[หนังโรงเรื่องที่ 146] The BFG - ยักษ์ใหญ่หัวใจบริทิช ; (Steven Spielberg, 2016)
by ตั๋วหนังมันแพง
คะแนนความชอบ : B- (จากสเกล D-A)
**ไม่มีการสปอยล์เนื้อเรื่องสำคัญ
เรื่องย่อ : สาวน้อยนามว่า 'โซฟี' (Ruby Barnhill)ได้มาพบพานกับนักเก็บฝันยักษ์ใหญ่ใจดีตนหนึ่งที่ต่อมาถูกเรียกว่า 'BFG' (Big Friendly Giant/Mark Rylance) และได้นำพาเธอไปผจญภัยกับเรื่องราวลึกลับมากมายในอาณาจักรยักษ์ที่อุดมไปด้วยอันตรายจากเผ่ากินคนตนอื่น
บอกตามตรงเลยว่าตอนแรกแอบคาดหวังกับเรื่องนี้ไว้สูงมากจากในตัวอย่าง ทั้งซาวน์แทร็กและงานภาพที่ปุงปังอลังการก็บิ้วท์อารมณ์เราแบบสุดๆชนิดที่ว่าตั้งใจไว้แล้วว่าจะทิ้ง 'ความเป็นผู้ใหญ่' ส่วนนึงไว้หน้าโรงแล้วนะ แต่ก็ไม่คิดว่าหนังมันจะเด็ก เด๊กกกกกก เด็ก ขนาดนั้น เรียกได้ว่าเนื้อหาคลีนเจาะกลุ่มตลาดมากๆชนิดไม่มีข้อความแฝงอะไรติดไม้ติดมือกลับมาเลยทีเดียว สำหรับผู้ใหญ่อย่างเราก็อาจจะเป็นปรากฏการณ์ 'แฟนตาซีแบบมีภาพ' เหมือนตอนเมาคลีก็ได้ แต่สำหรับผู้เขียนที่ไม่ได้อ่านหนังสือมาก่อนนั้นขอบอกว่าเลยผิดหวัง
สิ่งที่โดดเด่นน่าชื่นชมที่สุดก็คงหนีไม่พ้น 'งานภาพ' ที่สวยงามสมราคาชื่อพ่อมดสปีลเบิร์ก ที่ออกแบบฉากต่างๆได้สวยงามผสมผสานระหว่างความสมจริงกับกลิ่นอายความเป็นแฟนตาซีได้ดี บวกกับซาวน์ประกอบแน่นๆที่ช่วยขับเคลื่อนจินตนาการคนดูแบบไม่หยุดหย่อน (ซึ่งทั้งสองอย่างนี้ถือเป็นจุดขายหลักของป๋าแกอยู่แล้วล่ะ) ซึ่งน้องๆหนูๆที่มาดูก็คงฟินกันไปเป็นแถบๆแน่นอน
แต่ปัญหาอย่างนึงคือช่วงครึ่งแรกของหนังที่ค่อนข้าง 'อืดสนิท' มาก เรียกได้ว่าหาวกันวอดๆกันทั้งโรงเลยทีเดียว การเดินเรื่องในช่วงแรกมันดูจืดชืดไปหมดทั้งๆที่มันควรจะน่าตื่นตามากกว่า ทั้งการเผชิญหน้ากันครั้งแรกระหว่างโซฟีกับBFG หรือกระทั่งการผจญภัยโลกยักษ์เป็นครั้งแรก ทั้งหลายทั้งมวลหนังไม่สามารถนำเสนอออกมาให้น่าสนใจได้เท่าที่เราหวังไว้ อีกทั้งระดับความสัมพันธ์ระหว่างตัวเอกทั้งสองตัวก็ถูกนำเสนอออกมาในลักษณะแหม่งๆชอบกล คือ "เด็กหญิงโดนยักษ์ลักพาตัวมาที่ถ้ำเพราะยักษ์กลัวว่าความลับจะถูกเปิดเผย และยักษ์ขู่ว่าจะจับเธอขังไว้จนวันตาย" ซึ่งพอเอามาพูดแบบนี้แล้วมันดู creepy ชอบกล ให้ตายสิ นี่นึกว่าพล็อตสวรรค์เบี่ยง
แต่พอมาถึงช่วงท้ายของหนังนี่คือปังมาก ขอบอกว่าเลยจากที่ผู้เขียนง่วงๆหลับมาตลอดหนึ่งชั่วโมงนี่กลายเป็นหัวเราะไม่หยุดหย่อน คือเราชอบ 'ความเพี้ยน' ของหนังในพาร์ทนี้มาก มันมีเสน่ห์ในความเลอะเทอะของบทอยู่ที่นำเสนอออกมาได้ตลกสิ้นดี (แต่เราก็ชอบ) ซึ่งในความบ้าๆบอๆกับการนำเสนอความเป็นบริทิชแบบซื่อตรงของหนังก็กลายเป็นมุกตลกถาดใหญ่ที่ช่วยทำให้หนังสนุกขึ้นมาอีกเยอะ ซึ่งในจุดนี้อาจจะต้องยกผลประโยชน์ให้หนังสือต้นฉบับก็ได้
