Day0 Tibetหลังคาโลก กว่าจะมาถึง
http://ppantip.com/topic/34683393
Day1 Tibetหลังคาโลก Landingซะที
http://ppantip.com/topic/35206799
Day2 Lhasa จริงจังวันแรก ( Potala palace , Jokrang Temple , Bakhor street )
http://ppantip.com/topic/35342801
Day3 Lhasa รอบนอก (Drepung , Norbulinga park ,Sera Monestery )
http://ppantip.com/topic/35349123
Day4 Lhasa - Nyingchi
http://ppantip.com/topic/35356357
Day5 Nyingchi-Cypress King garden-Basomtso lake
http://ppantip.com/topic/35357493
Day6 Basomtso lake - Lhasa
http://ppantip.com/topic/35361292
Day7 Lhasa - Yamdrok Lake -Palkhor Monestery-Shigatze
http://ppantip.com/topic/35365905
Day8 Shigatze - Tashihunpo Monestery- Lhasa
http://ppantip.com/topic/35366937
Day9 Depart Lhasa มหากาพย์ Xiamen Airline
http://ppantip.com/topic/35371426
เนื่องจากวันนี้เราต้องบินบ่ายสองแล้วดีเจจะมารับเราตอนเที่ยงเพราะฉะนั้นเรามีเวลากันเต็มที่3ชั่วโมงและภารกิจของกลุ่มคือไปหามุมถ่ายภาพมหาชนของพระราชวังPotala และเพื่อนสมาชิกยังไม่ได้แม่เหล็กของที่นี่เป็นที่ระลึกเลย จริงๆวันก่อนเราจะแวะแถวPotala แต่ดีเจบอกว่าแถว Bakhor street ก็มีแต่วันก่อนที่เราไปเดินแถวBakhor street เราเจออยู่ร้านเดียวและแพงสุดๆ อันละเกือบ250บาท ไม่ได้มีเทอร์โมมิเตอร์หรือลูกเล่นอะไร แถมมีอยู่ร้านเดียว
เพราะฉะนั้นเราเลยนัดกัน8โมงครึ่งที่lobby หลังทานอาหารเช้ากันเรียบร้อยเราก็ไปขึ้นรถเมล์กันสาย24 เดินจากโรงแรมเลี้ยวไปทางซ้ายขึ้นฟากเดียวกับโรงแรม รอแป๊ปเดียวรถเมล์ก็มาถึง เราลงรถเมล์ด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ของพระราชวังแวะถ่ายรูปนิดนึงอย่างรวดเร็วทั้งเดี่ยวและกลุ่ม เพราะคนน้อยมากเมื่อเทียบกับวันแรกที่เรามา
เราจะต้องไปถ่ายรูปที่ฝั่งตรงข้ามกับพระราชวัง เราต้องเดินไปที่ Medicine King Hill เดินขึ้นบันไดไปไม่สูงมากก็เจอวิวที่เราอยากมาถ่ายกัน
จากจัตุรัสที่มีStupaตั้งอยู่นี้ถนนที่เห็นวิ่งไปจะไปทิศใต้ของพระราชวัง มีคู่บ่าวสาวนิยมมาถ่ายรูปบนนี้ ช่วงเวลาสั้นๆมีมาตั้ง2คู่ เสร็จจากนี้เราก็อยากได้แม่เหล็กก็ลองเดินไปในตลาดแถวๆพระราชวังPotala แต่ดูๆแล้วไม่น่าจะมีเพราะเห็นแต่ของทาน และเนื้อจามรี เลยคิดว่าเวลาที่เหลือคงไปซื้อที่ร้านหนึ่งเดียวที่ขายแม่เหล็กติดตู้เย็นใน Bakhor street เราก็เลยเดินทางกลับด้วยรถเมล์ เดินหาป้ายอยู่นาน หาไม่เจอต้องไปถามตำรวจที่นั่งในofficeเล็กๆ เค้างงๆกับโรงแรมเราว่าจะนั่งรถเมล์สายอะไรตรงไหน แต่เราบอกว่าเรามาสายไหน เค้าก็ชี้ทางไปป้ายรถเมล์ให้เรา ทีแรกสมาชิกบางคนกะว่าจะกลับโรงแรมไปเก็บของ บางส่วนจะไปลงที่bakhor streetเพื่อไปซื้อแม่เหล็กติดตู้เย็น