วิส" กล่าวว่า ใน 2 ปีข้างหน้าบริการอีเพย์เมนต์จะเปลี่ยนแปลงรูปแบบเพื่อรองรับพฤติกรรมของผู้บริโภครุ่นใหม่ใน 2 ปี แต่ยังต้องใช้เวลาในการพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ ขึ้นมารองรับ ซึ่งถ้าโลกและตลาดก้าวไปถึงจุดที่ต้องการให้ทุกอย่างอยู่บนสมาร์ทดีไวซ์ บริษัทก็พร้อมที่จะเปลี่ยนแปลง
พร้อมปรับตัวรับอนาคต
"20 ปีที่ทำธุรกิจนี้มา เคาน์เตอร์เซอร์วิสพัฒนาตนเองตลอด ไม่ใช่แค่ฝัน ลูกค้าและตลาดต้องเป็นคนบอกเราว่าต้องการอะไร แม้หลายธุรกิจจะพยายามทำให้ซับซ้อน แต่ลูกค้ายังต้องการสิ่งที่เบสิกอยู่ดี"
จุดตัดสินว่าตลาดพร้อมไปอีเพย์เมนต์ครบวงจรแล้ว คือเจเนอเรชั่นของลูกค้า, ความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐาน, ความพร้อมของดีไวซ์ ซึ่งเปลี่ยนแปลงไปเรื่อย ๆ ตั้งแต่คอมพิวเตอร์พีซี, โน้ตบุ๊ก, แท็บเลต ถามว่าวันนี้จะแน่ใจได้อย่างไร ว่าสมาร์ทโฟน คือคำตอบทั้งหมด
"มองไปอีก 5 ปี คิดว่าคงจะเห็นการเปลี่ยนแปลงบ้าง แต่ไม่ใช่ทั้งหมด ประเทศไทยใหญ่กว่าที่ใครคิด และไม่ใช่แค่กรุงเทพฯ แต่ละปีเรากันงบฯไว้ 10% ของรายได้ เพื่อนำมาพัฒนาบริการ และทยอยเปิดบริการใหม่เสมอ เช่น บริการจุดชำระเงินสำหรับแรงงานต่างด้าว ที่ต้องชำระค่าธรรมเนียมหลายประเภทให้ทางการ เช่น การต่ออายุใบอนุญาต และเพิ่มบริการสำหรับกลุ่มที่ไม่สามารถเข้าถึงบริการทางการเงิน เป็นต้น"
ผู้บริหารเคาน์เตอร์เซอร์วิสย้ำว่า จุดยืนของบริษัทคือดูแลผู้บริโภคทุกกลุ่ม
ปณท อัพเกรด Pay@Post
"ปริษา ปานะนนท์" ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ด้านการตลาด บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า มีบริการ Pay@Post รับชำระค่าบริการและใบแจ้งหนี้ผ่านที่ทำการไปรษณีย์ ทั่วประเทศ มีผู้ใช้บริการเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในต่างจังหวัด แม้ผู้บริโภคบางกลุ่มจะไปใช้อีเพย์เมนต์บนแอปพลิเคชั่น ทั้งของสถาบันการเงินและบริการอีวอลเลต มากขึ้น
"ผู้บริโภคไม่น้อยไม่คุ้นชินและไม่สบายใจที่จะใช้อีเพย์เมนต์ จึงยังเป็นช่องว่างที่จะทำตลาดได้ หากในอนาคตพร้อมเพย์เปิดให้ชำระค่าสาธารณูปโภคได้ก็ไม่น่ากระทบเพราะ Pay@Post มีธุรกรรมอื่น เช่น รับชำระเบี้ยประกันภัยและประกันชีวิต และเตรียมพัฒนาบริการใหม่ ๆ ให้สอดคล้องกับการพัฒนาระบบไอที โดยขยับไปเป็นเคาน์เตอร์อัจฉริยะให้บริการเพิ่มเติม เช่น ไมโครไฟแนนซ์ของรัฐบาล"
นอกจากนี้ ยังเตรียมปรับปรุงบริการให้สอดคล้องกับสภาพตลาดที่เปลี่ยนไปตามพฤติกรรมผู้บริโภคโดยกำลังจะเปิดบริการ "POST ID" ให้ลูกค้าไปรษณีย์ไทยมีบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์สำหรับชำระค่าสินค้าและบริการทุกประเภทของไปรษณีย์ไทยได้สะดวกและรวดเร็ว
ปัจจุบัน Pay@Post ให้บริการ ณ ที่ทำการไปรษณีย์ไทย 1,341 แห่งทั่วประเทศ และร้านไปรษณีย์ไทย (แฟรนไชส์) 82 แห่ง เป็นบริการในกลุ่มธุรกิจการเงิน ได้แก่ บริการธนาณัติออนไลน์ Pay@Post และบริการตัวแทนอื่น ๆ ซึ่งไตรมาสแรกปี 2559 มีรายได้คิดเป็น 2.04% ของรายได้รวม 6,242.13 ล้านบาท
แหล่งข่าว
หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ ฉบับวันที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2559 (หน้า 28,32)