ในด้านตัวแสดงนำอย่างสาวน้อยโซฟียังคงมีความน่ารักน่าชังกับแก้มตุ่ยๆ+แว่นโตๆที่เกิดมาละลายหัวใจแม่ยกชัดๆ พอมาผนวกกับสำเนียงบริทิชอ้อมแอ้มๆในคอของเธอก็ยิ่งน่ารักเข้าไปใหญ่ เรียกได้ว่าสำหรับคอรักเด็กแค่ได้มาดูน้องรูบี้แจกความฉดใฉนี่ก็อาจจะคุ้มแล้วล่ะ กลับกันในด้านของยักษ์ใหญ่ BFG ก็ยังไม่สามารถจับใจเราได้มากพออย่างน่าเสียดายจากแอคติ้งที่ขาดๆเกินๆบวกกับซีจีเข้าไปอีก
"BFG" เป็นหนังอีกเรื่องที่มีความใสสะอาดประดุจผ้าขาวซักโอโม่แช่น้ำยากัด มาพร้อมกับตัวละครที่น่ารักกับพล็อตเรื่องเบาๆเหมาะกับคนไม่ชอบคิดมาก พ่วงด้วยภาพสวยๆกับเพลงประกอบเพราะๆก็ถือว่าคุ้มค่ากับการไปดูในโรง โดยเฉพาะบรรดาครอบครัวทั้งหลายอาจจะถูกใจกัน แต่ถ้าสำหรับคอหนังที่ชอบเนื้อเรื่องเข้มข้นที่มีพัฒนาการของตัวละครที่น่าสนใจกว่านี้ก็อาจจะไม่ใช่ซุปถ้วยโปรดซักเท่าไหร่
หากชื่นชอบรีวิวสามารถติดตามเพจได้ที่
https://www.facebook.com/expensivemovie หรือค้นหาคำว่า "ตั๋วหนังมันแพง" ได้ที่หน้า Facebook ครับ ..
[รีวิว!] The BFG - ยักษ์ใหญ่หัวใจบริทิช by ตั๋วหนังมันแพง
[หนังโรงเรื่องที่ 146] The BFG - ยักษ์ใหญ่หัวใจบริทิช ; (Steven Spielberg, 2016)
by ตั๋วหนังมันแพง
คะแนนความชอบ : B- (จากสเกล D-A)
**ไม่มีการสปอยล์เนื้อเรื่องสำคัญ
เรื่องย่อ : สาวน้อยนามว่า 'โซฟี' (Ruby Barnhill)ได้มาพบพานกับนักเก็บฝันยักษ์ใหญ่ใจดีตนหนึ่งที่ต่อมาถูกเรียกว่า 'BFG' (Big Friendly Giant/Mark Rylance) และได้นำพาเธอไปผจญภัยกับเรื่องราวลึกลับมากมายในอาณาจักรยักษ์ที่อุดมไปด้วยอันตรายจากเผ่ากินคนตนอื่น
บอกตามตรงเลยว่าตอนแรกแอบคาดหวังกับเรื่องนี้ไว้สูงมากจากในตัวอย่าง ทั้งซาวน์แทร็กและงานภาพที่ปุงปังอลังการก็บิ้วท์อารมณ์เราแบบสุดๆชนิดที่ว่าตั้งใจไว้แล้วว่าจะทิ้ง 'ความเป็นผู้ใหญ่' ส่วนนึงไว้หน้าโรงแล้วนะ แต่ก็ไม่คิดว่าหนังมันจะเด็ก เด๊กกกกกก เด็ก ขนาดนั้น เรียกได้ว่าเนื้อหาคลีนเจาะกลุ่มตลาดมากๆชนิดไม่มีข้อความแฝงอะไรติดไม้ติดมือกลับมาเลยทีเดียว สำหรับผู้ใหญ่อย่างเราก็อาจจะเป็นปรากฏการณ์ 'แฟนตาซีแบบมีภาพ' เหมือนตอนเมาคลีก็ได้ แต่สำหรับผู้เขียนที่ไม่ได้อ่านหนังสือมาก่อนนั้นขอบอกว่าเลยผิดหวัง