แต่พอขึ้นรถเมล์ โหนต่องแต่งกันไปมาสรุปไปเดินกันต่อทั้งหมด พวกเรารีบรวบรวมสมาธิและฝีเท้าหาร้านหนึ่งเดียวในย่านBakhor streetเนื่องจากมันมีหลายถนนหลายช่อง สุดท้ายเราก็เจอร้านที่เราต้องการ สงสัยจะรู้ว่าไม่มีที่ไหนขายเลยขูดเลือดซิปๆ พอถามว่าอันเท่าไหร่บอก50RMBซื้อ4แถมหนึ่ง รวมรวมกันซื้อเพื่อได้อันละ40 เหลือน้องอยู่คนซื้อไม่ครบ4 แต่พวกเราบอกอันเดียวก็ขายราคา4แถมหนึ่ง40RMBซิเพราะซื้อกันหลายอัน คนขายเล่นบทโหดไม่ยอมยืนกรานต้อง4แถม1 สมาชิกเลยบอกงั้นไม่เอา หน้าม้าเลยบอกก็อันละ40RMB ได้แล้ว เลยยอม เวลายังเหลืออีกเกือบครึ่งชั่วโมง เหลือเฟือเราเดินกลับโรงแรมกัน และลงมาเจอดีเจมารับพวกเราไปสนามบินทันเวลาพอดี หลังจากร่ำลาและมอบใบประเมินการให้บริการคืนแก่ดีเจรวมทั้งทิปของกลุ่มสำหรับดีเจและคนขับรถเพื่อเป็นสินน้ำใจในการดูแลพวกเราอย่างดีตลอดการเดินทาง เราก็ขึ้นรถเพื่อไปสนามบิน ดีเจบอกเสร็จจากกลุ่มเราเค้าจะต้องอยู่สนามบินเพื่อรอรับกลุ่มใหม่จากรัสเซีย
ดีเจส่งเราเข้าตัวอาคารแล้วเราก็ไปเช็คอินเดินเรื่อยเปื่อย พอได้เวลาเครื่องบินxiamen airlineก็ยังไม่เรียกขึ้นเครื่องแต่นอกตัวอาคารนี่ฝุ่นฟุ้งเลย เพิ่งรู้ว่ามีน้องๆพายุฝุ่นเข้าทำให้เครื่องขึ้นไม่ได้ รออยู่เกือบครึ่งชั่วโมงก็เรียกขึ้นเครื่อง แต่ขึ้นแล้วก็นั่งรอเกือบสองชั่วโมง เรานั่งกันท้ายลำ ถามจากแอร์บอกว่าเครื่องมีปัญหากำลังตรวจเช็ค อีกพักใหญ่ๆเครื่องก็ขึ้นได้ เราต้องบินจากลาซาไปxiamen (เสียะเหมิน) โดยแวะที่ฉงชิ่งระหว่างทางเหมือนตอนเรามา จริงๆจากลาซาถึงฉงชิ่ง ใช้เวลาแค่2ชั่วโมงพอจอดที่ฉงชิ่งตอนขามาเราต้องลงจากเครื่องไปเดินเล่นประมาณครึ่งชั่วโมง แต่เนื่องจากขากลับเครื่องดีเลย์ ผู้โดยสารที่จะบินต่อไปxiamen เลยถูกให้นั่งรอบนเครื่อง เราก็ดูพนักงานยกอาหารใหม่มาเปลี่ยน เก็บของเก่าไปทิ้ง พวกเราอยู่ท้ายลำก็ผลุดลุกผลุดนั่งเพราะมันอึดอัด แอร์ชุดใหม่ค่อนข้างลมไม่ดี หน้าตาไม่ค่อยรับผู้โดยสารเลย
พวกเราselfieพอหายเบื่อก็ได้เวลาเครื่องขึ้น
ตามกำหนดเราต้องถึงxiamen 2ทุ่ม15 ตลอดเวลาบนเครื่อง แอร์ต้องเข็นรถเข้าๆออกๆหยุดให้บริการ ให้ผู้โดยสารกลับที่นั่งรัดเข็มขัดเป็นสิบครั้ง จนมีเสียงกัปตันพูดมาตามสายภาษาจีนและภาษาอังกฤษแบบจีนๆ จับใจความไม่ได้ ได้ยินแต่เสิ่นเจิ้นๆ ก็งงอยู่ว่าจะไปแวะอะไรเสิ่นเจิ้น เราซื้อตั๋วถัดไปต้องลงxiamenนี่หว่า ซักพักเครื่องจอดพวกเราเดินออกมาก็ไม่ได้เอะใจอะไร แต่ก็รู้สึกแหม่งๆไม่เหมือนตอนวันที่เรามา เพราะจะผ่านร้านขายของกินotopมากมาย นี่ไม่เห็นเลย แถมพอถึงสายพานกระเป๋าเราเห็นคนที่มายืนรอกระเป๋าสายพานเดียวกันยืนเป็นกลุ่มมีเจ้าหน้าที่สนามบิน มายืนคุยอะไรด้วย ก็เริ่มเอะใจว่าถ้าเป็นguideนำกลุ่มจะไม่แขวนป้ายสายการบิน