สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 8
แค่รถจอดรอระบาย การจราจรไม่ได้เลวร้ายเสียหน่อย
Akasayu ขำกลิ้ง, สมาชิกหมายเลข 2066980 ขำกลิ้ง, orange_great ขำกลิ้ง, bbh ขำกลิ้ง, สมาชิกหมายเลข 2362509 ซึ้ง, สมาชิกหมายเลข 893749 ขำกลิ้ง, อมยิ้มในกำมือ* ขำกลิ้ง, Blue Sky Turn Grey ขำกลิ้ง, You know I know ขำกลิ้ง, vitr_eiei ขำกลิ้งรวมถึงอีก 63 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
ความคิดเห็นที่ 3
มะนิลากับจาการ์ต้า น่าจะติดโผด้วย
shalimar ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2851153 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 955324 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2039723 ถูกใจ, noonette ถูกใจ, staytan ถูกใจ, wasabichan ถูกใจ, DoubleXL ถูกใจ, น้าแมว Spotter ถูกใจ, REDBULLRUN ถูกใจรวมถึงอีก 1 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
ความคิดเห็นที่ 26
ถึงกรุงเทพจะติดแค่ไหน ผมว่าไม่มีทางเป็นอันดับ 1 ได้หรอก แปลกมีแต่คนคอยจะซ้ำเติมประเทศตัวเอง ผมคิดว่าอย่างน้อยๆแล้วต้องมีอินเดีย แน่นอนที่เลวร้ายกว่าเรา แต่แปลกจริงเวลามีอะไรไม่ดีไทยติดอันดับตลอดเลย แต่บ้างอย่างก็ต้องยอมรับเช่น จำนวนคนตายจากอุบัติเหตุบนทางถนน
แสดงความคิดเห็น
กรุงเทพฯ ไม่รอด! ติดอันดับ1 การจราจรเลวร้ายที่สุดในโลก ประจำปี 2559
1.กรุงเทพมหานคร
-ถึงแม้กรุงเทพฯจะมีระบบรถไฟฟ้า การขนส่งทางเรือและลำคลองสาขาต่างๆ แต่ก็ยังเป็นเมืองที่มีการจราจรในช่วงเวลาเร่งด่วน (โดยเฉพาะช่วงเย็น) เลวร้ายที่สุดในโลก
2.อิสตันบูล
-อิสตันบูล เมืองที่เป็นสะพานเชื่อมระหว่างทวีปเอเชียและยุโรป เป็นเมืองที่มีการจราจรในเวลาเร่งด่วนแย่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก
3.เม็กซิโกซิตี้
-อย่างที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าการจราจรของเม็กซิตี้นั้นน่ากลัวขนาดไหน ซึ่งในปัจจุบันก็ไม่ได้ดีขึ้น เนื่องจากความที่เม็กซิโกซิตี้เป็นเมืองเศรษฐกิจ ที่เป็นแหล่งศูนย์รวมงาน ธุรกิจ และผู้คน รวมถึงสิ่งปลูกสร้างต่างๆ มากมาย
4.มอสโก
-การขับรถไปตามถนนในเมืองมอสโกว์ในช่วงเวลาเร่งด่วนอย่างช่วงเย็นหลังเลิกงานนั้นเป็นช่วงเวลาที่ท้องถนนเป็นอัมพาตจากการเดินทางที่ปกติใช้เวลาแค่ครึ่งชั่วโมง ในช่วงเวลานี้คุณอาจต้องใช้เวลามากถึง 57 นาทีเลยทีเดียว
5.เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก
-เซต์ปีเตอร์สเปิร์ก เมืองที่ได้ฉายาว่าเป็นปารีสแห่งตะวันออก เนื่องจากขึ้นชื่อเรื่องพระราชวังระดับโลก โบสถ์และพิพิธภัณฑ์ รวมถึงการจราจรด้วย
6.บูคาเรสต์
-บูคาเรสต์อาจเป็นเมืองที่ติดโผมาแล้วอาจทำให้บางคนแปลกใจเล็กน้อยโดยในตอนเย็นที่เป็นเวลาเร่งรีบ การเดินทางผ่านเมืองหลวงของโรมาเนียนี้อาจทำให้คุณเสียเวลาถึง 26 นาที
7.ฉงชิ่ง
-เมืองแรกจากประเทศจีนที่ติดอันดับเข้ามาด้วยนี้ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศจีนโดยหากคุณต้องอาศัยอยู่ในเมืองนี้ ในปีหนึ่งคุณอาจใช้เวลาเดินทางในชั่วโมงเร่งด่วนมากถึง 191 ชั่วโมงเลยทีเดียว
8.เซินเจิ้น
-ในช่วงปี 1980 เซินเจิ้นเป็นเมืองแรกของจีนที่ได้รับการกำหนดให้เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ ส่งผลให้ปัจจุบัน เซินเจิ้นเปรียบเสมือนเป็นซิลิคอน วัลเลย์ ของจีนเลยทีเดียว แต่ความเจริญทางเศรษฐกิจนี้ก็ยังส่งผลม่ถึงปัญหาการจราจรด้วย โดยปีที่ผ่านมา เซินเจิ้นมีการจราจรแออัดเพิ่มขึ้นถึง 3%
9.กว่างโจว
-กว่างโจวตั้งอยู่ทางเหนือของเซินเจิ้น ซึ่งมีปัญหาการจราจรมากเนื่องจากประชาชนนิยมใช้รถยนต์ โดยข้อมูลล่าสุดพบว่าการเดินทางด้วยจักรยานลดลงถึง 50%
10.จูไห่
-จูไห่ก็มีสภาพการจราจรไม่ต่างจากเซินเจอ้นและกว่างโจวนัก โดยคุณคาดว่าในเวลาธรรมดาจะใช้เวลาเดินทางราว 30 นาที บอกเลยว่าในช่วงเวลาเร่งด่วน คุณอาจต้องเพิ่มเวลาเข้าไปอีก 25 นาที
11.ลอสแองเจลิส
-การขับรถเลียบชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกเป็นทัศนียภาพที่สวยงามที่สุดในสหรัฐแต่สภาพการจราจรที่ติดขัดอาจทำให้คุณรู้สึกแย่และไม่เบิกบานกับทัศนียภาพเท่าที่ควร โดยการเดินทางในเวลาเร่งด่วนอาจทำให้คุณเสียเวลาไปประมาณ 30 นาที ทั้งนี้ ลอสแองเจลิสเป็นเมืองที่การจราจรแย่ที่สุดในสหรัฐ จากการจัดอันดับของ TomTom′s List ตามมาด้วยซีแอตเติล, ซานโจส, ซานฟรานซิสโก และฮอสตัน
12.เฉิงตู
-เฉิงตู เมืองหลวงของมณฑลเสฉวน ที่ขึ้นชื่อในเรื่องอาหารรสชาติเผ็ดจัดจ้าน และมีศูนยืวิจัยแพนด้า นอกจากนี้ยังเป็นหนึ่งในเมืองที่มีการจราจรติดขัดมากที่สุดตามการจัดอันดับของ TomTom′s List ซึ่งภาพรวมมีการจราจรติดขัดเพิ่มขึ้น 5% จากปีที่ผ่านมา เนื่องจากมีการจัดรูปแบบการจราจรที่ซับซ้อน รวมถึงยังมีจำนวนเจ้าของรถยนต์เพิ่มขึ้นมากด้วย
ที่มา CNN Money
http://www.matichon.co.th/news/205589