สิ่งที่โดดเด่นน่าชื่นชมที่สุดก็คงหนีไม่พ้น 'งานภาพ' ที่สวยงามสมราคาชื่อพ่อมดสปีลเบิร์ก ที่ออกแบบฉากต่างๆได้สวยงามผสมผสานระหว่างความสมจริงกับกลิ่นอายความเป็นแฟนตาซีได้ดี บวกกับซาวน์ประกอบแน่นๆที่ช่วยขับเคลื่อนจินตนาการคนดูแบบไม่หยุดหย่อน (ซึ่งทั้งสองอย่างนี้ถือเป็นจุดขายหลักของป๋าแกอยู่แล้วล่ะ) ซึ่งน้องๆหนูๆที่มาดูก็คงฟินกันไปเป็นแถบๆแน่นอน
แต่ปัญหาอย่างนึงคือช่วงครึ่งแรกของหนังที่ค่อนข้าง 'อืดสนิท' มาก เรียกได้ว่าหาวกันวอดๆกันทั้งโรงเลยทีเดียว การเดินเรื่องในช่วงแรกมันดูจืดชืดไปหมดทั้งๆที่มันควรจะน่าตื่นตามากกว่า ทั้งการเผชิญหน้ากันครั้งแรกระหว่างโซฟีกับBFG หรือกระทั่งการผจญภัยโลกยักษ์เป็นครั้งแรก ทั้งหลายทั้งมวลหนังไม่สามารถนำเสนอออกมาให้น่าสนใจได้เท่าที่เราหวังไว้ อีกทั้งระดับความสัมพันธ์ระหว่างตัวเอกทั้งสองตัวก็ถูกนำเสนอออกมาในลักษณะแหม่งๆชอบกล คือ "เด็กหญิงโดนยักษ์ลักพาตัวมาที่ถ้ำเพราะยักษ์กลัวว่าความลับจะถูกเปิดเผย และยักษ์ขู่ว่าจะจับเธอขังไว้จนวันตาย" ซึ่งพอเอามาพูดแบบนี้แล้วมันดู creepy ชอบกล ให้ตายสิ นี่นึกว่าพล็อตสวรรค์เบี่ยง
แต่พอมาถึงช่วงท้ายของหนังนี่คือปังมาก ขอบอกว่าเลยจากที่ผู้เขียนง่วงๆหลับมาตลอดหนึ่งชั่วโมงนี่กลายเป็นหัวเราะไม่หยุดหย่อน คือเราชอบ 'ความเพี้ยน' ของหนังในพาร์ทนี้มาก มันมีเสน่ห์ในความเลอะเทอะของบทอยู่ที่นำเสนอออกมาได้ตลกสิ้นดี (แต่เราก็ชอบ) ซึ่งในความบ้าๆบอๆกับการนำเสนอความเป็นบริทิชแบบซื่อตรงของหนังก็กลายเป็นมุกตลกถาดใหญ่ที่ช่วยทำให้หนังสนุกขึ้นมาอีกเยอะ ซึ่งในจุดนี้อาจจะต้องยกผลประโยชน์ให้หนังสือต้นฉบับก็ได้
ในด้านตัวแสดงนำอย่างสาวน้อยโซฟียังคงมีความน่ารักน่าชังกับแก้มตุ่ยๆ+แว่นโตๆที่เกิดมาละลายหัวใจแม่ยกชัดๆ พอมาผนวกกับสำเนียงบริทิชอ้อมแอ้มๆในคอของเธอก็ยิ่งน่ารักเข้าไปใหญ่ เรียกได้ว่าสำหรับคอรักเด็กแค่ได้มาดูน้องรูบี้แจกความฉดใฉนี่ก็อาจจะคุ้มแล้วล่ะ กลับกันในด้านของยักษ์ใหญ่ BFG ก็ยังไม่สามารถจับใจเราได้มากพออย่างน่าเสียดายจากแอคติ้งที่ขาดๆเกินๆบวกกับซีจีเข้าไปอีก
"BFG" เป็นหนังอีกเรื่องที่มีความใสสะอาดประดุจผ้าขาวซักโอโม่แช่น้ำยากัด มาพร้อมกับตัวละครที่น่ารักกับพล็อตเรื่องเบาๆเหมาะกับคนไม่ชอบคิดมาก พ่วงด้วยภาพสวยๆกับเพลงประกอบเพราะๆก็ถือว่าคุ้มค่ากับการไปดูในโรง โดยเฉพาะบรรดาครอบครัวทั้งหลายอาจจะถูกใจกัน แต่ถ้าสำหรับคอหนังที่ชอบเนื้อเรื่องเข้มข้นที่มีพัฒนาการของตัวละครที่น่าสนใจกว่านี้ก็อาจจะไม่ใช่ซุปถ้วยโปรดซักเท่าไหร่
หากชื่นชอบรีวิวสามารถติดตามเพจได้ที่ https://www.facebook.com/expensivemovie หรือค้นหาคำว่า "ตั๋วหนังมันแพง" ได้ที่หน้า Facebook ครับ ..