แต่ไม่คิดอะไรคุยกันไปเรื่อยจนได้กระเป๋า ก็จะไปหาประชาสัมพันธ์สายการบินให้ช่วยโทรไปที่โรงแรมให้รถมารับ เราเดินออกไปดูให้แน่ใจว่าประตูที่ใกล้ที่สุดเป็นประตูอะไรจะได้ให้เจ้าหน้าที่โรงแรมมารับได้ แต่พอเราเอาเบอร์ให้เจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่ถามว่าเราจะไปไหน เราบอกโรงแรมในxiamen เธอบอกนี่เสิ่นเจิ้นไม่ใช่xiamen เราเอาboarding passให้เธอดูเธอบอกไม่รู้เรื่องให้ไปติดต่อเจ้าหน้าที่สายการบิน พอไปถึงเราถึงได้รู้ว่าไม่ใช่ให้เราแวะแล้วเครื่องบินบินต่อไปxiamen แต่ทั้งลำไปลงxiamen ไม่ได้คนอื่นเค้าไปโรงแรมที่สายการบินจัดให้แล้ว เราบอกพรุ่งนี้บินกี่โมงเค้าบอกต้องคุยกับสายการบินโดยตรงพรุ่งนี้หรือไม่ก็เอาเบอร์ +86592222 ไปถามดู ส่วนวันนี้เราถามเค้าว่าพวกเราจะทำยังไง เค้าบอกเดี๋ยวจะติดต่อรถโรงแรมให้มาพาเราไปพักก่อน รออยู่พักใหญ่ๆเจ้าหน้าที่ของสนามบินก็น่ารักมากช่วยเดินหารถเพราะไปจอดผิดที่ จนเจอแล้วพามารับพวกเราไปโรงแรม ถึงโรงแรมเราให้เจ้าหน้าที่โรงแรมช่วยโทรเบอร์ที่เราได้มา แจ้งว่าเราต้องบินจากxiamen ไปกรุงเทพตอน12:55 สายการบินจะให้เราทำอย่างไร ซึ่งสายการบินแจ้งว่าไม่สามารถบอกได้เพราะxiamen อากาศแย่มากเครื่องลงไม่ได้ เจ้าหน้าที่เลยให้เราไปพักผ่อนก่อนตามห้องที่จัดให้ ส่วนพรุ่งนี้เค้าบอกสายการบินแจ้งกับทางโรงแรมว่าพร้อมบินกี่โมงจะให้โรงแรมไปส่งผู้โดยสารทั้งหมดที่มาพักที่นี่ในวันรุ่งขึ้น พวกเราเลยตกลงกันว่า7โมงเช้าทุกคนพร้อมไว้ก่อนแล้วค่อยว่ากัน
คืนนั้นเราmailไปxiamen airline แจ้งให้ทราบว่าเราต้องบินพรุ่งนี้ด้วยbooking เดียวกับที่เราจองมา และพอถึงกรุงเทพ เราต้องบินต่ออีกเพื่อมาสงขลา
ปรากฎว่าตอนตีสองมีmail ส่งมาว่าจะบินออกจากเสิ่นเจิ้น 8โมงเช้า
พอตึสามส่งมาอีกว่าเปลี่ยนจาก 8โมงเช้าเป็น11โมง เราตื่นมาเห็นสองmailนี้เลยคิดว่าขอไปแก้ปัญหาข้างหน้าดีกว่ารออยู่ที่โรงแรม
หลายคนนอนไม่หลับ สุดท้ายทุกคนก็พร้อม พอลงไปข้างล่างแจ้งจ้าหน้าที่โรงแรมว่าเราขอไปสนามบิน เค้าบอกถ้าสายการบินไม่โทรมาเราจะไปต้องจ่ายค่ารถเอง เราเลยเอาmailอันแรกให้ดูว่าสายการบินส่งมาเครื่องจะออกตอนแปดโมง ให้เค้ารีบหน่อย เจ้าหน้าที่โรงแรมเลยรีบหารถมาส่งพวกเราที่สนามบิน เรารีบไปcounterของxiamen airlines เธอก็พูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลย เราเอาBoarding passที่มีปลายทางxiamenให้ดู และเอาe ticketที่เราต้องบินต่อด้วยสายการบินเดียวกันxiamen airlineไปให้ดูว่าเราต้องมีflightต่ออีก เธอบอกได้แต่ว่ามีบิน11โมง เหมือนในemail เราบอกแล้วให้xiamen รอกลุ่มเราได้มั้ย มันเฉียดฉิวมาก เค้าบอกทำไม่ได้ พอเราบอกแล้วหาตั๋วบินจากเสิ่นเจิ้นไปกรุงเทพให้เราได้มั้ย เธอบอกสายการบินxiamen airlineไม่มีบินเสิ่นเจิ้นกรุงเทพ แถมนางยังบอกอีกว่าบินไปก็ไม่รู้ว่าจะลงได้มั้ย เราคุยกันอยู่นานจนแน่ใจว่าเธอไม่สามารถทำอะไรให้เราได้ เลยสรุปว่าหาทางบินเสิ่นเจิ้น กทม.เองดีกว่าเพราะวีซ่าจีนที่ได้มาระบุให้หมดอายุวันนี้พอดี พอไปที่officeขายตั๋ว เจ้าหน้าที่หาตั๋วให้เราได้แต่กระจัดกระจาย ชั่วโมงละคน คนละสายการบิน แต่มี 7ที่ต้องบินตอนสี่ทุ่ม ระหว่างที่เราสรุปว่าใครจะไปก่อนไปหลังตามความจำเป็น ก็สรุปว่าน้องตัวเล็กต้องมีภารกิจในวันถัดไปเช้า เลยต้องยอมควักตังค์อีก 29,000 จ่ายค่าตั๋วจากเสิ่นเจิ้นไปกรุงเทพ และต่อเครื่องกรุงเทพไปสงขลาได้ทัน พอที่เหลือจะเอาตั๋ว7ที่ที่เหลือ ปรากฏว่ามีไม่ถึงเจ็ดที่แล้ว เราเลยต้องเปลี่ยนแผนให้หาตั๋วที่บินจากฮ่องกงไปกรุงเทพดีก่ว่าเผื่อเกิดปัญหาจะได้ตัดความยุ่งยากเรื่องวีซ่าหมดอายุออก ปรากฎว่าได้แอร์เอเชียจ่ายเพิ่มกันอีกคนละ19,000ได้ทั้งหมด7ที่ หลังจากส่งสมาชิกคนแรกขึ้นเครื่อง คนที่ขายตั๋วให้เราเธอน่ารักมากพาพวกเรามาส่งที่คิวรถที่จะเดินทางจากเสิ่นเจิ้นไปฮ่องกง พวกเราเลือกเหมารถจ่ายเพิ่มคนละ220RMB แต่ถ้าไปรถbusต้องรอคนเต็มจ่าย 180RMB นอกจากพามาส่งที่คิวรถแล้ว เธอยังขอAdd what appsเรา และคอยถามเราตลอดทางที่นั่งรถไปฮ่องกงว่าถึงแล้วยังผ่านทาง what apps ค่าเครื่องบินที่จ่ายเพิ่มนี้แพงกว่าค่าตั๋วเครื่องบินทั้งtripอีก จริงๆว่าไปเหมือนมีลางตั้งแต่ก่อนออกจากลาซา ปกติเที่ยวกันกี่ครั้งต่างคนต่างซื้อประกันการเดินทางหนนี้ถามกันอยู่นานเรื่องซื้อประกันแถมก่อนมานั่งรอก็มีคนทักว่า ถ้าเครื่องดีเลย์คุ้มครองมั้ยอีก ตอนรอขึ้นเครื่องมีคนถามว่างวดนี้ค่าตั๋ว3หมื่นกว่าบาทมั้ย จริงๆเราซื้อแต่เนิ่นๆ 14,000 บาทเศษๆเอง สรุปว่าค่าตั๋วโดนไปสามหมื่นกว่ากันจริง ระหว่างรอขึ้นรถมาฮ่องกงก็Lineบอกเพิ่อนที่กรุงเทพให้ช่วยเปลี่ยนตั๋วกรุงเทพ สงขลาจากหกโมงเย็น มาเป็นหกโมงเช้า เพื่อให้ทันทำงานตอนเช้า พอถึงฮ่องกงบางคนก็ไปshoppingบางคนขอดูseries ที่โหลดมาในสนามบิน ฆ่าเวลากลับบ้าน
ถึงกรุงเทพโทรหาCheapticket เค้าให้ขอหนังสือรับรองจากxiamen airlineเพื่อยืนยันว่าเครื่องดีเลย์ และเจ้าหน้าที่ที่ขายตั๋วให้เราที่เสิ่นเจิ้นก็กรุณาส่งใบเสร็จรับเงินmailตามหลังมาให้ แต่พอcheapticketทำการclaimให้ xiamen airlines ตอบกลับมาได้เจ็บมาก ที่สนามบินไม่มีoptionไม่มีความมั่นใจใดๆกับกลุ่มเราเลยว่าจะบินได้ไม่ได้ ที่สนามบินxiamen แต่ตอบกลับมาอย่างไร้ความรับผิดชอบ
เราเคยถามสคบ.เจ้าหน้าที่บอกเราต้องฟ้องร้องcheapticketเพราะเราซื้อตั๋วกับที่นี่ แล้วcheapticketก็ไปฟ้องไล่จากสายการบินอีกที.....สามเดือนมาแล้วกับทริปดีๆแต่จบไม่สวยเพราะ Xiamen airlines มหากาพย์อันยาวนานคงจบเท่านี้
[CR] Day9 Depart Lhasa มหากาพย์ Xiamen Airline
Day1 Tibetหลังคาโลก Landingซะที http://ppantip.com/topic/35206799
Day2 Lhasa จริงจังวันแรก ( Potala palace , Jokrang Temple , Bakhor street )http://ppantip.com/topic/35342801
Day3 Lhasa รอบนอก (Drepung , Norbulinga park ,Sera Monestery ) http://ppantip.com/topic/35349123
Day4 Lhasa - Nyingchi http://ppantip.com/topic/35356357
Day5 Nyingchi-Cypress King garden-Basomtso lake http://ppantip.com/topic/35357493
Day6 Basomtso lake - Lhasa http://ppantip.com/topic/35361292
Day7 Lhasa - Yamdrok Lake -Palkhor Monestery-Shigatze http://ppantip.com/topic/35365905
Day8 Shigatze - Tashihunpo Monestery- Lhasa http://ppantip.com/topic/35366937
Day9 Depart Lhasa มหากาพย์ Xiamen Airline http://ppantip.com/topic/35371426
เนื่องจากวันนี้เราต้องบินบ่ายสองแล้วดีเจจะมารับเราตอนเที่ยงเพราะฉะนั้นเรามีเวลากันเต็มที่3ชั่วโมงและภารกิจของกลุ่มคือไปหามุมถ่ายภาพมหาชนของพระราชวังPotala และเพื่อนสมาชิกยังไม่ได้แม่เหล็กของที่นี่เป็นที่ระลึกเลย จริงๆวันก่อนเราจะแวะแถวPotala แต่ดีเจบอกว่าแถว Bakhor street ก็มีแต่วันก่อนที่เราไปเดินแถวBakhor street เราเจออยู่ร้านเดียวและแพงสุดๆ อันละเกือบ250บาท ไม่ได้มีเทอร์โมมิเตอร์หรือลูกเล่นอะไร แถมมีอยู่ร้านเดียว
เพราะฉะนั้นเราเลยนัดกัน8โมงครึ่งที่lobby หลังทานอาหารเช้ากันเรียบร้อยเราก็ไปขึ้นรถเมล์กันสาย24 เดินจากโรงแรมเลี้ยวไปทางซ้ายขึ้นฟากเดียวกับโรงแรม รอแป๊ปเดียวรถเมล์ก็มาถึง เราลงรถเมล์ด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ของพระราชวังแวะถ่ายรูปนิดนึงอย่างรวดเร็วทั้งเดี่ยวและกลุ่ม เพราะคนน้อยมากเมื่อเทียบกับวันแรกที่เรามา
เราจะต้องไปถ่ายรูปที่ฝั่งตรงข้ามกับพระราชวัง เราต้องเดินไปที่ Medicine King Hill เดินขึ้นบันไดไปไม่สูงมากก็เจอวิวที่เราอยากมาถ่ายกัน
จากจัตุรัสที่มีStupaตั้งอยู่นี้ถนนที่เห็นวิ่งไปจะไปทิศใต้ของพระราชวัง มีคู่บ่าวสาวนิยมมาถ่ายรูปบนนี้ ช่วงเวลาสั้นๆมีมาตั้ง2คู่ เสร็จจากนี้เราก็อยากได้แม่เหล็กก็ลองเดินไปในตลาดแถวๆพระราชวังPotala แต่ดูๆแล้วไม่น่าจะมีเพราะเห็นแต่ของทาน และเนื้อจามรี เลยคิดว่าเวลาที่เหลือคงไปซื้อที่ร้านหนึ่งเดียวที่ขายแม่เหล็กติดตู้เย็นใน Bakhor street เราก็เลยเดินทางกลับด้วยรถเมล์ เดินหาป้ายอยู่นาน หาไม่เจอต้องไปถามตำรวจที่นั่งในofficeเล็กๆ เค้างงๆกับโรงแรมเราว่าจะนั่งรถเมล์สายอะไรตรงไหน แต่เราบอกว่าเรามาสายไหน เค้าก็ชี้ทางไปป้ายรถเมล์ให้เรา ทีแรกสมาชิกบางคนกะว่าจะกลับโรงแรมไปเก็บของ บางส่วนจะไปลงที่bakhor streetเพื่อไปซื้อแม่เหล็กติดตู้เย็น แต่พอขึ้นรถเมล์ โหนต่องแต่งกันไปมาสรุปไปเดินกันต่อทั้งหมด พวกเรารีบรวบรวมสมาธิและฝีเท้าหาร้านหนึ่งเดียวในย่านBakhor streetเนื่องจากมันมีหลายถนนหลายช่อง สุดท้ายเราก็เจอร้านที่เราต้องการ สงสัยจะรู้ว่าไม่มีที่ไหนขายเลยขูดเลือดซิปๆ พอถามว่าอันเท่าไหร่บอก50RMBซื้อ4แถมหนึ่ง รวมรวมกันซื้อเพื่อได้อันละ40 เหลือน้องอยู่คนซื้อไม่ครบ4 แต่พวกเราบอกอันเดียวก็ขายราคา4แถมหนึ่ง40RMBซิเพราะซื้อกันหลายอัน คนขายเล่นบทโหดไม่ยอมยืนกรานต้อง4แถม1 สมาชิกเลยบอกงั้นไม่เอา หน้าม้าเลยบอกก็อันละ40RMB ได้แล้ว เลยยอม เวลายังเหลืออีกเกือบครึ่งชั่วโมง เหลือเฟือเราเดินกลับโรงแรมกัน และลงมาเจอดีเจมารับพวกเราไปสนามบินทันเวลาพอดี หลังจากร่ำลาและมอบใบประเมินการให้บริการคืนแก่ดีเจรวมทั้งทิปของกลุ่มสำหรับดีเจและคนขับรถเพื่อเป็นสินน้ำใจในการดูแลพวกเราอย่างดีตลอดการเดินทาง เราก็ขึ้นรถเพื่อไปสนามบิน ดีเจบอกเสร็จจากกลุ่มเราเค้าจะต้องอยู่สนามบินเพื่อรอรับกลุ่มใหม่จากรัสเซีย
ดีเจส่งเราเข้าตัวอาคารแล้วเราก็ไปเช็คอินเดินเรื่อยเปื่อย พอได้เวลาเครื่องบินxiamen airlineก็ยังไม่เรียกขึ้นเครื่องแต่นอกตัวอาคารนี่ฝุ่นฟุ้งเลย เพิ่งรู้ว่ามีน้องๆพายุฝุ่นเข้าทำให้เครื่องขึ้นไม่ได้ รออยู่เกือบครึ่งชั่วโมงก็เรียกขึ้นเครื่อง แต่ขึ้นแล้วก็นั่งรอเกือบสองชั่วโมง เรานั่งกันท้ายลำ ถามจากแอร์บอกว่าเครื่องมีปัญหากำลังตรวจเช็ค อีกพักใหญ่ๆเครื่องก็ขึ้นได้ เราต้องบินจากลาซาไปxiamen (เสียะเหมิน) โดยแวะที่ฉงชิ่งระหว่างทางเหมือนตอนเรามา จริงๆจากลาซาถึงฉงชิ่ง ใช้เวลาแค่2ชั่วโมงพอจอดที่ฉงชิ่งตอนขามาเราต้องลงจากเครื่องไปเดินเล่นประมาณครึ่งชั่วโมง แต่เนื่องจากขากลับเครื่องดีเลย์ ผู้โดยสารที่จะบินต่อไปxiamen เลยถูกให้นั่งรอบนเครื่อง เราก็ดูพนักงานยกอาหารใหม่มาเปลี่ยน เก็บของเก่าไปทิ้ง พวกเราอยู่ท้ายลำก็ผลุดลุกผลุดนั่งเพราะมันอึดอัด แอร์ชุดใหม่ค่อนข้างลมไม่ดี หน้าตาไม่ค่อยรับผู้โดยสารเลย
พวกเราselfieพอหายเบื่อก็ได้เวลาเครื่องขึ้น
ตามกำหนดเราต้องถึงxiamen 2ทุ่ม15 ตลอดเวลาบนเครื่อง แอร์ต้องเข็นรถเข้าๆออกๆหยุดให้บริการ ให้ผู้โดยสารกลับที่นั่งรัดเข็มขัดเป็นสิบครั้ง จนมีเสียงกัปตันพูดมาตามสายภาษาจีนและภาษาอังกฤษแบบจีนๆ จับใจความไม่ได้ ได้ยินแต่เสิ่นเจิ้นๆ ก็งงอยู่ว่าจะไปแวะอะไรเสิ่นเจิ้น เราซื้อตั๋วถัดไปต้องลงxiamenนี่หว่า ซักพักเครื่องจอดพวกเราเดินออกมาก็ไม่ได้เอะใจอะไร แต่ก็รู้สึกแหม่งๆไม่เหมือนตอนวันที่เรามา เพราะจะผ่านร้านขายของกินotopมากมาย นี่ไม่เห็นเลย แถมพอถึงสายพานกระเป๋าเราเห็นคนที่มายืนรอกระเป๋าสายพานเดียวกันยืนเป็นกลุ่มมีเจ้าหน้าที่สนามบิน มายืนคุยอะไรด้วย ก็เริ่มเอะใจว่าถ้าเป็นguideนำกลุ่มจะไม่แขวนป้ายสายการบิน แต่ไม่คิดอะไรคุยกันไปเรื่อยจนได้กระเป๋า ก็จะไปหาประชาสัมพันธ์สายการบินให้ช่วยโทรไปที่โรงแรมให้รถมารับ เราเดินออกไปดูให้แน่ใจว่าประตูที่ใกล้ที่สุดเป็นประตูอะไรจะได้ให้เจ้าหน้าที่โรงแรมมารับได้ แต่พอเราเอาเบอร์ให้เจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่ถามว่าเราจะไปไหน เราบอกโรงแรมในxiamen เธอบอกนี่เสิ่นเจิ้นไม่ใช่xiamen เราเอาboarding passให้เธอดูเธอบอกไม่รู้เรื่องให้ไปติดต่อเจ้าหน้าที่สายการบิน พอไปถึงเราถึงได้รู้ว่าไม่ใช่ให้เราแวะแล้วเครื่องบินบินต่อไปxiamen แต่ทั้งลำไปลงxiamen ไม่ได้คนอื่นเค้าไปโรงแรมที่สายการบินจัดให้แล้ว เราบอกพรุ่งนี้บินกี่โมงเค้าบอกต้องคุยกับสายการบินโดยตรงพรุ่งนี้หรือไม่ก็เอาเบอร์ +86592222 ไปถามดู ส่วนวันนี้เราถามเค้าว่าพวกเราจะทำยังไง เค้าบอกเดี๋ยวจะติดต่อรถโรงแรมให้มาพาเราไปพักก่อน รออยู่พักใหญ่ๆเจ้าหน้าที่ของสนามบินก็น่ารักมากช่วยเดินหารถเพราะไปจอดผิดที่ จนเจอแล้วพามารับพวกเราไปโรงแรม ถึงโรงแรมเราให้เจ้าหน้าที่โรงแรมช่วยโทรเบอร์ที่เราได้มา แจ้งว่าเราต้องบินจากxiamen ไปกรุงเทพตอน12:55 สายการบินจะให้เราทำอย่างไร ซึ่งสายการบินแจ้งว่าไม่สามารถบอกได้เพราะxiamen อากาศแย่มากเครื่องลงไม่ได้ เจ้าหน้าที่เลยให้เราไปพักผ่อนก่อนตามห้องที่จัดให้ ส่วนพรุ่งนี้เค้าบอกสายการบินแจ้งกับทางโรงแรมว่าพร้อมบินกี่โมงจะให้โรงแรมไปส่งผู้โดยสารทั้งหมดที่มาพักที่นี่ในวันรุ่งขึ้น พวกเราเลยตกลงกันว่า7โมงเช้าทุกคนพร้อมไว้ก่อนแล้วค่อยว่ากัน
คืนนั้นเราmailไปxiamen airline แจ้งให้ทราบว่าเราต้องบินพรุ่งนี้ด้วยbooking เดียวกับที่เราจองมา และพอถึงกรุงเทพ เราต้องบินต่ออีกเพื่อมาสงขลา
ปรากฎว่าตอนตีสองมีmail ส่งมาว่าจะบินออกจากเสิ่นเจิ้น 8โมงเช้า
พอตึสามส่งมาอีกว่าเปลี่ยนจาก 8โมงเช้าเป็น11โมง เราตื่นมาเห็นสองmailนี้เลยคิดว่าขอไปแก้ปัญหาข้างหน้าดีกว่ารออยู่ที่โรงแรม
หลายคนนอนไม่หลับ สุดท้ายทุกคนก็พร้อม พอลงไปข้างล่างแจ้งจ้าหน้าที่โรงแรมว่าเราขอไปสนามบิน เค้าบอกถ้าสายการบินไม่โทรมาเราจะไปต้องจ่ายค่ารถเอง เราเลยเอาmailอันแรกให้ดูว่าสายการบินส่งมาเครื่องจะออกตอนแปดโมง ให้เค้ารีบหน่อย เจ้าหน้าที่โรงแรมเลยรีบหารถมาส่งพวกเราที่สนามบิน เรารีบไปcounterของxiamen airlines เธอก็พูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลย เราเอาBoarding passที่มีปลายทางxiamenให้ดู และเอาe ticketที่เราต้องบินต่อด้วยสายการบินเดียวกันxiamen airlineไปให้ดูว่าเราต้องมีflightต่ออีก เธอบอกได้แต่ว่ามีบิน11โมง เหมือนในemail เราบอกแล้วให้xiamen รอกลุ่มเราได้มั้ย มันเฉียดฉิวมาก เค้าบอกทำไม่ได้ พอเราบอกแล้วหาตั๋วบินจากเสิ่นเจิ้นไปกรุงเทพให้เราได้มั้ย เธอบอกสายการบินxiamen airlineไม่มีบินเสิ่นเจิ้นกรุงเทพ แถมนางยังบอกอีกว่าบินไปก็ไม่รู้ว่าจะลงได้มั้ย เราคุยกันอยู่นานจนแน่ใจว่าเธอไม่สามารถทำอะไรให้เราได้ เลยสรุปว่าหาทางบินเสิ่นเจิ้น กทม.เองดีกว่าเพราะวีซ่าจีนที่ได้มาระบุให้หมดอายุวันนี้พอดี พอไปที่officeขายตั๋ว เจ้าหน้าที่หาตั๋วให้เราได้แต่กระจัดกระจาย ชั่วโมงละคน คนละสายการบิน แต่มี 7ที่ต้องบินตอนสี่ทุ่ม ระหว่างที่เราสรุปว่าใครจะไปก่อนไปหลังตามความจำเป็น ก็สรุปว่าน้องตัวเล็กต้องมีภารกิจในวันถัดไปเช้า เลยต้องยอมควักตังค์อีก 29,000 จ่ายค่าตั๋วจากเสิ่นเจิ้นไปกรุงเทพ และต่อเครื่องกรุงเทพไปสงขลาได้ทัน พอที่เหลือจะเอาตั๋ว7ที่ที่เหลือ ปรากฏว่ามีไม่ถึงเจ็ดที่แล้ว เราเลยต้องเปลี่ยนแผนให้หาตั๋วที่บินจากฮ่องกงไปกรุงเทพดีก่ว่าเผื่อเกิดปัญหาจะได้ตัดความยุ่งยากเรื่องวีซ่าหมดอายุออก ปรากฎว่าได้แอร์เอเชียจ่ายเพิ่มกันอีกคนละ19,000ได้ทั้งหมด7ที่ หลังจากส่งสมาชิกคนแรกขึ้นเครื่อง คนที่ขายตั๋วให้เราเธอน่ารักมากพาพวกเรามาส่งที่คิวรถที่จะเดินทางจากเสิ่นเจิ้นไปฮ่องกง พวกเราเลือกเหมารถจ่ายเพิ่มคนละ220RMB แต่ถ้าไปรถbusต้องรอคนเต็มจ่าย 180RMB นอกจากพามาส่งที่คิวรถแล้ว เธอยังขอAdd what appsเรา และคอยถามเราตลอดทางที่นั่งรถไปฮ่องกงว่าถึงแล้วยังผ่านทาง what apps ค่าเครื่องบินที่จ่ายเพิ่มนี้แพงกว่าค่าตั๋วเครื่องบินทั้งtripอีก จริงๆว่าไปเหมือนมีลางตั้งแต่ก่อนออกจากลาซา ปกติเที่ยวกันกี่ครั้งต่างคนต่างซื้อประกันการเดินทางหนนี้ถามกันอยู่นานเรื่องซื้อประกันแถมก่อนมานั่งรอก็มีคนทักว่า ถ้าเครื่องดีเลย์คุ้มครองมั้ยอีก ตอนรอขึ้นเครื่องมีคนถามว่างวดนี้ค่าตั๋ว3หมื่นกว่าบาทมั้ย จริงๆเราซื้อแต่เนิ่นๆ 14,000 บาทเศษๆเอง สรุปว่าค่าตั๋วโดนไปสามหมื่นกว่ากันจริง ระหว่างรอขึ้นรถมาฮ่องกงก็Lineบอกเพิ่อนที่กรุงเทพให้ช่วยเปลี่ยนตั๋วกรุงเทพ สงขลาจากหกโมงเย็น มาเป็นหกโมงเช้า เพื่อให้ทันทำงานตอนเช้า พอถึงฮ่องกงบางคนก็ไปshoppingบางคนขอดูseries ที่โหลดมาในสนามบิน ฆ่าเวลากลับบ้าน
ถึงกรุงเทพโทรหาCheapticket เค้าให้ขอหนังสือรับรองจากxiamen airlineเพื่อยืนยันว่าเครื่องดีเลย์ และเจ้าหน้าที่ที่ขายตั๋วให้เราที่เสิ่นเจิ้นก็กรุณาส่งใบเสร็จรับเงินmailตามหลังมาให้ แต่พอcheapticketทำการclaimให้ xiamen airlines ตอบกลับมาได้เจ็บมาก ที่สนามบินไม่มีoptionไม่มีความมั่นใจใดๆกับกลุ่มเราเลยว่าจะบินได้ไม่ได้ ที่สนามบินxiamen แต่ตอบกลับมาอย่างไร้ความรับผิดชอบ
เราเคยถามสคบ.เจ้าหน้าที่บอกเราต้องฟ้องร้องcheapticketเพราะเราซื้อตั๋วกับที่นี่ แล้วcheapticketก็ไปฟ้องไล่จากสายการบินอีกที.....สามเดือนมาแล้วกับทริปดีๆแต่จบไม่สวยเพราะ Xiamen airlines มหากาพย์อันยาวนานคงจบเท่านี้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น